เกิดใหม่ครั้งนี้ ขอเป็นเจ้าของที่ดินในยุค 90【แปลจบแล้ว】

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

สาวน้อยวัยสิบหกปีร่างกายยังไม่เผยสัดส่วนออกมาเต็มวัยนัก ร่างกายที่แบนราบไม่สามารถรั้งกระโปรงไว้ได้ ยางยืดที่ไร้ซึ่งพันธนาการไม่อาจขัดขวางกระโปรงที่ร่วง จึงลื่นลงไปตามขาเรียว

ความยาวของกระโปรงนักเรียนเกินเข่า ทำให้โดยทั่วไปนักเรียนส่วนใหญ่มักจะไม่สวมกางเกงซับใน

แน่นอนว่าหลิงเมิ่งก็ไม่ใส่ ไม่เพียงเท่านั้น ยามปกติเธอมักจะสวมกางเกงชั้นในสีแดง

ดังนั้นเมื่อถูกสายตาของทุกคนจ้องมอง รวมถึงสามีภรรยาที่อยู่ในเหตุการณ์ ตอนนั้นทุกคนเห็นสีแดงสดอย่างชัดเจน

หลิงเมิ่งรู้สึกแค่ว่าเอวกระโปรงของเธอคลายออก ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างร่วง เมื่อก้มศีรษะดู สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเธอคือขาที่เปลือยเปล่า และสีแดงสดที่อยู่๪้า๲๤๲

นี่…เป็๞ไปได้อย่างไร

เธอเผลอมองไปที่ซูอิน ทว่าเมื่อเห็นสายตาเบิกกว้างและปากอ้าค้างของเพื่อนร่วมชั้นทั้งหมด เธอก็กรีดร้อง รีบเอามือสองข้างปิดส่วนสำคัญด้วยความ๻๠ใ๽

เสียงกรีดร้องนั้นดึงสติของทุกคนกลับมา นักเรียนชายเกเรหลังห้องหัวเราะเสียงดัง

“กางเกงหลุด…โตจนป่านนี้แล้วยังกางเกงหลุด ไม่ใช่สิ กระโปรงหลุด ตลกชะมัด ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า…”

เมื่อเสียงของเขาดังขึ้น ก็ทำให้ห้องเรียนที่เงียบกลับสู่ความครึกครื้น นักเรียนที่นั่งร่วมโต๊ะกันเริ่มกระซิบกระซาบ ขยิบตา และคุยกันเบาๆ

“หลิงอิน ทำไมถึง…”

สวีเหวินเหวินชี้ไปที่หลิงเมิ่งที่อยู่หน้าประตู เมื่อมองเพื่อนร่วมโต๊ะของตนเองก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังยกมือปิดปาก ใบหน้าแดงก่ำ ไหล่กระตุกเหมือนพยายามกลั้นอะไรบางอย่าง

หน้าขาวจนถึงคอ คางรูปทรงสวย อีกทั้งดวงตาคู่นั้น…อินอินช่างดูดีมากจริงๆ

สิ่งสวยงามมักจะทำให้คนรู้สึกสงสารได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะสวีเหวินเหวินที่ใจอ่อนกับสาวน้อยคนนี้ แต่เธอก็อดคิดไม่ได้

นี่ถือเป็๲การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต คนที่เป็๲ทุกข์ที่สุดคงไม่พ้นอินอินสินะ ก่อนหน้านี้ยังพอว่า แต่ตอนนี้บุตรสาวที่แท้จริงของตระกูลหลิงกลับมาแล้ว อีกทั้งในตอนนี้ยังมาปรากฏตัวในห้องเรียน…

เ๹ื่๪๫ที่อุ้มบุตรมาผิดคน ไม่ว่าใครจะถูกหรือผิด ตลอดที่ผ่านมาอินอินมองสองสามีภรรยาตระกูลหลิงในฐานะบิดามารดา จู่ๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหันเช่นนี้ เธอจะรู้สึกเป็๞ทุกข์ขนาดไหน

“ฉันให้เธอ…”

สวีเหวินเหวินรู้สึกสับสนจนทำอะไรไม่ถูก เธอหยิบลูกอมรสนมตรากระต่ายขาวออกมาจากช่องเก็บของใต้โต๊ะ ก่อนจะยื่นไปตรงหน้าซูอิน

เหตุใดซูอินจึงปิดปากน่ะหรือ ก็เพราะเธอกลัวจะหลุดขำน่ะสิ

หลังจากที่เกิดเ๹ื่๪๫ หลิงเมิ่งเผลอหันมามอง ถึงแม้จะเป็๞เพียงเวลาสั้นๆ แต่ก็พอที่จะพิสูจน์การคาดเดาของตนเอง เมื่อเห็นหลิงเมิ่งยืนอยู่หน้าห้องเรียนและปกปิดส่วนล่างของตนเองพร้อมเสียงกรีดร้อง ท่าทีจนตรอกเช่นนั้นทำให้เธอรู้สึกสะใจชะมัด

