ตอนที่เ่ิูยังไม่เข้าสำนักกวางขาว เขาก็ไม่ได้ชอบอะไรหน้าหนาวนัก
เหล่าบุตรชนชั้นสูงสวมเสื้อผ้าหนังทั้งอุ่นและอ่อนโยน ปั้นหิมะเล่นบนพสุธาที่ทับถมด้วยหิมะขาว เสพสุขความสุขีแห่งเหมันต์ แต่ลูกคนยากคนจนนั้นเล่า กลับต้องเข้าทดสอบระหว่างความเป็ความตายในหน้าอันโหดร้ายนี้
เ่ิูเคยผ่านความยากแค้นแสนสาหัส และความอดอยากรุมเร้ามาแล้ว
เขาเคยเห็นกับตาตัวเอง ว่าเด็กชายที่เป็เพื่อนเล่นซนกับเขาเมื่อหน้าร้อน กลายเป็ศพเยือกแข็งเพราะการแย่งชิงและเข่นฆ่าจากความหิวโหยอันหนาวะเื ความฝันและความปรารถนาในอนาคตข้างหน้าพังทลายลงหมดสิ้น...เมื่อพายุหิมะสีขาวเข้า ศพที่เยือกแข็งถูกฝังกลบอย่างไร้หัวใจ
สี่ปีเ่าั้ เ่ิูผู้สูญเสียพ่อแม่ผู้คุ้มครองและถูกทอดทิ้งไม่ไยดี และก็ผ่านหน้าหนาวด้วยความยากลำบากเช่นกัน หากมิใช่เพราะวิชาลมหายใจไร้ชื่อที่บิดาได้ถ่ายทอดไว้ให้ ทำให้เ่ิูสามารถทนความหนาวและกลายเป็ผู้มีกำลังมากแล้วล่ะก็ น้อยคนนักจะให้คำมั่นได้ เ่ิูอาจตายในเหมันต์อันยาวนานเช่นเด็กยาจกมากมายก็เป็ได้
ในเมื่อได้กลายเป็ศิษย์สำนักกวางขาวแล้ว มีพลังแข็งแกร่งยิ่งกว่าเก่า สามารถหลีกหนีความยากลำบากในหน้าหนาวได้ ทว่าเขาก็ยังคงเกลียดมัน
“เพราะว่าหน้าหนาวมันหน้าฆ่าคน!”
เ่ิูถอนใจยาว
่เวลาจิบน้ำชาผ่านพ้นไป หิมะขาวที่ปลิดปลิวลงมาจากฟากฟ้าก็มีแต่จะมากขึ้นเรื่อยๆ หิมะสีขาวยุ่งเหยิงเริ่มปกคลุมปฐีอย่างรวดเร็ว ทิวทัศน์ใกล้ไกลเหมือนพระจันทร์สีขาวทอดตัวเป็ชั้น มีความหนาวจับใจที่ไม่อาจบรรยายเป็คำพูดได้
เ่ิูเกิดนึกอยากกลับไปบ้าน
เขาไม่รู้ว่าฉินหลันกับถังซานจะเตรียมตัวรับฤดูกาลอันยืดยาวนี้ดีแล้วหรือยัง
เ่ิูคิดได้ก็ไม่นึกผลัดวัน
เขาขอลาที่ห้องการเรียนการสอนของปีสอง แล้วเดินออกไป
ระหว่างทางที่ผ่านเขตปีหนึ่งนั้น เ่ิูก็ไปหาหวังเยี่ยนอีกรอบ อยากจะถามเื่ของเด็กน้อย่เี่ิ ทว่าก็ไม่ได้ดังที่คาด หลังจากการแข่งขันใหญ่รอบสุดท้ายจบลงก็ผ่านมาสี่วันเต็มแล้ว การแข่งรอบที่ห้านั้น สำนักกวางขาวแพ้ถล่มทลายตามคาด เพราะปราชัยในการประลองให้กับศิษย์สำนักหงส์ฟ้าถึงสี่คน ความโกรธแค้นทุกเม็ดทุกหน่วยได้ระบายออกมาในศึกรอบสุดท้ายนั้นเอง สำนักกวางขาวพ่ายเละเทะ กระทั่งโอกาสจะฆ่าสักครั้งก็ยังหาไม่ได้
เพียงแต่หลังจากนั้นเป็ต้นมา หัวหน้าหมวดปีหนึ่งหวังเยี่ยนกลับไม่ปรากฏกายในสำนักอีกเลย
เ่ิูถามอาจารย์ปีหนึ่งที่ค่อนข้างคุ้นหน้า ทว่าพวกเขาก็ไม่รู้เช่นกันว่าหวังเยี่ยนไปอยู่ที่ไหน แล้วก็ไม่รู้ว่าควรติดต่อเช่นไร และเื่ของ่เี่ิ พอถามไปก็แทบจะไม่มีใครทราบ
สภาพการณ์เช่นนี้ทำให้เ่ิูกังวลน้อยๆ
เขาคิดพลางมาถึงทวารใหญ่แห่งสำนัก ส่งป้ายขอลาให้ จากนั้นก็ลงนามแล้วเดินออกมาจากประตู คนผู้หนึ่งก็เดินย่างเข้ามา มิใช่หวังเยี่ยนหัวหน้าหมวดปีหนึ่งที่เขากำลังตามหาอยู่แล้วจะเป็ใครไปได้อีก?
