เมื่อเย่เฟิงจับข้อเท้าของเขาได้กลางอากาศ หัวใจของหลงจื่อก็เต้นระรัว เขาได้ยินชื่อเสียงของโม่จิ่วเกอก็รู้สึกว่าอายุยังน้อยนักแต่กลับปลดปล่อยพลังภายในออกมาได้? แถมกระบวนท่ากรงเล็บัที่ชายผู้นี้ใช้ไม่ใช่กระบวนยุทธของตระกูลเย่หรอกหรือ?
พลังงานไหลเวียนกลับเข้าจุดตันเถียนเพื่อให้เกิดเสถียรภาพ และเคลื่อนตัวจากกลางอากาศลงสู่พื้นได้อย่างมั่นคง ไม่อย่างนั้นเขาต้องถูกเย่เฟิงทุ่มลงพื้นอย่างแรง
“ยอดเยี่ยมจริงๆ การปลดปล่อยพลังภายในออกมาไม่ใช่เื่ง่ายเลย” หลงจื่อชื่นชมอย่างจริงใจ “นายมีความสัมพันธ์ยังไงกับตระกูลเย่?”
ก่อนหน้านี้หลงหว่านเอ๋อร์เคยกล่าวว่าเย่เฟิงเป็แค่คนธรรมดา ดังนั้นไม่ว่าจะเป็หลงโม่หรานหรือบุคคลอื่นในตระกูลหลงต่างไม่มีใครสงสัยในตัวเขาสักนิด หากไม่ใช่เพราะทักษะลอบสังหารมีผลลัพธ์ที่สุดยอดแล้วล่ะก็ ใครต่อใครต้องสงสัยเย่เฟิงแน่
“ตระกูลเย่มีบุญคุณกับผม ผมแค่ตอบแทนเท่านั้น” เย่เฟิงตอบด้วยเสียงน้ำเสียงทุ้มต่ำ
“ดูเหมือนความสัมพันธ์ไม่ใช่เพียงผิวเผินสินะ ช่างน่าเสียดาย” หลงจื่อโคลงศีรษะ “ด้วยพร์ของนาย หากได้รับการฝึกฝนอย่างเต็มที่จะต้องกลายเป็ดาวเด่นรุ่นใหม่ท่ามกลางผู้ฝึกวรยุทธ์คนอื่นแน่”
“แล้วยังไง?” เย่เฟิงเห็นอีกฝ่ายหยุดจู่โจมจึงถามอย่างระมัดระวัง
“ช่างขวัญกล้านัก” หลงจื่อตอบ ยังคงแสดงท่าทีสุภาพ “หากนายจะเข้าตระกูลหลง มีทางเดียวคือต้องแต่งงานกับหว่านเอ๋อร์เท่านั้น แล้วพวกเราจะถือว่านายเป็คนของตระกูล”
เมื่อเย่เฟิงได้ยินอย่างนั้นก็เกือบหลุดหัวเราะ ชายคนนี้คิดเพียงว่าเขามีพร์ที่สามารถปลดปล่อยพลังภายในออกมาได้ั้แ่อายุยังน้อยจึงอยากดึงตัวเขาเข้าตระกูลหลง
“คุณเป็ตัวแทนของหลงโม่หรานเหรอ?” เย่เฟิงพูดด้วยท่าทีสงบนิ่ง “หลงโม่หรานคงไม่ยอมรับผมหรอก”
“ฮ่าๆ” หลงจื่อหัวเราะ “หากผู้นำตระกูลหลงรู้ว่าชายหนุ่มที่ลูกสาวตัวเองหลงรักมีพร์เช่นนี้จะต้องดีใจอย่างยิ่ง นี่เป็โอกาสที่ดีในการเสริมความแข็งแกร่งให้ตระกูลหลง ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลเย่ในตอนนี้ก็ถูกถอดออกจากยุทธจักรไปแล้วจึงไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลหลงอีก เพราะฉะนั้นการเข้าร่วมตระกูลหลงไม่ได้หมายความว่าเรา้าเป็ศัตรูกับตระกูลเย่”
“ขอบคุณสำหรับคำเชิญของผู้าุโ แต่เื่นี้สำคัญอย่างยิ่ง โปรดให้ผมพิจารณาอย่างถี่ถ้วนด้วย” ในใจของเย่เฟิงไม่เห็นด้วย แต่ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้คือต้องหลอกให้ชายผู้นี้กลับไป เขาจะได้พักผ่อนและเก็บแรงไว้จัดการคุณชายไช่เสียที
