ก๊อกๆ! ก๊อกๆ!
“พี่ลิ่วอี!”
ชย่าลิ่วอีสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย เขาขมวดคิ้วมองไปที่ประตูห้อง เมื่อเสี่ยวเหอเห็นชย่าลิ่วอีลุกขึ้นเธอก็รีบลุกตามพร้อมกับถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว หญิงสาวรีบทำผมเผ้าให้ยุ่งเหยิง สร้างภาพบรรยากาศเสมือนเพิ่งผ่านกิจกรรมรักอันเร่าร้อนมา
ชย่าลิ่วอีเปิดประตูห้องออก เสี่ยวหม่าแทบจะพุ่งเข้ามาหาเขาในทันทีด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “พี่ลิ่วอี! แย่แล้วครับ! หัวหน้าใหญ่กับอาซ้อทะเลาะกัน อาซ้อแทงหัวหน้าใหญ่...”
“อาการพี่ใหญ่เป็ยังไงบ้าง!” ชย่าลิ่วอีขัดจังหวะด้วยความกังวล เขาวิ่งเท้าเปล่าออกจากห้องโดยที่ไม่แม้แต่จะหยิบเสื้อขึ้นมาสวม มีเพียงกางเกงขายาวตัวเดียวเท่านั้น
เสี่ยวหม่ารีบวิ่งตามไป “ไม่โดนจุดสำคัญ พาไปส่งโรงพยาบาลแล้ว! แต่อาซ้อ...”
“โรงพยาบาลไหน!” ชย่าลิ่วอีะโถาม
“โรงพยาบาลเจียวเฉิง! ที่อยู่ข้างเขตเมืองกำแพงเจียวหลงนั่นไง! พี่ลิ่วอี! อาซ้อ... เธอ...” เสี่ยวหม่าวิ่งตามเขาออกไปด้วยความหวาดกลัว แม้จะดึงเขาไว้ แต่ก็อึกอักพูดไม่ออก
“เธอเป็อะไร?!” ชย่าลิ่วอีะโถามด้วยความโกรธ
“เธอ... หลังจากที่เธอแทงพี่ใหญ่ เธอก็ะโลงมาจากชั้นดาดฟ้าของบ้านพัก...”
ชย่าลิ่วอีชะงักตัวที่กำลังก้มลงเพื่อจะเข้าไปในรถในทันที กุญแจรถในมือร่วงหล่นพื้น!
รถเก๋งพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง ทะลุเข้าไปในความมืด ปลายถนนเป็ทางแยกเลี้ยวซ้ายไปยังบ้านพักตากอากาศริมทะเลเจียวหลง เลี้ยวขวาไปโรงพยาบาลเจียวเฉิง
ชย่าลิ่วอีเหยียบเบรกที่ทางแยก หายใจเข้าลึกๆ กดข่มอารมณ์ ก่อนจะหักพวงมาลัยไปทางซ้าย!
เขาปิดประตูรถอย่างแรงแล้ววิ่งเท้าเปล่าเข้าไปในบ้านพักทันทีที่มาถึง คนรับใช้ที่อยู่เฝ้าบ้านหลายคนต่างเข้ามาขวางเขาไว้ “พี่ลิ่วอี! พี่ลิ่วอี!”
“หลบไป!”
ข้างสระว่ายน้ำหลังบ้าน มีผ้าขาวคลุมร่างเล็กๆ ไว้
ชย่าลิ่วอีรีบวิ่งไปที่ร่างนั้นแล้วคุกเข่าลง เขาเปิดผ้าคลุมออกดูแวบหนึ่ง เพียงพริบตาสีหน้าที่แข็งกร้าวก็แปรเปลี่ยนเป็แตกสลาย! เขาตัวสั่นเทา โค้งตัวลงไปกอดชย่าเสี่ยวหม่าน ชายหนุ่มเงียบไปนานก่อนจะค่อยๆ เปล่งเสียงคร่ำครวญออกมาอย่างแ่เบา “พี่ครับ...”
พ่อบ้านและคนรับใช้หลายคนวิ่งตามมา พวกเขาไม่กล้าเข้าไปใกล้ชย่าลิ่วอี ทำได้เพียงยืนอยู่ห่างๆ ด้วยความลังเล
ชย่าลิ่วอีคุกเข่าอยู่นาน ดวงตาแดงก่ำ ตัวสั่นเทา เขาถามเสียงเบา “เกิดอะไรขึ้น?”
