“มีอะไรหรือ?”
หลิวจงหยวนรุดเข้ามาหน้าตาเคร่งเครียด
เ่ิูชี้ไปยังก้อนเมฆั์เบื้องหน้า “ข้าคิดว่าในนั้นมีอะไรไม่ชอบมาพากล”
หลิวจงหยวนมองไปตามทิศที่เ่ิูชี้ สีหน้าที่เคยเคร่งเครียดพลันผ่อนคลายลง เขาว่าด้วยรอยยิ้ม “อ้อ เ้าพูดถึงก้อนนั้นหรือ ไม่มีอะไรหรอก ข้าดูแล้วไม่มีอะไรในกอไผ่แน่ เฮอะๆ พวกเราผ่านก้อนเมฆั์มาไม่รู้กี่ก้อนแล้วนะ แม่ทัพเย่ ไม่ใช่ว่าหลายวันมานี้ท่านใช้สมองมากเกินไปหรือเปล่า ปล่อยวางบ้างเถอะ พวกเราเหลืออีกแค่ครึ่งวันก็กลับเขตแดนของกองทัพได้แล้วนะ”
เ่ิูส่ายหน้า
ตอนนี้ไม่ใช่แค่เพราะเ้าหมาหัวโตทำอาการน่าสงสัยเท่านั้น แต่เป็เพราะรู้สึกไม่ดีอย่างจริงจังด้วยต่างหาก
ยิ่งใกล้ก้อนเมฆนั้นมากเท่าไร ยิ่งรู้สึกไม่ดีมากเท่านั้น
“ไม่ใช่ แม่ทัพหลิว ข้ารู้สึกได้ มีตัวอะไรแอบซ่อนอยู่ในเมฆนั้น แม่ทัพหลิว ให้เรือเหาะหยุดเสีย เตรียมตัวกลับหัวเรือ อย่าเข้าไปในเมฆก้อนนั้นเป็อันขาด” เ่ิูน้ำเสียงแน่นหนักขึ้นมา
หลิวจงหยวนเห็นสีหน้าเ่ิูแล้วก็ใคร่ครวญโดยละเอียด เขาหันหลังกระจายคำสั่งให้หยุดเรือเหาะชั่วคราว
เรือเหาะอยู่ห่างจากก้อนเมฆั์ไม่ถึงร้อยเมตร
“เตรียมธนูเจาะเกราะมา ลองกับก้อนเมฆนั่นดูสักที” หลิวจงหยวนสั่งพลทหารโก่งคันศร ระดมยิงเข้าหาก้อนเมฆ
เรือเหาะอักขระติดตั้งปราณทองคำอยู่ อานุภาพแข็งแกร่งมาก แต่ข้อเสียก็คือเมื่อยิงออกไปแล้ว จะนำมาซึ่งคลื่นพลังกระจายออกไปซึ่งชัดเจน ง่ายที่จะดึงดูดความสนใจของพวกเผ่าปีศาจ ดังนั้นหากมิใช่เวลาสำคัญห้ามใช้เด็ดขาด เวลานี้ใช้แค่ธนูจะดีที่สุด
ทหารเหล่านี้ล้วนเป็ผู้แข็งแกร่งระดับอาณาน้ำพุิญญาทั้งสิ้น คันธนูคือคันธนูดาวเจาะเกราะ อานุภาพแกร่งมาก
ฟิ้วๆๆ!
สายคันธนูสั่นะเื ศรเจาะเกราะดั่งห่าฝนพุ่งเข้าใส่ก้อนเมฆ
แต่ก้อนเมฆยังคงนิ่งสงบ ไม่มีปฏิกิริยาใดตอบรับ กระทั่งกระแสม้วนตัวเล็กน้อยก็ยังไม่มีให้เห็น
“ยิงอีก!”
หลิวจงหยวนสั่ง
ฟิ้วๆๆ!
