เมื่อลงไปในน้ำ!
ประสิทธิภาพอันน่าทึ่งอีกประการหนึ่งของลูกปัดวิเศษกันน้ำก็ทำให้หัวใจของฉินหรูเยียนต้องพองโตอีกครา!
ในขณะที่กำลังคิดเช่นนั้น ลูกปัดวิเศษกันน้ำก็ส่องแสง
จากนั้นก็ปรากฏโล่แสงสีฟ้าอ่อนรอบตัวของฉินหรูเยียน
โล่แสงสีฟ้าอ่อนนี้ไม่เพียงแต่จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำได้ดีกว่าโล่พลังิญญาเท่านั้น แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือโล่แสงสีฟ้าอ่อนนี้ยังมีประสิทธิภาพในการกรองถ่ายเทอากาศได้อย่างน่าทึ่งอีกด้วย มันสามารถสกัดเอาออกซิเจนออกมาจากน้ำในทะเลสาบได้
อย่างที่รู้กันดีว่าก่อนที่ผู้บำเพ็ญเพียรจะได้ทิพยกาย แม้แต่ผู้ที่อยู่ในระดับบรรพชนิญญาก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ใต้น้ำได้นาน หรือแม้แต่ฉินหรูเยียนและเซียวหลิงอวิ๋นที่เป็อัจฉริยะที่หาตัวจับได้ยาก หากไร้ซึ่งพลังธาตุน้ำแล้ว พวกเขาก็สามารถอยู่ในน้ำได้แค่เพียงครึ่งชั่วยามเท่านั้น
ทว่าในเวลานี้ไม่ต้องกังวลเื่นั้นแล้ว ด้วยลูกปัดวิเศษกันน้ำที่สามารถสกัดออกซิเจนในน้ำได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ทั้งคู่สามารถมีชีวิตอยู่ในน้ำได้นานเหมือนปลา!
ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้พวกเขาค้นหาสมบัติที่อยู่ในน้ำลึกได้อย่างสะดวก!
ภายในเวลาไม่นาน ทั้งสองก็ดำดิ่งลงไปได้ความลึกประมาณสามสิบหมี่ แสงจากผิวน้ำ้าเริ่มมืดลง ฉินหรูเยียนต้องประหลาดใจที่พบว่าโล่แสงสีฟ้าที่แผ่อออกมาจากลูกปัดวิเศษกันน้ำนี้เริ่มหดตัวลงเมื่อความลึกเพิ่มขึ้น เห็นได้ชัดว่าแรงดันน้ำจากภายนอกนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
โล่แสงบางๆ นี้จะไม่แตกใช่หรือไม่?
ฉินหรูเยียนเหลือบมองไปที่เซียวหลิงอวิ๋นที่อยู่ห่างออกไปสามหมี่ แล้วหัวใจของนางก็สงบเยือกเย็นลง ราวกับว่าขอเพียงมีเซียวหลิงอวิ๋นอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งที่นางเผชิญก็ไม่ใช่ปัญหาทั้งนั้น
เมื่อดำดิ่งลงไปเรื่อยๆ หลังจากลงไปในทะเลสาบได้ลึกห้าสิบหมี่ แสงโดยรอบก็แทบจะมองไม่เห็นแล้ว มันมืดมิดมาก แม้แต่สายตาของฉินหรูเยียนที่มองผ่านโล่แสงสีฟ้าอ่อนของลูกปัดวิเศษกันน้ำ ก็ยังสามารถมองเห็นวัตถุรอบตัวได้เพียงแค่ระยะสามหมี่เท่านั้น เกินกว่าสามหมี่ไปก็เริ่มพร่ามัว เกินกว่าห้าหมี่ก็จะมืดสนิท
