เล่นลิ้นเก่งยิ่งนัก
ผู้ที่มารอต้อนรับคือข้าหลวงที่หลางโจว ใต้เท้าเฉา เขาเป็บุรุษวัยกลางคนอ้วนๆ หัวกลมใหญ่ๆ ในเวลาที่เขายิ้มออกมาใบหน้ารอบข้างล้วนเต็มไปด้วยตีนกา
“องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ! อ๊ะ!พระชายา!ข้าน้อยตั้งตารอน้ำวสันต์ รอคอยดวงและดาว ในที่สุดพวกท่านก็มาถึงแล้ว!” ใต้เท้าเฉาโค้งคำนับอย่างเกินจริง “ประชาชนของหลางโจวรอดตายแล้ว! มีหวังแล้วจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ!”
อวิ๋นอี้ดูท่าทีของเขาก็แอบขำ
บุรุษรูปร่างกลม มีท้องใหญ่ๆ ยื่นออกมา โค้งตัวลงครึ่งหนึ่งก็ขยับตัวมิได้แล้ว จากมุมที่นางมอง มีเพียงแค่หัวดำๆ ลอยอยู่ในอากาศ
หรงซิวเหลือบมองไปที่นางเล็กน้อย แล้วบีบมือนาง อวิ๋นอี้แลบลิ้นเล็กๆ ก็ได้ยินเสียงต่ำๆ ของเขา พูดอย่างจริงจัง “ใต้เท้าเฉาลุกขึ้นเถิด ความเป็อยู่ของประชาชนเป็เื่ที่เราสองต้องร่วมกันทำให้สุดความสามารถ”
“แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!” ใต้เท้าเฉาอารมณ์หนักแน่น “พวกเราเป็ข้าราชการ เพื่อทำงานรับใช้ประชาชน! มิกระนั้นกลับบ้านไปทำไร่ทำนาเสียดีกว่า!”
“ท่านใต้เท้าพูดถูก” หรงซิวฉีกยิ้มบางๆ “เพียงแต่มิใช่เพียงแค่พูดแต่ปากเท่านั้น เวลาที่ทำงานจะผัดวันประกันพรุ่งมิได้!”
ใต้เท้าเฉายิ้มบางๆ ก้มหน้าลงอย่างไม่สบายใจ “ใช่พ่ะย่ะค่ะ ใช่ ใช่! จะทำงานเช่นนั้นได้อย่างไร”
“พอแล้ว” หรงซิวปล่อยเขาไปก่อนในตอนนี้ “แดดแรงมากตอนนี้ กลับจวนกันก่อนเถิด”
“ไอ้โหยว!” ใต้เท้าเฉาเอามือตบหน้าผาก เสียงดังจนทุกคนชะงัก แต่กลับเห็นเขายิ้มตาหยี “ฝ่าาเชิญพ่ะย่ะค่ะ ข้าตื่นเต้นไปหน่อย! ลืมเื่จริงจังไปเสียได้!”
เขาอ่อนน้อมอย่างลุกลี้ลุกลนด้วยหน้าที่มีแก้มล้นๆ ออกมา “ฝ่าาเชิญพ่ะย่ะค่ะ เชิญพระชายาพ่ะย่ะค่ะ นี่เป็เรือนที่ข้าเตรียมไว้ให้พ่ะย่ะค่ะ รับรองได้เลยว่าพวกท่านจะประทับใจ!”
