ผูกผ้าตาข่ายสีดำที่แขนซ้ายเช่นนี้ แสดงว่ามีผู้าุโเพศชายในครอบครัวเสียชีวิต?
ดังนั้นนี่ไม่ใช่เวลามาฟ้องเื่อื่น เซี่ยเสี่ยวหลานกลืนคำพูดลงไป ก่อนจะกล่าวแสดงความเสียใจกับจี้เจียงหยวน
ทว่าจี้เจียงหยวนกลับเป็ฝ่ายพูดขึ้นก่อน
“หนิงเสวี่ยบอกฉันแล้วล่ะ แม่ฉันมาหาเธอสินะ ขอโทษด้วย ที่ฉันทำให้เธอเดือดร้อน แม่ฉันนิสัยค่อนข้างแข็งกร้าวน่ะ”
แข็งกร้าวคือคำที่ผ่านการดัดแปลงให้ดูดี ความจริงคือนิสัยสุดโต่งต่างหาก
จี้เจียงหยวนพอเดาได้ว่าแม่ของตนนั้นพูดอะไรกับเซี่ยเสี่ยวหลาน
แม่ของเขาอาจยังไม่รู้ว่าเซี่ยเสี่ยวหลานรู้จักกับทังหงเอิน ทว่าคงเข้าใจผิด คิดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานเป็แฟนของเขาอะไรทำนองนั้น หากเขาคบผู้หญิงคนอื่นก็เท่ากับขัดความ้าของจี้หย่า แล้วความคิดของจี้หย่าก็จะสุดโต่งขึ้นมาทันที!
พอคิดถึงจุดนี้ จี้เจียงหยวนก็รู้สึกอายเหลือเกินที่ต้องยืนอยู่ตรงหน้าเซี่ยเสี่ยวหลาน
เขาเป็คนพูดคำว่า ‘มิตรภาพระหว่างเพื่อนนักศึกษา’ แต่ดูสิว่าเขานำพาเื่วุ่นวายอะไรมาให้กับเซี่ยเสี่ยวหลาน จี้เจียงหยวนรู้ถึงพลังทำลายล้างของแม่ตนเองดีกว่าใคร ตอนนี้ต่อให้เขาสาบานต่อ์ว่าไม่ได้คิดอะไรกับเซี่ยเสี่ยวหลาน จี้หย่าก็คงไม่เชื่ออย่างแน่นอน
ความคิดของจี้หย่ามาเป็แบบสูตรสำเร็จ และจะเชื่อแค่การวิเคราะห์ของตัตนเองเท่านั้น คำพูดของคนอื่นไม่มีทางเข้าหูเธอได้ จี้หย่าเป็คนยึดติด บ้าคลั่ง และลงรายละเอียดด้วยความคิดของตนเอง ตอนนี้จี้เจียงหยวนอยากตบหน้าตัวเองสักสองที อยู่ดีไม่ว่าดีดันไปหยิบช็อกโกแลตที่บ้านมาทำไม และทำไมต้องพูดเื่พ่อต่อหน้าแม่ด้วย!
