ปรับปรุงตัวจากใจจริงอย่างนั้นหรือ?
คนที่อยากปรับปรุงตัวจริงไม่มีทางทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานต้องรู้สึกกระอักกระอ่วนต่อหน้าผู้อื่นเช่นนี้!
นี่ก็คือค่านิยมที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ของประเทศจีนในยุคนี้ และค่านิยมนี้ถือเป็โรคประจำตัวของคนหมู่มาก ไม่รู้จักเส้นแบ่งของกันและกัน ชอบยืนอยู่บนหลักศีลธรรมอันสูงส่งแล้วคอยตำหนิผู้อื่น
คุณปู่คนนี้อาจจะเข้ามาเตือนด้วยความหวังดี หรืออาจจะเป็ตัวช่วยที่ตู้เ้าฮุยเตรียมการไว้ก็เป็ได้
แต่ไม่ว่าจะเป็แบบไหนก็เท่ากับว่าเขากำลังช่วยเติมเชื้อไฟ และแน่นอนว่าเซี่ยเสี่ยวหลานคือคนแรกที่จะกลายเป็เป้าโจมตี ในขณะที่อีกฝ่ายคือพ่อบังเกิดเกล้าอย่างเซี่ยต้าจวิน ดูสิ เขาถือซองจดหมายหนาปึก ข้างในเต็มไปด้วยธนบัตรดอลลาร์ฮ่องกง พลางรับบทพ่อผู้แสนดีที่มาขอให้ลูกสาวให้อภัย
ผู้ชายคนนี้ช่างโง่เง่าเหลือเกิน
หรืออาจพูดได้ว่าเขาไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด เมื่อก่อนเขาปล่อยให้เซี่ยเสี่ยวหลานต้องกลายเป็ผู้เสียหายเพื่อผลประโยชน์ของเซี่ยจื่ออวี้กับคนอื่นในตระกูลเซี่ย และปัจจุบันนี้ก็ทำไปเพราะตู้เ้าฮุย!
“ฉันไม่มีวันรับเงินไว้อย่างแน่นอน คุณอาจจะไม่รู้ ตอนที่ฉันนอนรอพวกคุณพาไปส่งโรงพยาบาลอยู่บนเตียงไม้ที่บ้าน ก็คือตอนที่ฉัน้าเงินมากที่สุดในชีวิต หากตอนนั้นฉันมีเงินก็คงไม่ต้องนอนรอความตาย และครั้งที่สองที่ฉันอยากได้เงินก็คือตอนที่อุ้มหัวมันสิบกิโลกรัม ถูกขับไล่ออกจากบ้านเซี่ยมาพร้อมกับแม่ ทุกๆ วันฉันต้องคำนวนอย่างดีว่าพวกเราสองแม่ลูกมื้อหนึ่งจะสามารถกินอาหารได้เท่าไร มันเทศสิบกิโลกรัมจะทำให้พวกเราอิ่มท้องไปได้ถึงตอนไหน... หลังฉันผ่านเื่เลวร้ายสองครั้งนี้มาได้ ฉันก็ไม่เคยขัดสนเงินทองอีกต่อไป และยิ่งไม่มีทางยอมรับเงินจากคุณแม้แต่แดงเดียว!”
‘เซี่ยเสี่ยวหลาน’ ตายไปแล้ว
เพราะความละเลยของเซี่ยต้าจวินทำให้สองแม่ลูกถูกคนตระกูลเซี่ยเหยียบย่ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลิวเฟินคุกเข่าโค้งคำนับหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีใครสงสารหรือเห็นใจยอมพา ‘เซี่ยเสี่ยวหลาน’ ไปส่งโรงพยาบาล
ิญญาของเซี่ยเสี่ยวหลานมาเกิดใหม่ในร่างนี้ หากเธอจับมือคืนดีกับคนตระกูลเซี่ย เธอก็คงเป็หนึ่งในฆาตกรเช่นกันไม่ใช่รึ!
