ภายในกระโจมใหญ่
เกาเซียนจือ องค์รัชทายาทซ่งและผู้ติดตามที่ซื่อสัตย์กลุ่มหนึ่ง ปักหลักอยู่ในหุบเขาอันเงียบสงบ
เกาเซียนจือจ้องกองรายงานความพ่ายแพ้ของกองทัพ ด้วยสีหน้าที่ดูไม่ได้
หลังจากปักหลักที่นี่มาหลายวัน พระพักตร์องค์รัชทายาทก็ซีดเซียวซูบตอบลงมาก
"รายงาน!"
องครักษ์ผู้หนึ่งพุ่งเข้ามาในกระโจม
"พบหรือไม่?" องค์รัชทายาทซ่งถาม ด้วยท่าทางกังวล
สีหน้าขององครักษ์ไม่สู้ดี พลางพยักหน้า "องค์รัชทายาท โปรดระงับความเศร้าโศก!"
ขณะที่พูด ทหารองครักษ์หลายคนที่แบกศพไว้บนบ่า ก็เข้ามาในกระโจม...
... เป็ศพของซ่งเจิ้นซี!
ทั่วร่างถูกแทงหลายสิบครั้งจนเืโชก บัดนี้โลหิตได้แห้งกรังไปแล้ว แลดูสยดสยองยิ่ง
"ลูกข้า!" พลัน องค์รัชทายาทก็เดินเข้าไปหาด้วยความอาดูร
เกาเซียนขือหยุดอ่านรายงานในมือ แล้วมองกลุ่มองครักษ์ที่พึ่งมาถึง "พบที่ใด?"
“ข้างศพหลินชงขอรับ! ในตอนที่ค่ายกำลังระส่ำระสาย และกองทัพเฉินฉวยโอกาสบุกนั้น พวกเรากับพระราชนัดดาถูกแยกออกจากกัน ผู้คุ้มกันสิบคน ซึ่งมีทำหน้าที่ปกป้องพระราชนัดดา ล้วนตายทั้งหมด ดูจากาแ พบว่าพระราชนัดดาถูกสังหารด้วยอาวุธของหลินชงขอรับ!" องครักษ์กล่าวอย่างเคร่งขรึม
“หลินชง!” องค์รัชทายาทคำรามด้วยสีหน้าดุดัน
เกาเซียนจือถอนหายใจ ั์ตามีแววเ็ปและหมองหม่นพาดผ่าน
"องค์รัชทายาท กระหม่อมลงมือเร็วมากแล้ว แต่กู่ไห่นั้นเร็วยิ่งกว่า ไม่ให้เวลาเรา แม้แต่จะกินอาหาร หึๆ กู่ไห่ ข้าดูถูกเ้าเกินไปจริงๆ!" เกาเซียนจือกล่าวด้วยความปวดร้าว
"กู่ไห่? ข้าจะสับมันเป็ชิ้นๆ!" องค์รัชทายาทะโด้วยสีหน้าอาฆาต
"ข้าเข้าใจแล้ว!" สีหน้าเกาเซียนจือเปลี่ยนกะทันหัน
“หือ?” ทุกคนในกระโจมหันไปมองเขา
"ผู้ที่อยู่ด่านหู่เหลานั้น ไม่ใช่กู่ไห่ เขาไม่ใช่กู่ไห่ตัวจริง!" เขาพูด ใบหน้าเผือดสี
"อะไรนะ?" ทุกคนเอ่ยถามอย่างใ
"ข้าควรจะคิดออกได้เร็วกว่านี้ ตอนที่โจมตีครั้งแรกนั่น ข้าควรคิดให้ถี่ถ้วน อา... นั่นไม่ใช่กู่ไห่ เขาไม่ได้อยู่ที่นี่จริงๆ!" เกาเซียนจือกล่าวด้วยสีหน้าเสียใจ
"ท่านแม่ทัพ เหตุใดถึงบอกว่าเขาไม่ใช่กู่ไห่ขอรับ?" ทุกคนจ้องไปยังเกาเซียนจืออย่างงงงัน
ดวงตาเกาเซียนจือมีแต่ความมืดมน ขณะเอ่ย "กู่ไห่อยู่ที่ซ่งเฉิง มีเพียงอยู่ในเมืองซ่งเฉิง ถึงจะสามารถควบคุมทุกสิ่งอย่างละเอียดลออได้เช่นนี้
ทั้งเื่ข่าวร้ายของครอบครัวหลินชงที่ถูกส่งมาที่นี่ หรือแม้กระทั่งเื่ที่พระราชราชนัดดาได้รับการช่วยเหลือ ให้รอดพ้นจากการถูกปะา
เขาต้องอยู่ในเมืองซ่งเฉิงแน่นอน ขอเพียงมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย ทุกอย่างจะล้มเหลว แต่กู่ไห่ทำมันได้
แม้จะใช้ช่องทางสื่อสารที่เร็วที่สุด ก็ไม่อาจจัดการทุกอย่างได้ละเอียดถึงเพียงนี้ ด้วยเหตุนี้จึงมีความเป็ไปได้เพียงหนึ่งเดียว คือกู่ไห่อยู่ในเมืองหลวงซ่งเฉิงของเรา ั้แ่แรกแล้ว!”