หลังคุณตาจี้จากไปก็ตามมาด้วยพิธีไว้อาลัยกับพิธีฝังศพ เนื่องจากตระกูลหนิงและตระกูลจี้ผูกมิตรกันมาั้แ่รุ่นก่อน หนิงเสวี่ยย่อมมาร่วมพิธีเหล่านี้ด้วย ผู้าุโอย่างหนิงเยี่ยนฝานโศกเศร้ากับการสูญเสียเพื่อนเก่า ทำให้คนสุขภาพแข็งแรงดีอย่างเขาล้มป่วยไปอีกคน
หลังจบพิธีไว้อาลัย หนิงเสวี่ยจึงมีโอกาสคุยกับจี้เจียงหยวน
หนิงเสวี่ยลาหยุดเพียงสองวัน แต่จี้เจียงหยวนหายหน้าไปถึงหนึ่งสัปดาห์เต็มกว่าจะกลับมามหาวิทยาลัย เวลาแบบนี้พอยืนอยู่ตรงหน้าเซี่ยเสี่ยวหลานแล้ว เขารู้สึกไร้ความสามารถเหลือเกิน
เซี่ยเสี่ยวหลานแสดงความเสียใจกับเขา จี้เจียงหยวนยิ้มออกมาอย่างขมขื่น เซี่ยเสี่ยวหลานไม่รู้เลยว่าแม่ของเขาร้ายกาจแค่ไหน
“ถ้าแม่ฉันรู้ว่าเธอรู้จักกับทัง... ช่างเถอะ เื่นี้เธอไม่ต้องสนใจหรอก ฉันจะจัดการเอง เพียงแต่อีกหน่อยฉันคงต้องเว้นระยะห่างกับเธอแล้วล่ะ ให้อภัยฉันด้วยนะเพื่อนนักศึกษาเซี่ย”
หากจี้หย่ารู้ว่าเซี่ยเสี่ยวหลานรู้จักทังหงเอินด้วย เื่ที่ทังหงเอินมาหาจี้เจียงหยวนคงกลายเป็ความผิดของเซี่ยเสี่ยวหลานอย่างไม่ต้องสงสัย
ทังหงเอินเห็นการถ่ายทอดสดขบวนเฉลิมฉลองวันชาติที่เทียนอันเหมิน กล้องจับภาพแค่เสี้ยววินาที แต่เขารู้สึกเหมือนเห็นลูกชายของตนจึงเดินทางมาที่หัวชิงเผื่อโชคดีบังเอิญเจอกัน... เื่แบบนี้หากเล่าให้จี้หย่าฟัง เธอคงไม่มีทางเชื่ออย่างแน่นอน
จี้เจียงหยวนรู้สึกปวดหัวเหลือเกิน ตอนนี้คุณตาก็จากไปแล้ว บางทีหลังจบเทอมนี้เขาควรกลับอเมริกาเสียที จะได้ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นอีก!
เดิมทีเซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกโกรธมาก แต่พอเห็นจี้เจียงหยวนเป็เช่นนี้แล้วเธอยังจะสามารถพูดอะไรได้อีก
เว้นระยะห่างก็ช่างเถอะ เซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกว่าความคิดของจี้เจียงหยวนค่อนข้างเปิดกว้างยิ่งนัก เธอและจี้เจียงหยวนล้วนเป็เพื่อนที่ดีต่อกัน ทั้งยังเกี่ยวพันกันในเื่ของทังหงเอินอีกด้วย เพียงแต่เื่ที่เธอไม่ได้ชอบจี้เจียงหยวนแบบคนรักคงต้องบอกให้เขารู้ เซี่ยเสี่ยวหลานรู้ดีว่าพูดออกไปตอนนี้คงไม่ค่อยงามสักเท่าไร แต่เธอคือฝ่ายถูกงูพิษฉกเข้าโดยไม่ทันตั้งตัว เทียบกับการปล่อยให้เกิดเื่แล้วจี้เจียงหยวนมาขอโทษภายหลัง สู้พูดในแง่ร้ายไว้ก่อนจะดีกว่า
“ฉันเป็คนไม่ชอบถูกเอาเปรียบ ดังนั้นถ้ามีคนสร้างความเดือดร้อนให้ฉัน ฉันคงไม่ทนอยู่เฉยๆ แน่”
ตอนนั้นจูฟ่างก็นึกว่าคนสามารถจัดการติงอ้ายเจินได้อยู่หมัดมิใช่หรือ
สุดท้ายใครกันที่เป็ฝ่ายจัดการติงอ้ายเจินได้ เป็ฝีมือของคังเหว่ยกับเส้ากวงหรงทั้งสิ้น และก็เป็เซี่ยเสี่ยวหลานที่กลั่นแกล้งติงอ้ายเจินจนสามารถจับจุดอ่อนได้ เป็เหตุให้ผู้อำนวยติงต้องพ่ายแพ้ไปในที่สุด
ใช่ ครอบครัวเธออยู่ที่ชนบทของอวี้หนาน ไม่มีอำนาจอะไร แต่คนที่มีชาติกำเนิดเช่นนี้สมควรยอมให้คนอื่นรังแกตามใจชอบอย่างนั้นหรือ?