เห็นเซี่ยต้าจวินควักเงินหลักหมื่นดอลลาร์ฮ่องกงออกมา เซี่ยเสี่ยวหลานไม่รู้สึกซาบซึ้งสักนิด และความเสแสร้งจอมปลอมของเซี่ยต้าจวินนี้ทำให้เธอรู้สึกคลื่นไส้เหลือเกิน
รอบข้างเต็มไปด้วยเสียงกระซิบกระซาบ เดิมทีทุกคนล้วนยืนอยู่ฝั่งเดียวกับเซี่ยต้าจวินเหมือนคุณปู่คนนั้น ทว่าตอนนี้เริ่มมีคนรู้สึกได้ว่าที่เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ยอมให้อภัยคงมีสาเหตุเป็แน่
หัวใจของโจวเฉิงราวกับถูกบีบรัดแน่น เสี่ยวหลานพูดตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่เขากลับรู้สึกเ็ปเหลือเกิน
เขาคิดถึงครั้งแรกที่ได้เจอกับเสี่ยวหลาน าแน่ากลัวบนหน้าผากของเธอแม้ตอนนี้จะจางลงจนแทบมองไม่เห็น แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเื่ในอดีตจะไม่เคยเกิดขึ้น
“ฉันอยากรู้จักเธอให้เร็วกว่านี้จริงๆ ”
โจวเฉิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะดึงตัวเซี่ยเสี่ยวหลานให้มายืนอยู่ด้านหลัง “ตู้เ้าฮุย้าทำอะไรก็ให้เขาบอกจุดประสงค์มาตามตรงด้วยตัวเอง ไม่ต้องอ้อมค้อมไปมาเช่นนี้ คุณเซี่ย ถ้าอยากเล่นละครก็ควรดูด้วยว่าพวกเรายินดีที่จะต่อบทด้วยหรือเปล่า... พูดให้ไม่น่าฟังหน่อยก็คือ พวกเราไม่ให้ความสำคัญกับคุณแม้แต่น้อย”
เมื่อก่อนที่ทะเลาะกันไม่จบไม่สิ้น ไม่ใช่เพราะความยากจนหรอกหรือ?
เซี่ยต้าจวินคิดว่าตนมีเงินแล้วจะสามารถแก้ไขความขัดแย้งที่ ‘ความยากจน’ นำพามาให้ได้ แต่นึกไม่ถึงเลยว่านอกจากเซี่ยเสี่ยวหลานจะไม่รับน้ำใจแล้ว เธอยังเมินเฉยต่อเงินหลักหมื่นดอลลาร์ฮ่องกงอีกด้วย!
ไม่ เธอก็แค่กำลังเล่นแง่สินะ
ต่อให้เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยหัวชิงได้ หรือตอนนี้ประสบความสำเร็จแล้ว แต่นิสัยของเธอก็ไม่เคยเปลี่ยนไป ชอบเอาชนะ และมักจะบีบคั้นผู้อื่นอยู่เสมอ!
ยอมไม่รับเงินจากเขา ดีกว่ายอมรับว่าเขาเป็พ่อสินะ
เซี่ยต้าจวินคิดถึงคำสั่งของตู้เ้าฮุย เขาจึงพยายามข่มกลั้นโทสะเอาไว้และเตรียมเปลี่ยนวิธีการเจรจา แต่โจวเฉิงกลับพาตัวเซี่ยเสี่ยวหลานเดินจากไปแล้ว! เซี่ยต้าจวินอยากไล่ตามไป ทว่าคุณปู่ที่ช่วยพูดแทนเขาเมื่อครู่กลับขวางไว้เสียได้
“สหาย ความบาดหมางฝังรากลึกเช่นนี้ มิได้เกิดเพียงชั่วข้ามคืน เท่าที่ฟังลูกสาวของสหายพูดมา เมื่อก่อนเหมือนว่าสหายจะทำไม่ถูกสักเท่าไร...”
คุณปู่เป็พลเมืองดีมีน้ำใจ หากการยุ่งเื่ชาวบ้านแล้วไม่ทำให้เดือดร้อนอะไร ไม่ว่าจะเป็เื่ของใครก็อยากแสดงความคิดเห็นของตัวเองสักหน่อย เขาจึงทำการตักเตือนเซี่ยต้าจวินไปหนึ่งยกใหญ่
และเพราะสาเหตุนี้ทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานกับโจวเฉิงเดินจากไปไกลแล้ว
“เื่นี้ยังไม่จบ ฉันต้องถามตู้เ้าฮุยให้ได้ว่าเขากำลังคิดจะทำอะไรกันแน่!”
