ตอนนี้หยวนจุนน่าจะอยู่ที่ชั้นเจ็ดของเจดีย์ดำเก้าชั้นแล้ว สังเกตได้จากสิ่งที่คอยป้องกันเจดีย์ชั้นนี้อยู่ ซึ่งก็คือมีดสั้นสีเงินที่มีด้ามทำจากหยกดำ
และสิ่งที่ซ่อนอยู่ในเจดีย์ชั้นที่แปดและเก้า อาจเป็สิ่งที่มีค่ามากที่สุดของสำนักศาสตราพิโรธ!
เมื่อขึ้นไปถึงเจดีย์ชั้นที่แปดแล้วหยวนจุนถึงกับต้องชะงัก เพราะเมื่อเขาทอดสายตามองไป พื้นที่ที่นี่ไม่เพียงแต่ไม่คับแคบ แต่ยังกว้างใหญ่มากกว่าชั้นเจ็ดอีกด้วย
หยวนจุนเห็นศพนับสิบนอนเกลื่อนกลาดอยู่ตรงทางเดินที่มุ่งไปสู่ห้องโถงกลางของเจดีย์
ศพพวกนี้คือนักยุทธ์ที่เข้ามาในสุสานพร้อมกับเขา ซึ่งพวกเขาได้ตายระหว่างทางเดินที่จะเข้าไปสู่ห้องโถงกลางของเจดีย์ชั้นแปด
ระหว่างคิ้วของทั้งสิบกว่าศพนั้นมีรอยแผลไขว้ที่เกิดจากกระบี่ แน่นอนว่ามิใช่วิธีป้องกันของเจดีย์ แต่เพราะพวกเขาถูกฆ่าตายด้วยกระบี่ต่างหาก
การแย่งชิงสมบัติเป็เื่ของความเป็ความตาย ไม่มีผู้ใดสามารถหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งหยวนจุนก็เข้าใจเื่นี้เป็อย่างดี
“บังเอิญอะไรเช่นนี้ เจอกันอีกแล้วนะ”
หยวนจุนแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเซียวหานที่กำลังกอดอกเดินขึ้นมาจากเจดีย์ชั้นเจ็ดเช่นเดียวกันกับเขา
“แม่นางเซียวได้มีดสั้นไปแล้วยังไม่พอใจอีกหรือ? มิรู้หรือว่าผู้ที่ไม่รู้จักพอมักต้องประสบกับความสูญเสีย ข้าขอแนะนำว่าความวุ่นวายต่อจากนี้เ้าอย่าเข้าไปยุ่งจะดีกว่า”
เซียวหานเดินข้ามศพนักยุทธ์ที่นอนอยู่บนพื้นแล้วกล่าวออกมาเบาๆ ว่า “ขอบคุณที่เตือน ถึงอย่างไรข้าก็มาแล้ว ข้าจะทิ้งโอกาสดีๆ เช่นนี้ไปได้อย่างไร”
“เจดีย์สองชั้นสุดท้าย อย่างไรเสียข้าก็ต้องฝ่าขึ้นไปให้ได้”
เมื่อเห็นเซียวหานเพิกเฉยต่อคำแนะนำ หยวนจุนจึงเดินเข้าไปในโถงกลางของเจดีย์ชั้นที่แปดทันที
เมื่อก้าวเข้าไปในโถงกลาง แสงสีขาวพร่างพราวได้ตกลงมาจนทำให้หยวนจุนต้องหรี่ตาลงอย่างเลี่ยงมิได้ เขารีบมองไปยังวัตถุทรงกลมที่เปล่งแสงระยิบระยับ ก่อนจะเห็นว่าสิ่งนั้นเป็ม้วนวิชายุทธ์ที่มีคลื่นพลังรุนแรง!
