พรวด ~~ กึด…!!
“กรี๊ดดดดด ~~” ริมฝีปากสวยร้องลั่นออกมาอย่างลืมตัวด้วยความเ็ปร้าวแผ่ซ่านไปทั่วทั้งโพรงสาว อย่างที่ไม่คิดว่ามันจะทานทนได้อีกต่อไป
โดยร่างบางถึงกับกระตุกสะดุ้งเฮือก ปลายเท้าที่ถูกยกลอยกลางอากาศถึงกับจิกเกร็งจนหลังเท้าขึ้นเส้นเอ็นปูดนูน ร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน พร้อมกันกับที่กลีบเนื้อสาวปริปลิ้นแยกออกจนคล้ายกับว่ามันได้ฉีกขาดออกจากกันอย่างสมบูรณ์แล้ว
“เจ็บ...มนต์เจ็บ...ท่านประธานทำแบบนี้ทำไมค่ะ...ฮึก...ฮึก...มันเจ็บ” ฉันยกมือขึ้นดันหน้าอกของเ้านายหน้าหล่อที่ฉันหลงปลาบปลื้มมานานเอาไว้หมายจะดันให้ตัวเขาออกไปพร้อมกับอาวุธร้ายของเขาที่กำลังทำให้ฉันเจ็บตัวอยู่ ณ ตอนนี้
“มันเจ็บแค่แป๊บเดียวเท่านั้นแหละมนต์...เชื่อผมสิ” เสียงเย็นที่ดูไม่ทุกข์ร้อนให้กับน้ำตาที่ไหลรื้นออกมายังหางตาของฉันเลยสักนิด อีกทั้งยังเอ่ยปากออกมาเหมือนกับว่าสิ่งที่ฉันรู้สึกอยู่ตอนนี้มันเป็เื่เล็กน้อยเท่านั้น
“แต่มนต์เจ็บ เอาออกไปได้ไหมคะ ถือว่ามนต์ขอร้อง ฮึก...ฮึก...” เสียงอ้อนวอนดูน่าเวทนา แต่ทว่า...คนตรงหน้าก็ยังคงเฉยเมย
“ก็ถ้าคุณยังเกร็งแล้วหนีบของผมแน่นอยู่แบบนี้ มันก็ยิ่งทำให้คุณเจ็บนะซิ เชื่อผมนะ...ปล่อยใจให้สบายแล้วผมรับรองว่ามันจะมอบความสุขให้มากกว่านิ้วของคุณเสียอีก”
คำพูดที่เหมือนกับว่าการที่ฉันเจ็บตัวอยู่ตอนนี้มันเป็ความผิดของฉันเสียอย่างนั้น และคำพูดเ่าั้ยิ่งทำให้น้ำตาของฉันไหลออกมาไม่หยุด
“จะร้องทำไมผมกำลังสนองสิ่งที่คุณ้าอยู่นะ ทำอย่างกับว่าผมกำลังบังคับคุณอย่างนั้นแหละ” คนตัวโตที่เริ่มจะหงุดหงิดกับภาพตรงหน้า ด้วยไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงใต้ร่างถึงทำกับว่าจะเป็จะตาย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังช่วยตัวเองแล้วครางชื่อเขาอยู่แท้ ๆ
“ตะ...แต่มนต์ไม่้านี่ค่ะ” หญิงสาวปฏิเสธ จริงอยู่ที่เธอจินตนาการถึงเขา แต่เธอก็ไม่คาดคิดว่า ณ ตอนนี้จะมีตัวตนเขาอยู่ในกายของเธอและมันจะเ็ปถึงขนาดนี้
“ไม่...นี่มันคือสิ่งที่คุณ้า...!!”
