ห้องพักทุกห้องใน Twilight Villa ใช้แม่กุญแจโลหะและกุญแจแบบดั้งเดิม เหตุผลเพราะที่นี่เป็รีสอร์ตเรียบง่ายและมีสไตล์คลาสสิก บนเนินเขาเช่นนี้ก็มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีสถานที่แห่งนี้จึงยังไม่เคยประสบปัญหาเื่การโจรกรรมเลย
ภายในห้องพักที่มีระเบียงยาวชายหนุ่มหน้าตาดีสวมชุดเครื่องแบบพนักงานเสิร์ฟของ Twilight Villa กำลังเข็นรถเข็นที่เต็มไปด้วยเครื่องมือทำความสะอาดทุกชนิดเขาเข็นมันไปข้างหน้าอย่างช้าๆ แล้วค่อยหยุดอยู่หน้าประตู เหลียวมองซ้ายทีขวาทีจากนั้นก็หยุด
เขาเคาะประตูห้องที่อยู่ใกล้ที่สุดแม้จะไม่มีเสียงตอบกลับ แต่บริกรยังคงเคาะอีกสองครั้งเพื่อตรวจสอบอีกที และเมื่อชัดเจนแล้วว่าไม่มีการตอบสนองจากด้านในบริกรผู้นี้จึงเอาหูแนบกับประตูเพื่อฟังเสียงในห้อง หลังจากนั้นประมาณครึ่งนาที บริกรก็มั่นใจว่าแขกในห้องกำลังหลับอยู่เป็แน่
เหล็กเส้นรูปทรงหงิกๆ งอๆ ปรากฏขึ้นในมือคล้ายดั่งไม้กายสิทธิ์ ชายผู้นี้กำลังเริ่มไขตัวล็อกด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดเขาเสียบมันเข้าไปและค่อยๆ ไขกุญแจอย่างช้าๆมีเพียงผู้ที่เชี่ยวชาญเท่านั้นที่สามารถแยกแยะเสียงกลไกอันละเอียดอ่อนเ่าั้ได้
หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งนาทีเขาก็ได้ยินเสียงประตูถูกปลดล็อก ด้วยเสียงอันคมชัด ประตูที่ถูกล็อกจากด้านในก็ถูกเปิดออกทันที!
พนักงานเสิร์ฟเก็บเหล็กเส้นนั้นไว้ในกระเป๋ากางเกงของตนอย่างเงียบเชียบขณะที่กำลังจะเข้าไปในห้อง ทันใดนั้นก็มีคนมาจับไหล่ของเขาจากข้างหลัง!
“อันตราย”
บริกรหันหลังกลับด้วยสัญชาตญาณ ในขณะที่เขาค่อยๆหันมาด้วยความประหม่า เขามองไปที่คนที่มาเกาะไหล่ของเขา
ผู้ที่มีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าและสวมชุดนอนของ Twilight Villa คนคนนี้คือหยางเฉินที่เดินออกมาอย่างเงียบๆหลังจากได้ยินเสียงผิดปกตินั่นเอง
บริกรเปิดเผยให้เห็นท่าทางความน่าอึดอัดใจและความเคารพ เขาก้มหัวลงแล้วพูดว่า
“ขอโทษครับ ที่ผมมีปฏิกิริยาดังกล่าวเพราะคุณทำให้ผมกลัว”
“คุณกลัวผมงั้นหรือ?” หยางเฉินถูคางแล้วพูดด้วยรอยยิ้มแปลกๆ ว่า “เหล็กเส้นของนายต่างหากที่ทำให้ผมกลัวทักษะนี้เช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่มือสมัครเล่นจะสามารถทำได้ง่ายๆ นะ”
บริกรเผยท่าทีที่สับสนว่า
“คุณครับ ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดอะไร”
“ก็ไม่เป็ไรถ้านายไม่เข้าใจแต่ถ้านายมอบมันมาให้ผม ทุกอย่างก็จะดีเอง” หยางเฉินกล่าว
มีประกายระยิบระยับปรากฏขึ้นในสายตาของบริกรเขาสวมรอยยิ้มและพูดว่า
“ตกลง”
บริกรล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของเขาศีรษะของเขาค่อยๆ โค้งต่ำลง จากนั้นก็ค่อยๆ ดึงบางสิ่งที่ส่องประกายสีเงินออกมาทันที
“ไปตายซะ!!”
ทันใดนั้นมีดสั้นที่ถูกดึงออกมาจากกระเป๋าก็พุ่งตรงเข้าหาลำคอแกร่งของหยางเฉินอย่างรวดเร็ว!