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่กลัวการเล่าเื่เลวร้ายของครอบครัวให้ใครฟัง เพราะเธอไม่ใช่คนที่ต้องอับอายขายหน้า และแน่นอนว่าเซี่ยเสี่ยวหลานไม่เคยกลัวการปะทะคารมกับคนตระกูลเซี่ย! แต่สิ่งที่เธอรำคาญก็คือเื่นี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า คณะละครสัตว์จะทำการแสดงละครลิงทั้งทียังต้องเก็บค่าเข้าชม แล้วทำไมเธอต้องเสียสละตัวเองให้คนอื่นมามุงดูเื่สนุกโดยเปล่าด้วยเล่า?
“ฉันจะไปคุยกับเขาเอง”
เดิมทีโจวเฉิงไม่อยากคุยกับตู้เ้าฮุยโดยตรงแม้แต่น้อย
แม้พี่พานซานจะไม่ใช่อาชญากรค้าของเถื่อน ทว่าตู้เ้าฮุยคืออาชญากรค้าของเถื่อนตัวจริง ตระกูลตู้คือหนึ่งในแก๊งลักลอบค้าสิ่งผิดกฎหมาย ต่อให้ตู้เ้าฮุยไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมการค้าของเถื่อนด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่อาจบอกว่าเขาเป็ผู้บริสุทธิ์ได้
หากเขาพูดคุยโดยตรงกับตู้เ้าฮุย เขาย่อมเจอกับการสอบสวนอีกครั้ง แน่นอนว่าโจวเฉิงคงยิ่งรู้สึกถึงความไม่เป็ธรรม
แต่ตู้เ้าฮุยท้าทายกันเช่นนี้ โจวเฉิงคงไม่อาจทนดูอยู่เฉยๆ ได้
เห็นได้ชัดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานเองก็คงกังวลเื่เดียวกัน เธอไม่อยากให้โจวเฉิงคุยกับตู้เ้าฮุย อย่างน้อยตอนนี้ภารกิจของโจวเฉิงก็ยังไม่สิ้นสุด เขาไม่ควรเข้าไปข้องเกี่ยวกับคุณชายใหญ่เครือเชิงหรง!
“ให้ฉันไปเองเถอะ ฉันจะถามให้รู้เื่เองว่าตู้เ้าฮุย้าอะไร แล้วพวกเราค่อยมาปรึกษากันทีหลัง”
เซี่ยเสี่ยวหลานเดินเข้าห้องผู้ป่วยของตู้เ้าฮุย ครั้งนี้ตู้เ้าฮุยไม่ได้แกล้งทำตัวน่าสงสาร และไม่ได้นอนอยู่บนเตียงอีกแล้ว ตอนนี้เขาแต่งตัวเต็มยศเหมือนรู้อยู่แล้วว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะมาหา
“สาวน้อยผู้ชาญฉลาด เธอมาคนเดียว!”
เซี่ยเสี่ยวหลานใบหน้าบวมเป่ง ไร้ซึ่งความงดงามดั่งเดิม ตู้เ้าฮุยคิดว่าเป็แบบนี้ก็ไม่เลวเลยทีเดียว จะได้ลดอิทธิพลความงามของเซี่ยเสี่ยวหลานที่ส่งผลกระทบกับเขาลงได้บ้าง
ไม่ว่าใครต่างก็ชอบของสวยๆ งามๆ ด้วยกันทั้งสิ้น และตู้เ้าฮุยก็เป็พวกนิยมสาวงาม ถ้าอยากคุยกันอย่างมีสติเต็มร้อย เวลานี้คือเวลาที่เหมาะสมที่สุด
“คุณเรียกเซี่ยต้าจวินมาก็เพราะ้าบีบให้ฉันมาหาไม่ใช่หรือคะ”
เซี่ยเสี่ยวหลานเดินไปนั่งที่เก้าอี้อย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย
ตอนนี้สภาพของเธอดูย่ำแย่มาก ใบหน้าและมือทั้งสองได้รับาเ็ อย่างไรก็ตามอาการเ่าั้ก็หาได้ส่งผลต่อระบบความคิดของเธอ
ตู้เ้าฮุยเ้าเล่ห์เสียขนาดนั้น มีหรือที่จะคาดไม่ถึงว่าการเรียกเซี่ยต้าจวินมาอาจจะได้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม
เซี่ยเสี่ยวหลานอยากรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของตู้เ้าฮุย!