"เป็ไปได้อย่างไร?"
ทัพใหญ่บุกประชิดพรมแดน ยามวิกฤตเช่นนี้ อีกฝ่ายไม่เพียงวางกลยุทธ์ได้อย่างแยบคาย ทว่า ก่อนที่จะเริ่มการต่อสู้ครั้งสุดท้าย แม่ทัพท่านนี้ยังไม่ได้อยู่ในค่ายทหารด้วยซ้ำ แต่กลับวิ่งไปสร้างความปั่นป่วนอยู่ที่เมืองหลวงของศัตรู!?
"ท่านแม่ทัพ ที่เ้ากล่าวมานั่น เป็ความจริงหรือ?" องค์รัชทายาทถาม สีหน้าเปลี่ยนไป
"พ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาท พระองค์ต้องระงับความโศกเศร้าเอาไว้ก่อน นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาเศร้าเสียใจ
กู่ไห่อาจจะจากไปแล้ว หรืออาจจะยังอยู่ในเมืองหลวงซ่งเฉิงก็ได้ กระหม่อมรู้สึกว่ากู่ไห่คงไม่รามือเพียงแค่นี้แน่ นี่เป็เพียงการเริ่มต้น!" เกาเซียนจือกล่าวด้วยสีหน้ายับยุ่ง
"พึ่งเริ่มต้นหรือ? หมายความว่าอย่างไรกัน?" องค์รัชทายาท จ้องเกาเซียนจือด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
“เงื่อนไขในสัญญาของกู่ไห่กับสำนักยุทธ์ ไม่ใช่การเอาชนะทหารแปดแสนคน แต่เป็การทำลายแคว้นซ่ง ดังนั้นกู่ไห่ย่อมไม่หยุดเพียงเท่านี้ ต่อไป จะต้องมีเื่ราวอีกมากตามมาแน่!” เกาเซียนจือบอกอย่างหนักใจ
"ยีงมีเื่ราวอีกมากตามมา?" ทุกคนในกระโจมสูดหายใจด้วยความเหน็บหนาว
กองทัพแปดแสนคนของพวกเขา ยังไม่ได้เจอกู่ไห่ ก็พังทลายย่อยยับแล้ว กู่ไห่ยังไม่ได้แสดงความสามารถทั้งหมดออกมาเช่นนั้นหรือ? แล้วต่อจากนี้...
เมื่อนึกถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ผู้คนก็หวาดกลัวจนตัวสั่นดั่งลูกนก
"ท่านแม่ทัพ เช่นนั้นตอนนี้เราจะทำอะไรกันต่อ?" มีคนถามอย่างเคร่งเครียด
ดวงตาเกาเซียนจือวูบไหว พลางกล่าว "โชคยังดีที่ข้าได้สังหารทหารเฉินไปหกแสนคนในตอนแรก ไม่เช่นนั้น เวลานี้กองทัพเฉินคงจะมุ่งตรงไปบุกแคว้นซ่งแล้ว และแคว้นของเราคงจะถึงกาลวิบัติ
ตอนนี้ แคว้นเฉินอ่อนแอไร้กำลัง แคว้นซ่งของเราก็เสียหายหนักเช่นกัน อีกทั้งเรายังเสียขวัญกำลังใจทหารไปแล้ว คาดว่าทหารแปดแสนคน อาจกู้คืนกลับมาได้เพียงสามแสนคน แต่ไม่เป็ไร เราค่อยๆ รวบรวมขึ้นมาใหม่อย่างช้าๆ ก็ได้!”