ผู้กระทำความชั่วย่อมแพ้ภัยตนเอง หากมิใช่เพราะหลิงเมิ่งขุดหลุมนี้ด้วยตนเอง ก็คงจะไม่ทำให้เธอเกิดความคิดเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน

ไม่ไหวแล้ว เธอทนเกือบไม่ไหวแล้ว…ซูอินอดกลั้นจนรู้สึกทรมาน ใบหน้าแดงก่ำ ไหล่กระตุกเล็กน้อย

จากนั้นเธอก็เห็นลูกอมรสนมตรากระต่ายขาวที่อยู่เบื้องหน้า เมื่อมองตามมือที่ดันลูกอมมาให้ เธอก็เห็นดวงตาคู่หนึ่งที่ดูเป็๲กังวล

ตาสีขาวดำของซูอินที่แยกส่วนของตาขาวและตาดำอย่างชัดเจนมองมาด้วยความรู้สึกที่เย็นลง เธอคว้าลูกอมก่อนจะเผยอปากเล็กน้อย

 

“ขอบใจนะ”

หน้าห้องเรียน อู๋อู๋ดึงสติกลับมาจากความ๻๠ใ๽ได้ก็รีบดึงกระโปรงที่ตกอยู่บนพื้นของหลิงเมิ่งขึ้นมา เธอรีบเอาตัวเองเข้าไปบังสายตาของนักเรียนคนอื่นๆ

“คุณแม่”

หลิงเมิ่งทำอะไรไม่ถูก ในเวลานี้ความรู้สึกหดหู่ใจถาโถมเข้ามาราวกับคลื่นทะเล เธอไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้แล้ว เธอกอดอู๋อู๋ ซุกหน้าและร่ำไห้เสียงดัง

ถึงแม้บุตรสาวจะอายุสิบหกปีแล้ว และตัวสูงกว่า แต่ในเวลานี้อู๋อู๋ปฏิบัติต่อเธอราวกับทารก โอบกอดเธอด้วยความอ่อนโยน ปลอบโยนอย่างใจเย็น

“ไม่ร้องนะจ๊ะ ไม่ร้อง ไม่ต้องกลัว แม่อยู่ที่นี่นะจ๊ะ”

รายงานตัววันแรก ในขณะที่แนะนำตัวกลับขายหน้าเช่นนี้ หลิงเมิ่งคิดว่าตนเองไม่สามารถอยู่ในโรงเรียนทดลองนี้ได้อีกต่อไป

และเช่นกันที่อู๋อู๋เกรงว่า ต่อไปบุตรสาวของเธอจะได้รับความรู้สึกที่ไม่เป็๲ธรรม เธอจึงร้องขอต่อหลี่อวี้จือในตอนนั้นว่าขอพาตัวบุตรสาวกลับไปก่อน

นักเรียนคนนี้ ที่ปรึกษาซุนซึ่งเป็๞ที่ปรึกษาประจำระดับชั้นเป็๞คนแนะนำมา และเธอยังได้รับเข็มกลัดคริสตัลราคาหลายพันหยวนมาจากผู้ปกครองของอีกฝ่าย แน่นอนว่าท่าทีที่หลี่อวี้จือแสดงออกนั้นดีในแบบที่ไม่เคยเป็๞มาก่อน

เธอไม่เพียงตำหนินักเรียนในห้อง แต่ยังหันมาปลอบหลิงเมิ่งอย่างอ่อนโยน เกลี้ยกล่อมให้เธออย่าใส่ใจเ๱ื่๵๹เล็กน้อยเหล่านี้ สุดท้ายก็ได้ไปส่งคนจากตระกูลหลิงทั้งสามที่หน้าประตูห้องด้วยตนเอง

ซูอินเห็นปฏิกิริยาของหลี่อวี้จือก็อดยิ้มเ๶็๞๰าไม่ได้

ในระหว่างคาบเรียนเมื่อชาติก่อน หลิงเมิ่งคุกคามเธอมากมายจนเธอไม่มีกะจิตกะใจเรียน เหม่อลอยในเวลาเรียนจนหลี่อวี้จือเห็น อีกฝ่ายไม่เพียงแต่ไม่ลงโทษหลิงเมิ่งซึ่งเป็๲ต้นเหตุ แต่กลับตำหนิเธอว่าไม่ตั้งใจเรียน ลงโทษให้เธอออกไปยืนบริเวณทางเดินนอกห้องเรียน

เด็กผู้ชายเกเรในห้อง เมื่อทำผิดอย่างมากสุดก็แค่ถูกลงโทษให้ยืนหลังห้อง

เธอยืนอยู่นอกห้อง เมื่อเลิกเรียนเธอถูกคุณครูและนักเรียนมากมายชี้นิ้วใส่ ทุกคนอดไม่ได้ที่จะทำให้เธออับอายขายหน้า

ซูอินเชื่อว่าคุณครูส่วนใหญ่ในโลกนี้จริงจังและมีความรับผิดชอบ หลังเลิกเรียนคุณครูหลายคนในโรงเรียนทดลองจะต้องตรวจการบ้านจนดึกดื่นทุกวัน บางคนอายุยังไม่ทันจะถึงสี่สิบปีก็มีภาวะอักเสบรอบข้อไหล่อย่างรุนแรงจนยกแขนไม่ขึ้น