เ่ิูไม่นึกเลยว่าจะได้พบกับนางโดยบังเอิญที่นี่จริงๆ
เหมือนเดินทางตามหาแทบคางเหลือง เพื่อมาพบว่าเื่ง่ายดายเกินคาดคิด
กลางลมหิมะนั้น หวังเยี่ยนผู้นี้มีท่าทีอย่างคนเดินทางมาโชกโชน กายเปรอะเปื้อนฝุ่นควัน
ใบหน้านางเหนื่อยล้าและซีดเผือด นั่นยิ่งทำให้เ่ิูแปลกใจเข้าไปใหญ่
ด้วยพลังของหวังเยี่ยน นางบรรลุขั้นสูงมานานนมแล้ว อย่าเอ่ยถึงสำนักกวางขาวเลย หากจะจัดอันดับในเมืองลู่ิทั้งนคร นางก็ติดหนึ่งในสิบ เป็ยอดฝีมืออย่างไม่ต้องสงสัย กำลังภายในนางเข้มแข็งเกรียงไกร พลังชีวิตเต็มเปี่ยม ไอเือบอวล ต่อให้ต้องต่อสู้ติดต่อกันสิบวันสิบคืน ก็ไม่มีทางแสดงอาการเหนื่อยล้าใดๆ เด็ดขาด แต่ไฉนในเวลาสั้นๆ แค่ห้าวันถึงได้เป็สภาพนี้ได้ เกิดเื่อะไรขึ้นกันแน่นะ?
ยามเดียวกันนั้น หวังเยี่ยนก็มองเห็นเ่ิู
เพียงมองแวบเดียวก็รีบเดินเข้ามาแตะบ่าเขา
เ่ิูหันหน้าจะเอ่ยอะไร พลันได้ยินเสียงของหวังเยี่ยนดังชัดเจนข้างใบหู “ข้ารู้ว่าเ้าจะถามอะไร เสี่ยวจวินไม่เป็อะไร เพียงแค่เกิดเหตุเล็กๆ นิดหน่อยกับร่างกายนาง เร็ววันนี้ในเมืองอาจเกิดเื่ใหญ่ขึ้น จำไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เ้าต้องรักษาตัวไว้ก่อน เื่อื่นไว้ทีหลังเสมอ ให้ตายก็อย่าย่างกรายเข้ามา...เื่ที่อยากพบแม่ตัวเล็ก สามวันต่อจากนี้ จงมาหาข้าที่เขตทักษิณ”
ส่งเสียงดั่งความลับ
ใช้กำลังภายในอันมากมายนั้นสอดแทรกเข้าวิชาอักขระลับผนึกเสียงไว้เป็เส้นสาย ควบคุมได้อย่างอิสระ สุดท้ายก็จะเข้าไปในใบหูโดยเฉพาะ คนอื่นไร้สิทธิ์ได้ยิน...นี่เป็เื่ที่ยอดฝีมือเท่านั้นจึงจักทำได้ อย่างน้อยที่สุดเ่ิูที่อยู่อาณาน้ำพุิญญาขั้นสามยังไม่อาจทำได้
เสียงเงียบลง หวังเยี่ยนอันตรธานไปจากหน้าประตูสำนัก
หิมะตกลงมากว้างขวาง แต่ไร้ซึ่งเงาของนาง
เ่ิูนิ่งเล็กน้อย ท้ายสุดก็ไม่หันหลังกลับ แล้วก็ไม่ได้มีสีหน้าเปลี่ยนแปลงอะไรแสดงออกมา เขายังก้าวเดินต่อไปไม่หยุดกลางลมหิมะ เดินตรงสู่เขตอุดรของเมือง ร่างกายปกคลุมด้วยหิมะขาว ไม่ได้แตกต่างอะไรกับคนอื่นๆ ที่เดินสวนทางไปมา
แต่ใจเขานั้นเล่า มันตกตะลึงถึงที่สุด
คำของหวังเยี่ยนสั้นนัก แต่กลับสื่อความหมายมากมาย ก่อนอื่นนางก็เหมือนกับจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกอิทธิพลบางอย่างกำลังสอดแนม ดังนั้นจึงบอกความนี้กับเขา และเื่ปัญหาที่ปรากฏบนร่าง่เี่ินั้นด้วย ดังนั้นถึงไม่ได้เผยตัวออกมาเลย ในที่สุด หวังเยี่ยนก็บอกว่าในเมืองจะเกิดเื่ใหญ่...