"ใช่! แคว้นเฉินเสียหายหนักมาก เหลือทหารอยู่ไม่เท่าไร ท่านแม่ทัพ ท่านอยู่ที่ชายแดนนี่ และเกณฑ์ทหารใหม่เข้ามา ข้าจะรีบกลับไปรายงานเสด็จพ่อ ขอให้เมืองต่างๆ ช่วยรวบรวมกำลังพลโดยเร็วที่สุด เพื่อส่งต่อให้ท่านนำไปใช้งาน นอกจากนี้เราควรเรียกทหารที่แตกฉานซ่านเซ็น กลับมาอีกครั้ง” องค์รัชทายาทซ่งกล่าวทันที
เกาเซียนจือพยักหน้า พร้อมยิ้มขื่น "เช่นนั้นก็เอาตามนี้ แต่กระหม่อมเกรงว่ามันจะสายเกินไป"
“จะสายเกินไปได้อย่างไร? ทหารหกแสนคนของกองทัพเฉิน ถูกเ้าสังหารไปแล้ว กู่ไห่จะสามารถรวบรวมกำลังพลหกแสนคน กลับมาได้หรือไร?” องค์รัชทายาทถามอย่างคลางแคลงใจ
เกาเซียนจือยิ้มขมขื่น ขณะพยักหน้า "คนอื่นกระหม่อมไม่ทราบ แต่หากให้เวลากู่ไห่ เขาสามารถทำได้แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!"
องค์รัชทายาทซ่งอึ้งงัน
"ท่านแม่ทัพ ท่านกลัวกู่ไห่ถึงเพียงนี้เชียวหรือ?" องค์รัชทายาทซ่งถามด้วยความไม่พอใจ
"กระหม่อมไม่ได้กลัวเขา เพียงแค่คาดการณ์เท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ การรวบรวมทหารซึ่งหมดกำลังใจไปแล้ว ให้กลับมาร่วมทัพอีกครั้ง เป็เื่ง่ายดายเช่นนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?
นี่เป็การเรียกความเชื่อใจของคนให้กลับคืนมา และจิตใจมนุษย์นั้น ยากกะเกณฑ์ที่สุด อย่างไรก็ตาม กระหม่อมจะทุ่มเทสุดกำลัง และจะอยู่ที่ชายแดนแห่งนี้ต่อ เพื่อจัดขบวนทัพขึ้นใหม่ ป้องกันการรุกรานของกองทัพเฉิน
ขอฝ่าาเร่งเสด็จกลับเมืองหลวงโดยเร็ว เตือนฮ่องเต้และขุนนางทุกคน อย่าได้หย่อนยาน และให้เผยแพร่ความเสียหายที่เกิดจากกู่ไห่ ไปทั่วแคว้นซ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้เขาใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ได้อีก ขณะเดียวกัน ก็ขอให้อภัยโทษทหารที่หนีทัพด้วย" เกาเซียนจือพูดเสียงเคร่ง
“ข้าจะเร่งกลับไปที่เมืองซ่งเฉิงทันที!” องค์รัชทายาทกล่าว พร้อมกัดฟันแน่น
...
