กูเฟยเยี่ยนเบิกตากว้างแล้วใช้มือปกป้องร่างกายตนเอง ในขณะที่นางกำลังจะกรีดร้องจวินจิ่วเฉินก็ปิดปากของนางเอาไว้
เขาโน้มตัวเข้าใกล้พลางกระซิบแ่เบา “ข้ามีเื่จะคุยกับเ้า”
เดิมทีกูเฟยเยี่ยนก็ประหม่าอยู่แล้ว และทันทีที่นึกถึงจุมพิตอันดุเดือดในครั้งนั้นนางก็ยิ่งประหม่ามากกว่าเดิมอีก บัดนี้หัวใจของนางเต้นเร็วและแรงมาก
ทางด้านของจวินจิ่วเฉินนั้นไม่ได้ทำอะไรเลย สักครู่หนึ่งเขาก็เอ่ยออกมาว่า “การที่เรียกทหารองครักษ์เข้ามาอาจไม่ใช่เื่ดีต่อเ้า”
กูเฟยเยี่ยนจึงผ่อนคลายลงเล็กน้อย นางดีใจเป็อย่างยิ่งที่ตนเองเพิ่มเติมสมุนไพรมากมายลงไปในน้ำ เพราะในขณะนี้น้ำเป็สีดำและบนผิวน้ำก็มีสมุนไพรลอยเต็มไปทั่วจนปกคลุมร่างกายนางเอาไว้
นางแทบอยากจะออกห่างจากเขา ดังนั้นจึงพยักหน้าแล้วสัญญาว่าจะไม่ะโร้องเรียก
จวินจิ่วเฉินปล่อยหญิงสาวแล้วเทน้ำร้อนจากกระบวยที่อยู่ในมืออีกข้างหนึ่งลงไปในอ่างอาบน้ำ จากนั้นจึงเดินไปที่หม้อต้มน้ำที่อยู่ด้านข้าง
วินาทีนี้เองที่กูเฟยเยี่ยนพบว่าตนเองหลับไปนานจนน้ำไม่ร้อนแล้ว แต่อย่างไรก็ตามนางไม่รับน้ำใจ ด่าทอกลับไปด้วยความโกรธ “อันธพาล เ้ารีบไสหัวออกไปซะ! สารเลว! หน้าไม่อาย! ”
อันที่จริงแล้วจวินจิ่วเฉินไม่ทราบว่านางแช่น้ำอยู่ เขาเข้ามาด้านในถึงจะรู้ เดิมทีเขาจะออกไป แต่เมื่อเห็นว่านางผล็อยหลับและน้ำเย็นตัวแล้วเขาก็หยุดชะงักอย่างไม่รู้ตัว
เขาไปตักน้ำอย่างเงียบเฉยโดยที่ไม่สนใจในเสียงด่าทอของกูเฟยเยี่ยน
กูเฟยเยี่ยนด่าทอไม่หยุด “นายก้อนน้ำแข็งเหม็น เ้าคือคนที่หน้าด้านที่สุดที่ข้าเคยเห็นมา! มารดาเ้าไม่เคยสอนว่าอย่าดูสิ่งที่ผิดจริยธรรมหรือ? บิดาเ้าไม่เคยสอนว่ารังแกสตรีไม่ใช่การกระทำของบุรุษหรือ? ไป๋หลี่ิชวนยังไม่หน้าด้านเท่าเ้า! เ้าอยากจะทำอะไรกันแน่? เ้าอย่าคิดว่าข้าจะกลัวเ้าจริงๆ นะ ข้าจะบอกอะไรให้…”
ทันใดนั้นจวินจิ่วเฉินก็หันกลับมามองด้วยแววตาลึกลับ กูเฟยเยี่ยนหงอยลงทันทีเพราะคิดว่าเขาจะทำอะไร นางปิดปากแล้วค่อยๆ กดตัวลงไปในน้ำจนริมฝีปากใกล้จะจมลงไปถึงได้หยุด ดวงตาปราดเปรียวของนางนอกจากจะมีความระมัดระวังแล้ว ยังมีความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด
นี่เป็ครั้งแรกที่จวินจิ่วเฉินเห็นท่าทางว่านางหวาดกลัวจริงๆ ดูเหมือนว่าเขาจะอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ไม่นานเขาก็หันหลังไปตักน้ำต่อ กูเฟยเยี่ยนกำลังลังเลว่าจะะโเรียกคนมาดีหรือไม่ หากเรียกทหารองครักษ์มามันจะไม่ใช่เื่ดีต่อสถานการณ์ของนางในตอนนี้จริงๆ อีกทั้งความชำนาญในการต่อสู้ของหมอนี่ดูเหมือนจะใกล้เคียงกับไป๋หลี่ิชวน การเข้ามาในจิ้งหวางฝู่ไม่ใช่เื่ยากสำหรับเขา หากนางเรียกทหารองครักษ์มาก็อาจจะจับกุมเขาไม่แน่! แต่ถ้าหากว่าเขาถูกจับได้แล้วให้การสารภาพเื่ราวก่อนหน้านี้ จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะโทษที่นางปิดบังหรือไม่?