แน่นอนว่าเซี่ยเสี่ยวหลานไม่มีทางปล่อยให้ตนเองถูกรังแก
ใครคิดว่าสามารถเหยียบเธอได้ ขอแค่ไม่ทำให้เธอตาย คนๆ นั้นต้องเตรียมใจถูกเธอแว้งกัดได้เลย
เซี่ยเสี่ยวหลานเป็คนเข้มแข็ง จี้เจียงหยวนไม่เคยรับรู้ได้อย่างชัดเจนเช่นนี้มาก่อน
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่เชื่อคำรับประกันของเขา และถามว่า “เธอคิดว่าแม่ของเธอจะจัดการฉันอย่างไรหรือ ฉันได้ยินหนิงเสวี่ยบอกว่า ตระกูลของเธอมีอำนาจในแวดวงการศึกษาอยู่บ้างใช่หรือไม่ เช่นนั้นแม่ของเธอจะ... จี้เจียงหยวน ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยว่า ฉันสอบเข้ามหาวิทยาลัยหัวชิงด้วยความสามารถของตัวเอง ดังนั้นฉันไม่อนุญาตให้ใครมาขัดขวางการเรียนของฉันอย่างแน่นอน”
อุปสรรคด้านการเรียนจะเกิดขึ้นได้เพราะความยากของระดับความรู้เท่านั้น ถ้าเซี่ยเสี่ยวหลานเรียนสาขานี้ไม่ไหวนั่นก็เป็ก็เพราะเธอโง่เอง หรือไม่ก็ยังพยายามไม่มากพอ
หากอุปสรรคด้านการเรียนเกิดขึ้นด้วยสองเหตุผลนี้เธอย่อมรับได้ และจะย้อนกลับมาพิจารณาตนเองด้วย
แต่ถ้ามีคนจงใจสร้างอุปสรรคมาขวางกั้นเธอ ทำให้การเรียนของเธอต้องเจอกับขวากหนาม เซี่ยเสี่ยวหลานไม่มีทางออมมือแน่นอน
หลักการนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับแม่ของจี้เจียงหยวนเท่านั้น ต่อให้เป็แม่ของโจวเฉิงก็ไม่มีสิทธิทำเื่พวกนี้ ผู้ที่คิดจะทำลายอนาคตคนอื่นย่อมสมควรได้รับผลกรรม เื่นี้เซี่ยฉางเจิงคือผู้ที่รู้ซึ้งที่สุด!
หากแม่ของจี้เจียงหยวนลงมือจริงล่ะก็ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่คิดที่จะไว้หน้าใครทั้งนั้น อย่าว่าแต่จี้เจียงหยวน ต่อให้ทังหงเอินออกปากขอร้องก็ไร้ประโยชน์
ปัญหาด้านจุดยืนเช่นนี้ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่มีทางยอมถอยให้
จี้เจียงหยวนอ้าปากค้าง เขาอยากบอกว่าแม่ของตนคงไม่ทำแบบนั้น แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
ไม่มีใครสามารถให้การรับรองแทนคนอื่นได้ จี้เจียงหยวนรับประกันได้เพียงการกระทำของคนเองเท่านั้น ส่วนจี้หย่าจะทำสิ่งใด นอกจากตัวจี้หย่าแล้วไม่มีใครมั่นใจได้!
คิดถึงชื่อเสียงของคุณตาจี้?