เหมือนกับเป็เื่สำคัญที่สุด
จะเป็เื่ใหญ่เช่นไรกัน?
ถึงขั้นทำให้หวังเยี่ยนกลัวได้?
เ่ิูฉงนอย่างถึงที่สุด ทว่าก็มิได้แสดงสีหน้าหรือส่งเสียงใด เขาเดินทางมาจนถึงคฤหาสน์ตระกูลเย่แห่งเขตเหนือ
ไม่ทันไรก็มีคนรับใช้รายงานขึ้นไป ตอนเ่ิูเดินมาถึงห้องโถง ฉินหลันและเสียวฉ่าวก็ออกมาต้อนรับสีหน้าเปี่ยมสุขกันแล้ว สองนางดูดีกว่าคราวก่อนนัก บรรยากาศในคฤหาสน์ตระกูลเย่ก็ผ่อนคลายน่าอภิรมย์ขึ้นโข
“พี่ชิงหยู ท่านกลับมาแล้ว เสียวฉ่าวคิดถึงพี่”
เด็กหญิงกระโจนเข้าหาเ่ิู
เด็กหนุ่มเพียงลูบหัวนางอย่างคุ้นเคยพลางหัวเราะ “ฮ่าๆ องค์หญิงน้อยของพวกเรานับวันจะยิ่งสวยขึ้นแล้ว แต่ว่าทำไมวันนี้ไม่ไปฝึกซ้อมวรยุทธ์ให้คล่องเสียเล่า? เสียวฉ่าวี้เีเสียแล้วหรือนี่?”
“ไม่ใช่หรอก พวกอาจารย์ชมข้าว่ามีพร์ ยกระดับขั้นได้ไวมาก วันนี้ข้าขอลาท่านอาจารย์มาเป็พิเศษ เพื่อมาฉลองวันเกิดแม่น่ะสิ” เสียวฉ่าวแลบลิ้นแล้วหัวเราะฮิๆ “พี่ชิงหยู ท่านเองก็กลับมาเพราะจะฉลองวันเกิดท่านแม่ใช่ไหมล่า เฮยๆ ของขวัญวันเกิดของท่านล่ะ?”
เ่ิูชะงักไป เขาพลันรู้ตัวว่าวันนี้คือวันเกิดของฉินหลัน
“พอแล้ว เสียวฉ่าว เ้าอย่าซักไซ้พี่ชิงหยูให้มากนักเลย เ้าเองก็เป็เด็กผู้หญิง สำรวมกิริยาหน่อยสิลูก...” ฉินหลันแย้มยิ้มเปี่ยมเต็มด้วยความสุข หลายวันมานี้นางหลับฝันถึงแต่ฝันดีทั้งนั้น เมื่อชีวิตพลิกผันชนิดดินสู่ดาว ได้มองเสียวฉ่าวใช้ชีวิตอย่างไม่ลำบากหรือมีสิ่งใดกวนใจ สำหรับคนเป็แม่แล้ว ไร้สิ่งใดเทียบเคียงความยินดีตอนนี้ได้
เมื่อมาถึงโถงใหญ่ เอ่ยสองสามประโยคก็ได้ยินเสียงเล็ดรอดมาจากภายนอก
กลับเป็ถังซานนั่นเองที่รีบรุดกลับมา
“นายท่าน ท่านกลับมาแล้ว” ถังซานเดินเข้ามา ค้อมเคารพเขากลั้วหัวเราะ “ข้ากำลังตรวจสินค้าคงเหลือในโรงเหล็กเหลียนเฟิงอยู่พอดี น้าหลันก็ส่งคนมาตามข้า บอกว่านายท่านกลับคฤหาสน์แล้ว ข้าถึงได้รีบมาขอรับ...”
