สองแม่ลูกเปลี่ยนเดินไปบ้านตระกูลเจียงแทนที่จะกลับบ้านพวกนาง
อันที่จริงพวกนางอยากได้บ้านตระกูลเจียงเช่นกัน สร้างได้โอ่อ่ามีสง่าราศียิ่งนัก รวมบ้านสามหลังเป็หลังเดียว ทุกหลังมีสองลานบ้าน กว้างใหญ่มาก
พื้นปูด้วยอิฐหิน หรูหราแบบที่มีแค่เ้าของที่ดินรายใหญ่เท่านั้นที่กล้ามี
บ้านเหล่าหลินถือว่ามั่งคั่งเช่นกัน สร้างบ้านจากอิฐเช่นกันแต่ไม่กล้าปูพื้นด้วยอิฐหินในลานบ้าน ปูแค่ห้องโถงกับห้องท่านพ่อท่านแม่ ส่วนห้องนางปูด้วยอิฐแดง
ห้องที่เหลือเป็พื้นดินธรรมดา
เวลาฝนตก เดินไปทางใดก็เหยียบโดนโคลน สกปรกยิ่งนัก
“บ้านหลังใหญ่เช่นนี้ ครอบครัวพวกเขาอยู่กันไม่หมดหรอก!” สวี่ซื่อพูด “หากไม่ใช่เพราะครอบครัวหัวหน้าหมู่บ้านเล็งไว้อยู่ พวกเราก็ย้ายเข้าบ้านตระกูลเจียงได้เช่นกัน เรือนประธานเป็ของพวกเรา เรือนตะวันตกให้จินเป่า เรือนตะวันออกให้นังหนูสองคน ส่วนคนบ้านเจียงไปอยู่เรือนแถวด้านหลังเป็พอ”
สวี่ซื่อคิดเื่นี้มาั้แ่เห็นบ้านแล้ว ยิ่งคิดยิ่งไม่ยอมใจ นางต้องยอมให้ตระกูลสวียึดบ้านไปทั้งอย่างนี้หรือ?
ไอ๊หยา เสียดายเหลือเกิน
“ท่านแม่ ท่านเลิกพูดถึงสิ่งที่มีหรือไม่มีได้แล้ว ในเมื่อบ้านสวีเล็งอยู่ พวกเราจะทำกระไรได้? เราไม่กล้าขัดขวางพวกเขา...พ่อตาบ้านสวีเป็ถึงผู้ช่วยนายอำเภอ ขนาดเทาจื่อยังต้องคอยตามพวกเขา เทาจื่อบอกให้พวกเราหาทางผูกมัดนังแพศยานั่นให้ดี ทำให้นางเชื่อว่าพวกเราช่วยแก้ปัญหาได้เป็พอ พวกเรารับเงินมาก็เลิกคิดเื่อื่น คิดไปมีแต่จะทุกข์ใจ”
“เฮ้อ…แต่ว่าข้า…เสียดาย” สวี่ซื่อตบหน้าอกนางเบาๆ
หลินซย่าจื้อพูดว่า “เสียดายไปก็เท่านั้น ท่านจำคำของเทาจื่อให้ดี พวกเราต้องดีกับนังแพศยานั่น ต้องกล่อมนางให้อยู่หมัด”
สองแม่ลูกราวกับเป็โรคความจำเสื่อม ลืมเื่ที่ตัวเองหนีกลับมาจากอำเภอด้วยความอับอายไปหมดสิ้น
ยังกล้าคิดไปหาหลินหวั่นชิวอีก
ถ้าคนตระกูลเจียงกับหลินหวั่นชิวจัดการง่ายจริง ตอนนั้นพวกนางคงได้พักในอำเภอแล้ว
“ท่านแม่! ท่านทำตามที่ข้าบอกนะ หากนังนั่นไม่ยอมฟัง ท่านก็คุกเข่าให้นางต่อหน้าทุกคนไปเลย? ความกตัญญูยิ่งใหญ่เหนือฟ้า ข้าอยากเห็นนักว่าถ้าแม่แท้ๆ คุกเข่าให้ นางจะพูดกระไร? เหอะ ถ้านางกล้าไม่ฟังท่าน คนทั้งหมู่บ้านคงถมน้ำลายใส่จนจมน้ำตายเป็แน่!”
