“เขามาแล้ว”
เสิ่นเสวียนหรี่ตามอง พลางกล่าวกับหม่าเมี่ยน
“รีบกลับไป หากข้าไม่ได้เรียก ทางที่ดีคืออย่าปรากฏตัวออกมา”
“ขอรับท่านเซียน อย่างนั้นข้าน้อยขอตัวก่อน”
หม่าเมี่ยนโค้งกายคารวะ จากนั้นก็คว้ากระบี่ที่ปักอยู่บนพื้นไป
“เอาให้ข้าเถอะ ข้าจะทำให้เขาออกมาให้ได้โดยเร็วที่สุด”
“ขอบคุณผู้าุโ”
ซูเหยียนและาามารทิศเหนือคารวะหม่าเมี่ยนพร้อมกัน
เสิ่นเสวียนก้มหัวให้เจี้ยนเล็กน้อยเช่นกัน ครั้งนี้หากไม่ใช่เพราะความเสียสละของเจี้ยน พวกเขาคงไม่มีอนาคตกันแล้ว
“ท่านเซียน ข้าไปก่อนล่ะ”
หม่าเมี่ยนถือกระบี่ไว้ จากนั้นกลายเป็ควันสีดำแล้วจางหายไป
หลังจากหม่าเมี่ยนสลายหายไปแล้ว ที่นี่ก็กลับคืนสู่สภาพเดิม
บนท้องฟ้ายังคงมีร่างของผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงลอยอยู่ แต่ไม่มีลมหายใจแล้ว
และบนท้องฟ้าก็ยังคงมีแม่ทัพเทพสิบกว่าคนยืนอยู่ พวกเขาต่างมีสีหน้าเหม่อลอย ไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรดี
“เ้าฟื้นฟูพลังไปก่อน ข้าจะไปเก็บกวาดสักหน่อย”
เสิ่นเสวียนกล่าวกับาามารทิศเหนือและซูเหยียน จากนั้นก็เหาะขึ้นไปบนท้องฟ้าอยู่ในระดับเดียวกับผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวง
ที่ด้านล่าง สำนักจตุรเทพ สำนักต่อสู้เป่ยโต้ว สำนักนาคา และสำนักอื่นๆ ต่างมองเสิ่นเสวียนเหาะขึ้นไปเก็บกวาด้า โดยที่พวกเขาไม่กล้าเคลื่อนไหวเลย
ในใจของพวกเขายอมรับในตัวเสิ่นเสวียนไปแล้ว
เ้าหนุ่มนี่แข็งแกร่งมาก สามารถเรียกบุคคลที่สามารถสังหารผู้ศักดิ์สิทธิ์ออกมาได้ตามใจ
แบบนี้ไม่ได้มีอำนาจอยู่เื้ัเหมือนคนทั่วไป ไม่ว่าเขายืนอยู่ตรงไหน เขาจะมีอำนาจอยู่กับตัว
“คิดไม่ถึงเลยใช่ไหมว่าจะเป็แบบนี้ไปได้”
เสิ่นเสวียนมองร่างผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงที่แววตาเหม่อลอย ชุดคลุมสีม่วงของเขาซีดจางไปแล้ว ไม่ได้สดใสเหมือนแต่ก่อน
“ข้าสงสัยยิ่งนักว่าหลังจากนี้เ้าจะทำอย่างไร ยังกล้าออกมาแก้แค้นข้าอีกหรือเปล่า”
เสิ่นเสวียนมองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม
เขารู้ว่าหลังจากนี้จะทำให้อีกฝ่ายหวาดกลัว และไม่กล้ามาหาเื่เขาอีก
แต่ในขณะเดียวกัน ตอนนี้เขาก็ไม่กล้าเรียกหม่าเมี่ยนออกมาเช่นกัน พลังของหม่าเมี่ยนเหนือกว่าโลกนี้มาก เมื่อครู่ที่เรียกออกมาทำให้โดนเพ่งเล็ง หากเรียกออกมาอีกหลายครั้งอาจดึงดูดอีกฝ่ายเข้ามาได้จริงๆ และอาจจะเกิดความเดือดร้อนได้
