กรุงเทพมหานคร พุทธศักราช 2568
เสียงนกร้องเบา ๆ ยามเช้า คลอเคล้ากับกลิ่นกาแฟหอมกรุ่นที่ลอยฟุ้งอยู่ในห้องทำงานของพริมโรส หญิงสาวเ้าของนิยายรักที่โด่งดังในตอนนี้ เธอเพิ่งส่งต้นฉบับเล่มใหม่ไปเมื่อคืน งานที่ทำให้เธออดหลับอดนอนมาหลายสัปดาห์ในที่สุดก็จบลงเสียที
ในที่สุดเช้าวัน ‘ว่าง’ ที่เธอรอคอยก็มาถึงเสียที วันนี้ทั้งวันเธอตั้งใจจะใช้ไปกับการไหว้พระรอบอยุธยาจังหวัดที่บ้านเกิด เมื่อคิดได้เธอก็รีบเตรียมตัวออกเดินทางในทันที
ถนนระหว่างทางนั้นโล่งตลอดทาง เธอขับรถไปตามเส้นทางที่คุ้นเคยจนแทบไม่ต้องมองป้าย แต่วันนี้กลับรู้สึกแปลก…ราวกลับกำลังถูกดึงให้วิ่งวนกลับมาเส้นเดิมซ้ำ ๆ
“ไม่จริงน่า…ป้ายนั่นผ่านมาหลายรอบแล้วนะ เราไม่ได้ขับวนอยู่ใช่ไหมเนี่ย?” พริมโรสพึมพำอย่างหงุดหงิด ก่อนจะฟุบหน้าลงกับพวงมาลัยพักครู่หนึ่ง ก่อนสูดลมหายใจเข้าเพื่อปรับอารมณ์ให้เย็นลง แล้วค่อย ๆ ออกรถใหม่อีกครั้ง
ครั้งนี้ถนนกลับเปลี่ยนไปเป็ถนนแคบ ๆ ที่เธอไม่คุ้น ทั้งที่จำได้ว่าแถวนี้ไม่น่ามีทางแบบนี้มาก่อน แต่แทนที่จะพาหลง กลับพาเธอไปโผล่หน้าวัดเก่าแก่ขนาดใหญ่วัดหนึ่งที่เธอไม่รู้จัก แต่กลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก
“ที่นี่…วัดอะไรกันนะ ทำไมเหมือนเคยเห็นมาก่อน?” เธอบ่นเบา ๆ ก่อนจอดรถลงมาดู เพราะเดิมเธอก็ตั้งใจจะมาวัดอยู่แล้ว ไหน ๆ มาเจอวัดแปลก ๆ ก็ขอเข้าไปดูหน่อยเพราะนี่อาจเป็โชคชะตาก็ได้
พริมโรสจ้องมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปในวัด ทางเดินทั้งสองข้างมีต้นพิกุลปลูกเรียงราย กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกพิกุลที่ปลิวตามลม ทำให้ความหงุดหงิดของเธอจางลงอย่างน่าแปลก
“ที่นี่สวยจัง…” เธอพูดพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป ภายในวัดกว้างใหญ่แต่ไร้ผู้คน ป้ายชื่อวัดที่ควรมีกลับมีเพียงป้ายไม้เก่า ๆ ที่อักษรเลือนรางจนอ่านไม่ออก
เธอเดินชมรอบวัดไปเรื่อย ๆ จนเท้าพาให้มาหยุดอยู่หน้าเจดีย์เก่าแก่รูปทรงแปลกตา เธอไม่รู้ว่าทำไม…ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกเหมือนมีแรงบางอย่างดึงดูดให้เดินเข้าไปใกล้ทีละก้าว เธอจึงตัดสินใจเดินขึ้นบันไดไปดูด้านใน
เมื่อลอดซุ้มประตูเข้าไปด้านใน ความเงียบสงบก็ห่อหุ้มทันที ราวกับโลกภายนอกถูกตัดขาดไป ความเย็นเยียบของอากาศในเจดีย์ตัดกับอากาศอุ่นด้านนอก ทำให้หัวใจเธอสงบลงโดยไม่รู้ตัว เธอค่อย ๆ คุกเข่าลงหน้าองค์พระประธาน ก่อนจะพนมมือขึ้นช้า ๆ
“ไหน ๆ ก็มาถึงที่นี่แล้ว…” เธอพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ จ้องมององค์พระประธานและตั้งจิตอย่างแน่วแน่
“ตอนนี้เื่งาน หนูก็ถือว่าได้เดินมาถึงจุดที่ดีมากแล้ว...แต่…เื่หัวใจของหนูตอนนี้ยังว่างเปล่าอยู่ หนูอยากเจอใครสักคนที่เข้าใจ…คนที่อบอุ่น อ่อนโยน และพร้อมจะเดินไปกับหนูจริง ๆ ขอให้หนูได้เจอคนคนนั้นด้วยเถิดค่ะ...” พอเอ่ยจบ เธอก็ก้มศีรษะลงกราบอย่างช้า ๆ ราวกลับขอร้องให้ท่านช่วยให้พรที่ขอไปนั้นเป็จริง ทันทีที่เธอยืดตัวลุกขึ้นนั้น สายลมอ่อน ๆ ก็พัดลอดเข้ามาในเจดีย์ ราวกลับเป็การตอบรับคำขอของเธอ
หลังกราบไหว้พระเสร็จ เธอเดินชมวัดรอบ ๆ พร้อมจดบันทึกสิ่งต่าง ๆ ที่เห็น เพื่อเป็พล๊อตเื่นิยายเื่ต่อไป เธอเดินไปเลื่อย ๆ จนไปเจอทางออกขนาดเล็ก ที่จะทะลุไปยังริมแม่น้ำได้
ขณะที่เดินเล่น อยู่ริมแม่น้ำ ก็มีเสียงของผู้หนึ่งทักขึ้น
