หลินกู๋หยู่เงยหน้าขึ้นมองฉือหางด้วยความประหลาดใจ ตบมือของฉือหางโดยไม่ลังเล
“เ้าทำได้หรือ?” หลินกู๋หยู่เงยหน้าขึ้นมองฉือหางอย่างเฉยเมย จากนั้นพูดอย่างเคร่งขรึม “ข้ารู้ว่าเ้าเป็นักล่ามือฉมัง แต่เื่การจัดการกับอาการาเ็ เ้าไม่เก่งเท่าข้า”
ฉือหางมองหลินกู๋หยู่อย่างเหงาๆ ดวงตาของเขาหม่นลง "หมอคนอื่นก็ช่วยข้าตรวจรักษาได้"
ฮู่ว!
หลินกู๋หยู่หายใจเข้าลึกๆ ปลดสายคาดเอวของฉือหางออก ยกปลายเท้าขึ้นถอดเสื้อผ้าของฉือหางออกจากร่างกาย
“อย่า” ฉือหางถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยไม่ให้ความร่วมมือ
"อย่าขยับสิ" หลินกู๋หยู่ตกลงไปในอ้อมแขนของฉือหางจากการทรงตัวไม่มั่นคง ใบหน้าของนางชนที่หน้าอกของเขา
หลินกู๋หยู่รู้สึกอายมากจนร่างกายของนางร้อนผ่าว นางยืนตัวตรงด้วยความตื่นตระหนก
“เ้าไม่ได้เป็อะไรใช่หรือไม่?” ฉือหางโน้มตัวเล็กน้อย มองไปที่หลินกู๋หยู่อย่างกระวนกระวายใจ
"ไม่เป็ไร เ้ายืนนิ่งๆ อย่าขยับก็เพียงพอแล้ว" หลินกู๋หยู่ลดศีรษะลง เดินอ้อมไปยังด้านหลังของฉือหางและถอดเสื้อผ้าออก
ที่แผ่นหลังไม่มีร่องรอยของการาเ็
หลินกู๋หยู่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หันหลังกลับและเดินไปด้านหน้าของฉือหาง มองไปที่รอยอุ้งเท้าบนแผ่นหน้าอกของเขาพลางขมวดคิ้ว
“เ้าวิ่งหนีเสือไม่เป็หรือ?” อดไม่ได้ที่จะบ่น “ทุกครั้งที่เ้าทำเื่อันตรายเช่นนี้ เ้าไม่กลัวว่าตนเองจะาเ็หรือ?”
แม้ว่านางจะใส่เสื้อผ้าของเขา แต่กระนั้นก็ไม่อาจซ่อนใบหน้าที่งดงามของนางได้ ดวงตาคู่สวย และสีแดงระเรื่อบนพวงแก้มของนาง ทำให้สัตว์ป่าที่เขาซุกซ่อนไว้โดยตลอดแทบจะกระโจนออกมา
ทันใดนั้น เขารู้สึกเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง หลินกู๋หยู่หยิบผ้าทีแช่สุรามาเช็ดบริเวณที่เขาาเ็อีกครั้ง
คิ้วของฉือหางขมวดแน่นขึ้นอย่างไม่อาจทนได้ เขาอยากจะเอื้อมมือผลักนางออกไป แต่กระนั้น เขาก็ทำไม่ลง
ฉือหางตกอยู่ในภวังค์ระหว่างความปรารถนาและความเ็ปสลับไปมา
“ทุกครั้งที่เ้าทำเื่อันตราย เ้าไม่เคยคิดเลยหรือว่าวันข้างหน้าโต้ซาจะอยู่อย่างไร?” หลินกู๋หยู่เงยหน้าขึ้นมอง สายตาของนางกวาดไปที่จุดสีแดงบนหน้าอกของเขา นางเม้มริมฝีปากเบาๆ "วันข้างหน้าอย่าทำเื่อันตรายเช่นนี้อีก"
ฉือหางอยากจะหัวเราะไม่ออก ร้องไห้ไม่ได้ "ข้าวิ่งหนีได้"
“โง่งมนัก” หลินกู๋หยู่เงยหน้าขึ้นมองฉือหาง มุมปากโค้งเล็กน้อย “วันข้างหน้า ถ้าเ้าเจอเื่เช่นนี้อีก เ้าต้องดูแลตัวเองเป็อันดับแรก คนเราต้องเอาตัวรอดก่อนถึงจะถูก"
ผู้ชายคนนี้โง่มาก อยู่บ้านก็ถูกรังแก อยู่บนูเา เขาก็ทำงานราวกับไม่คิดมีชีวิตอีก
ลู่จื่อยู่ยืนอยู่ที่ประตู เขาได้แต่ฟังคนสองคนคุยกันอย่างเงียบๆ
"เสร็จแล้ว" หลินกู๋หยู่กล่าว จัดของในมืออย่างเรียบร้อย คิดไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง "เ้าเจ็บขาหรือไม่?"