“ได้! แม่จะทำตามที่เ้าว่า” เพื่อเงินแล้ว ไม่ใช่แค่คุกเข่า ต่อให้ต้องแกล้งตายนางก็กล้าทำ
“โอ๊ะ หลินสวี่ซื่อ กระไรกัน พาลูกสาวคนโตไปหาลูกสาวคนเล็กหรือ? คราวนี้จะจับนางถ่วงน้ำหรือไถเงินเล่า?” ระหว่างทาง มีบุรุษเฒ่าหยอกล้อสองแม่ลูก
หลินซย่าจื้อไม่โกรธ นางหัวเราะ “ท่านลุงล้อเล่นเสียแล้ว เมื่อก่อนพวกข้าโดนน้ำมันหมูพอกใจ มองน้องเล็กผิดไป เข้าใจนางผิด แต่ตอนนี้เข้าใจแล้ว ข้ากับท่านแม่จะไปเยี่ยมพวกนางสองสามีภรรยา อย่างไรก็เป็ครอบครัวเดียวกัน กระดูกหักแต่ยังมีเส้นเอ็นเชื่อม!”
“ไอ๊หยา…เข้าใจแล้วหรือ!”
“เข้าใจก็ดีแล้ว อย่างไรก็เป็ครอบครัวเดียวกัน รักใคร่ปรองดองกันก็ดีแล้ว”
ชาวบ้านเข้ามาพูดคุยกับสองแม่ลูก สองแม่ลูกปั้นหน้ายิ้มจนหน้าตึง
รีบไปบ้านเจียงราวกับมีไฟลนขา เพียงครู่เดียวพวกนางก็หายไปจากสายตา
“ถุย…คนพรรค์นั้น!” มีคนถ่มน้ำลายไล่หลังพวกนางสองคน
หลายคนในหมู่บ้านอิจฉาเจียงหงหย่วนก็จริง
แต่ส่วนใหญ่กลัวเขามากกว่า
อีกทั้งตอนนี้เจียงหงหย่วนมีเงินแล้ว หลายวันมานี้หลายคนเริ่มคิดอยากผูกไมตรีกับตระกูลเจียง ดูอย่างบ้านหวางและบ้านจ้าวที่สนิทกับบ้านเจียงสิ ได้เงินจากบ้านเจียงไปไม่รู้เท่าไร
อิจฉาเสียจริง
หลินหวั่นชิวกำลังเดินดูห้องกับเจียงหงหย่วน ยังดูได้ไม่ถึงครั้งก็ได้ยินเสียงหลินซย่าจื้อกับสวี่ซื่อดังขึ้น
ตัวบ้านยังสร้างไม่เสร็จดี ประตูเปิดทิ้งไว้อยู่ สองคนแม่ลูกจึงวิ่งเข้ามาแบบไม่มีสิ่งใดขวาง
“ลูกชิว…เหตุใดเ้ากลับมาแล้วไม่บอกแม่สักคำ แม่คิดถึงเ้าแทบแย่” สวี่ซื่อวิ่งเข้ามาเสียงดัง จะจับมือหลินหวั่นชิวแต่ถูกเจียงหงหย่วนขวางแบบไม่ทันได้รู้ตัว
“น้องเล็ก ต้าเจี่ยมาขอโทษเ้า วันนั้นในอำเภอ ต้าเจี่ยเลอะเลือนเอง ทั้งหมดเป็เื่เข้าใจผิด เ้าอย่าได้ถือสาต้าเจี่ย เราต่างเป็ครอบครัวเดียวกัน ถึงกระดูกจะหักแต่ยังมีเอ็นเชื่อม ถึงเ้าจะแต่งเข้าบ้านเจียงไปแล้วก็ยังเป็ลูกสาวบ้านหลินอยู่ ต่อให้ร้องเรียนไปถึงท้องพระโรงก็ไม่มีผู้ใดโต้แย้ง เมื่อก่อนต้าเจี่ยไม่ดีเอง ต้าเจี่ยขอโทษ” หลินซย่าจื้อพูดแล้วทำท่าทีเช็ดน้ำตา “ต้าเจี่ยเองก็ลำบาก ครอบครัวเราไม่มีบุรุษ ข้าที่เป็ลูกสาวคนโตทำได้เพียงแต่งสามีเข้าบ้าน แต่ทำเช่นนั้นจะมีสามีดีได้อย่างไรกัน? ข้าโดนน้ำมันหมูพอกใจ หลงเชื่อคำยุยงของโจวเอ้อร์เหนิง ข้าทำเ้าลำบากแล้วน้องเล็ก”