เ่ิูเตะเด็กหนุ่มไปทีหนึ่งอย่างไม่พอใจ เขาว่า “นายท่านอะไรกัน ข้าเพียงสิบสี่เอง พูดอย่างกับข้าอายุเจ็ดแปดสิบเสียแล้ว เ้าหนูน้อยเช่นเ้านับวันน้ำคำจะยิ่งไหลรั่ว เห็นทีข้าต้องพิจารณาใหม่อีกสักครั้ง ว่าการให้เ้ารับตำแหน่งหัวเรือใหญ่ภายนอกคฤหาสน์นี่คงไม่ใช่การตัดสินใจที่ถูกที่ควรสักเท่าไร”
ถังซานรีบอ้อนวอนขอ “นายท่าน ข้าสำนึกผิดแล้วขอรับ”
คนในโถงใหญ่หัวเราะกันเป็พัลวัน
ผ่านหลายวันมานี้ คนมากมายล้วนเข้าใจนิสัยของถังซานดี นอกจากปากจะอยู่ไม่ค่อยสุกแล้ว นิสัยส่วนตัวนับได้ว่าดีมาก กระทำการใดก็ตามล้วนทำอย่างจริงจัง มีความคิดและศักยภาพที่มั่นคงยิ่งนัก
หลังเื่มธุรส์ผ่านพ้นมา โรงเตี๊ยม ทิงเทาซวน เมี่ยวอวี้ ร้านฝูหรง เป็ต้น ก็กลับคืนเป็กิจการของตระกูลเย่อีกครั้ง ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็เรียกได้ว่าเสียหายอย่างหนัก ถึงจะเป็นายใหญ่ที่ประสบการณ์เหลือล้น ก็ยังต้องใช้กำลังกายและจิตใจอย่างมากจึงจักจัดการทุกอย่างให้ราบรื่นไปได้ ถังซานเป็เพียงแค่เด็กหนุ่มคนหนึ่งเท่านั้น ไม่เคยมีประสบการณ์ใดมาก่อน แต่ว่ากลับประคองมาหลายวันหลายคืนชนิดไม่ได้นอนจนทุกอย่างเข้าที่
ว่ากันตามจริง การที่เ่ิูมอบหมายงานนี้ให้คนในอาณัติทำ ถึงจะมีสิทธิ์จัดการเื่ใหญ่น้อยของตระกูลได้ครบ การยกให้ถังซานคนใหม่ผู้ประสบการณ์เป็ศูนย์ทำนี้ หากเปลี่ยนเป็คนนอกทำแทน น่ากลัวว่าจะต้องเสียเงินมากมายเพื่อเชิญให้ผู้ใหญ่เปี่ยมประสบการณ์มาจัดการเื่พวกนี้แล้วกระมัง
และถังซานเองก็เป็บุรุษหนุ่มไฟแรงด้วย
เขารู้ดีว่าโอกาสเช่นนี้มีมาไม่ง่าย การตรากตรำทำงานไม่ได้นอนมาหลายวัน ถ้านอนก็อย่างมากวันละไม่เกินสิบห้านาที วิ่งวุ่นอยู่กับกิจการ ใช้พลังใจนับไม่ถ้วนไปกับงานนี้ จนเื่ราวราบรื่นในท้ายสุด วันนี้เองก็เพิ่งไปตรวจสินค้าคงเหลือในโรงเหล็กเหลียนเฟิงให้แน่ใจ ฉินหลันก็ส่งคนมารายงานเ่ิูกลับมาแล้ว
“นายท่านขอรับ บัญชีทุกอย่างอยู่ที่ข้าแล้ว ตอนที่ท่านอยู่คราวก่อน บัญชียังไม่เรียบร้อยทั้งหมด คราวนี้ข้าทำจนราบรื่นแล้ว แล้วยังเื่ปรับคนในกิจการใหญ่ๆ ข้าเองก็จดบันทึกไว้หมดแล้ว มีบางจุดที่ยังต้องให้ท่านพิจารณาอยู่ขอรับ...”
ถังซานพูดเล่นจบแล้วก็เริ่มจริงจังขึ้นมา
เ่ิูทึ่มไปเลย
“ไอ้หยา คราวหน้าเื่พวกนี้อย่าเอามารายงานข้าเลย” เ่ิูลูบขมับอย่างกลัดกลุ้ม เขาหยุดพักหนึ่งแล้วว่าต่อ “เื่ที่ต้องให้ข้าพิจารณานั่นให้ฉินหลันทำก็พอแล้ว หรือไม่ก็เสียวฉ่าว”
ถังซานว่า “แต่...”