“ไม่ ไม่เจ็บ” ฉือหางโบกมืออย่างรวดเร็ว กล่าวปฏิเสธ “เ้าไม่ต้องวิตกกังวล ขาของข้าไม่เป็ไรจริงๆ าเ็แค่ที่เดียวเท่านั้น”
"ถ้าเกิดาเ็ในส่วนที่สูงกว่านี้อีกสักเล็กน้อย ตรงนั้นจะโดนหัวใจ แม้แต่เทพบน์ก็ไม่อาจช่วยเ้าได้" หลินกู๋หยู่มองไปที่ฉือหางด้วยใบหน้าเ็า คิดอยู่พักหนึ่ง ยังคงพูดอย่างไม่อาจวางใจได้ “ถอดกางเกงออก ข้าจะดู อย่าให้เห็นว่าาเ็อีกละ!”
ฉือหางกระวีกระวาดจับกางเกงของตนเองอย่างลนลาน ก้าวถอยหลังเล็กน้อย "ไม่มีส่วนที่าเ็ ไม่มีจริงๆ เ้าไม่ต้องกังวล"
หลินกู๋หยู่มองไปที่ท่าทีของเขา เข้าหาฉือหางด้วยความกังวล "ขอข้าดูหน่อย"
“แม่นางหลิน” ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากข้างนอก
“อย่าเพิ่งเข้ามา!” หลินกู๋หยู่ะโไปที่ประตู รีบช่วยฉือหางใส่เสื้อ คาดสายคาดเอวด้วยความตื่นตระหนก เริ่มจัดเสื้อผ้าของฉือหางให้เรียบร้อย
เอ๊ะ ไม่สิ
มือของหลินกู๋หยู่วางอยู่ด้านหน้าร่างของฉือหาง สมองของนางรู้สึกสับสนเล็กน้อย ฉือหางเป็ผู้ชาย แต่เปิดเผยส่วนบนก็ไม่น่าจะแปลกอะไรนี่นา
ผู้ชายหลายคนทำงานโดยไม่สวมเสื้อด้วยซ้ำ ก็ไม่เห็นว่าจะเป็ไรนี่นา
"ข้าเข้าไปได้หรือยัง?" เสียงของลู่จื่อยู่ดังมาจากข้างนอก
จากนั้นหลินกู๋หยู่ก็ถอนมือออก หยิบสุราและยาจินฉวงแล้วเดินออกไปข้างนอก "มีอะไรหรือ?"
"หญิงสาวที่มาที่นี่ในวันนี้าเ็สาหัส ข้าคิดว่าเ้าเป็ผู้หญิง ดังนั้นเ้าช่วยทายาให้นางจะดีกว่า" ดวงตาของลู่จื่อยู่ลดลงเล็กน้อย มือที่ถือพัดกระดาษบีบแน่นเล็กน้อย
“ได้ เ้าพาข้าไปที่นั่น” หลินกู๋หยู่ตอบด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเดินมาถึงห้องสะอาด หลินกู๋หยู่เห็นสาวที่เปล่งวาจาดุร้ายยืนเฝ้าอยู่ข้างเตียง
“เ้า เ้าเป็ผู้หญิงหรือ?” หญิงสาวในชุดสีฟ้าเดินมาหาหลินกู๋หยู่พร้อมพูดอย่างดุร้าย
"อืม" หลินกู๋หยู่รู้ว่าผู้หญิงในสมัยโบราณไม่สามารถให้ผู้ชายเห็นร่างกายของพวกนางตามอำเภอใจได้ "ถ้าเ้าไม่เชื่อ ข้าจะใส่ชุดผู้หญิงให้เ้าดูก็ได้"
หญิงสาวคนนั้นเดินเข้ามาหาหลินกู๋หยู่ เอนตัวไปใกล้ใบหูของนางก่อนจะถอยไปหนึ่งก้าว "เ้าเจาะใบหู ข้าเชื่อว่าเ้าเป็ผู้หญิง"
หลินกู๋หยู่อยากจะหัวเราะและร้องไห้ในเวลาเดียวกันอยู่หลายส่วน
นางหยิบสุราและเดินไปหาหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อผ้าของนางอย่างระมัดระวัง
หลังจากเช็ดสุราแล้ว นางก็ทายาให้และพันผ้าพันแผลอย่างระมัดระวัง จากนั้นหลินกู๋หยู่ก็หยุดมองหญิงสาวในชุดสีฟ้าอย่างใจเย็น "นางไม่เป็ไรแล้ว หลังจากนี้นางอาจจะเป็ไข้ ให้นางทานยาเล็กน้อยอาการก็ดีขึ้นแล้ว”
"เ้าหลีกไป" เจียงโหรวมองไปที่หลินกู๋หยู่อย่างเย่อหยิ่ง คิดไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง "เอายาที่ดีที่สุด"
“ตกลง” เมื่อหลินกู๋หยู่ออกมาจากห้อง นางก็เดินไปหาฉือหาง พูดเสียงเบาว่า “หรือว่ารอให้ถึงยามเย็น พวกเรากลับด้วยกันดีหรือไม่?”