ห่าธนูซัดสาดอีกครั้ง
ธนูเจาะเกราะยิงเข้าก้อนเมฆอย่างแ่า
ก้อนเมฆยังไร้การเคลื่อนไหว
หลิวจงหยวนสั่งการอีกครั้งหนึ่ง
ผลยังคงเหมือนเดิม
หลังระดมยิงธนูสามคราติด หลิวจงหยวนก็มองเ่ิูแล้วยักยิ้มว่า “เหมือนจะไม่มีปัญหานะ แม่ทัพเย่ เ้ากังวลเกินกว่าเหตุต่างหาก” ว่ากันตามจริง ธนูเจาะเกราะนั้นราคาแพงไม่หยอก แค่ยิงรอบเดียวก็บ่งชี้ปัญหาได้หมดจดแล้ว แต่หลิวจงหยวนให้ทหารยิงถึงสามรอบ ด้านหนึ่งเป็เพราะนิสัยรอบคอบของเขาและ้าไว้หน้าเ่ิูด้วย
เ่ิูยังส่ายหน้า
ใจเขาสั่งการ กระตุ้นกำลังภายในจนปรากฏหมอกหิมะน้ำแข็งสีเงินบนฝ่ามืออย่างรวดเร็ว
หมอกหิมะนี้ราวกับมีชีวิต มันขยายขนาดในมือเ่ิูไม่ได้หยุด สุดท้ายก็กลายเป็รูปร่างเยี่ยงหอกยาว รอจนหมอกมลายหาย หอกน้ำแข็งของจริงก็ทอดกายอยู่กับมือเ่ิู ลักษณะสุดแสนธรรมดา ตัวหอกหยาบเหมือนก้อนกรวดเท่าไข่ห่าน สีน้ำเงินอ่อนระยิบระยับเป็ประกายอัญมณีใต้แสงตะวัน
เ่ิูเงื้อมือ
ขว้างหอกยาวออกไป
ธงรบแผ่นดินแห่งสี่กระบวนยุทธ์เทพราชันเกราะทอง
หอกน้ำแข็งหนาวหายไป พริบตาเดียวก็ร่วงหล่นจากเบื้องฟ้าเข้าเสียบก้อนเมฆนั้น
“กร๊าซซซซ”
เสียงโหยหวนน่าอนาถดังมาจากในก้อนเมฆ
ไอปีศาจคละคลุ้ง
หลิวจงหยวนสีหน้าเปลี่ยน
เหล่าทหารบนแผงเกราะก็รับรู้ความไม่โสภาเข้าแล้ว
ไม่ต้องรอให้หลิวจงหยวนสั่ง พวกเขาชักดาบออกมา กระตุ้นกำลังภายใน เคลื่อนย้ายใต้เท้า วางกระบวนอักขระป้องกันไว้ทันที
ต่อมา เมื่อไอปีศาจะเิออกเป็สายจากในก้อนเมฆ ราวกับพายุั์เป่าก้อนเมฆขาวใหญ่กระจายไปคนละทิศละทาง
เห็นเพียงร่างที่อยู่ด้านหลังก้อนเมฆ สัตว์ปีศาจมีปีกดำเมี่ยมบดบังแสงอาทิตย์ รูปลักษณ์ดั่งค้างคาว หัวเหมือนหมูป่าและฟันแหลมคม กายมีสีเงินเคลื่อนคล้อย ปีกเหมือนหนังผ่านการใช้งานจนเก่า ขาหน้าคู่หนึ่งขาหลังคู่หนึ่ง เล็บคมกริบสีดำราวกับดาบยาว
สัตว์ปีศาจพันธุ์นี้ขยับปีกอย่างไร้เสียง แอบซ่อนอยู่หลังก้อนเมฆ
ค้างคาวหมูร่างกายสูงห้าเมตร หลังมีหอกน้ำแข็งยาวเสียบอยู่ เืปีศาจสีดำพุ่งพราดจากปากแผล มันกำลังดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง เสียงคำรามเสียดแก้วหูเมื่อครู่เป็ของมันไม่ผิดตัวแน่
“ค้างคาวหมูแดนหิมะ!”
พลทหารนายหนึ่งโพล่งออกมา
ค้างคาวหมูแดนหิมะเป็ปีศาจพันธุ์หนึ่งที่มีปีก มีพลังในการศึกามาก มีข้อด้อยเดียวกับัหิมะคือพวกมันสายตาย่ำแย่ แทบจะมองไม่เห็นอะไร แต่มีความสามารถประหลาดอย่างการพึ่งพาคลื่นเสียงบอกตำแหน่งคู่ต่อสู้และการกระทำของพวกเขา โดยทั่วไปชอบซ่อนตัว ตอนพวกมันอยู่ในสภาพนิ่งเงียบ จะสามารถเก็บเอาไอปีศาจไว้ได้ ไม่รั่วไหลออกมาแม้แต่นิดเดียว มิน่าเล่า เมื่อครู่หลิวจงหยวนถึงไม่รู้ถึงการมีอยู่ของค้างคาวหมูตัวนี้
เผ่าปีศาจเป็เผ่าที่อยู่กันเป็กลุ่ม