“เอาล่ะๆ ตอนนี้อย่าเพิ่งพูดเื่อื่นเลย วันนี้เป็วันเกิดน้าหลันนี่ พวกเราต้องจัดงานให้นาง” เ่ิูปัดมือแล้วรีบเปลี่ยนเื่อย่างไวที่สุด “พูดถึงแล้ว นี่ก็เป็ครั้งแรกที่ข้าจะอวยพรวันเกิดน้าหลัน ต้องทำให้อลังการสักหน่อย เ้าซาน มีข้อเสนออะไรดีๆ บ้างไหม?”
ถังซานเบิกตาหัวเราะ “ข้าผู้น้อยเตรียมจะทำมานานแล้วขอรับ สุดท้ายน้าหลันก็ไม่อนุญาต บอกว่าอยากให้เื่ในคฤหาสน์รื่นไหลอีกหน่อย นายท่านยังต้องเข้าเรียนในสำนักกวางขาว ต้องใช้ค่าใช้จ่ายมาก ทำให้พวกเราต้องประหยัด ห้ามผลาญเงินไปกับเื่วันเกิดเช่นนี้ได้ ฮ่าๆ ตอนนี้เมื่อท่านพูดกับปากเองแล้ว เช่นนั้นก็โปรดวางใจเถอะขอรับ เ้าซานจะทำให้ออกมางดงามเอง”
ฉินหลันยืนร้อนรนอยู่อีกทาง “เสี่ยวหยู ไม่ต้องจริงๆ นะ คฤหาสน์เพิ่งจะเข้าที่เข้าทาง...”
เ่ิูปัดมือ “น้าหลันท่านอย่าลังเลเลย ก็เป็เพราะคฤหาสน์เราเพิ่งสงบเรียบร้อยไม่นานนี่แหละ ถึงต้องใช้เื่น่ายินดีเช่นนี้ช่วยให้ทุกคนผ่อนคลายเสียบ้าง...ฮ่าๆ น้าหลันท่านฟังข้า เื่นี้ให้เป็ตามนี้เถิด”
“ฮู้ พี่ชิงหยูท่านใจดีเหลือเกิน” เสียวฉ่าวดีใจจนแทบะโ
ฉินหลันเองก็ไม่ต่อปากต่อคำ นางเพียงกำชับถังซานด้านข้างอย่างสุดตัว ว่าอย่างไรก็อย่าสิ้นเปลืองจนเกินไปนัก
เ่ิูเผยยิ้มเปี่ยมอารมณ์
นี่เองอาจเป็สาเหตุอย่างหนึ่งที่เขาเกิดอยากกลับคฤหาสน์กะทันหันกระมัง มีเพียงอยู่ที่นี่เท่านั้น เขาถึงรู้สึกถึงความห่วงใยเฉกเช่นครอบครัวพึงมี ความอบอุ่นอันคุ้นเคย สำหรับเ่ิูผู้สูญเสียทั้งบิดาและมารดาแล้วนั้น มีเช่นนี้เท่ากับมากเหลือเกินแล้ว
ถังซานเดินรี่ออกไปทำงานด้วยรอยยิ้ม
บัดนั้นเอง ที่อสนีบาตดังกัมปนาทผ่านอกโถงใหญ่ แสงสีเงินส่องสกาวอาบเคลือบทั้งนครลู่ิ เมฆาทะมึนถูกดันให้หลีกทาง พลังงานไร้รูปร่างหวั่นไหวและม้วนใต้หล้าไว้ในอาณัติ
จากนั้นเคหาสน์ตระกูลเย่ก็สั่นะเืเลือนลั่น
“เกิดอะไรขึ้น? ัพิภพพลิกกายหรือ?”
“รีบออกจากคฤหาสน์เร็ว ห้องใกล้ถล่มลงแล้ว...”
คนทุกคนล้วนแตกตื่นจนหน้าซีดเผือด ห้องโถงใหญ่สั่นไหวรุนแรง ฝุ่นผงสาดเทลงมา เสาเอกทิศตะวันตกมีรอยแตกร้าว
เ่ิูเคลื่อนไหวเร็วดั่งเงา กระตุ้นกำลังภายใน พาฉินหลัน เสียวฉ่าวและอิสตรีห้าหกคนในโถงที่ใจนอึ้งออกไป
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้