ในเวลานี้เองที่เสียงของเซียวหลิงอวิ๋นดังเข้ามาในหู “น้ำลึกขนาดนี้ แสงจากภายนอกจะส่องเข้ามาไม่ถึงแล้ว จงตั้งสมาธิอยู่ที่จิตใจ ใช้จิตใจของตัวเองรับรู้สิ่งรอบข้าง เมื่อใดที่พลังยุทธ์สูงขึ้นและสร้างร่างจิตขึ้นมาได้ ท่านก็จะสามารถรับรู้สภาพแวดล้อมโดยรอบได้อย่างชัดเจนด้วยพลังจิต”
เมื่อได้ยินเสียงของเซียวหลิงอวิ๋น ฉินหรูเยียนก็พยักหน้าตอบทันที
จากนั้นจึงหลับตาลง สงบจิตสงบใจ และเริ่มรับรู้ด้วยจิตใจ
ภายในเวลาไม่นานก็เกิดความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นในใจของฉินหรูเยียน ไม่ใช่ในหัวของนาง ราวกับนางมีดวงตาเล็กๆ มากมายที่กำลังมองดูภาพในทะเลสาบอันน่าทึ่งนี้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ในตอนแรกมองได้แค่เพียงระยะสิบสองหมี่โดยรอบ จากนั้นระยะทางก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้นไปจนถึงระยะแปดสิบหมี่โดยรอบ
วัตถุใดๆ ภายในระยะแปดสิบหมี่โดยรอบ แม้แต่สาหร่ายเล็กๆ ที่ลอยอยู่ก็ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนในใจของฉินหรูเยียน
นางพบปลาประหลาดตัวหนึ่ง! ลูกตาที่นูนออกทั้งสองข้างนั้นเป็สีขาวโพลน ไม่มีสีดำเลย! อ๊ะ นั่นงูทะเล งูทะเลสามตัว เอ๊ะ ตรงนั้นเป็ปูที่แบกเปลือกหอยขนาดใหญ่ไว้บนหลัง...
การรับรู้ด้วยจิตใจของเซียวหลิงอวิ๋นนั้นเหนือกว่าฉินหรูเยียนเล็กน้อย สามารถมองเห็นได้ในระยะร้อยหมี่โดยรอบ
เนื่องจากพลังจิตของเซียวหลิงอวิ๋นนั้นแข็งแกร่งกว่าผู้ใช้พลังิญญาทั่วไปมาก ซึ่งเป็ผลมาจากสองปัจจัย ปัจจัยแรกคือเศษเสี้ยวิญญาจากโลกเบื้องบนได้หลอมรวมเข้ากับิญญาของเ้าของร่างเดิมอย่างสมบูรณ์แล้ว ประการที่สองต้องยกความดีให้กับวิชาการบำเพ็ญเพียรขั้นสูงยอดอย่างเคล็ดวิชามหาเทพโกลาหล
การหลอมกายด้วยน้ำแข็งและไฟในขั้นตอนสร้างรากฐานร้อยวันนั้นไม่เพียงแต่จะมีประโยชน์ต่อร่างกายเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์อย่างมากต่อการหลอมรวมิญญาและจิตใจอีกด้วย
ดังนั้นในบรรดาสิบเอ็ดคนนี้ เซียวหลิงอวิ๋นแม้จะดูเหมือนมีพลังยุทธ์ต่ำที่สุด แต่ถ้าหากพูดถึงพลังจิตเพียงอย่างเดียวแล้ว ตัวเขากลับแข็งแกร่งที่สุด แข็งแกร่งกว่าฉินหรูเยียนเสียด้วยซ้ำไป
หากเป็ผู้บำเพ็ญเพียรคนอื่นอย่างอูเสี่ยวหมินหรือหม่าิฮุ่ยแล้ว การที่สามารถรับรู้สภาพแวดล้อมโดยรอบได้ในระยะห้าสิบหมี่นั้น ก็ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมมากแล้ว