สิ้นน้ำเสียงเย้ยหยัน เอวหนาก็จัดการสวนกระแทกย้ำเข้ามาอย่างไร้ความปรานีทันที
ปั่ก...ปั่ก...ปั่ก
“อ่ะ เจ็บเอาออกไปนะ ฮือออออ ~~” เสียงร้องไห้ของหญิงสาว พร้อมกับมือบางที่พยายามดันหน้าอกของคนหน้ามืดให้ออกไป ก่อนที่ข้อมือบางคู่นั้นจะถูกยกขึ้นรวบไปไว้ยังเหนือหัวด้วยมือเพียงข้างเดียวของคนกำหนัด
ร่างบางที่ถูกกระแทกเขยื้อนสะบัดโยกย้ายจนทำให้โต๊ะทำงานขนาดใหญ่สั่นะเืส่งผลทำให้ข้าวของเอกสารที่เคยอยู่บนโต๊ะต่างร่วงหล่นกระจัดกระจายเต็มพื้นไปหมด
อีกทั้งเมื่อเสียงโต๊ะทำงานที่สั่นไหวผสานเข้ากับเสียงเนืุ้์ที่กระทบกันไม่หยุด ดังถึงขนาดที่กลบเสียงสะอื้นของหญิงสาวที่กำลังถูกของแข็งเสียดสีร่องอุ่นนุ่มจนความเจ็บร้าวแผ่ซ่านคล้ายกับเนื้อกำลังถูกมีดกรีดเฉือนซ้ำ ๆ จนมิด
“อืมมมม ~~ แน่นมากเลยนะ ถ้าผมไม่ได้เห็นภาพก่อนหน้านี้คงคิดว่านี่เป็ครั้งแรกของคุณ” เสียงคำรามในลำคอเอื้อนเอ่ยชมร่องสาวที่หนีบแน่นตัวตนของเขาด้วยความรู้สึกแปลกใจว่าทำไมร่องนี้มันถึงฟิตแน่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“ฮือออออ ~~ กะ...ก็มันคือครั้งแรกของมะ...มนต์” ฉันบอกออกไปด้วยความรู้สึกเ็ปร้าวทั้งตรงจุดกึ่งกลางกายสาวและเจ็บตรงหัวใจที่ไม่คิดว่าผู้ชายที่ฉันหลงปลาบปลื้มจะไร้ความปรานีกับครั้งแรกของฉันขนาดนี้
กระทั่งสิ้นคำบอกที่ปนด้วยเสียงสะอื้นของหญิงสาว บั้นเอวหนาที่กำลังระรัวสอบถึงกับหยุดชะงักลงทันที
“ครั้งแรก...??” เขาหยุดพร้อมกับแสดงสีหน้าที่ไม่มีความเชื่อเลยแม้แต่น้อย
“ฮึก...ฮึก...ทำไมค่ะ หรือท่านประธานคิดว่ามนต์โกหก” ฉันจ้องมองเขาผ่านม่านน้ำตา พร้อมกับความรู้สึกปวดหนึบในหัวใจ
“ใช่...!! ผมไม่เชื่อนั่นก็เพราะว่าสิ่งที่ผมเห็นมัน...”
และเพียงประโยคสั้น ๆ ก็เพียงพอที่จะทำให้ฉันถึงกับจุกแน่นในอกไปหมด
ความปวดร้าวที่ยังคงชัดเจนอยู่บริเวณจุดบอบบางตรงหว่างขาดูจะชาไปเลยเมื่อเทียบกับความรู้สึกปวดหนึบที่เกิดขึ้นกลางใจที่ถูกคนใจร้ายพูดจาเหยียดหยาม
(หึ...จะโทษใครได้ไม่ผิดที่เขาจะคิดแบบนั้น ก็ภาพที่เขาเห็นมันช่างน่ารังเกียจและชวนให้คิดเสียขนาดนั้น) ฉันปิดเปลือกตาลงตามเดิมพร้อมกับนึกสมเพชตัวเองในใจ โดยที่เ้าของลำเอ็นขนาดใหญ่หลังจากที่หยุดชะงักอยู่เพียงครู่ก็กลับมาสะบัดบั้นเอวกระแทกกระทั้นต่อเหมือนไม่ได้แคร์เลยสักนิดว่าตัวฉันตอนนี้จะรู้สึกยังไง...แม้ว่าเขาจะได้รับรู้แล้วก็ตามว่านี่คือครั้งแรกของฉัน...