"คนสกุลฉือ!" เจียงโหรวคิดจะกลับไปที่บ้านสกุลเจียงก่อน แต่ทันทีที่นางออกไปเห็นว่าฉือหางก็อยู่ที่นี่ด้วย นางก็พูดเสียงเข้ม "เ้ามานี่ ช่วยไปที่บ้านสกุลเจียงให้ข้าที แล้วบอกคนในครอบครัวสกุลเจียงส่งคนมาที่นี่!"
ฉือหางขมวดคิ้วเล็กน้อย "ขอโทษด้วย ข้าไม่ใช่คนในตระกูลเจียง"
ฉือหางพูดและดึงหลินกู๋หยู่ไปที่ด้านข้าง เขามีเื่มากมายที่อยากจะถาม แม้ว่าทั้งสองคนจะไม่ได้เจอกันแค่หนึ่งวัน แต่เขากลับรู้สึกว่าเวลาผ่านไปหลายวันแล้ว
เจียงโหรวเดินจากชั้นบนลงมาข้างล่างด้วยความโกรธ สายตามองไปที่หลินกู๋หยู่อย่างเฉยเมยปราดหนึ่ง จากนั้นมองไปที่ฉือหาง "ข้าจะให้เงินเ้าสิบตำลึง ตราบใดที่เ้าไปที่บ้านตระกูลเจียง!"
หนึ่งในบรรดาองครักษ์ทั้งหกคนที่อยู่ข้างๆ ได้ยินก็กระวีกระวาดเดินไปข้างหน้า แล้วกระซิบเบาๆ ว่า "คุณหนู หรือว่าให้บ่าวไปดีหรือไม่?"
"ใครอยากจะให้เ้าไปหรือ?" เจียงโหรวหันกลับมาตบหน้าคนๆ นั้นโดยไม่ลังเล "เศษสวะ ข้ามีพวกเ้าไว้ทำประโยชน์อะไรได้บ้าง?"
ฉือหางชำเลืองมองเจียงโหรว จากนั้นดึงหลินกู๋หยู่ไปด้านข้าง
"เ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?" ฉือหางมองไปที่หลินกู๋หยู่ที่ปลอมตัวเป็ผู้ชาย อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามว่า "ทำไมเ้าถึงแต่งตัวเช่นนี้?"
เสื้อผ้าที่หลินกู๋หยู่ใส่นั้นเป็ของเขา มันค่อนข้างหลวมเทอะทะอยู่หลายส่วน นางใส่เสื้อผ้าเช่นนี้รู้สึกไม่เหมาะนัก
"คุณชายลู่ขอให้ข้ามาช่วยคนเ่าั้ตรวจรักษาโรค นั่นคือเหตุผลที่ข้ามาที่นี่" หลินกู๋หยู่ชำเลืองมองหญิงสาวในชุดสีฟ้า ซึ่งยังคงสั่งสอนคนอื่นๆ จึงเอ่ยถามอย่างลังเลว่า "แล้วผู้หญิงคนนั้นเล่า เกิดอะไรขึ้นหรือ? "
"ข้าไม่รู้" ฉือหางส่ายศีรษะและพูดอย่างงงงวย "เมื่อวานตอนเย็น ข้าพบพวกนางบนูเา"
“แม่นางหลิน” เด็กจัดยาคนหนึ่งเดินมาหาหลินกู๋หยู่ พูดด้วยความเคารพนอบน้อมว่า “ท่านไปช่วยงานที่ห้องโถงด้านหน้าได้แล้ว หมอหลายคนตรวจโรคไม่ทันแล้ว”
"ได้ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้" หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางก็ดึงฉือหาง "ท่านนี้คือสามีของข้า เขาจะอยู่ที่นี่ได้หรือไม่?"