พ่อบ้านลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ผมก็มาถึงทีหลังเหมือนกัน อาเหวิน นายพูดสิ”
คนรับใช้คนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์พูดด้วยความกลัวว่า “คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายทะเลาะกัน ผม... ผมได้ยินอยู่ข้างนอก เหมือนคุณผู้หญิงจะสงสัยว่าคุณผู้ชายมีชู้ คุณผู้ชายบอกว่าไม่มี แต่คุณผู้หญิงไม่เชื่อ ทั้งยังด่าคุณผู้ชายว่า ‘โรคจิต’ ‘หน้าไม่อาย’ สุดท้ายยังพูดว่า ‘คนที่คุณชอบจริงๆ คือ...’ แต่ยังพูดไม่ทันจบก็โดนคุณผู้ชายตบ คุณผู้หญิงเลยใช้มีดผลไม้แทงคุณผู้ชาย พวกเรารีบพาคุณผู้ชายไปโรงพยาบาล พอไปถึงหน้าประตูบ้านก็ได้ยินเสียงคุณผู้หญิงะโลงมา...”
ชย่าลิ่วอีขดตัวก้มหน้าลง เขาจับผ้าขาวแน่นขณะเปล่งเสียงคร่ำครวญที่ทั้งแหบแห้งและเ็ปออกมาราวกับว่าโลกทั้งใบได้พังทลายลงแล้ว
ผ่านไปพักใหญ่ ชย่าลิ่วอีก็สูดจมูกอย่างแรง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกใด เขาพยุงตัวลุกขึ้นจากพื้นอย่างช้าๆ แล้วบอกกับพ่อบ้านว่า “ฝากที่นี่ด้วย ฉันจะไปดูพี่ใหญ่”
จากนั้นเขาก็เดินออกไปอย่างเชื่องช้าและไม่มั่นคง ไม่มีใครกล้าเรียกรั้งเขาไว้อีก ตอนนั้นเองหนึ่งในคนรับใช้ได้แอบหลบผู้คนแล้วเข้าไปในห้องด้านในเพื่อโทรศัพท์อย่างลับๆ
……
ชย่าลิ่วอีขับรถกลับทางเดิม เขาเดินทางมาถึงทางแยกอีกครั้ง ก่อนจะเลี้ยวไปทางโรงพยาบาลที่ชิงหลงเข้ารับการรักษาอยู่ ไม่นานรถก็หยุดลงที่หน้าโรงพยาบาลเจียวเฉิง กลุ่มลูกน้องของแก๊งเซียวฉีได้รวมตัวอยู่ที่นั่นกันก่อนแล้ว เสี่ยวหม่าพร้อมกับลูกน้องอีกสองสามคนก็มาถึงแล้วเช่นกัน พวกเขาเดินตามหลังชย่าลิ่วอีแล้วพูดว่า “พี่ลิ่วอี พี่สวี่อยู่ในนั้น เขาไม่อนุญาตให้พวกเราเข้าไป”
“เสี่ยวลิ่ว พี่สาวของนายแทงพี่ใหญ่ คงไม่เหมาะเท่าไรถ้านายจะเข้าไปดูอาการของเขา” สวี่อิงพูดพร้อมกับยืนขวางประตูห้องพักผู้ป่วย
“พี่สาวฉันป่วย ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้” ชย่าลิ่วอีพูดด้วยสีหน้าเ็า ดวงตาเต็มไปด้วยเื “นายอยู่กับพี่ใหญ่มาั้แ่สิบขวบ ตอนอายุสิบสี่ก็เข้าร่วมแก๊ง พี่ใหญ่มีบุญคุณกับฉันมากนัก ฉันจะไม่ทำร้ายเขา ฉันแค่อยากเข้าไปดูเขา เปิดทางให้ฉันที”
สวี่อิงจ้องมองเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มออกมา “ก็จริง นายมีความกตัญญูต่อพี่ใหญ่ ฉันไม่ควรขวางนาย เข้าไปเถอะ พี่ใหญ่เพิ่งจะหลับ อย่าทำให้เขาตื่นล่ะ”
ภายในห้องมืดสลัว เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเืและกลิ่นยาจนฉุนแสบจมูก มุมห้องมีเพียงตะเกียงน้ำมันที่ถูกจุดส่องสว่างให้พอเห็นเท้าเปล่าของชย่าลิ่วอีเท่านั้น
ชิงหลงนอนนิ่งอยู่บนเตียง หงายหน้าขึ้นฟ้า ดวงตาปิดลงเล็กน้อย ท่าทางเหมือนเหนื่อยล้าจนต้องพักผ่อน
ชย่าลิ่วอีปิดประตู ก่อนจะเดินเบาๆ อ้อมเตียงไปนั่งที่หน้าต่าง
เขาเงยหน้ามองต้นไม้ที่ทอดเงาไหววูบวาบอยู่ด้านนอกหน้าต่าง ลมพัดแรงจนกิ่งก้านใบไม้สั่นไหวเหมือนพยายามดิ้นรนต่อสู้กับท้องฟ้า
“พี่ใหญ่” ชย่าลิ่วอีพูดเบาๆ “ผมทำผิดไปหรือเปล่า?”