ร่างที่ถูกตอกด้วยลำเอ็นโบกสะบัดอยู่บนโต๊ะทำงานจนเกิดเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด ก่อนที่ร่องสาวจะรับรู้ได้ถึงแรงกระแทกถี่ยิบพร้อมกับแรงกระตุกของท่อนเอ็นที่อัดแน่นอยู่ข้างในร่องสวาท
“อ๊ะ...อืม...อืมมมมม ~~”
ภายในท้องน้อยรับรู้ได้ถึงความอุ่นที่พวยพุ่งออกมาเต็มข้างในไปหมด หลังจากที่คนบนร่างขยับบั้นเอวเข้าออกเร็วถี่เพียงไม่นาน ก่อนที่เขาจะถอดตัวตนที่ใหญ่โตของเขาออก
“หืมมมม ~~??”
หลังจากที่เขาถอนตัวตนออกมาแล้วนั้น ภาพตรงหน้าก็ทำให้เขาถึงกับส่งเสียงออกมาด้วยความฉงนใจ หลังจากที่เขาเห็นว่าตรงปากทางร่องนุ่มของฉันได้มีของเหลวสีแดงเจือปนไปกับน้ำรักสีขาวขุ่นของเขา
“นี่คุณไม่เคยจริง ๆ งั้นหรอหรือเป็เพราะว่าผมทำแรงเกินไป” คิ้วหนาเข้มยกขึ้นข้างหนึ่งพร้อมกับเอ่ยถามเสียงเรียบออกมาอย่างรู้สึกสงสัย เพียงแต่คำถามนั้นกลับพูดออกมาเหมือนแค่พึมพำกับตัวเองเท่านั้น
“ส่วนของชิ้นนี้ผมขอเก็บไว้ก่อนนะ เพราะผมยังไม่พอใจกับการที่คุณนอนเป็ท่อนไม้แบบนี้ อ่อ อีก 20 นาทีจะถึงเวลางานแล้ว คุณไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนเริ่มงานเถอะ...หลังเลิกงานค่อยว่ากันอีกที” ก่อนที่คนเ้าเล่ห์จะพูดด้วยท่าทางสบายใจ พร้อมกับเก็บตัวประกันอย่างกางเกงชั้นในของฉันเข้ากระเป๋ากางเกงตัวเองไปตามเดิม
แต่ทว่า...ตัวฉันนั้นไม่อาจยินยอมได้และคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ควรจะเลยเถิดไปมากกว่านี้...
“คืนมาให้มนต์เถอะนะคะ ในเมื่อท่านประธานได้สิ่งที่้าไปแล้ว อย่าผิดคำพูดแบบนี้เลยนะคะ” ฉันออกปากอ้อนวอนเขาอีกครั้งหลังจากลุกขึ้นมายืนเต็มความสูงแล้ว
“ผมว่าคุณไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนเถอะ ถ้าใครมาเห็น...เขาอาจจะเอาไปพูดต่อได้นะ” คนร่างโตที่เดินไปนั่งยังโต๊ะทำงานของตัวเองแล้วเอ่ยขึ้น พร้อมกับส่งสายตาทอดมายังร่างกายส่วนล่างของฉันจนฉันต้องมองตาม
กระทั่งสิ่งที่ฉันเห็นตรงหน้าคือ...คราบน้ำสีขาวขุ่นที่ไหลย้อยลงมาตามเรียวขาสวย และด้วยภาพนั้นก็ถึงกับทำให้ฉันเบิกตากว้างใบหน้าเนียนฉาบไปด้วยความแดงฉานทันที
ร่างบางพลันหนีบขาแน่นอย่างอัตโนมัติ ก่อนจะพาร่างเดินเก้ ๆ กัง ๆ เตรียมตัวออกไปจากห้องทำงานแห่งนี้
“แล้วนั่นคุณจะไปไหนน่ะ...??” เสียงเข้มถาม