จี้หย่าไม่เคยคิดถึงคนอื่นอยู่แล้ว
ตอนคุณตาจี้ยังมีชีวิตอยู่ น้อยครั้งที่จี้หย่าจะสนใจความคิดและความรู้สึกของชายชราผู้เป็บิดา
ไม่มีเหตุผลที่แค่เพราะคุณตาจี้ตายจากไป จี้หย่าถึงจะหายจากการยึดติดและความเห็นแก่ตัวของตนเอง แล้วเปลี่ยนมาเป็คนที่มีเหตุผลภายในชั่วข้ามคืน
เื่แบบนั้นอาจจะเกิดขึ้นกับคนอื่นได้ แต่จี้เจียงหยวนไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นกับแม่ของเขา
“...ฉันจะรีบกลับอเมริกาโดยเร็วที่สุด”
—--------------------------------------------
ณ เผิงเฉิง ทังหงเอินวางหูโทรศัพท์
พิธีฝังศพของอดีตพ่อตาเสร็จสิ้นแล้ว เขาถึงจะรู้ข่าวน่าเศร้าของอีกฝ่าย
คนตระกูลจี้ย่อมไม่อยากเห็นเขาโผล่ไปที่งานศพ ทังหงเอินรู้สึกเย้ยหยันตัวเอง มีคนเห็นว่าที่งานศพ ข้างกายจี้หย่ามีชายชาวต่างชาติยืนอยู่ด้วย ชายผู้นั้นได้ไปร่วมพิธีศพของผู้เฒ่าจี้ แสดงว่าคงตัดสินใจเกี่ยวดองกับจี้หย่าเป็ที่เรียบร้อยแล้ว จี้หย่าจะแต่งงานหรือไม่ ทังหงเอินไม่สนใจแต่อย่างใด เขาเองก็หวังว่าจะมีคนคอยอยู่ข้างกายจี้หย่า และช่วยสะกดความคลุ้มคลั่งของเธอ
หากตระกูลจี้อนุญาตให้เขาติดต่อกับเจียงหยวนก็คงจะดี
แต่ถ้าไม่อนุญาต เขาคงทำได้แค่แอบติดต่อลูกชายอย่างลับๆ การชดเชยความรู้สึกผิดนั้นสำคัญมาก หลังรู้ว่าจี้เจียงหยวนมีชีวิตที่ดี ทังหงเอินก็รู้สึกปลาบปลื้มใจเหลือเกิน
“หัวหน้า ตู้เ้าฮุ่ยมาอีกแล้วครับ”
เลขาเผิงเคาะประตูห้อง
ตู้เ้าฮุยมาเผิงเฉิงพร้อมเงินทุนก้อนโต
นอกจากทังหงเอินที่มีอาการลังเล ใครบ้างจะไม่ยินดีต้อนรับนักลงทุนประเภทนี้ เผิงเฉิงอยู่ระหว่างการปฏิรูปเศรษฐกิจ ้าเงินทุนจำนวนมหาศาลจากคนต่างถิ่น ทำไมเงินทุนต่างถิ่นถึงไหลเข้ามาล่ะ นั่นก็เป็เพราะนโยบายที่เอื้อประโยชน์แก่ภาคธุรกิจของเขตเศรษฐกิจอย่างไรเล่า
ไม่ว่าเครือเชิงหรงจะทำธุรกิจอะไรในที่ลับตา แต่เงินดอลลาร์ฮ่องกงที่ตู้เ้าฮุยพกมาด้วยล้วนเป็ของจริง
ทังหงเอินเองก็ไม่อาจปฏิเสธมันได้
หากปฏิเสธการลงทุนแล้วจะทำการปฏิรูปเศรษฐกิจได้อย่างไร หลิวเทียนเฉวียนทำกิจการห้องเต้นรำ ทั้งยังไม่ได้เปิดให้บริการภายใต้ชื่อของเครือเชิงหรง แต่ตู้เ้าฮุยคนนี้มาที่เผิงเฉิงภายใต้ชื่อของเครือเชิงหรง และเงินทุนที่ตู้เ้าฮุยพกมาด้วยนั้นยังไม่ถูกใช้ออกไป ดังนั้นประวัติของเครือเชิงหรงที่เผิงเฉิงยังคงขาวสะอาด
“เชิญคุณตู้เข้ามา”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้