มู่เฟิงยืนอยู่ข้างแท่นสูงที่มีม้วนวิชายุทธ์นั้นวางอยู่ เขามองไปทางหยวนจุนกับเซียวหานแล้วกำหมัด แววตาแฝงไปด้วยความหวาดกลัว
เมื่อเห็นพวกเขากำลังจะลงมือ มู่เฟิงจึงถอยหลังออกไปอย่างรู้ตัว
หยวนจุนและเซียวหานชำเลืองมองกันด้วยหางตา ก่อนจะตรงไปยังม้วนวิชายุทธ์นั้นพร้อมกัน
ทันทีที่เซียวหานขว้างพัดออกไป คมมีดสีชมพูได้ล้อมรอบตัวหยวนจุนไว้อย่างรวดเร็ว
“น้ำแข็งหมื่นทาง!” เมื่อนางะโออกมา แท่งน้ำแข็งนับหมื่นจึงพุ่งเข้าหาหยวนจุนพร้อมกับคมมีด มองแล้วเหมือนกับคลื่นพลังสีแดงขาวที่กำลังสะท้อนออกมาทั่วทั้งโถงกลาง
ดูจากการบ่มเพาะพลังยุทธ์ของเขาแล้ว ทักษะทั้งสองของข้าคงทำให้เขาาเ็ แต่ไม่ถึงขั้นตาย
ขณะที่เซียวหานกำลังคิด นางเห็นคมมีดกับแท่งน้ำแข็งแตกออกเป็เสี่ยงๆ เนื่องจากปราณกระบี่สีขาวสว่างได้ปรากฏออกมาจากตัวหยวนจุน ก่อนจะทำลายแท่งน้ำแข็งนับหมื่น และฟันพัดสีชมพูที่ลอยอยู่ในอากาศทันที
เมื่อเห็นปราณกระบี่ฟันพัดที่นางทุ่มพลังลงไปจนแตกออกมา มือเรียวของเซียวหานถึงกับรู้สึกชาในทันที
นางได้ยินเพียงเสียงของหนักที่ตกลงบนพื้น ก่อนจะมองไปยังร่างที่อยู่ภายใต้ควันด้วยความประหม่า หยวนจุนถือกระบี่ยาว สายตามองมาที่นางอย่างเ็า และร่างกายไม่มีรอยแผลเหมือนดั่งที่นางคิดไว้
“ก่อกวนพอแล้วหรือยัง? ในเมื่อแม่นางเซียวไม่รับน้ำใจ เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าหยวนจุนไร้มารยาทก็แล้วกัน!”
แม้เซียวหานจะรู้ว่าอาวุธระดับิญญาขั้นสองที่อยู่ในมือของหยวนจุนนั้นไม่ธรรมดา แต่นางก็ไม่รู้ที่มาของกระบี่นั้นอยู่ดี ต่างจากมู่เฟิงที่เคยเข้าร่วมการประมูล เขาจึงจำกระบี่โหยวหลงนั้นได้ทันที
เขาถึงกับะโออกมาว่า “กระบี่โหยวหลง! กลายเป็อาวุธระดับิญญาขั้นสองแล้ว!”
เมื่อได้ยินเสียงใของมู่เฟิง หยวนจุนจึงยิ้มออกมา ก่อนจะก้มหยิบกระบี่ยาวขึ้นมาจากพื้นแล้วกล่าวว่า “ตอนนี้มันเป็อาวุธระดับิญญาขั้นสอง และมีชื่อว่ากระบี่หยวนจุน!”
“เป็อาวุธระดับิญญาขั้นสองเหมือนกัน แต่คลื่นพลังบนกระบี่ของเขากลับแข็งแกร่งกว่าพัดของข้าเป็อย่างมาก!” เซียวหานขยับริมฝีปากเล็กน้อยด้วยไม่พอใจ ก่อนจะขว้างคมมีดสีชมพูออกไปอย่างไม่ยอมแพ้
“หลิงซวี!”
คมมีดรูปพระจันทร์เสี้ยวหลายอันเชื่อมต่อกันจนกลายเป็วงล้อขนาดใหญ่ ซึ่งเป็วิชายุทธ์ที่ประกอบกันเป็พัดหลิงซวี
หยวนจุนเหวี่ยงกระบี่ยาวออกไปปะทะกับวงล้อนั้น ทำให้คลื่นพลังและเปลวไฟลุกโชนในอากาศ หากที่นี่มิได้มีพื้นที่ที่ใหญ่พอ เกรงว่าตอนนี้คงถูกทำลายจนหมดสิ้นแล้ว!