กูเฟยเยี่ยนสับสนอยู่นาน สุดท้ายก็ใช้เหตุผลมากมายมาโน้มน้าวตนเองไม่ให้ะโเรียกคนมา
ด้วยเหตุนี้ห้องที่เงียบสงบก็มีจวินจิ่วเฉินที่ตักน้ำมาทีละช้อนๆ กูเฟยเยี่ยนหดตัวอยู่ในน้ำ สายตาระมัดระวังมองตามเขาอยู่ตลอด
จวบจนกระทั่งมีไอความร้อนออกมาจากอ่างแช่น้ำอีกครั้ง จวินจิ่วเฉินถึงได้หยุดลงแล้วเอ่ยถาม “อุ่นหรือยัง? “
กูเฟยเยี่ยนประหม่าจนลืมอุณหภูมิของน้ำ เมื่อถูกถามเช่นนี้นางจึงพบว่าน้ำร้อนแล้ว นางอบอุ่นและสบายตัวอย่างยิ่ง
เมื่อเห็นว่าหมอนี่ดูเหมือนจะไม่ได้้าทำอันธพาลอะไร นางจึงวางใจลงเล็กน้อย เพียงแต่ก็ยังคงระมัดระวังเช่นเดิมก่อนจะตอบกลับเขาไปว่า “อืม” อย่างไม่เป็ตัวของตัวเอง
จวินจิ่วเฉินไม่ได้เดินเข้าไป แต่พิงอยู่ที่กำแพงข้างเตาไฟพลางเอ่ยถาม “เ้าคอแข็งหรือใช้ยาแก้เมา? ”
กูเฟยเยี่ยนย้อนถามด้วยความโกรธ “เปิ่นกูเหนียงเหมือนคนขี้โกงหรือ? ”
ดวงตาของจวินจิ่วเฉินทอประกายความตื่นใ “เ้าคอแข็งขนาดไหนกัน? ”
กูเฟยเยี่ยนตอบด้วยความไม่พอใจ “ไม่เกี่ยวกับเ้า เ้ามาหาข้าทำไม? มีอะไรก็รีบพูด ถ้าไม่มีอะไรก็ไปให้พ้น! ”
จวินจิ่วเฉินไม่ได้ซักถามต่อไป เขานำใบสั่งยาออกมาหนึ่งแผ่นแล้ววางไว้บนโต๊ะ “ตำรับยานี้อาจเป็รายงานลับ เ้าน่าจะไขปริศนาได้”
กูเฟยเยี่ยนแปลกใจมาก “ของไป๋หลี่ิชวนหรือ? เ้ายังสืบเขาอยู่หรือ? ”
จวินจิ่วเฉินไม่ได้ปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้ยอมรับ เขาเพียงเอ่ยแค่ “อีกสองสามวันข้าค่อยมาหาเ้า”
เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะออกไป กูเฟยเยี่ยนจึงได้ะโเรียก “เอาไป! ทำไมข้าต้องช่วยเ้ากัน? คนหลอกลวง! ”