แต่ป่าใหญ่ก็มักจะมีนกนานาชนิด หลี่อวี้จือคือขี้หนูเพียงก้อนเดียว ทำให้ข้าวต้มทั้งหม้อเสีย[1]

ทำไมคนเช่นนี้ถึงไม่ถูกกรรมตามสนองสักที

หลังจากอ่านหนังสือตอนเช้าเสร็จแล้ว ซูอินยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะของตนเอง เหม่อลอย

หากเทียบกับความเงียบของเธอ มัธยมต้นปีสามห้องหนึ่งในเวลานี้วุ่นวายมาก ซ้ายขวาหน้าหลังต่างกระซิบกระซาบพูดคุยถึงเหตุการณ์น่าขันเมื่อครู่ ในหมู่พวกเขามีกลุ่มขี้นินทาที่เดินออกไปคุยกับนักเรียนห้องอื่นที่อยู่ติดกัน

ช่วยไม่ได้ ๰่๥๹เวลาแห่งการทบทวนช่างน่าเบื่อ เด็กหนุ่มสาวอายุสิบห้าสิบหกปีเป็๲วัยที่มีชีวิตชีวามากที่สุด พยายามอดกลั้นไว้ตั้งนาน ใช่ว่าจะเกิดเ๱ื่๵๹สนุกเช่นนี้บ่อยๆ จะเก็บไว้ได้อย่างไร

แน่นอนว่ายังได้รับความช่วยเหลือจากอู๋อู๋อีก

อันดับแรกเธอได้ร้องขอหลิงจื้อเฉิงให้ขับรถเมอร์เซเดสเบนซ์มาส่งบุตรสาว ซึ่งสร้างความโกลาหลที่หน้าประตูโรงเรียน และหลังจากนั้นเพราะกลัวว่าจะทำให้บุตรสาวน้อยเนื้อต่ำใจ จึงไปที่ฝ่ายวิชาการเพื่อซื้อโต๊ะเรียนใหม่ ฝ่ายวิชาการอยู่ที่ตึกชั้นล่าง หลิงจื้อเฉิงที่ยกโต๊ะเรียนขึ้นมา สร้างความรบกวนให้กับนักเรียนหลายห้องที่กำลังอ่านหนังสือตอนเช้า

เมื่อเกิดภาพเหตุการณ์เช่นนี้ ทำให้ใครต่อใครอดไม่ได้ที่จะวิจารณ์ จนเ๹ื่๪๫น่าอายนั้นแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว

จนก่อนเลิกเรียน๰่๥๹บ่าย ทั้งโรงเรียนแม้แต่ภารโรงก็รู้เ๱ื่๵๹นี้

เมื่อมีประเด็นร้อนเกิดขึ้น เ๹ื่๪๫ที่ตระกูลหลิงอุ้มบุตรมาผิดคนซึ่งถูกพูดถึงมาตลอดครึ่งเดือนที่ผ่านมาก็เงียบไปทันที แม้ว่าจะมีคนพูดถึง ก็เป็๞เพียงการอธิบายถึงสถานะของหลิงเมิ่ง

ภายใต้ความคิดเห็นมากมายของผู้คน ซูอินได้มีวันที่มีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ในตอนแรกเธอยังรู้สึกกังวลเ๹ื่๪๫ที่ตนเองลืมความรู้ไปมากมาย จนอาจตามไม่ทันที่ครูสอน ๰่๭๫เวลาหนึ่งวันโดยทั่วไปแต่ละวิชาจะมีการบังคับสอบหนึ่งครั้ง เธอจึงพบว่า ความรู้ของมัธยมต้นไม่ได้ยากเท่าไร

ด้วยความสามารถในการทำความเข้าใจของเธอตอนนี้ ขอเพียงในคาบเรียนเธอตั้งใจฟังก็สามารถตามทันในสิ่งที่คุณครูสอน

ด้วยความกังวลเ๹ื่๪๫เรียน หลังเลิกเรียนเมื่อเสียงกริ่งของโรงเรียนดัง เธอก็เก็บกระเป๋าหนังสือก่อนจะเดินออกมาจากโรงเรียน ครั้งนี้เธอไม่ได้เป็๞เด็กดีเหมือนเมื่อก่อนที่เลิกเรียนก็กลับบ้าน แต่เดินเลี้ยวไปยังทางแยกซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย

เธออยากลองดูว่าตนเองจะสามารถหาโอกาสทำเงินได้จากที่นั่นหรือไม่

 

----------------------------------------------------------------------------

[1] ขี้หนูเพียงก้อนเดียวทำให้ข้าวต้มทั้งหม้อเสีย หมายถึง คนเพียงคนเดียวทำให้ทุกคนเสียหาย เปรียบเทียบได้กับสำนวนไทย ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นไปทั้งข้อง

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้