เรือนที่ใต้เท้าเฉาเตรียมไว้ให้ จะหยุดแค่ประทับใจได้อย่างไร นี่มันเรียกว่าสรวง์ในแดนมนุษย์ชัดๆ
หลางโจวอยู่ที่เจียงหนาน ที่แห่งนั้นมีน้ำเยอะ เรือนทั้งหลังสร้างอยู่บนน้ำ แต่ละเรือนจะเชื่อมต่อกันด้วยสะพาน ในขณะเดียวกันเรือนแต่ละหลัง ก็ราวกับเกาะเล็กๆ ท่ามกลางน้ำ ดีเสียจนอย่างหาคำบรรยายมิได้
อวิ๋นอี้กับคนอื่นๆ มองกันอย่างตะลึงงัน
ได้เห็นอาคารสวยหรูที่ตั้งอยู่บนพื้นดินมามากมาย แต่นี่เป็ครั้งแรกที่ได้เห็นมันอยู่บนน้ำ
ใต้เท้าเฉาสังเกตสีหน้าของแต่ละคน ก็พอใจกับปฏิกิริยาของทุกคนมาก สีหน้าของเขามองดูภูมิใจขึ้นเล็กน้อย หลังยืดตรงขึ้น “ฝ่าาพ่ะย่ะค่ะ ประทับใจหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
หรงซิวยิ้ม แล้วจัดระเบียบเสื้อผ้า “ใต้เท้าเฉาเตรียมไว้อย่างดีมาก ที่พักเหล่านี้ใช้เงินไปไม่น้อยเลยล่ะสิท่า? เงินมาจากที่ใดกัน?”
“......”
สีหน้าของใต้เท้าเฉาชะงักอยู่ที่มุมปาก แต่ดีที่เขาตอบสนองได้ไว แววตากลอกกลับมา แล้วพูดอธิบายด้วยเสียงดังฟังชัด “เกรงว่าฝ่าาจะเข้าใจผิดไปนะพ่ะย่ะค่ะ เรือนนี้มีประวัติความเป็มากว่าร้อยปีแล้วพ่ะย่ะค่ะ ปกติใช้รองรับผู้สูงศักดิ์ มีคำกล่าวว่ามันถูกสร้างโดยเศรษฐีใหญ่พ่ะย่ะค่ะ หลังจากนั้นตระกูลก็ล้มละลาย เรือนนี้จึงตกมาเป็ของหลวงพ่ะย่ะค่ะฝ่าา” เมื่อพูดถึงตรงนี้ ใต้เท้าเฉาก็น้อยอกน้อยใจเป็อย่างมาก “ข้าเป็เพียงข้าราชการที่ทำงานตามหน้าที่จริงๆ พ่ะย่ะค่ะ มิกล้าขูดรีดเืเนื้อของประชาชนเพื่อเลี้ยงตัวเองหรอกพ่ะย่ะค่ะ!”
หรงซิวจ้องมองเขา มิได้พูดกระไรอีก
พระอาทิตย์ของฤดูร้อน อยู่สูงกลางหัว ทำให้เหงื่อไหลไม่หยุด
ใต้เท้าเฉาเช็ดเหงื่อด้วยความรู้สึกผิดในใจ ลำตัวของเขาโค้งลงต่ำยิ่งกว่าเดิม
หรงซิวหัวเราะออกมาในทันใด เขาเอื้อมมือไปพยุงเขาขึ้น และกล่าวขอโทษว่า “ข้าผิดเองท่านใต้เท้าเฉา ได้โปรดอย่าถือสาเลยนะ ข้าเพียงล้อเล่น”
ใต้เท้าเฉาใมาก ยิ้มแล้วพูดแบบไร้ความจริงใจไม่กี่ประโยค เมื่อจบลง เขาก็นำทางไป นำทางทุกคนไปที่ห้องพัก
ห้องที่จัดให้ หรงซิวนั้น เป็ห้องที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาเรือนต่างๆ เขาตั้งใจเอาใจหรงซิว และมองสถานะของอวิ๋นอี้ออก ก็พูดอย่างใส่ใจเป็พิเศษ “ฝ่าากับพระชายาความสัมพันธ์ลึกซึ้ง อยู่ด้วยกันนะพ่ะย่ะค่ะ”
อวิ๋นอี้เพียงแค่เม้มปาก แล้วเหลือบตามองไปด้านหลัง
ใต้เท้าเฉาเป็ปาท่องโก๋ [1] เข้าใจได้ในทันที แล้วก็หันไปถามหว่านฉืออย่างสุภาพ “ท่านนี้ เป็พระชายารองที่เพิ่งอภิเษกใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
พระชายาก็คือพระชายา ทั้งยังจงใจเน้นคำว่าพระชายารอง ทำให้หว่านฉืออารมณ์ไม่ดี สีหน้าเ็า แล้วพยักหน้าลง “เ้าค่ะ”
“ข้าได้ยินมาว่าสุขภาพของท่านพระชายารองไม่ค่อยดี ข้าจึงเตรียมเรือนทางประจิมไว้ให้พ่ะย่ะค่ะ ที่นั่นทิวทัศน์สวยงาม เหมาะกับการพักฟื้นร่างกาย” ใต้เท้าเฉายังยิ้มให้อย่างช้าๆ อีกด้วย
ทุกคนหันไปมองตามทางที่เขาชี้ ก็เห็นเรือนทางประจิม
ซูเมี่ยวเออร์หัวเราะเยาะ “ใต้เท้าเฉาช่างเอาใจใส่จริงๆ เ้าค่ะ มิเพียงแค่ทิวทัศน์งดงามแล้ว ยังไกลออกไปอีกด้วย จัดวางไว้ได้ดีเสียจริง!”