“กะ...ก็ไปห้องน้ำไงคะ” ฉันหันกลับมาตอบเอียงคอด้วยความสงสัย
“ใช้ห้องน้ำผมก็ได้” ก่อนที่เขาจะตอบกลับเสียบเรียบ โดยที่ใบหน้ายังคงก้มมองเอกสารที่อยู่ในมือ
“เอ่อ...” ฉันลังเล
“หรือจะเดินท่าทางแปลก ๆ แบบนี้ลงไปให้คนเขานินทาเล่นกันล่ะ” เขาพูดทั้งที่ยังไม่เงยหน้ามามองฉัน ส่วนฉันที่คิดตามคำพูดของเขาก็จำยอมทำตาม
“งะ...งั้นมนต์ขออนุญาตนะคะ” ฉันพูดพร้อมกับเดินไปยังประตูที่อยู่ด้านข้างโต๊ะทำงานของเขาที่เื้ัประตูบานนั้นคือห้องพักผ่อนภายในบริษัทของคนตัวโต
และทันทีที่ฉันผ่านพ้นประตูเข้าไปได้แล้ว...
ตุบ...
ร่างทั้งร่างพลันร่วงลงพื้นทันที พร้อมกับมือถึงยกขึ้นกอบกุมอยู่ตรงหน้าอกด้านซ้ายก่อนจะทุบมันลงไปอย่าง้าให้มันบรรเทาความปวดหนึบที่มี
ภาพความทรงจำที่เกิดขึ้นมาเมื่อครู่ อีกทั้งความรู้สึกตื่นใและเ็ปตรงกึ่งกลางกายสาวยังคงไม่ทุเลาลงไปเลย ณ เวลานี้ แม้ว่าฉันจะรู้ดีว่าสิ่งที่ฉันทำลงไปก่อนหน้านี้มันผิดมากแค่ไหน แต่ฉันเองก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมหลังจากที่โดนกระทำแล้วตัวเองต้องมาเจอกับความเ็าอะไรแบบนี้ด้วย
“จะโทษใครเขาได้ละ...มนตรา...” ประโยคเพียงสั้น ๆ ที่เรียวปากบางพึมพำกับตัวเองพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ซึมไหลออกมาไม่รู้ตัว มันเป็ประโยคที่คล้ายกับว่าฉันได้ยอมรับโดยดุษณีแล้วถึงความผิดของตัวเองที่ทำลงไป และถึงแม้ว่าสิ่งที่ฉันเสียไปฉันได้เสียไปให้กับคนที่ฉันชอบมานานก็ตาม แต่ฉันก็ไม่นึกว่ามันจะไร้ซึ่งราคาได้ขนาดนี้
ร่างบางใช้เวลาตั้งสติพร้อมกับจัดการความคิดของตัวเองเพียงไม่นานมากนักเพราะรู้ดีว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าฉันก็จะกลับไปยังสถานะปกติเป็ลูกน้องดังเดิมแล้ว ก่อนที่ร่างบางจะหยัดตัวลุกขึ้นเดินไปชำระคราบคาวที่ยังแสดงย้ำชัดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นั้นตัวฉันไม่ได้ฝันไป...
“ซี๊ดดดดด ~~ เจ็บจัง” เสียงซูดปากที่ถูกพ่นลมออกมาพร้อมกับสีหน้าเหยเก หลังจากที่สายน้ำจากสายชำระพุ่งตรงถูกรอยเนื้ออ่อนจนเกิดเป็ความเจ็บแสบ ยิ่งตอกย้ำให้รู้ว่าตอนนี้ความบริสุทธิ์ที่เคยมีไม่หลงเหลืออีกต่อไปแล้ว
และในขณะที่ฉันกำลังจัดการตรงจุดอ่อนไหวของตัวเองอย่างแ่เบาอยู่นั้น...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้