“ตอนนั้นผมไม่น่าขอให้พี่แต่งงานกับเธอเลย”
“พวกพี่ไม่ได้ผิดอะไรเลย คนที่ผิดคือผมเอง”
เขาก้มหน้าซบลงกับฝ่ามือทั้งสองข้าง พูดเสียงแหบพร่าว่า “แต่ผมจะทำอย่างไรได้? เธอรักพี่มาก คิดถึงพี่ทุกวัน ถ้าไม่มีพี่เธอคงอยู่ไม่ได้ เธอเป็พี่สาวของผม เธอดีกับผมมาก คอยปกป้องผมมาั้แ่เด็ก...”
เขาพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว แม้จะอ้าปากแต่กลับไม่มีเสียงใดๆ หลุดออกมา ได้แต่หอบหายใจถี่ๆ มือทั้งสองข้างจิกทึ้งกำเส้นผมแน่น
ผ่านไปครู่ใหญ่เขาถึงฝืนข่มอารมณ์ที่ปั่นป่วนให้สงบลงได้ ก่อนจะเงยใบหน้าขึ้นเล็กน้อย “พี่ใหญ่...”
จากนั้นลมหายใจของเขาก็หยุดชะงัก!
— ภาพที่พร่ามัวท่ามกลางแสงไฟสลัวตรงหน้า มีบางสิ่งกำลังไหลหยดลงมาไม่ขาดสายตามขอบผ้าปูที่นอน!
เขาพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เปิดผ้าห่มออก กลิ่นคาวเืรุนแรงก็โชยเตะจมูก! ชิงหลงลืมตาขึ้นครึ่งหนึ่ง จ้องมองเพดานด้วยสีหน้าตกตะลึงและแข็งทื่อ!
อีกทั้งดาบคู่ัเขียวที่ชิงหลงตั้งใจสร้างขึ้นเป็พิเศษด้วยเงินจำนวนมากเพื่อเป็ของขวัญวันเกิดครบรอบ 20 ปีให้ชย่าลิ่วอี เล่มหนึ่งถูกปักอยู่ที่อกของเขา อีกเล่มปักอยู่ที่ท้อง ทะลุผ่านแผ่นไม้ของเตียง จมเข้าไปในร่างของชิงหลงลึกจนมิดเหลือเพียงด้าม!
ชย่าลิ่วอียกปลายนิ้วสั่นๆ ไปวางอังที่จมูกของเขา ครู่ต่อมาเขาก็ส่งเสียงกรีดร้องอันเต็มไปด้วยความเศร้าอย่างบ้าคลั่ง “อ๊าก!!!”
แล้วเขาก็ผลักเตียงเหล็กที่มีร่างของชิงหลงนอนอยู่ไปยังประตูอย่างแรง!
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เสียงเตะประตูอย่างรุนแรงก็ดังขึ้นมาจากข้างนอก ประกอบกับเสียงะโของสวี่อิงที่ะโ “พี่ใหญ่!” ขณะพยายามพังประตูเข้ามา!
ชย่าลิ่วอีคุกเข่าลงข้างหนึ่ง มือทั้งสองข้างดันเตียงไว้สุดกำลังรับการกระแทกที่ทั้งรุนแรงและต่อเนื่องจากอีกฝั่งของประตู เขาก้มลงมองชิงหลงเป็ครั้งสุดท้ายด้วยความเ็ป ก่อนจะเบือนหน้าหนีและกัดฟันแน่น...