เมื่อนึกไปถึงเื่ที่นางช่วยเขาไขปริศนาจดหมายลับยาถอนพิษในครั้งที่แล้วและถูกเขาหลอกใช้ นางจึงโกรธแค้นมาก จวินจิ่วเฉินลังเลครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ใบสั่งยาหนึ่งแผ่น หนึ่งหมื่นเหรียญทอง เป็อย่างไร? ”
กูเฟยเยี่ยนยิ้มเยาะ “เ้าคิดว่าข้าเป็ใครกัน? เพียงแค่หนึ่งหมื่นเหรียญทองก็อยากจะซื้อตัวข้าแล้ว? เหอะ! ”
จวินจิ่วเฉินจึงพูดด้วยความเบิกบานใจ “สามหมื่นเหรียญทองต่อหนึ่งแผ่น”
ดวงตาของกูเฟยเยี่ยนเปล่งประกายทันที! ชั่วพริบตาเดียวหนึ่งหมื่นเหรียญทองก็เพิ่มขึ้นเป็สามหมื่นเหรียญทอง หมอนี่ไม่ได้โง่นะ แล้วทำไมเขาถึงให้จำนวนเงินเยอะขนาดนี้ล่ะ?
ถึงอย่างไรกูเฟยเยี่ยนก็ชื่นชอบคนที่ตรงไปตรงมาเช่นนี้ เขาคือบุคคลร่ำรวยที่ทำให้คนเกิดความหวั่นไหวได้ในครั้งเดียว ทว่านางยังคงไม่ตอบแล้วต่อรองราคากับเขา
นางพูดด้วยความจริงจัง “ไม่จำเป็ต้องถึงสามหมื่นเหรียญทองหรอก ข้าขอแค่หนึ่งหมื่นเหรียญทองต่อหนึ่งแผ่น ร่วมมือระยะยาว และเ้าต้องช่วยข้าสืบข่าว เป็อย่างไร? ”
จวินจิ่วเฉินยิ้มแล้วจริงๆ แม้จะเป็ยิ้มบางๆ และเห็นเพียงแค่ริมฝีปากเท่านั้น ทว่าก็งดงามมาก
เขาเอ่ยถาม “เ้าอยากจะสืบข่าวอะไร? ”
ดูเหมือนว่ากูเฟยเยี่ยนจะมีความลังเลแต่สุดท้ายก็ปริปากบอก “เ้าช่วยข้าสืบข่าวเื่ปิงไห่หน่อยว่าเมื่อสิบปีก่อนเกิดอะไรขึ้นกับปิงไห่กันแน่? อีกอย่างคือแผ่นดินใหญ่ของปิงไห่ทางใต้เป็อย่างไร? ”
นางไม่เชื่อคำพูดของเขาที่บอกว่าชอบนางนิดหน่อย นางคิดว่าการที่เขานำจดหมายลับที่มีความลับสำคัญมาให้นางไขปริศนาน่าจะเป็เพราะพุ่งตรงมาที่ความสามารถในทักษะสมุนไพรของนางใช่หรือไม่? เขาน่าจะไม่ได้มีเจตนาร้ายขนาดนั้นใช่หรือไม่? แล้วเหตุใดนางจึงไม่ให้เขาช่วยล่ะ?