“ใช่ ไม่ว่าอย่างไรแม่ก็อุ้มท้องเ้ามาสิบเดือน มอบชีวิตให้เ้า เลี้ยงั้แ่ยังเป็ก้อนเืจนเติบใหญ่ ถึงแม่จะเคยทำไม่ถูกเพียงใดแต่ก็ยังเป็แม่ของเ้า เมื่อก่อนแม่เลอะเลือน อีกทั้งยังถูกพี่เขยเ้าเป่าหูจนปฏิบัติต่อเ้าไม่ดี คิดว่าเ้า…ลูกชิว เ้าเป็ลูกสาวของแม่ เป็เนื้อที่ออกมาจากร่างของแม่ เมื่อก่อนที่ข้าตีเ้าด่าเ้าก็เพราะอยากให้เ้าได้ดี กลัวเ้าไม่รู้ความ เวลาตีเ้า แม่เองก็เจ็บเช่นกัน…ลูกชิว…เ้ายกโทษให้แม่ได้หรือไม่…”
สวี่ซื่อพูดจบก็จะคุกเข่าลงกับพื้น ตอนนี้รอบด้านมีคนมามุงดูเยอะจึงตัดสินใจลงมือ
หึ คุกเข่าให้ลูกสาวต่อหน้าคนเยอะเช่นนี้ ต่อให้หลินหวั่นชิวจะมีเหตุผลอย่างไรก็ถือว่าผิดอยู่ดี
ขอแค่ยอมตอบว่ายกโทษให้ ยินดีไปมาหาสู่กับครอบครัวแม่ ที่เหลือก็ง่ายแล้ว
สวี่ซื่อจินตนาการไว้สวยหรู แต่นางเพิ่งงอเข่า จู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บที่คอ จากนั้นล้มหมดสติลง
“ท่านป้าเป็กระไรไป? ไม่สบายหรือ? ไม่สบายก็รีบพากลับไปพักที่บ้านเสีย!” เจียงหงหย่วนถามคนรอบข้าง “ไม่ทราบว่าท่านป้าท่านใดพอจะช่วยพาป้าหลินไปส่งได้บ้าง?”
“ข้าว่าง ข้าไปส่งเอง!” ป้าสองจ้าววิ่งออกมา ผลักหลินซย่าจื้อที่ยังตอบสนองไม่ถูกให้พ้นทาง แบกสวี่ซื่อขึ้นหลังแล้ววิ่งออกไปประหนึ่งมีคนไล่ตาม
หลินหวั่นชิวต้องกลั้นขำ
“ต้าเจี่ย ท่านดูแลท่านแม่อย่างไร เหตุใดแค่ออกจากบ้านก็หมดสติได้? เหตุใดไม่รีบไปเชิญหมอให้ท่านแม่? มัวมาทำกระไรที่นี่? หรือจะบอกว่าต้าเจี่ยอกตัญญู...ไอ๊หยา ไม่รู้ว่าถ้าเื่นี้แพร่ออกไปจะกระทบต่อการเรียนของจินเป่าหรือไม่?”
ทันทีที่สิ้นเสียงหลินหวั่นชิว หลินซย่าจื้อร้องโหยหวนตามไป “ท่านแม่ ท่านแม่ของข้า ท่านเป็กระไรไป อย่าทำข้าใสิ…”
เหอะ!
ไม่รู้จักเข็ดหลาบ!