“คุณเซี่ย อย่าเพิ่งโมโหสิ คุณเป็เด็กสาวที่ฉลาดเฉลียวมากทีเดียว ไม่เหมือนเซี่ยต้าจวินที่แค่ทำดีด้วยนิดหน่อยก็สามารถซื้อใจเขาได้ โดยเฉพาตรงนี้ของเขาไม่ฉลาดเอาเสียเลย” ตู้เ้าฮุยชี้มาที่ศีรษะ
“แต่คุณไม่เหมือนกัน! การสอบเข้ามหาวิทยาลัยในแผ่นดินใหญ่นั้นยากนัก ผมได้ยินว่าโอกาสสอบติดมีน้อยยิ่งกว่าอะไรเสียอีก ทุกปีมีเด็กนักเรียนหลายล้านคนเฝ้ารอผลการสอบเพื่อเปลี่ยนชะตาชีวิตของตัวเอง และคุณก็คือหนึ่งในผู้ชนะ หนึ่งในผู้ที่เดินนำหน้าคนอื่น คุณคือนักเรียนที่ได้คะแนนเป็อันดับหนึ่งของมณฑล และเป็อันดับสามของประเทศ!”
ตู้เ้าฮุยได้ข้อมูลเหล่านี้มาไม่ยากนัก ประวัติของเซี่ยเสี่ยวหลานเขานั้นเขาสามารถสืบมาได้ ถึงอย่างไรเขากับมหาวิทยาลัยหัวชิงต่างก็กำลังมีสัมพันธ์อันดีต่อกัน นั่นเป็เพราะเขาคือผู้บริจาคเงินจากเครือเชิงหรง หาก้าความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ คงไม่ใช่เื่ใหญ่แต่อย่างใด!
ล่าสุดเขาเห็นบันทึกประวัติของเซี่ยเสี่ยวหลานอันใหม่ เธอสอบแข่งขันภาษาอังกฤษระดับประเทศได้คะแนนอันดับหนึ่ง ทั้งยังเป็ผู้ชนะรางวัลชนะเลิศระดับประเทศอีกด้วย!
ตู้เ้าฮุยไม่สนใจรางวัลพวกนี้ เขาเพียงกำลังวิเคราะห์เซี่ยเสี่ยวหลานจากประวัติทั้งหมดของเธอ เธอฉลาดยิ่งกว่าที่เขาคิด และเป็เด็กสาวชนบทที่มีความทะเยอทะยานอย่างยิ่ง
ตู้เ้าฮุยเยินยอเซี่ยเสี่ยวหลานยกใหญ่ ทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานที่ได้ฟังก็ขมวดคิ้วมุ่น “ฉันไม่ว่างมานั่งฟังคุณพูดออกทะเลหรอกนะ”
ตู้เ้าฮุยยักไหล่
“ถ้าอย่างนั้นก็น่าเสียดายแย่ คุณควรมีความอดทนมากกว่านี้สักหน่อยนะ เพราะสิ่งที่ผมจะพูดต่อจากนี้ก็คือประเด็นสำคัญ คุณเป็คนฉลาด ด้วยความสามารถของคุณย่อมสามารถพาตัวเองไปอยู่ในระดับที่สูงกว่านี้ได้ คนฉลาดอย่างคุณคงไม่เชื่อว่าแผ่นดินใหญ่จะมีแต่ชนชั้นแรงงานสินะ แน่นอนว่าประเทศใหญ่โตเช่นนี้ย่อมมีอภิสิทธิชน และคุณเองก็ฉลาดมากถึงได้คิดอยากพาตัวเองเข้ามาอยู่ในแวดวงนี้ ผมชื่นชมคุณจากใจจริง! ที่ฮ่องกงมีสิ่งหนึ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป คือดาราสาวมักจะคบหาดูใจกับพวกเศรษฐี แต่หากพวกเธออยากแต่งงานเข้าตระกูลใหญ่กลับเป็เื่ยากนี่สิ... ดังนั้นผมคิดว่าในจุดนี้ ผมสามารถช่วยเหลือคุณได้นะ”