ภายในพระราชวังน่าจะมีคนที่จอมปลอมแบบจวินฮั่นหยิ่นเยอะมาก หรือบางทีหมอนี่ไม่ใช่คนภายในพระราชวัง แต่มีเส้นสายภายในพระราชวัง? นางคาดเดาตัวตนของเขาไม่ออก แต่มั่นใจได้ว่าถ้าเขาไม่ใช่คนที่ร่ำรวยก็ต้องเป็คนสูงศักดิ์ที่ได้รับความเคารพนับถือ หากเขาช่วยสืบข่าวมันก็จะดีกว่าเสียเงินไปซื้อข่าวปลอมมากมายกลับมา
เมื่อได้ยินคำว่า “ปิงไห่” มุมปากของจวินจิ่วเฉินก็แข็งทื่ออย่างเห็นได้ชัด เขาไม่ค่อยจะแน่ใจในตัวตนของหญิงสาวคนนี้มาั้แ่แรกแล้ว
เมื่อได้ยินคำพูดของนางแล้วก็ยิ่งสงสัยภูมิหลังของนาง
น้ำเสียงของเขาเ็ามากกว่าเดิมสามส่วน “เ้าสืบข่าวปิงไห่ไปทำไม? เ้าเป็ใครกันแน่? ”
กูเฟยเยี่ยนไม่ได้สนใจท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไปของเขา นางจงใจพูดว่า “ทีเ้ายังไม่บอกข้าเลยว่าเ้าเป็ใคร แล้วทำไมข้าต้องบอกเ้าว่าข้าเป็ใครด้วย? ทางที่ดีเ้าอย่าบอกข้าว่าเ้าเป็ใคร เพราะข้าก็ไม่อยากจะบอกเ้าว่าข้าเป็ใครเหมือนกัน! พวกเราต่างคนต่างก็ไม่รู้จักกันจะดีที่สุด!”
จวินจิ่วเฉินถามต่อทันที “เ้าไม่ใช่คุณหนูตระกูลกูจริงๆ หรือ? ”
กูเฟยเยี่ยนมีความสุขแล้ว นางจึงจงใจก่อกวนเขา “ข้าใช่ และข้าไม่ได้บอกว่าข้าไม่ใช่! ”
ทว่าจวินจิ่วเฉินไม่ได้สับสนในคำถามนี้แล้วถามต่อ “เ้าสืบข่าวปิงไห่ไปทำไมกัน? ”
กูเฟยเยี่ยนไม่มีทางเปิดเผยเื่ส่วนตัวมากเกินไป นางจึงเอ่ยไปว่า “ไม่เกี่ยวกับเ้า หากเ้าคิดว่าการค้าขายนี้คุ้มค่าก็วางใบสั่งยากับเงินเอาไว้ หากคิดว่าไม่คุ้มค่าก็เลิกทำตัวอันธพาลแล้วไปให้พ้น! ”
จวินจิ่วเฉินไม่ได้ลังเล เขานำตั๋วเงินออกมาวางไว้บนใบสั่งยาแล้วพูดออกมา “ตกลง”
กูเฟยเยี่ยนดีใจมากแต่ก็ไม่ลืมจะไล่เขาออกไปและไม่ลืมที่จะเตือนสติ “ระวังไว้หน่อย อย่าทำร้ายข้า ข้ายังอยากจะอยู่ที่นี่ต่อไปอีกสักพัก! อีกอย่างคือหากครั้งหน้ามาแล้วไม่เคาะประตู เ้าจะต้องรับผิดชอบผลลัพธ์ที่จะตามมาทีหลังเอง! ”
จวินจิ่วเฉินไม่ได้สนใจไยดีนาง เขากำลังจะออกไป แต่ก็หันกลับมาอีกครั้งจนทำให้กูเฟยเยี่ยนรีบปกป้องร่างกายตนเองแล้วจมลงไปในน้ำ “เ้ายังอยากจะทำอะไรอีก? ”
จวินจิ่วเฉินพูดอย่างราบเรียบ “ดูท่าว่าเ้าจะปกปิดจิ้งหวางไว้หลายเื่เลย”
กูเฟยเยี่ยนไม่อยากพูดคุยเื่นี้กับเขาจึงไล่เขาไป “ไม่เกี่ยวกับเ้า รีบไปให้พ้น! ”
ทว่าจวินจิ่วเฉินได้ถามอีกครั้ง “ในเมื่อชอบแล้วเหตุใดจึงต้องปิดบังเขา? ”