หลังจากนั้นไม่กี่วัน
ภายในท้องพระโรงแคว้นซ่ง
ฮ่องเต้ซ่งประทับบนบัลลังก์ั โดยมีองค์รัชทายาทยืนอยู่เบื้องล่าง ขณะที่เหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ ยืนตั้งแถวอยู่สองฟากฝั่งบัลลังก์อย่างสงบเสงี่ยม บัดนี้ ทั่วท้องพระโรงตกอยู่ในความเงียบ กำลังนิ่งฟังองค์รัชทายาทอธิบายเื่ราวทุกอย่าง
ไม่นาน ทุกคนก็พากันกลั้นหายใจ ดวงตาฉายแววประหลาดใจและกังขา
"ทหารแปดแสนคนแตกพ่ายยับเยิน? เกาเซียนจือควรรับผิดชอบต่อเื่นี้!" ขุนนางาุโทางด้านซ้ายเอ่ยขึ้น
ทุกคนจึงหันไปมองเขา คนผู้นี้มีผิวซีดจาง และดูเหมือนว่าจะาุโกว่าฮ่องเต้ที่ประทับอยู่บนบัลลังก์ั ซึ่งมีพระชนมพรรษาแปดสิบสองพรรษาเล็กน้อย
"ราชครูผาง เกาเซียนจือทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้แล้ว แต่กู่ไห่ร้ายกาจเกินไป เราไม่อาจต่อกรได้เลยแม้แต่น้อย!" องค์รัชทายาทกล่าวอย่างตรอมตรม
ราชครูผางไม่ได้โกรธ แต่พูดพร้อมนิ่วหน้า “กองทัพใหญ่ถูกส่งมอบให้เขา เขาย่อมต้องรับผิดชอบ โดยไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ แม้กระหม่อมจะรู้ดี ว่าเขาทำทุกอย่างสุดกำลังแล้ว แต่กลับตามกู่ไห่ไม่ทัน ทำให้พระราชนัดดาถูกช่วยเหลือไป ไม่เช่นนั้นเราคงไม่เสียหายเช่นนี้"
“เสด็จพ่อ ราชครูผาง และขุนนางทุกท่าน ตอนที่ข้ากลับมา ก็ได้สั่งให้จับกุมตัวหัวหน้าผู้พิพากษาในวันนั้น รวมทั้งตรวจสอบต้นสายปลายเหตุทั้งหมดแล้ว แต่ก็ยากที่จะป้องกันได้
ผู้ใดก็คงคิดไม่ถึง ว่าจะมีคนยืมชื่อผู้อื่นเพื่อข่มขู่ผู้พิพากษา ทั้งนี่ก็หาใช่เวลาที่จะซัดทอดหาคนผิดไม่ เกาเซียนจือยังอยู่ที่ชายแดน เพื่อรวบรวมกองทัพขึ้นมาใหม่ เขาขอให้ข้ากลับมา จัดการเื่ภายในให้เรียบร้อย ป้องกันไม่ให้กู่ไห่หาประโยชน์จากช่องโหว่ใดๆ ได้อีก" องค์รัชทายาทกล่าวอย่างสุขุม
"เกาเซียนจือว่าอย่างไรบ้าง?" ฮ่องเต้ซึ่งประทับบนบัลลังก์ัตรัสถาม
เหล่าขุนนางทั้งหมด มององค์รัชทายาทซ่งพร้อมกัน
"เขาขอให้อภัยโทษแก่ทหารที่หนีทัพ และรวบรวมกำลังพลอีกครั้งโดยเร็วที่สุด!" องค์รัชทายาทตรัสด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“อนุญาต!” ฮ่องเต้ตอบรับ
"ค้นหาทั้งเมือง ทุกซอกทุกมุม รวมไปถึงที่ประทับของข้าด้วย หวังว่าเราจะเจอที่อยู่ของกู่ไห่ นอกจากนี้ต้องพยายามหาสถานที่ที่กู่ไห่กักขังสมาชิกครอบครัวของเหล่าทหารไว้
และควรมีพระราชโองการ เปิดเผยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากกู่ไห่ให้กับคนทั้งแผ่นดินทราบ สร้างขวัญกำลังใจแก่เหล่าทหาร ให้ขุนนางท้องที่และประชาชนระมัดระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดช่องโหว่ ให้กู่ไห่เล่นตุกติกได้อีก" องค์รัชทายาทกล่าวอย่างเยือกเย็น
"อนุญาต!" ฮ่องเต่ซ่งเห็นด้วย
"เสด็จพ่อ และขุนนางทุกท่านโปรดวางใจ ประชาชนแคว้นซ่งเราเป็น้ำหนึ่งใจเดียวกัน ขอเพียงเตรียมพร้อมล่วงหน้า ทุกคนจะสามารถรับมือกับแผนร้ายของกู่ไห่ได้แน่นอน ทำให้เขาไม่อาจสร้างความวุ่นวายให้กับแคว้นเราได้อีกต่อไป
กองทัพเฉินสิ้นไร้ซึ่งพลัง เกาเซียนจือต้องรวบรวมกองทัพใหม่ และเดินทัพบุกทำลายแคว้นเฉิน ให้พินาศได้ในเร็ววัน!" องค์รัชทายาทเอ่ยอย่างขึงขัง
...