พวกมันมีกระดูกปีกคมดั่งดาบ และเขี้ยวคมพอจะบดเกราะเหล็ก คลื่นเสียงประหลาดที่เปล่งออกมานั้นสามารถทำอันตรายคนได้อย่างไร้รูปแบบ เป็สัตว์ปีกที่ยากจะจับทางได้ในอากาศธาตุ
โดยทั่วไปแล้ว ค้างคาวหมูแดนหิมะมักถูกใช้ในการสอดแนมกำลังศัตรูมากที่สุด
วินาทีที่เห็นค้างคาวหมูแดนหิมะ หลิวจงหยวนก็หน้าเปลี่ยนสี
“เตรียมรับมือ” หลิวจงหยวนตวัดมือชักดาบออกมา เขาตวาดเสียงต่ำ “เพิ่มความเร็วเรือเหาะ บุกเข้าไป”
แม่ทัพมากประสบการณ์ผู้นี้ ตัดสินใจเลือกทางที่เขามั่นใจว่าถูกต้องที่สุด
เรือเหาะถูกพบ หากเผยแพร่ออกไปต้องเป็ภัยร้ายอย่างไร้ข้อกังขา
ตอนนี้ไม่อาจมามัวกรำศึก ต้องรีบบุกออกจากทุ่งน้ำแข็งนี้แล้วเข้าไปในเขตคุ้มครองของกองพลโยวเยี่ยน เท่านั้นก็ปลอดภัยแล้ว
บนแผงเกราะปรากฏเสียงง้างคันธนูฟึ่บๆ อย่างฉับพลัน คันธนูเจาะเกราะสี่สิบคันถูกวาดเป็วงจันทร์อย่างว่องไว
ปืนใหญ่ทองเหลืองอักขระยี่สิบกระบอกข้างแคมเรือเองก็เริ่มปฏิบัติการ เส้นลายบนอักขระถูกพลังงานสีแดงชาดเติมเต็ม อบอวลไปด้วยเปลวเพลิงสีเื ภายใต้การควบคุมของพลทหาร ปืนใหญ่ยี่สิบกระบอกเล็งไปทางทิศของค้างคาวหมูแดนหิมะ
ขณะเดียวกัน
ตัวเรือเหาะค่อยๆ สั่นไหวขึ้นมา
ภายในเรือเหาะบังเกิดเสียงอื้ออึ้งประหลาดดังออกมา กระบวนอักขระที่ถูกสลักเสลาไว้ทั่วตัวเรือถูกกระตุ้นในคราเดียว เริ่มส่องแสงระยับอย่างเร่งด่วน กระบวนศูนย์กลางเคลื่อนไหวจนบังเกิดเสียงกัมปนาท ราวกับอสูรั์คำรามเมื่อตื่นจากนิทรา
ฟิ้ว!
เรือเหาะสั่นสะท้านอย่างรุนแรง มันแหวกอากาศเหมือนลูกธนูดีดจากคัน บุกเข้าหาค้างคาวหมูแดนหิมะในทันที
“โจมตี!”
หลิวจงหยวนแผดเสียงลั่นแทบจะเวลาเดียวกัน
จากนั้นลูกธนูดั่งห่าฝนก็ถูกยิงจากตัวคันธนู
ลำแสงสีแดงชาดที่ยิงออกมาจากปืนใหญ่อักขระนำพากำลังทำลายล้างราวกับดาวหางพุ่งสู่ปฐี พริบตาเดียวก็ทะลุทะลวงหาค้างคาวหมูแดนหิมะไปแล้ว
ฉัวะ!
หมอกเืสาดกระเซ็น กระดูกขาวแตกกระจายหลุดจากร่าง
การต่อสู้เปิดฉากขึ้นแล้ว
บนเรือเหาะมีกระบวนอักขระคอยปกป้อง ค้างคาวหมูไม่อาจจู่โจมเข้ามาได้
ใต้การแหวกอากาศอันรวดเร็ว มีค้างคาวหมูแดนหิมะหลายตัวหนีไม่ทัน ถูกยิงเข้าจนกลายเป็ก้อนเนื้อแหลกเหลว
ปังๆๆ!
ค้างคาวหมูแดนหิมะปรี่เข้ามาด้วยความเร็วสูง ชนเข้ากับม่านพลังคุ้มครอง มันกระเด็นไปไกล กระเทือนจนเืออกจากปากและจมูก
สัตว์ปีศาจพรรค์นี้ไม่กลัวความตาย มันพุ่งเข้าใส่อย่างคลุ้มคลั่ง ม่านพลังคุ้มครองของเรือเหาะเริ่มเปราะบางลงทุกทีๆ
กำลังของค้างคาวหมูลดไปสามสิบจากร้อยเห็นจะได้ด้วยอักขระแห่งเรือเหาะ เดิมทีพวกมันซ่อนอยู่หลังเมฆก็เพื่อจะฆ่าพวกมนุษย์ในเรือเหาะก่อนที่พวกมนุษย์จะทันรู้สึกตัว พวกมันไม่คิดเลยว่าจะถูกเจออย่างไม่คาดฝัน และติดแหง่กชนิดที่ตอบโต้ไม่ทันจากเรือเหาะอักขระของเผ่ามนุษย์ ไม่กี่อึดใจ อากาศธาตุก็คละคลุ้งไปด้วยสายลมเืและสายฝนโลหิต ทุกชีวิตที่ตายตอนนี้ล้วนคือค้างคาวหมูแดนหิมะ
“บุก บุกเข้าไป!”