ใน่ระดับผู้ใช้พลังิญญาและปรมาจารย์ิญญา ยิ่งรับรู้ทางจิตได้ไวมากเท่าไร พลังจิตก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น และจะยิ่งง่ายต่อการสร้างร่างจิตอีกด้วย
ในอาณาจักรซินโยว ใน่ระยะเวลาหลายหมื่นปีที่ผ่านมานี้ ในบรรดาผู้ใช้พลังิญญาเก้าสิบเก้าคนในหนึ่งร้อยคน จะสามารถหลอมิญญาได้หลังจากที่ก้าวเข้าสู่ระดับบรรพชนิญญา
มีเพียงอัจฉริยะที่มีพร์สูงเท่านั้นจึงจะสามารถหลอมิญญาและก่อร่างจิตได้ในระดับมหาปรมาจารย์ิญญา
ดังนั้นในอาณาจักรซินโยวจึงกำหนดจุดเด่นที่สุดสามประการของยอดฝีมือในระดับบรรพชนิญญาว่า: ดอกไม้บานและร่วง หลอมรวมพลังจิต พลังพิเศษถือกำเนิด
เหล่าผู้าุโสูงสุดทั้งหลายของสำนักิญญาเมฆามองว่าเซียวหลิงอวิ๋นกับฉินหรูเยียนเป็หัวใจที่สำคัญที่สุดของสำนัก และเป็อัจฉริยะที่มีพร์โดดเด่นที่สุดในรอบหมื่นปี ซึ่งเหตุผลสำคัญประการหนึ่งคือ ทั้งสองคนสามารถใช้พลังพิเศษได้ั้แ่อยู่ในระดับผู้ใช้พลังิญญา ซึ่งผู้บำเพ็ญเพียรส่วนใหญ่ต้องบำเพ็ญเพียรอย่างหนักจนถึงระดับบรรพชนิญญาก่อนจึงจะสามารถใช้พลังพิเศษได้
หากเหล่าผู้าุโสูงสุดทั้งหลายรู้ว่าการรับรู้ทางจิตของทั้งคู่นั้นเหนือกว่าอูเสี่ยวหมิน และเหนือกว่าผู้ใช้พลังิญญาขั้นสูงถึงห้าส่วนหรืออาจจะเท่าตัวแล้ว พวกเขาคงจะดีใจจนตัวลอยเลยก็เป็ได้ เพราะนั่นหมายความว่าทั้งสองคนมีโอกาสอย่างมากที่จะหลอมิญญาได้ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ระดับบรรพชนิญญา!
มหาปรมาจารย์ิญญาที่สามารถหลอมิญญาและสร้างร่างจิตได้นั้น ย่อมเป็ผู้แข็งแกร่งที่ไม่มีใครเทียบได้เมื่ออยู่ในระดับมหาปรมาจารย์ิญญา แม้กระทั่งเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งในระดับบรรพชนิญญา ก็ยังมีพลังที่แข็งแกร่งมากพอที่จะต่อกรกับอีกฝ่าย สิ่งที่ขาดก็จะมีเพียงแค่ปริมาณและคุณภาพของพลังิญญาเท่านั้น
ซึ่งในขณะที่เซียวหลิงอวิ๋นกับฉินหรูเยียนลงไปในทะเลสาบความลึกห้าสิบหมี่อยู่นั้น
ห่างออกไปสองพันหมี่! แสงดาบและลูกไฟสามลูกพุ่งเข้าใส่สัตว์อสูรรูปร่างคล้ายหมาป่าพร้อมกัน
“ตูม!” พร้อมด้วยเสียงดังสนั่น สัตว์อสูรรูปร่างคล้ายหมาป่านี้ได้แตกกระจายออกเป็เศษเหล็กและเศษไม้ นี่คือหุ่นเชิดิญญาที่มีรูปร่างเป็หมาป่า
เมื่อสัตว์อสูรรูปร่างคล้ายหมาป่าแตกกระจายออกไป ชายหนุ่มร่างกำยำคนหนึ่งที่ถือดาบยาวสีแดงสดก็ะโไปหาชายหนุ่มร่างเล็กคนหนึ่ง “เย่าจื่อ ได้เวลาแล้วล่ะ หุ่นเชิดหมาป่าเหล็กชุดที่สามถูกกำจัดหมดแล้ว! เ้าปล่อยหนูล่าสมบัติของเ้าออกมาได้แล้ว!”