หยางเฉินเตรียมพร้อมอยู่นานแล้วเขาคว้าข้อมือของบริกรเอาไว้อย่างทันท่วงทีพลังแขนที่ทรงพลังของหยางเฉินทำให้มือของบริกรชา ส่วนมีดสั้นก็กระเด็นไปไกลก่อนที่จะตกลงกระทบพื้น
“สิ่งที่ผม้าคือเหล็กเส้นอันนั้น ไม่ใช่มีดสั้นของนาย” หยางเฉินกล่าวขณะที่เฝ้าดูบริกรที่กำลังถอยกลับขณะที่จับแขนของตัวเองไว้ พร้อมรอยยิ้มเจื่อนๆ
หน้าตาอันหล่อเหลาของบริกรเริ่มบิดเบี้ยวขึ้นเขาชักปืนพกประเภท 54 ออกมาจากรถเข็นเครื่องมือทำความสะอาดแล้วเล็งไปที่หยางเฉิน!
ผัวะ!
ก่อนที่จะเหนี่ยวไกปืน่อกของบริกรก็ถูกฟาดด้วยด้านข้างของรถเข็นเข้าอย่างจัง!เขาจุกจนล้มลงไปนอนกับพื้นตัวงอเหมือนกุ้ง ส่วนปืนในมือหลุดกระเด็นไป
หยางเฉินชักขาที่ใช้เตะรถเข็นกลับอย่างคล่องแคล่วพร้อมเดาะลิ้นก่อนกล่าวว่า
“นายชักปืนออกมายิงยังช้ากว่าผมเตะรถเข็นใส่คุณอีกนะ”หยางเฉินพูดพลาง ใช้เท้าเตะปืนออกไปให้ไกลจากบริกรแล้วคว้ามือของเขามาดู หลังจากนั้นครู่หนึ่ง หยางเฉินก็ขมวดคิ้วแน่น
จากประสบการณ์ที่กว้างขวางของหยางเฉิน สามารถรู้ได้ในทันทีว่าบริกรผู้นี้ชำนาญการใช้ปืนเป็อย่างมากแต่ไม่ใช่ตำรวจอย่างแน่นอน หยางเฉินสันนิษฐานว่าชายผู้นี้ต้องเป็นักฆ่า
"ใครเป็คนส่งแกมาฆ่าโม่เชี่ยนนี?"หยางเฉินถามด้วยสีหน้าดุดัน
เมื่อถูกทุบตีอย่างหนัก จนปวดร้าวไปทั่วทั้งร่างพอได้ยินคำถามของหยางเฉิน บริกรผู้นี้ก็ปฏิเสธที่จะให้คำตอบ นอกจากจะไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกจากปากเขาแล้ว สิ่งที่เล็ดลอดออกมาก็มีเพียงเสียงหัวเราะเท่านั้น
หยางเฉินคร้านเกินกว่าถามเป็ครั้งที่สองดังนั้นเขาจึงลงมือตบหน้านักฆ่าผู้น่าสงสารคนนี้ไปมาอย่างเมามัน
ทันใดนั้นเอง เพราะเสียงวุ่นวายข้างนอกห้องทำให้โม่เชี่ยนนีผู้หลับใหลก็ตื่นขึ้น เธอเดินออกมาที่ประตูและเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ เธอก็ร้องไห้ออกมาด้วยความใ
"หยางเฉิน นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
หยางเฉินยักไหล่ "ผมคิดว่าคุณควรโทรไปที่พนักงานของ Twilight Villa ก่อนนะ"
แม้ว่าโม่เชี่ยนนีจะรู้สึกใกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่เธอก็เป็ผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในอาชีพการงานดังนั้นเธอจึงสามารถควบคุมสติของตัวเอง จากนั้นรีบวิ่งเข้าไปในห้องกดโทรหาเคาน์เตอร์ของ Twilight Villa ในทันที
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้จัดการของรีสอร์ต พนักงานรักษาความปลอดภัย และแม้กระทั่งหลี่มู่หัวที่ยังไม่นอนก็รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ
เมื่อทุกคนมาถึง พวกเขาก็ใกับสิ่งที่เห็น บริกรและปืนพกไทป์ 54 เกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น!
"คุณหยางนี่มันเกิดอะไรขึ้น?"หลี่มู่หัวถามอย่างร้อนรน
หยางเฉินหาวหวอดใหญ่เขาเล่าว่าบังเอิญเห็นบริกรคนนี้ใช้เหล็กเส้นพยายามจะไขกุญแจเข้าไปในห้องของโม่เชี่ยนนีและพยายามจะฆ่าเขาด้วยปืนหยางเฉินเล่าว่าเขาโชคดีที่ผลักรถเข็นใส่บริกรคนนี้ในขณะที่เขาเผลอซึ่งนั่นทำให้เขาปกป้องชีวิตของตัวเองได้แม้คำบอกเล่าจากปากของหยางเฉินจะมีบางส่วนที่ไม่สมเหตุสมผล แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้เขาดูเป็เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
เมื่อได้ยินดังนั้นแล้วใบหน้าของหลี่มู่หัวเปลี่ยนจากสีขาวเป็สีเขียวทันที เขาชี้นิ้วไปยังผู้จัดการและพวกเ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
“คนของคุณมัวทำอะไรกันอยู่? ทำไมบริกรผู้นี้กลับมีปืน?”