ภายในเหลาสุราหนึ่ง ณ เมืองหลวงซ่งเฉิง
กู่ไห่และกู่ฮั่นนั่งอยู่ริมหน้าต่าง กำลังดื่มสุรา พลางมองดูชาวบ้านนับไม่ถ้วนที่ด้านนอก ซึ่งกำลังรุมล้อมอ่านพระราชโองการด้วยความขุ่นเคือง ขณะเดียวกัน ผู้คนในเหลาสุราก็พูดคุยสนทนาด้วยหัวข้อเดียวกัน
“ได้ยินหรือยัง? ทหารแปดแสนคนถูกตาแก่กู่ไห่ผู้นั้น ทำลายจนสิ้น!”
"แน่นอน ข้ายังเคยคิดว่าเกาเซียนจือนั้น เก่งกาจเหนือผู้ใด คิดไม่ถึง ว่าเขาจะถูกชายชราคนหนึ่งเล่นงาน!"
"พวกเ้าอย่าเชื่อเื่ไร้สาระที่พวกเขาพูด หลานชายคนหนึ่งของข้า เป็ผู้ใต้บังคับบัญชาของเกาเซียนจือ สิ่งที่เขาประสบมานั้น แปลกยิ่ง!"
“เอ๋! บอกมาๆ เกิดสิ่งใดขึ้น?”
"เ้าเคยได้ยิน ว่ามีผู้ใดสั่งกองทัพของศัตรูในสนามรบหรือไม่?"
"อะไรนะ? เ้าล้อเล่นใช่หรือไม่? จะมีคนสั่งกองทัพของศัตรูได้อย่างไรกัน? นี่เ้ากำลังแต่งนิทานหรืออย่างไร?"
"เฮอะ! เ้าต้องไม่เชื่อแน่ เื่นี้มันมหัศจรรย์พันลึกยิ่งกว่านิทานเื่ใดๆ เสียอีก พวกเ้าอาจไม่รู้ แต่ทหารแปดแสนคนนั้นราวกับถูกอาคมของกู่ไห่ควบคุมเหมือนหุ่นกระบอก ที่ถูกชักเชิดโดยกู่ไห่ ไม่ว่า้าให้ทำสิ่งใด พวกเขาก็จะทำตาม ถ้ากู่ไห่้าให้พวกเขาโจมตีค่าย พวกเขาก็จะโจมตีค่าย!"
"เ้าล้อเล่นใช่หรือไม่?"
"เหตุใดข้าต้องหลอกด้วยเล่า? หลานชายของข้าเห็นมากับตาเขาเอง ตอนแรกเป็เพียงกลุ่มเล็กๆ แต่ต่อมายิ่งนานวัน จำนวนคนยิ่งเพิ่มขึ้น
เขาชักจูงกองทัพซ่งทั้งหมด บังคับให้เกาเซียนจือกลับมาสังหารองค์รัชทายาท จากนั้นทหารแปดแสนคนก็ก่อจลาจล ทำให้ค่ายลุกเป็ไฟ ช่างน่ากลัวนัก!"