หลิวจงหยวนยกดาบโค้งของเขาขึ้นมา ะโสั่งเพื่อบำรุงขวัญกำลังใจทหาร
ร่างกายของเขายืดตรงเหมือนหอก แผ่นหลังกำยำตระหง่านราวกับหินผา เผชิญหน้ากับค้างคาวหมูแดนหิมะ ไม่ถอยหลังแม้แต่ก้าวเดียว ท่าทางและอำนาจพาให้คนรู้สึกพึ่งพาได้ และเชื่อมั่นอย่างไม่อาจบรรยายเป็คำพูด เขายืนหยัดอยู่ที่หัวเรือเหาะ ผ้าคลุมสีเงินเื้ัสะบัดอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่าเขาคือเทพแห่งามาโปรด
แม่ทัพดั่งดวงดาวในบรรดาแม่ทัพกองโจรหลายร้อยนายแห่งทัพหน้า ได้สำแดงตัวตนที่แท้จริงสิ้นแล้ว
หากเป็หลิวจงหยวนตอนทั่วไปที่เงียบนิ่ง เป็เหมือนก้อนหินดาษดื่นทั่วไปแล้วไซร้ เช่นนั้นหลิวจงหยวนในตอนนี้คงเป็ดั่งอัญมณีที่ถูกเจียระไนแล้วเรียบร้อยเป็แน่ เปิดเผยสีสันแวววับทำให้คนลุ่มหลง มีไอเฉียบคมที่ทำให้คนมองไม่อาจละสายตา
ภายใต้การบัญชาการจากเขา บนแผงเกราะนั้น เหล่าทหารเกราะโจมตีอย่างเป็ระบบระเบียบ ฟันกระบี่ ยิงปืนใหญ่คร่าชีวิตพวกค้างคาวหมู
ยี่สิบอึดใจต่อมา กระบวนอักขระป้องกันก็แตกสลายในที่สุด
ฝูงค้างคาวหมูอันบ้าคลั่งเหมือนแมลงวันที่ทะลุทะลวงทุกช่องโหว่ มันร่อนลงบนแผงเกราะ
สัตว์ปีศาจพวกนี้มีร่างกายใหญ่โต ขนาดเล็กสุดก็ปาไปสองสามเมตร ครั้นมันร่อนลงบนแผงเกราะและขยับกระดูกคมบนปีกของมน เรือเหาะอักขระก็สั่นไหว บนแผงเกราะปรากฏเป็ช่องโหว่ พริบตานั้นเองที่ค้างคาวหมูเจ็ดแปดตัวร่อนลงบนเกราะเหล็ก ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าอย่างบ้าคลั่งเต็มพิกัด
“เอาเดรัจฉานพวกนี้ออกไปให้หมด!”
หลิวจงหยวนจับดาบยาวแกว่งไกวบนหัวเรือ
เป็แม่ทัพ เขาต้องเงี่ยหูฟังทุกย่างก้าว ไม่ถึงเวลาสำคัญจริงๆ ห้ามออกรบ
กลุ่มค้างคาวหมูที่ติดตามมาไกลๆ นั้นมีอยู่สองตัวที่สูงเกินแปดเมตร าาค้างคาวหมูขั้นแม่ทัพปีศาจสีม่วงดำตัวนั้น หลิวจงหยวนต้องตุนพลังเอาไว้ หากาาค้างคาวหมูลงเรือมาเมื่อไร เขาต้องประมือกับมันด้วยตัวเอง
ตอนนี้เองที่เ่ิูรู้ว่าถึงเวลาที่เขาต้องลงมือเองแล้ว
เขาสั่งการในใจ
หอกน้ำแข็งปรากฏขึ้นบนฝ่ามืออีกครั้ง
นับแต่ปลุกิญญาสำเร็จเป็ต้นมา เขาทบทวนฝึกฝนอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย สำหรับเื่ความเข้าใจและควบคุมปราณน้ำแข็งนั้น เขาถึงระดับที่เรียกได้ว่าคุ้นชินพอตัว ควบแน่นน้ำแข็งเป็พลทหาร เปลี่ยนปราณน้ำแข็งเป็ศาสตราวุธ สำหรับเขาแล้วไม่ใช่เื่ยากเลย
ฟิ้ว!
เขาขว้างหอกน้ำแข็งออกไปอีกครั้ง
ธงรบแผ่นดินแห่งสี่กระบวนยุทธ์เทพราชันเกราะทองได้ฤกษ์ใช้งานอีกหน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้