“เคร้ง เคร้ง”
เมื่อถูกคมมีดของพัดหลิงซวีที่ยิ่งหมุนยิ่งเร็วเข้าปะทะ ทำให้เกิดเสียงโลหะเสียดสีออกมาจากตัวกระบี่
หยวนจุนขยับฝ่ามือเล็กน้อย ทำให้ลำแสงสีดำห้าดวงพุ่งออกมาจากแหวนมิติ ลำแสงนั้นอ้อมพลังการโจมตีของวงล้อสีชมพู ก่อนจะพุ่งไปยังจุดลมปราณบนร่างกายของเซียวหาน
เมื่อเห็นลำแสงสีดำพุ่งเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว เซียวหานถึงกับหน้าถอดสีในทันที นางพยายามขยับร่างอรชรนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงอาวุธลับทั้งห้าอันที่เป็เหมือนดั่งวิชากระบี่
เซียวหานไม่คิดว่ากระสวยจะเปลี่ยนทิศทางตามการเคลื่อนไหว นางจึงทำได้เพียงหันตัวหลบแล้วขว้างพัดหลิงซวีออกไป ทำให้กระสวยเสวียนหลงสามอันถูกสกัดเมื่ออยู่ห่างจากนางเพียงครึ่งเมตร แต่ลำแสงสองดวงที่เหลือกลับทะลุผ่านหัวไหล่และหน้าอกของนางโดยตรง
“จึก”
เซียวหานรู้สึกชาบริเวณหัวไหล่จึงอดมิได้ที่จะหันไปมอง ก่อนที่อาการมึนงงในตอนแรกจะเปลี่ยนเป็เสียงครวญครางในทันที
กระสวยเสวียนหลงที่ทะลุผ่านหัวไหล่ของนาง ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดรอยเืเท่านั้น แต่ยังทะลุผ่านชุดกระโปรงยาวสีชมพูจนเกิดเป็รูขาดขนาดใหญ่อีกด้วย ตอนนี้เซียวหานจึงรู้สึกสับสนเพราะชุดที่กำลังฉีกขาด
และเมื่อรอยขาดนั้นเริ่มเผยให้เห็นร่องลึกที่หน้าอก เืในร่างกายของเซียวหานจึงพุ่งขึ้นไปยังศีรษะของนางในทันที
การประลองบนเวทีครั้งที่แล้ว นางถูกฝ่ามือของหยวนจุนปะทะเข้าไปที่ด้านหลัง ซึ่งพลังนั้นได้พุ่งออกมาทางด้านหน้าจนทำให้ชุดกระโปรงยาวเป็รูขาดขนาดเท่ากำปั้น
ครั้งนี้ก็เช่นกัน!
เซียวหานเป็ผู้ที่ไม่เคยประพฤติตนเสื่อมเสีย ครั้งที่แล้วหยวนจุนได้มองเห็นอย่างใกล้ชิด และทำให้นางต้องอับอายต่อหน้าผู้คนทั้งสองเมืองไปแล้ว ซึ่งหลังจากนั้นเื่นี้ได้กลายเป็เื่เล่าขำขันในหมู่โรงน้ำชา
แต่ครั้งนี้นางมิได้เผชิญหน้ากับหยวนจุนเพียงผู้เดียว เพราะยังมีมู่เฟิงที่เฝ้าดูอยู่ไม่ห่างด้วย เช่นนี้จะให้นางรับได้อย่างไร?
เซียวหานโมโหเป็อย่างมากจนใบหน้านั้นแดงก่ำ นางตวาดใส่หยวนจุนอย่างรุนแรงว่า “หยวนจุน ข้าจะฆ่าเ้า!”
ปราณกระบี่สีขาวแพร่ออกมาจากกระบี่หยวนจุนอีกครั้งก่อนจะตัดวงล้อสีชมพูนั้นออกเป็เสี่ยงๆ หลังจากนั้นหยวนจุนจึงพุ่งตรงไปยังเซียวหานในทันที
“แม่นางเซียว ข้าเคยบอกเ้าแล้วว่า หากเ้าหาเื่ใส่ตัว เช่นนั้นอย่าโทษข้าแล้วกัน!”
หยวนจุนเผยแววตาอันเยือกเย็นออกมาก่อนจะใช้กระบี่ยาวในมือปล่อยพลังที่แข็งแกร่งออกไป พลังนั้นทำให้เซียวหานกระเด็นออกไปโดยที่ไม่ทันตั้งตัว
ขณะที่กำลังใ นางรีบนำมือเรียวมาปิดไว้ที่หัวไหล่ จากนั้นจึงมองไปทางหยวนจุนที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เขาแสดงท่าทางออกมาเหมือนกับ้าจะปลิดชีวิตนาง
ความจริงแล้วหยวนจุนมิได้คำนึงถึงเซียวหานเลยแม้แต่น้อย และไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเซียวหานจะปิดบังหัวไหล่เพราะาเ็หรือเพราะสาเหตุอื่น
ท่ามกลางสถานการณ์อันตรายนี้ เซียวหานทำได้เพียงขว้างพัดในมือออกไปเพื่อสกัดกระบี่ยาวของหยวนจุน บริเวณหัวไหล่ของชุดกระโปรงยาวขาดเล็กน้อย เผยให้เห็นความลับที่ซ่อนอยู่ภายในทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้