“เข้าใจแล้ว ฉันเชื่อว่านายเป็คนฉลาด” หลงจื่อยิ้ม “อ้อ จริงสิ ถ้าตัดสินใจได้แล้วก็เดินทางไปทะเลตะวันออกได้เลย เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ผู้นำตระกูลหลงและคนอื่นๆ ในตระกูลรวมทั้งข้าต่างต้องไปทะเลตะวันออก พวกเราตระกูลหลงจะรอต้อนรับนายอยู่ที่นั่น”
เห็นได้ชัดว่าหลงจื่อพอใจเย่เฟิงมาก แต่ก็มีความกังวลซ่อนอยู่ ความจริงชายคนนี้ก็รู้เช่นกันว่ายากจะทำให้หลงโม่หรานยอมรับลูกเขยที่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลเย่ แต่พร์ที่เด็กหนุ่มแสดงออกมาก็ทำให้เขาอิจฉาตาร้อน หากไม่ลองพยายามดึงเย่เฟิงเข้าตระกูลก็คงเสียดายไม่น้อย เขาคิดว่าหากโม่จิ่วเกอมาที่ทะเลตะวันออกและสบโอกาสให้ชายหนุ่มได้แสดงพร์ออกมาอาจเปลี่ยนความคิดของหลงโม่หรานได้... เพราะคนตระกูลหลงไม่ได้ใจแข็งดั่งหินผา
“เข้าใจแล้ว” เย่เฟิงตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำทว่าหัวใจสั่นระรัว ตระกูลหลงไปทะเลตะวันออก พวกเขาคิดจะทำอะไร? หรือเป็เพราะเทพธิดาแห่งทะเลตะวันออก?
หลังจากคุยเื่ทั่วไปสองสามประโยค หลงจื่อก็เดินจากไปด้วยความพึงพอใจ น่าเสียดายที่ความจริงเย่เฟิงไม่มีความคิดที่จะเข้าตระกูลหลงเลยแม้แต่นิดเดียว ด้วยนิสัยของหลงโม่หรานแล้วคาดเดาได้ยากว่าเขาจะชื่นชมหรืออิจฉาหากได้เห็นพร์ที่โม่จิ่วเกอปลดปล่อยออกมา
เย่เฟิงมองชายผู้นั้นเดินจากไป จากนั้นถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาเดินเข้าบ้านตัวเองเงียบๆ โดยไม่เปิดไฟและตรงขึ้นไปพักผ่อน แต่สิ่งที่ชายหนุ่มไม่รู้เลยก็คือการพบกันของหลงจื่อและโม่จิ่วเกอตกอยู่ในสายตาของชายชราคนหนึ่ง
“ไอ้เด็กคนนี้ ขนาดคนตระกูลหลงมาเชิญถึงที่ก็ยังไม่สนใจแม้แต่น้อย ช่างน่ายกย่อง!” หวงเผยหรงที่ยืนอยู่ในเงาต้นไม้ใหญ่ข้างทางชื่นชม ‘โม่จิ่วเกอ’ ไม่หยุด เขาได้ข่าวมาว่าเย่เฟิงจะกลับมาที่เยี่ยนจิงจึงรีบกลับมาเพื่อถามอะไรบางอย่าง แต่น่าเสียดายที่ถูกตระกูลหลงชิงตัดหน้าไปก่อน
เมื่อเห็นหลงจื่อกลับไปพร้อมความล้มเหลวก็ห้ามใจไม่ให้ตัวเองะโออกไป อำนาจและความน่าดึงดูดของ์แห่งเขาเทียนจู้นั้นยังเทียบตระกูลหลงไม่ได้ หากเขาไปชวนชายหนุ่มตอนนี้ต้องได้กินแห้วกลับไปเช่นกันแน่นอน
“เื่นี้อาจต้องใช้เวลา แต่ตอนนี้ทะเลตะวันออกช่างคึกคักเสียจริง ไม่คิดเลยว่าหลงโม่หรานอยากจะแต่งงานจนต้องเคลื่อนตระกูลหลงทั้งหมดไปที่นั่น...” หวงเผยหรงซ่อนตัวขณะขบคิดเื่ต่างๆ
ในที่สุดรอบบ้านพักก็กลับสู่ความสงบอีกครั้ง เหลือเพียงเกล็ดหิมะสีขาวนวลปกคลุมทั่วพื้นดิน เงาของต้นไม้น้อยใหญ่พัดไหวตามสายลมหนาวใต้แสงจันทรา
……......