อย่าคิดว่าผังเมืองซานเหอซ่อนอยู่ในส่วนลึกสุดของทะเลจิตสำนึกของเขาแล้วจะรอดพ้นได้ ด้วยความสามารถของอีกฝ่าย หาก้าเอาออกมาคงง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือ และถ้าอีกฝ่ายได้รับผังเมืองซานเหอไป เขาคงจะกลายเป็จุณในอีกไม่นาน
“เ้าไปเถอะ”
เสิ่นเสวียนสะบัดมือเล็กน้อย ร่างของผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงถูกส่งเข้าไปในมิติทันที อีกไม่นานจากนี้เขาต้องหลอมรวมร่างนี้ให้กลายเป็หุ่นเชิดที่แท้จริงให้ได้
หากว่าสร้างหุ่นเชิดนี้ได้สำเร็จ เขาจะมีหุ่นเชิดที่พลังถึงขั้นแยกเทวะระดับปลาย แม้ไม่กล้าบอกว่าจะไปได้ทุกที่ในโลกนี้ แต่ก็หลบหลีกอันตรายส่วนใหญ่ได้
แน่นอนว่าหาก้าสร้างหุ่นเชิดขึ้นมา ด้วยพลังของเขาในตอนนี้ยังคงเป็เื่ยาก
“แล้วพวกเ้าล่ะ”
หลังจากเก็บร่างนั้นเข้าไปแล้ว เสิ่นเสวียนจึงหันไปมองแม่ทัพเทพที่เหลืออยู่
ก่อนหน้านี้มีแม่ทัพเทพทั้งหมดสามสิบคน ขั้นจักรพรรดิสามคนตายไปแล้ว มีแม่ทัพเทพขั้นราชันระดับสูงสุดอยู่อีก หลังจากนั้นก็โดนอำนาจต่างๆ ในหุบเขาสุขาวดีสังหารไปอีกมากกว่าสิบคน โดนเจี้ยนทำลายไปอีกหลายคน ตอนนี้เหลือเพียงสิบสองคนเท่านั้น
แต่อย่าได้ดูถูกแม่ทัพเทพสิบสองคนนี้เด็ดขาด ระดับพลังของพวกเขาคือขั้นราชันระดับสูงสุด ไม่ว่าอยู่ที่ใดก็เป็พลังที่มิอาจดูถูกได้เลย
ความคิดของเขาคือ้าเก็บคนพวกนี้ไว้ใช้งานเอง
แต่หลังจากที่เสิ่นเสวียนแสดงปรากฏการณ์น่าประหลาดออกไปแล้ว
เขากล่าวกับแม่ทัพเทพสิบสองคนนี้ แต่อีกฝ่ายกลับไม่สนใจเขาเลย
สายตาเหม่อลอยยืนอยู่กลางอากาศ เหมือนจิติญญาหลุดออกจากร่างไปแล้ว
หลังจากเห็นดังนั้น เสิ่นเสวียนจึงเดินเข้าไปหาแม่ทัพเทพเ่าั้อย่างระมัดระวัง
ไม่ใช่เขาระมัดระวัง แต่ตอนนี้เขากำลังาเ็หนัก พลังยังไม่สมบูรณ์ หากอีกฝ่ายลงมือจริงๆ เขาคงรับมือได้ยากมาก
หลังจากเห็นแม่ทัพเทพเ่าั้ไม่ตอบสนอง เสิ่นเสวียนจึงเข้าไปใกล้อีก
กระทั่งเดินไปถึงด้านหน้าแม่ทัพเทพคนหนึ่ง เสิ่นเสวียนโบกมือตรงหน้าของอีกฝ่าย แต่ไม่มีการตอบสนองใดๆ เลย
เขาค่อยๆ ยื่นมือไปหยิบหอกเงินของอีกฝ่ายแล้วแย่งชิงมา ทว่าอีกฝ่ายร่างโอนเอนอยู่ด้านหน้าและยังไม่มีการตอบสนองเช่นเดิม