"ได้สิ" ลู่จื่อยู่เดินไปข้างหน้าหลินกู๋หยู่ "แน่นอนว่าพี่ฉือสามารถอยู่ที่นี่ได้"
"ขอบคุณ" หลินกู๋หยู่กล่าวกับลู่จื่อยู่อย่างสุภาพ จากนั้นหันไปมองฉือหาง "เ้าอยู่กับโต้ซา ข้าขอตัวไปทำงานก่อน"
“อืม” ฉือหางผงกศีรษะ
หลินกู๋หยู่มองไปที่ฉือหางอย่างไม่อาจวางใจ จากนั้นเดินตามลู่จื่อยู่ไปยังห้องโถงด้านหน้า
เจียงโหรวเฝ้าดูฉือหางนั่งอยู่บนตั่งไม้เล็กๆ คนเดียว นางไล่คนรอบตัวของนางด้วยความโกรธ แล้วเดินไปยังด้านหน้าฉือหาง
"เ้าชื่ออะไร?" แม้ว่าเสื้อผ้าของเจียงโหรวจะขาดรุ่งริ่ง แต่อย่างไรก็ตาม น้ำเสียงของนางก็ยังคงหยิ่งยโส นางยังคงเป็คุณหนูผู้สูงศักดิ์ไม่มีใครเทียบเทียมคนนั้น
เมื่อได้ยินคำถามของเจียงโหรว ฉือหางเงยหน้าขึ้นมองนางแล้วลุกขึ้นยืน "ในเมื่อข้าไม่ได้ช่วยเ้าหาของ เ้าไม่ต้องจ่ายเงินค่าจ้างให้ข้าแล้ว"
"ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น" เจียงโหรวเหลือบมองใบหน้าของฉือหาง แล้วพูดว่า "ข้าก็แค่อยากจะขอให้ท่านพ่อของข้าจัดตำแหน่งในที่ว่าการอำเภอเมืองให้เ้า ถ้าเ้า้า เ้ารับตำแหน่งหัวหน้าสายตรวจ เ้าว่าดีหรือไม่?”
ฉือหางคิดเกี่ยวกับเื่นี้ แต่กระนั้นเขาก็ส่ายศีรษะ
"เ้าอย่ามองข้ามความหวังดีของผู้อื่น" สีหน้าของเจียงโหรวคล้ายเปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน นางจ้องมองไปที่ฉือหางอย่างถมึงทึง "เ้าโง่หรืออย่างไร โอกาสที่ดีเช่นนี้ เ้ากลับไม่้า"
"ข้ายังมีลูก และไม่มีใครดูแลเขา" ฉือหางพูดด้วยความหงุดหงิด "ข้าไม่สามารถทำงานอย่างอื่นได้"
“ภรรยาของเ้าละ?” เจียงโหรวถามด้วยความงุนงง “นางไม่ควรเฝ้าดูลูกที่บ้านหรือ?”
"เราหย่ากันแล้ว" ฉือหางขมวดคิ้วและพูดอย่างช้าๆ "ครอบครัวก็แยกจากตระกูลใหญ่แล้ว ข้าจะต้องดูแลลูกด้วยตัวเอง"
มุมริมฝีปากของเจียงโหรวโค้งขึ้นช้าๆ แววตาของนางมองไปที่ฉือหางอย่างอ่อนโยน ก้าวไปข้างหน้าพลางเอ่ยถามอย่างสัพยอกว่า "เ้าไม่มีภรรยาแล้วหรือ?"
ฉือหางถอยห่างออกไปช้าๆ คิดเกี่ยวกับสิ่งที่หลินกู๋หยู่พูด "ไม่ ตอนนี้มีหนึ่งคน เพียงแต่..."
หลังจากคิดไตร่ตรองเกี่ยวกับเื่นี้แล้ว ฉือหางก็พูดด้วยความหดหู่ใจอยู่หลายส่วนว่า "นางดูเหมือนจะไม่้าข้า"
ดวงตาของเจียงโหรวมองบุรุษเบื้องหน้า จากนั้นเอามือไพล่หลัง พูดด้วยรอยยิ้มว่า "คิดไม่ถึงว่ายังมีผู้หญิงที่ไม่ชอบเ้า ผู้หญิงคนนั้นจะต้องตาบอดอย่างแน่นอน"
“เ้าเข้าใจนางผิดแล้ว” ฉือหางอดไม่ได้ที่จะเอ่ยอธิบาย
ทันใดนั้น คนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาด้านนอก โดยเดินตรงไปหาเจียงโหรวแล้วคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความเคารพนอบน้อม "คุณหนู"
"เอาละ ลุกขึ้นเถอะ" เจียงโหรวมองไปที่กลุ่มคนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยใบหน้าปราศจากอารมณ์ "พาซิ่งฮวาที่อยู่ในห้องนั้นกลับไปที่จวน"
เจียงโหรวเอียงศีรษะของนางเพื่อมองไปที่ฉือหาง จากนั้นก็ฉีกยิ้ม เดินไปด้านหน้าของฉือหาง โน้มตัวเข้าหาฉือหางอย่างใกล้ชิด "หรือว่าข้าแต่งให้เ้า ดีหรือไม่?"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้