ต่งเย่าชายหนุ่มร่างเล็กกำยำ ก็พยักหน้าและตบไหล่ตัวเอง แล้วหัวหนูสีทองก็โผล่ออกมาจากปกคอเสื้อ
“จี๊ด จี๊ด” พร้อมเสียงร้องออกมาสองครั้ง แสงสีทองสว่างก็ลงมาบนพื้นทราย กางขาออกทั้งสี่ข้าง แล้ววิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
และที่ด้านหลังของต่งเย่า ชายหนุ่มร่างกำยำกับผู้ใช้พลังิญญาอีกเจ็ดคนต่างก็แผ่พลังิญญาออกแล้วไล่ตามมันไป
ทิศทางที่มุ่งหน้าไปก็คือตำแหน่งของทะเลสาบที่เซียวหลิงอวิ๋นกับฉินหรูเยียนอยู่
...
ในขณะที่เซียวหลิงอวิ๋นกับฉินหรูเยียนลงไปลึกขึ้นเรื่อยๆ อยู่นั้น พวกเขาก็ใช้ััทางจิตตรวจสอบการเคลื่อนไหวของน้ำโดยรอบไปด้วย
ในทะเลสาบแห่งนี้มีปลาและสัตว์อสูรในน้ำหลายชนิด แต่ทั้งคู่ไม่มีความคิดที่จะไปยุ่งกับปลาประหลาดและสัตว์อสูรในน้ำเหล่านี้
เวลานี้ทั้งสองคนดำลงมาเพื่อหาสมบัติ ไม่ได้ลงมาเพื่อฆ่าสัตว์อสูรในทะเลสาบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นตลอดทางที่ดำลงมา ทั้งคู่เจอทั้งสัตว์อสูรใต้น้ำระดับหนึ่งขั้นกลาง และบางครั้งก็เจอสัตว์อสูรใต้น้ำระดับหนึ่งขั้นสูง หากจะฆ่าสัตว์อสูรระดับนี้ไป ประการแรกคือไม่ได้ประโยชน์อะไร ประการที่สอง การต่อสู้ในน้ำไม่ง่ายเหมือนต่อสู้บนบก
โดยปกติแล้ว บริเวณโดยรอบสมบัติล้ำค่ามักจะมีสัตว์อสูรที่ค่อนข้างแข็งแกร่งคอยปกป้องอยู่เสมอ
จนตอนนี้ก็ยังไม่เห็นก้นหินปะการังเลย อย่าว่าแต่เซียวหลิงอวิ๋นที่เป็ผู้มากประสบการณ์ แม้แต่ฉินหรูเยียนก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว แน่นอนว่าย่อมไม่ฆ่าสัตว์อสูรระดับหนึ่งสองสามตัวที่ไม่มีค่าอะไร แต่ให้ความสนใจไปที่สัตว์อสูรแข็งแกร่งซึ่งคอยปกป้องสมบัติล้ำค่าด้านล่างก่อน
แปดสิบหมี่!
หนึ่งร้อยหมี่!
หนึ่งร้อยยี่สิบหมี่! ความลึกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“เอ๋? เหมือนจะมีกลิ่นหอม? สมุนไพรวิเศษหรือ?” เซียวหลิงอวิ๋นที่อยู่ข้างหน้าพลันรู้สึกยินดีขึ้นมา ส่งการรับรู้ทางจิตของเขาออกไปยังบริเวณที่มีพลังของสมุนไพรวิเศษแผ่ออกมา
จนเมื่อภาพของสมุนไพรสีแดงแปลกประหลาดต้นหนึ่งในซอกหินปะการังลึกในน้ำปรากฏขึ้นในจิตใจของเซียวหลิงอวิ๋น มุมปากของเซียวหลิงอวิ๋นก็เผยรอยยิ้มกว้างอันอบอุ่นราวกับน้ำในแม่น้ำ่ฤดูใบไม้ผลิ