ในเหลาสุรา เหล่าแขกต่างกำลังคุยกัน ว่ากู่ไห่ทำให้ทหารสูญเสียขวัญกำลังใจอย่างไร อธิบายทุกขั้นตอนโดยละเอียด ผู้ฟังต่างสนใจยิ่ง ท้ายที่สุด การแสดงหน้าม่านก็ยังไม่ถึงตอนสำคัญ
"โชคดีที่เกาเซียนจือสังหารทหารเฉินหกแสนนายไปแล้ว มิฉะนั้น หลังจากที่กองทัพซ่งของเราพ่ายแพ้ กองทัพเฉินคงบุกมาทำลายแคว้นซ่งเป็แน่! เช่นนั้น เราคงต้องกลายเป็เชลยศึกกันหมด!"
"น่ากลัวยิ่ง หากกู่ไห่เป็ผู้บัญชาการกองทัพจริง พวกเราต้องแย่แน่!"
"เ้ากู่ไห่น่าชังนั่น ลักพาตัวผู้บริสุทธิ์มากมาย ทำให้กองทัพซ่งของเราวุ่นวาย หลานชายของข้าก็ตายในสนามรบ ทั้งหมดเป็ความผิดของเ้ากู่ไห่!"
"ลูกชายข้า บัดนี้ยังไม่รู้ว่าเป็หรือตาย ไอ้เ้ากู่ไห่!"
ไม่นานหลังจากเริ่มเล่าเื่ พวกเขาก็พากันส่งเสียงประณามกู่ไห่
กู่ไห่ซึ่งอยู่ข้างหน้าต่าง เมื่อได้ยินเสียงประณามจากเหล่าแขก ไม่เพียงไม่โกรธ แต่กลับหลุดหัวเราะเบาๆ
“พ่อบุญธรรม บัดนี้แคว้นซ่งป้ายสี ทำให้ท่านเสื่อมเสียชื่อเสียง ดูเหมือนว่าพวกเขาจะกลัวท่านมาก แม้แต่รายละเอียดการรบ ยังบอกกล่าวแก่ประชาชน คง้าปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชังลงในหัวใจผู้คน เพื่อขัดขวางแผนการต่อไปของเราเป็แน่!" กู่ฮั่นขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะพูด
“หัวใจของประชาชนควรค่าแก่การใช้งานยิ่ง พวกเขายิ่งชิงชังข้ามากเท่าใด แคว้นซ่งก็จะยิ่งถูกทำลายเร็วขึ้นเท่านั้น!” กู่ไห่กล่าว ขณะดื่มสุราลงไปอึกหนึ่ง พร้อมเผยรอยยิ้มมั่นใจบนใบหน้า
“พ่อบุญธรรม เราจะเริ่มแล้วหรือขอรับ?” ดวงตาของกู่ฮั่นฉายแววตื่นเต้นเล็กน้อย
“เปล่า ยังไม่พอ ความเกลียดชังและโกรธแค้นของชาวซ่งที่มีต่อข้า ยังไม่พอ ต้องทำให้เกลียดมากกว่านี้!” กู่ไห่กล่าวด้วยน้ำเสียงเข้มลึก
“ยังไม่พออีกหรือขอรับ? บัดนี้ทุกคนค่างกำลังพากันวิพากษ์วิจารณ์ท่านแล้ว ไม่ใช่หรือขอรับ?”
"ยังไม่พอ แรงผลักดันที่้าจะกำจัดข้ายังน้อยเกินไป ดังนั้นข้าจะช่วยเพิ่มแรงผลักดันให้พวกเขาเอง! ข้าจะทำให้ทุกคนพุ่งเป้ามาที่ข้าและเกลียดชังข้า”
“หา?”
"ปล่อยสมาชิกในครอบครัวของทหารซ่งออกมา ให้พวกเขาบอกเล่าถึงความโหดร้ายของข้า จากปากของพวกเขาเอง เพื่อให้ทุกคนเชื่อว่าทั้งหมดเป็เพราะแผนร้ายของข้า ที่ทำให้กองทัพแปดแสนนายแตกพ่าย ให้โฆษณาชวนเชื่อของราชสำนักซ่งน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ให้คนทั้งแผ่นดินซ่งชิงชังข้า!" กู่ไห่กล่าว ประกายมั่นใจฉายชัดในดวงตา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้