ทันใดนั้นเขาก็ปล่อยสองมือจากเตียงเหล็กมาคว้าดาบคู่ที่ปักอยู่บนร่างของชิงหลง เืสาดกระเซ็นไปทั่วใบหน้าทันทีที่ดึงดาบออก!
เขาหมุนตัวแล้วพุ่งชนหน้าต่างออกไปเหมือนลูกธนูโดยไม่กลัวเลยว่าจะต้องร่วงลงมาจากชั้นสอง!
สวี่อิงพาลูกน้องพังประตูเข้ามา ก่อนจะถูกสายลมเย็นปะทะหน้าเข้าอย่างจัง! เขาเหลือบมองร่างของชิงหลงด้วยสีหน้าซับซ้อน แล้วมองไปยังกรอบหน้าต่างที่แตกหัก เขากัดฟันกรอดแล้วะโกร้าว “ประกาศออกไป! ชย่าลิ่วอีฆ่าหัวหน้าใหญ่ชิงหลงเพื่อแก้แค้นให้พี่สาวที่เป็บ้าของเขา! สมาชิกทุกคนของแก๊งเซียวฉีออกไปตามล่าไอ้คนทรยศซะ จงจับมาให้ได้ไม่ว่าจะจับเป็หรือจับตาย!”
สิ้นเสียงคำพูดนั้น ก็มีเสียงหน้าต่างแตกดัง ‘โครม!’ จากข้างนอกอีกครั้งหนึ่ง
“เกิดอะไรขึ้น!” สวี่อิงคำรามด้วยความโกรธ
“ดูเหมือนจะเป็ลูกน้องของชย่าลิ่วอีครับ ะโหนีออกไปทางหน้าต่างเหมือนกัน!” ลูกน้องคนหนึ่งพูดขึ้นข้างกายเขา
“ไอ้โง่! ยังยืนบื้ออยู่ทำไม! ไล่ตามสิ!” สวี่อิงสบถออกมาอย่างหัวเสีย
ในเื่ของการหนีเสี่ยวหม่าไม่เคยเป็สองรองใคร! ทันทีที่เขาได้ยินคำพูดไร้สาระของสวี่อิง เขาก็ตัดสินใจะโออกจากหน้าต่างทางเดินทันที! ลูกน้องของเขาอีกสองสามคนก็ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหัวหน้ามาอย่างดี อาศัยความได้เปรียบที่เป็เพียงตัวประกอบและไม่มีใครจำหน้าได้แยกย้ายกันไปปะปนกับฝูงชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อย่างรวดเร็ว แล้วผสมโรงไปกับกองกำลังของแก๊งเซียวฉีที่ออกตามล่าชย่าลิ่วอีอย่างยิ่งใหญ่ ก่อนจะฉวยโอกาสหลบหนีไปกลางทาง...
……
ชย่าลิ่วอีวิ่งอย่างรวดเร็วภายในป่า มือทั้งสองข้างกำดาบแน่น เขาไม่ได้สวมรองเท้า เท้าของเขาจึงเต็มไปด้วยาแจากเศษหินแหลมคมในป่า แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ดูเหมือนจะไม่ได้รู้สึกเ็ปเลย ยังคงวิ่งไปข้างหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ความเ็ปของเขาไม่ได้อยู่ที่เท้า แต่อยู่ที่ใจ หัวใจของเขาเ็ปจนไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว ภายในคืนเดียว ภายในสองชั่วโมง คนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาสองคนได้ตายไปต่อหน้าต่อตา! ดวงตาที่ว่างเปล่าของชย่าเสี่ยวหม่านที่มองขึ้นไปบนฟ้า ดวงตาที่ลืมขึ้นครึ่งหนึ่งของชิงหลง– ตายตาไม่หลับ! ตายตาไม่หลับ!
ชย่าลิ่วอีกำด้ามดาบแน่นจนเกิดเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดน่ากลัว
เขากัดฟันแน่นแล้ววิ่งสุดกำลัง เสียงะโไล่ล่าดังมาจากข้างหลังอย่างเลือนราง แม้ว่าคนของสวี่อิงจะไล่ตามอย่างไม่ลดละ แต่สุดปลายป่าคือเมืองกำแพงเจียวหลงซึ่งมีอาคารสูงกว่า 500 หลังและมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 30,000 คน ช่างมืดมิดไร้ขอบเขต เมื่อเข้าไปแล้วก็เหมือนกับก้อนหินที่จมลงสู่ก้นทะเล...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้