เรือนทางประจิมนั้นห่างจากเรือนหลักของหรงซิวไปไกลโพ้น มิมีผู้ใดรบกวนนาง ขณะเดียวกันนางก็รบกวนผู้อื่นมิได้ด้วย
ใต้เท้าเฉามองหันไปที่ซูเมี่ยวเออร์ จะให้เรียกโดยตรงก็ไม่กล้า เข้าพูดอย่างลื่นไหล ทำเอานางเบิกบานใจ ผู้ใดจะรู้ว่าอีกฝ่ายกลับหยุดลง แล้วพูดออกมาว่า “คุณหนูท่านนี้คือ...”
“เป็สตรีมากความสามารถ ซูเมี่ยวเออร์” อวิ๋นอี้เห็นเื่วุ่นวายยังไม่มากพอ “พวกเราเจอกันระหว่างทาง คุณหนูเมี่ยวเออร์บอกว่าจะมาเที่ยวที่เจียงหนาน เพียงแต่ไม่รู้ว่า เ้าจะยังอยากพักกับพวกเราอีกด้วยหรือ?”
เมื่อครู่ยังหัวเราะเยาะผู้อื่นอยู่เลย ตอนนี้คำพูดของอวิ๋นอี้ทิ่มแทงจนนางเจ็บไปทั้งร่าง
ใต้เท้าเฉารับราชการมาหลายปี จะฟังความหมายที่นางพูดมิออกได้อย่างไร จากนั้นเขาก็พูดต่อว่า “ที่แท้ก็เป็สตรีมากความสามารถนี่เองหรือขอรับ! สิบปากกว่าไม่เท่าตาเห็นจริงๆ! ในเมื่อคุณหนูจะมาเที่ยวเล่นที่นี่ ข้าน้อมต้อนรับขอรับ เพียงแต่ว่าหากจะพักที่นี่ล่ะก็ เกรงว่าจะไม่สะดวกนะขอรับ ข้าให้คนไปหาที่พักให้ท่านดีหรือไม่ขอรับ รับประกันได้เลยว่าคุณหนูจะต้องพอใจมาก”
คำพูดนั้นดูน่าฟัง นางไม่ยอมเสียหรอก
ซูเมี่ยวเออร์ตัดสินใจจะพักที่นี่แล้ว ก็กระแอมคอ พูดอย่างมั่นใจ “ท่านใต้เท้ามิต้องลำบากหรอกเ้าค่ะ ข้ากับองค์ชายเป็พี่น้องกัน เรามีความสัมพันธ์กันดีั้แ่เล็ก น้องสาวพี่ชายกับพี่สะใภ้อยู่ด้วยกัน จะมีกระไรผิดแปลกไปหรือเพคะ? อีกทั้งยัง จะหาเรือนที่สวนงามเช่นนี้ได้อีกอย่างไร? ข้าอยากอยู่ที่นี่”
ทันใดนั้นใต้เท้าเฉาก็ทำตัวไม่ถูกทันที
ตรงข้ามกัน อวิ๋นอี้กลับยิ้มอย่างใจกว้าง “ในเมื่อคุณหนูไม่สนใจ พวกเราเองก็มิมีกระไรต้องสนใจ อยากจะอยู่ด้วยก็อยู่ด้วยกันเถิด”
สิ่งที่นางพูดก่อนหน้านี้ มิได้จะไล่ซูเมี่ยวเออร์ออกไปจริงๆ เพียงแค่จะแกล้งนางเท่านั้น