หลังจากนั้นเสิ่นเสวียนก็ชี้นิ้วไปตรงหน้าผากของอีกฝ่าย ส่งจิตสำนึกเข้าไป
ในหัวของแต่ละคนมีโครงสร้างละเอียดและซับซ้อนเป็อย่างมาก เส้นเืทุกเส้นเชื่อมต่อเข้ากับส่วนประสาทจนกลายเป็โครงสร้างหัวขึ้นมา
แต่หลังจากจิตสำนึกของเขาเข้าไปในนั้นแล้วกลับพบว่า ภายในหัวทุกส่วนหยุดการทำงานไปแล้ว
ไม่ใช่ว่าไม่มี แต่เป็เพราะพลังภายนอกเข้าแทรกแซงทำให้หยุดการทำงานไป
ร่างจิติญญาของเสิ่นเสวียนก่อตัวขึ้นภายในหัวอย่างเชื่องช้า เขามองทุกอย่างที่เกิดขึ้นพลางถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้
“เ้าช่างโเี้ยิ่งนัก ข้าจับคนตายแล้วมาสร้างเป็หุ่นเชิด แต่เ้ากลับเอาคนที่ยังมีชีวิตอยู่มาสร้างหุ่นเชิด รอให้พลังของข้าแข็งแกร่งมากพอ ข้าจะทำให้เ้าต้องเป็เหมือนที่เ้าทำ”
เสิ่นเสวียนโกรธแค้นมาก คนที่ตนเองสังหารไปก่อนหน้านี้ รวมถึงขั้นจักรพรรดิผู้นั้น ต่างเป็เพียงหุ่นเชิดของผู้ศักดิ์สิทธิ์จื่อกวงเท่านั้น
เขาเหาะไปถึงทะเลจิตสำนึก ทะเลจิตสำนึกของคนทั่วไปจะยิ่งใหญ่เหมือนมหาสมุทร แต่ที่นี่กลับแห้งเหือดราวกับเป็ทะเลทราย ไม่มีพลังชีวิตใดๆ เลย
ที่ด้านนอก เสิ่นเสวียนยังคงลอยอยู่กลางอากาศ นิ้วมือชี้อยู่ตรงหน้าผากของอีกฝ่ายด้วยท่าทางสงบนิ่ง
อำนาจต่างๆ เบื้องล่างยังคงยืนอยู่ที่เดิม กลัวว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น
เริ่นเสี้ยวเทียนและาามารตะวันตกรออยู่ด้านล่าง ป้องกันไว้เผื่อจะเกิดอะไรไม่คาดคิดขึ้นอีก
ทว่าในทะเลจิตสำนึก เสิ่นเสวียนมองหาไปหนึ่งรอบแต่สุดท้ายก็ไม่เจอร่างจิติญญาที่ถูกซ่อนไว้
ในส่วนลึกสุดของทะเลจิตสำนึก ด้านล่างมีกรงผนึกพลัง กักขังร่างจิติญญาเอาไว้
ร่างจิติญญานี้คือเ้าของแท้จริงของร่างนี้นั่นเอง
ร่างจิติญญาของเสิ่นเสวียนเหาะไปตรงหน้ากรงนั้นพลางมองดูร่างจิติญญา แล้วเขาก็พ่นพลังบางอย่างออกไปเพื่อปลุกอีกฝ่าย
“ตื่นได้แล้ว ถึงเวลาแล้ว”
เสียงของเสิ่นเสวียนดังเข้าไปถึงร่างจิติญญา ทำให้ร่างจิติญญากลุ่มนั้นเคลื่อนไหวและแปรเปลี่ยนเป็คนตัวเล็กๆ อย่างเชื่องช้า
รูปร่างหน้าตาของคนผู้นี้เหมือนกับแม่ทัพเทพไม่ผิดเพี้ยน
“เ้าเป็ใคร แล้วจอมมารนั่นล่ะ”
หลังจากตื่นขึ้น อีกฝ่ายพลันกล่าวถามเสิ่นเสวียนอย่างระแวดระวัง
“จอมมารนั่นโดนข้าสังหารไปแล้ว เ้าเป็อิสระแล้ว”
“สังหารแล้ว? จอมมารนั่นเป็ถึงขั้นศักดิ์สิทธิ์เลยนะ!”