เช้าวันรุ่งขึ้น เย่เฟิงและซูเมิ่งหานเดินไปโรงเรียนด้วยกัน
ยังมีเวลาอีกครึ่งเดือนสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย นี่เป็สัปดาห์สุดท้ายของการเรียนการสอน สัปดาห์หน้าจัดให้นักเรียนทบทวนวิชาเรียนด้วยตัวเองเพื่อเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย ผลสอบครั้งที่แล้วของเย่เฟิงทำให้ซูเมิ่งหานกังวลมาก ที่สำคัญใจของเย่เฟิงไม่ได้อยู่กับการเรียน
“เย่เฟิง ั้แ่วันนี้เป็ต้นไป ฉันจะติวหนังสือเรียนให้นายอย่างสุดความสามารถเลย นายได้ยินไหม?” ซูเมิ่งหานพูดอย่างจริงจังขณะเดินด้วยกัน
“อืม... แล้วเื่ระหว่างพ่อเธอกับตระกูลเซี่ยเป็ยังไงบ้าง?” เย่เฟิงพยักหน้าก่อนถามเพื่อเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“แน่นอนว่าต้องฟ้องร้องพวกเขา” ซูเมิ่งหานพูดอย่างขมขื่นและไม่สบายใจเล็กน้อย “แต่ฉันไม่รู้ว่าต้องทำยังไง”
“เดี๋ยวฉันจะให้เตาปาช่วยเธอเอง” เย่เฟิงพูดอย่างไร้กังวล เตาปาเป็ถึงหัวหน้าแก๊งผู้มีประสบการณ์มากพอจะช่วยซูเมิ่งหานจัดการเื่ดังกล่าวได้อย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้นการฟ้องร้องยังดำเนินต่อไป อีกทั้งมีซูซิ่นชางช่วยเป็พยานว่าเซี่ยิ่และเซี่ยเฉิงเย่มีเจตนาฆ่า พวกเขาย่อมดิ้นไม่หลุดแน่
หากเปลี่ยนตัวละครเป็เย่เฟิงที่ต้องประสบกับเื่นี้ก็คงไม่ใช่เื่ใหญ่นัก เพราะเขาจะจัดการปัญหาเหล่านี้ด้วยกระบี่เพียงเล่มเดียว แต่ไม่ใช่สำหรับซูเมิ่งหาน หญิงสาวไม่ยอมให้เขาจัดการปัญหาด้วยการฆ่าคนแน่นอน
หลังจากพูดไปแบบนั้น ชายหนุ่มก็โทรหาเตาปาเพื่อให้ชายหน้าบากช่วยเหลือเื่นี้และหากมีปัญหาอะไรให้ติดต่อกับซูเมิ่งหาน
“พี่เย่ พี่ไม่ต้องกังวลเื่นี้นะ ผู้พิพากษาของเมืองเยี่ยนจิงเป็คนของตระกูลหลิน ยิ่งกว่านั้นเรามีคำให้การของซูซิ่นชาง พวกมันไม่รอดแน่!” เตาปาตอบหนักแน่น
แม้จะเป็่เวลาสั้นๆ เย่เฟิงก็ััได้ถึงความโศกเศร้าในน้ำเสียงของเตาปา ขนาดคนแข็งแกร่งเช่นมนุษย์เหล็กอย่างเตาปายังไม่สามารถทำใจกับการสูญเสียคนที่รักไปได้
“หากเป็ในโลกเทวะความตายทางกายภาพไม่ได้หมายถึงการตายอย่างแท้จริง... น่าเสียดายที่ในโลกนี้วรยุทธ์ระดับเราก็ทำอะไรไม่ได้” เย่เฟิงทั้งเสียใจและรู้สึกผิด ตัวการที่ทำให้เกิดเื่ราวทั้งหมดก็คือไอ้คุณชายไช่จากองค์กรลึกลับ!
เมื่อเขาและซูเมิ่งหานเดินมาใกล้ประตูโรงเรียน ก็พบว่าประตูโรงเรียนถูกปิดกั้นโดยรถและกลุ่มคนจำนวนมาก อีกทั้งนักเรียนและผู้ปกครองกำลังมุงอยู่รอบๆ
หรือใกล้วันสอบ ผู้ปกครองมาส่งลูกหลานตัวเองงั้นหรือ?
ไม่ช้าทั้งสองคนก็รู้ว่ามันไม่ใช่อย่างที่พวกเขาคิด เด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินมาจากด้านหลังก่อนตบไหล่ของเย่เฟิง ที่แท้ก็โอวบีนี่เอง “เฮ้ เสี่ยวมี่เฟิง ฉันได้ยินมาว่าคุณหนูตระกูลหลินมาหานาย ทุกคนเลยมามุงดูแบบนี้ นายรีบไปดูเร็ว!”
อะไรนะ? หลินซือฉิงมาหาเขาที่โรงเรียน?
ทั้งเย่เฟิงและซูเมิ่งหานต่างเบิกตากว้างด้วยความใ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้