“บอสครับ ทางเราก็ไม่รู้เหมือนกันเราไม่เคยเห็นหน้าบริกรคนนี้มาก่อน ใบหน้าของเขาดูไม่คุ้นเลย” ผู้จัดการกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“คุณหยาง ดูเหมือนว่าคนคนนี้จะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับรีสอร์ตของเราเขาน่าจะเป็คนนอกที่มาลอบสังหารคุณโม่ครับ!”
หยางเฉินส่ายหัว
“เป้าหมายของเขาไม่ใช่แค่เธอหรอกคุณโม่และผมถูกส่งมาเพื่อเจรจาทางธุรกิจ วันนี้เป็วันแรก ทั้งที่เราเข้ามาแต่ก็ยังมีคนพยายามลอบสังหารเรานอกจากนี้เขายังไม่ลังเลที่จะชักปืนออกมาเพื่อยิงผมผมเชื่อว่าคนที่เขา้าจะฆ่าไม่ใช่คุณโม่หรอก ถ้าการลอบสังหารครั้งนี้สำเร็จผมเชื่อว่าเป้าหมายต่อไปของเขาคือบอสเฉิงของบริษัทฉางหลิน”
ทุกคนในที่นี้เริ่มเข้าใจจุดประสงค์อย่างคร่าวๆบ้างแล้ว สถานการณ์นี้เป็การลอบสังหาร เพื่อผลประโยชน์บางอย่างในโลกธุรกิจ!
ปฏิกิริยาของหลี่มู่หัวค่อยๆ เปลี่ยนไปเขาสั่งเหล่าลูกน้องให้เพิ่มการป้องกันในพื้นที่นี้ และสั่งให้ตรวจสอบพนักงานทุกคนอย่างเข้มงวดมากขึ้นห้ามมิให้ใครเข้าหรือออกได้อย่างอิสระ
หลังจากที่ผู้จัดการรีสอร์ตจมอยู่กับความกลัวหลี่มู่หัวก็บอกขอโทษหยางเฉิน และโม่เชี่ยนนีอย่างเคร่งขรึม
“ผมต้องขออภัยพวกคุณทั้งสองคนด้วยนะครับมันเป็สิ่งที่คาดไม่ถึงจริงๆ สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันแรกที่พวกคุณมาฮ่องกงนี่เป็ความบกพร่องในหน้าที่ของพวกเรา โชคดีที่คุณหยางมีไหวพริบดี และชำนาญการไม่อย่างนั้นคุณคงได้รับาเ็ และผมก็คงจมอยู่กับความผิดไปชั่วชีวิต”
โม่เชี่ยนนีไม่คิดว่าสถานการณ์จะอันตรายได้เช่นนี้ความเสี่ยงในโลกธุรกิจทำให้เธอผู้ซึ่งประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานรู้สึกเสียวสันหลังเธอยืนนิ่งด้วยสายตาเลื่อนลอยอยู่ข้างๆ หยางเฉิน และคิดว่าถ้าไม่ได้นักเลงหัวไม้ผู้หยาบคายคนนี้ เธออาจจะตายไปแล้วจริงๆ ก็เป็ได้
“นี่คุณชายหลี่เป้าหมายของศัตรูคือหยุดการเจรจาทางธุรกิจในครั้งนี้ ผมคิดว่าพวกคุณสองคนและผมมีความชัดเจนว่าการทำงานร่วมกันในด้านการวิจัย การผลิตและการขายในครั้งนี้จะทำให้ธุรกิจของเราก้าวหน้าอย่างรวดเร็วด้วยสติปัญญาของคุณชายหลี่แน่นอนว่าคุณสามารถเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ได้ไม่ยากใช่มั้ย?” หยางเฉินส่งสัญญาณทางตากับหลี่มู่หัวขณะพูดด้วยรอยยิ้ม
หลี่มู่หัวฝืนยิ้มออกมา
“แน่นอนผมไม่สามารถปิดบังสิ่งนั้นจากคุณได้หรอกคุณหยางผมคิดว่าคนร้ายที่พยายามฆ่าพวกคุณต้องเป็คนที่พวกคุณรู้จักและรู้จักดียิ่งกว่าผมอีกด้วย”