เมื่อได้ยินคำของเสิ่นเสวียนทำให้เขาตื่นใมาก
“ข้าจะอธิบายอีกครั้งหลังจากช่วยเ้าออกไปแล้ว ถอยห่างไปหน่อย”
เสิ่นเสวียนกล่าวกับอีกฝ่ายแล้วบอกให้เขาถอยหลังไป
จากนั้นเสิ่นเสวียนสลายพลังของกรงไป ทำให้กรงทำลายตัวเอง
ร่างจิติญญานั้นจึงหลุดออกมาได้
“ฮ่าๆๆ! ฮ่าๆๆ ข้าออกมาแล้ว!”
คนผู้นั้นหัวเราะเสียงดัง เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่าจะได้ออกจากกรงนี้ จากนั้นร่างจิติญญาก็กระจายตัว เข้าไปอยู่ในตำแหน่งต่างๆ ของทะเลจิตสำนึก ควบคุมร่างกายตนเองไว้อย่างรวดเร็ว
เสิ่นเสวียนเห็นดังนั้นจึงดึงร่างจิติญญาของตนเองกลับมา
หลังจากออกมาแล้ว คนที่อยู่ด้านล่างก็เห็นว่าแม่ทัพเทพที่เหม่อลอยไปก่อนหน้านี้ค่อยๆ ขยับร่างกายกลับมาเป็ปกติ
“ขอบคุณผู้าุโที่ช่วยชีวิต”
หลังจากแม่ทัพเทพตื่นขึ้นก็รีบคุกเข่าลงคารวะเสิ่นเสวียนทันที หากไม่ใช่เพราะเสิ่นเสวียน เขาคงถูกขังอยู่ในนั้นไปตลอดชีวิต
“เ้าไปพักก่อน! ข้าจะไปปลดปล่อยพวกเขา”
เสิ่นเสวียนเหาะไปอยู่ตรงหน้าแม่ทัพเทพอีกคนหนึ่งและใช้วิธีเดียวกันเพื่อปลดปล่อยอีกฝ่าย
ผ่านไปไม่นาน แม่ทัพเทพทั้งสิบสองคนถูกคลายผนึกออก กลับมาเป็ปกติแล้ว
“ขอบคุณผู้าุโที่ช่วยชีวิต”
ทุกคนยืนเรียงหน้ากระดาน แล้วคุกเข่าลงคารวะเสิ่นเสวียนพร้อมกัน
“พวกเขาเป็อะไรไป”
ขณะนั้นเอง เริ่นเสี้ยวเทียนเหาะมาอยู่ตรงหน้าเสิ่นเสวียนแล้วกล่าวถามด้วยความสงสัย
“พวกเขาโดนตาแก่จื่อกวงควบคุม ทำให้กลายเป็หุ่นเชิด ตอนนี้ตาแก่นั่นไม่อยู่แล้วจึงไม่มีใครควบคุมพวกเขา ข้าช่วยพวกเขาคลายผนึกออกมา หลังจากนั้นก็เป็อย่างที่เห็น”
“เอาล่ะ ในเมื่อพวกเ้าเป็ปกติแล้ว แยกย้ายกันไปได้!”
เสิ่นเสวียนกล่าวกับคนเ่าั้พลางโบกมือให้พวกเขาออกไป