ใต้เท้าเฉาเห็นอวิ๋นอี้ยอมความ เขาก็มิมีปัญหากระไร อย่างไรเสียทุกคนที่นี่ก็ล้วนเป็เ้านาย เขาเพียงแค่ต้องรับใช้อย่างระมัดระวังก็เท่านั้น
เมื่อจัดแจงให้ทุกคนเสร็จแล้ว ใต้เท้าเฉาก็เหงื่อท่วมตัว ใบหน้าของเขาราวกับล้างน้ำมา ทั้งหน้าผากทั้งจมูก ล้วนเปียกไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็กๆ
หรงซิวให้เขาไปพักผ่อน ส่วนเื่ราชการค่อยว่ากันอีกที
มีน้ำล้อมรอบ ในห้องก็เตรียมน้ำแข็งไว้ด้วย ไม่นานนักอุณหภูมิก็เย็นลง ทำให้คนสบายตัว
อวิ๋นอี้ไปอาบน้ำ แล้วทานอาหารอย่างเรียบง่าย จากนั้นก็ขึ้นเตียง
มิได้พักผ่อนดีๆ มากว่าสิบวันแล้ว ทันทีที่หลับตาลง ลืมตาขึ้นอีกคราก็เป็ตอนบ่ายของวันถัดมาแล้ว
ในตอนที่เพิ่งตื่นสมองก็ยังงุนงงอยู่ นางจ้องมองเตียงอยู่นาน ถึงจะนึกได้ว่าตนเองอยู่ต่างถิ่น
อวิ๋นอี้ค้ำเอวนั่งขึ้นมา แล้วขยับเล็กน้อย ทำให้สตรีรับใช้ที่อยู่ด้านนอกใ นางเคาะประตูแล้วถามเสียงเบา “ฮูหยินเพคะ? ตื่นแล้วหรือเพคะ?”
“อื้ม”
สตรีรับใช้ผลักประตู แล้วชะโงกหน้าเข้าไปดูด้านใน ถามความยินยอมของนาง “ข้าเข้าไปได้หรือไม่เพคะ?”
คนใช้ที่รับใช้นางล้วนเป็คนที่ใต้เท้าเฉาเตรียมมาให้ สตรีรับใช้คนตรงหน้าที่จัดการหวีผมแต่งหน้าให้นางอยู่นั้นชื่อถาวหวง รับผิดชอบชีวิตการเป็อยู่ของนางที่อยู่ที่หลางโจวใน่นี้
อวิ๋นอี้ตั้งใจฟังการแนะนำตัวของนาง ทันใดนั้นก็นึกกระไรขึ้นได้ แล้วถามขึ้น “ฝ่าาเล่า?”
“ฝ่าาพาใต้เท้าเฉาออกไปตรวจสอบพื้นที่เพคะ”
อวิ๋นอี้เลิกคิ้ว เขามาที่นี่ก็เพื่อสร้างเขื่อนที่เจียงหนาน การออกไปตรวจสอบพื้นที่ถือเป็งานของเขา
นางอดประหลาดใจมิได้ ร่างกายบุรุษนั้นแข็งแกร่งจริงๆ
“แล้วเ้านายอีกสองคนเล่า?” อวิ๋นอี้ถามอีก กลัวว่าถาวหวงจะไม่เข้าใจจึงพูดละเอียดขึ้น “พระชายารองที่อยู่เรือนประจิม กับคุณหนูซูน่ะ พวกนางทำกระไรหรือ?”
เชิงอรรถ
[1] ปาท่องโก๋ 老油条 หมายถึง คนที่ไหลลื่นตามสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี