ขณะที่ผู้เล่นเริ่มหลั่งไหลเข้าสู่นครัคราม หลิงเฉินก็ใช้เวลานี้ในการขี่ม้า
ถัดจากที่ราบไปคือเขตป่าูเาเขตป่าูเานั้นเต็มไปด้วยมอนสเตอร์หลากหลายประเภทั้แ่เลเวล 20 ถึง 30 และยังมีกับดักอีกสารพัดถูกซ่อนเอาไว้มันจึงอันตรายมากกว่าที่ราบ ถัดจากเขตป่าูเาก็เป็เมืองขนาดกลาง ใน ‘เสินเยว่’นอกเหนือไปจากเมืองหลวงและเมืองหลักแล้ว ยังมีเมืองขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็กรวมทั้งหมู่บ้านอีกนับไม่ถ้วนเมืองซึ่งอยู่ภายนอกเมืองหลวงเหล่านี้จะขายม้วนคัมภีร์กลับไปยังเมืองเ่าั้เพราะเมืองเหล่านี้ไม่เพียงแต่ซ่อนเควสลับน้อยใหญ่ไว้มากมาย แต่มันยังจัดหาเสบียงต่างๆไว้ให้ด้วยนอกจากนี้การใช้ม้วนคัมภีร์กลับมาที่เมืองเหล่านี้ยังทำให้การเดินทางรวดเร็วขึ้นดังนั้นทุกๆ เมืองที่หลิงเฉินผ่าน เขาจึงหยุดซื้อม้วนคัมภีร์กลับเมืองหลังจากนั้นเขาจะค้นหา NPCเพื่อถามเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดในการไปที่‘สันเขาิญญาไร้เสียง’
เควสลับนั้นไม่ได้ยากไปซะทีเดียวอย่างไรก็ตามการเริ่มต้นของเควสนี้ก็ยากแล้วการเดินทางจากนครัครามมาทางทิศตะวันออกถึง 200กิโลเมตร หากคุณวิ่งเพียงอย่างเดียวคุณจะไม่ใช่แค่วิ่งเป็ระยะเวลาอันยาวนานเท่านั้นแต่ยังมีมอนสเตอร์อีกนับไม่ถ้วนตามเส้นทาง และ่หลังของการเดินทางมอนสเตอร์จะมีเลเวลที่สูงขึ้น ความพยายามที่จะผ่านอาณาเขตของมอนสเตอร์เลเวลสูงๆทั้งหมดนี้โดยปลอดภัย และไปถึงจุดหมายของเควสนั้นไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นทั่วๆไปจะสามารถทำได้
ม้าของหลิงเฉินวิ่งโดยไม่หยุดพักวิ่งั้แ่ตอนเย็นมาจนถึง่เช้าตรู่ เขารู้ดีว่ายิ่งเขาไปทางทิศตะวันออกมากเท่าไรจำนวนเมืองและปริมาณของผู้คนก็จะเบาบางลงมากขึ้นตอนนี้เขาอยู่ที่พื้นที่รกร้างแห่งหนึ่งเทือกเขาทั้งใหญ่ทั้งเล็กเรียงรายกันอย่างยุ่งเหยิงการวิ่งขึ้นูเานั้นยากกว่าการออกมาจากนครัครามพอสมควร นอกจากนี้ยังเห็นได้ชัดว่าสถานที่แห่งนี้เป็สถานที่ที่เหมาะสมในการพบเจออสูรทุกประเภทดังนั้นบนทางเส้นนี้ หลิงเฉินจึงไม่เคยลดการป้องกันของเขาลงและให้ความสนใจกับสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเขาอยู่ตลอดเวลา ด้วยเลเวล 13 นี่เป็เลเวลสูงสุดในหมู่ผู้เล่นแม้ว่าเขาจะไม่ได้เก็บเลเวลเป็เวลา 3 วัน ก็ไม่มีใครสามารถไล่ตามได้ทว่าทั่วทั้งทวีปหลงลืมนี้ ความแข็งแกร่งของเขานั้นอยู่ต่ำสุดอย่างแน่นอนและในสถานที่สุดอันตรายแห่งนี้มอนสเตอร์ตัวใดก็ตามที่ะโเข้าใส่เขานั้นสามารถฆ่าเขาได้
เมื่อก้าวออกจากอาณาเขตของ ‘เสือดำเขี้ยวโลหิต’ เลเวล 45 หลิงเฉินได้มาถึงพื้นที่ปลอดภัยก่อนที่เขาจะหยุดลงในที่สุด ในตอนที่เขากำลังจะออฟไลน์เสียงของอุปกรณ์สื่อสารก็ดังขึ้น แล้วเสียงของหยุนเฟิงก็ดังออกมา
“ฮ่าๆ หลิงเฉิน! นายได้ยินไหม? ผมใช้เวลาอย่างเต็มที่ตลอดทั้งคืนเพื่อเพิ่มเลเวลและตอนนี้ในที่สุดผมก็มาถึงนครัครามแล้ว ตอนนี้ผมอยู่ที่จัตุรัส…บ้าเอ้ย จำนวนของผู้เล่นที่นี่ช่างน่ากลัวหอเปลี่ยนอาชีพก็แออัดยัดเยียดไปหมด โอ้ใช่แล้ว นายอยู่ที่ไหนเหรอ? น้องสาวของผมอยู่ที่นี่ั้แ่เมื่อคืนและได้เปลี่ยนอาชีพเรียบร้อยแล้ว ผมจะพานายไปพบเธอดีไหม? ถ้าเธอพบว่าผู้ช่วยเหลือที่ผมหามาให้เธอเป็นายเธอจะต้องทั้งตื่นใและดีใจแน่ๆ”
“น้องสาวของนาย้าสร้างกิลด์ที่ชื่อว่า ‘ความฝันของหัวใจ’ใช่ไหม?” หลิงเฉินตอบกลับ
“ใช่แล้ว”
“มีคนอยู่ในกิลด์กี่คน?”
“เอ่อ…แค่กๆ...ความจริงแล้ว ‘ความฝันของหัวใจ’จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้จัดตั้งขึ้นเลยมันยังไม่ได้จัดตั้งขึ้นมาในเกมมาก่อนเลย ดังนั้นจึงไม่มีสมาชิกแกนหลักต้องมาถึงนครัครามเท่านั้นก่อนจึงจะเริ่มบุกเบิกได้ และใน่แรกมันจะเป็แค่กิลด์ในรูปแบบที่เล็กที่สุดเท่านั้น เป็รูปแบบของสตูดิโอแล้วมันจะค่อยๆ เติบโตขึ้น เวลานี้เมื่อรวมนายเข้าไปด้วยแล้วก็มี…ห้าคน”
หลิงเฉิน “...”
“อ่า ผมรู้ว่าตัวเลขนี้มันน่าใเหมือนกัน แต่...เอ่อไม่ว่าอย่างไร ผมก็นั่งอยู่เฉยๆ ไม่ได้ นี่เป็การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเธอและผมรู้ว่าเธอเป็อย่างไร แม้มันจะดูเหมือนเป็ไปไม่ได้แต่เธอยังคง้าที่จะลอง…เธอพูดว่า แม้ว่ามันจะน้อยนิดจนแทบจะมองไม่เห็นแสงแห่งความหวังแต่มันก็ยังมีความหวัง นั่นหมายความว่ายังมีความเป็ไปได้อยู่รางๆดังนั้นถ้าหากนายไม่กล้าแม้แต่จะพยายามและยอมแพ้นั่นจะเป็เื่เศร้าอย่างแท้จริงเลยนะ”หยุนเฟิงถอนหายใจหลายครั้งจากสิ่งที่เขาพูด และสิ่งที่เขาทำ หลิงเฉินสามารถรู้สึกได้ถึงความรักของเขาที่มีต่อน้องสาวเหมือนกับที่เขารักสุ่ยรั่ว
หลิงเฉินเงียบไปชั่วขณะ จากนั้นจึงพูดขึ้น “นี่คือเหตุผลที่เธอบอกเหรอ?”
“ใช่”
ในเวลานั้นหลิงเฉินก็ได้รับรู้ถึงความปราถนาของคนที่ชื่อ ‘หยุนเมิ่งซิน’อย่างน้อยนิสัยที่แน่วแน่ของเธอก็มีความคล้ายคลึงกับเขาอย่างมาก
“ฉันพึ่งมาถึงนครัครามเหมือนกันและยังมีธุระอีกมากที่ต้องไปทำคงใช้เวลาอีก 1-2 วันเพื่อให้ทุกอย่างเข้าที่ นอกจากนี้ฉันยังมีงานที่ต้องทำให้สำเร็จสำหรับเื่การพบกับเธอ ผมจะคุยกับนายถึงเื่นี้อีกทีใน 1-2 วันนี้”หลิงเฉินกล่าวเนื่องจากสุ่ยรั่ว เขาจะต้องช่วยหยุนเมิ่งซินอย่างแน่นอนและเพื่อเติมเต็มความหวังของหยุนเฟิงแต่การช่วยเหลือเด็กสาวซึ่งไม่มีอะไรเลยภายในสองวัน นี่เป็สิ่งที่ยากลำบากอย่างแท้จริง
“ไม่มีปัญหา! เมื่อนายว่างก็แค่ติดต่อมา! โอ้ใช่แล้วทะยานเมฆานั่น…”
พรึ่บ!
หลิงเฉินวางสายและออฟไลน์เพื่อไปทำอาหารเช้าให้กับสุ่ยรั่ว
่บ่าย ณ เมืองแห่งความสงบสุข
ตามที่เ้าเมืองนครัครามพูดไว้เมืองแห่งความสงบนั้นอยู่ใกล้กับสันเขาิญญาไร้เสียงมากที่สุดถ้าตรงไปทางทิศตะวันออกไปเรื่อยๆ คุณจะไม่พบใครอีกเลย เพราะในระยะทางไม่ถึง 15 กิโลเมตรนั้นเป็ ‘อาณาเขตภูตผี’ ที่ทุกคนหวาดกลัวถัดจากอาณาเขตภูตผีคือสันเขาิญญาไร้เสียงสถานที่นี้ไม่เคยมีใครที่เข้าไปแล้วมีชีวิตรอดกลับออกมาบอกเล่าเื่ราวชื่อของเมืองแห่งความสงบสุขนั้นก็มาจากความจริงที่ว่าหมู่บ้านแห่งนี้ใช้เป็สถานที่สวดมนต์เพื่อความสงบสุขเนื่องจากมันอยู่ใกล้กับสถานที่อันตรายเช่นนี้ดังนั้นพวกเขาจึงอดไม่ได้ที่จะกังวลว่าหายนะนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา
เมื่อมาถึงเมืองแห่งความสงบสุขก็หมายความว่าเขาเข้าใกล้สันเขาิญญาไร้เสียงมากๆ แล้ว
พูดอย่างตรงไปตรงมาหลิงเฉินไม่ได้ใช้เวลาในการเพิ่มเลเวลอีกต่อไปแต่เขากระหายในการมาที่นี่อย่างแท้จริง เหตุผลหลักๆคือการรวบรวมข้อมูลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็ไปได้จากนั้นเขาจะได้มีเวลาในการเตรียมตัวที่เพียงพอความแข็งแกร่งของเขาเมื่อเทียบกับผู้คนของทวีปหลงลืมทั้งหมดแล้วอยู่ในระดับที่ต่ำที่สุดของที่สุดผู้เล่นเลเวลสูงมากมายจากทวีปหลงลืมไม่ได้มีชีวิตรอดกลับมาหลังจากการเข้าไปที่สันเขาิญญาไร้เสียงเขาไม่สามารถหาเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงดีกว่าพวกเขาเ่าั้ได้
เมืองแห่งความสงบสุขเป็เมืองเล็กๆ ทั่วทั้งเมืองมีผู้คน 200-300 คนเท่านั้น แต่ร้านค้านั้นมีทุกสิ่งทุกอย่างแต่นอกเหนือจากเมืองหลวงแล้ว ร้านขายอุปกรณ์ของเมืองอื่นๆล้วนแล้วแต่ไม่ได้ขายคริสตัลพลังงานเห็นได้ชัดว่าการขายคริสตัลเป็สิทธิของเมืองหลวง
“สวัสดีครับคุณลุงผมจะไปที่สันเขาิญญาไร้เสียงได้ยังไงครับ?”ที่อยู่อาศัยของเมืองแห่งความสงบสุขนั้นแทบจะปิดประตูทุกหลังและไม่ค่อยเห็นผู้คนเดินผ่านไปมา หลิงเฉินไม่ได้เจอใครง่ายๆ เลยดังนั้นเขาจึงเดินตรงไปถามคำถามของเขาอย่างรวดเร็ว
“โอ้ จากที่นี่ไปทางเหนือประมาณ 15 กิโลเมตร…อะไรนะ!?เ้า้าไปที่สันเขาิญญาไร้เสียงงั้นเหรอ?” ชายหนุ่มวัยกลางคนตอบพร้อมกับท่าทางใและหยุดอย่างรวดเร็ว “หนุ่มน้อย เ้าต้องเป็นักผจญภัยแน่ๆ? อย่าได้ไปที่สันเขาจิติญญาไร้เสียงนั่นเลยที่นั่นเป็สถานที่แห่งความตาย ไม่มีใครไปที่นั่นแล้วกลับมาโดยที่ยังมีชีวิต!ข้าอาศัยอยู่ที่นี่มาเป็เวลาหลายปีแค่การคิดถึงชื่อของสันเขาิญญาไร้เสียงก็ทำให้ข้ารู้สึกหนาวสั่นแล้วอย่าไปที่นั่นเลย!”
ความกลัวบนใบหน้าของชายวัยกลางคนไม่ได้เสแสร้งแม้แต่น้อยในฐานะที่เป็เมืองที่อยู่ใกล้กับสันเขาิญญาไร้เสียงมากที่สุดแม้แต่ชื่อก็กระตุ้นให้เกิดความกลัว ใครๆก็คงจินตนาการได้ว่าสถานที่แห่งนั้นน่าสยดสยองขนาดไหน หลิงเฉินเอ่ยถาม “ทำไมสถานที่นั้นถึงน่ากลัวขนาดนั้นล่ะครับ? มีมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งสุดๆ อยู่ภายในนั้นเหรอครับ?”
“เอ่อ ไม่มีใครรู้จริงๆ หรอกนะ” ชายวัยกลางส่ายหัวของเขา “ด้านหน้าของสันเขาิญญาไร้เสียงคืออาณาเขตภูตผีภายในอาณาเขตภูตผี มันล้อมรอบไปด้วยหมอกกร่อนิญญาภายในหมอกนั้นยังมีฝูงของซอมบี้และิญญาที่น่าสยดสยองอยู่ด้วยใครก็ตามที่เข้าไปใกล้จะเริ่มสับสน และร่างกายของพวกเขาจะรู้สึกอ่อนแอบรรพบุรุษของพวกเรากล่าวไว้ว่า สถานที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยหมอกกร่อนิญญาจำนวนมหาศาลที่ถูกปลดปล่อยออกมาโดยเหล่าอันเดดซึ่งสามารถกลืนกินชีวิตของมนุษย์ได้...”
“...หมอกกร่อนิญญาในอาณาเขตภูตผี แม้ว่ามันจะน่ากลัวแต่มันสามารถเตรียมพร้อมก่อนได้ มันไม่ได้ไร้ซึ่งความหวัง เมืองของเราอยู่ห่างจากอาณาเขตภูตผีเพียง2-3 กิโลเมตร และบางครั้งหมอกกร่อนิญญาก็ยังมาถึงที่นี่ดังนั้นหมู่บ้านแห่งนี้จึงได้พัฒนาวิธีการต่อต้านหมอกกร่อนิญญาเมื่อนานมาแล้วแต่ถึงอย่างนั้น เมื่อเ้าผ่านอาณาเขตภูตผีไป แล้วเข้าสู่สันเขาิญญาไร้เสียงเ้าจะหายสาบสูญไปจากพื้นโลกใบนี้และไม่มีวันกลับมาอีก หนุ่มน้อยเ้าต้องเป็นักผจญภัยที่มาจากโลกอื่นใช่ไหม?ไม่อย่างนั้นเ้าต้องรู้เกี่ยวกับความน่ากลัวของสันเขาิญญาไร้เสียงว่ามันเป็ที่ทราบกันดีทั่วทั้งทวีปหลงลืมว่าเป็พื้นที่หวงห้ามและน่ากลัวที่สุดอย่าไปที่นั่นเลย”
หมอกกร่อนิญญา?
หลิงเฉินผงกหัว “ตอนนี้ผมรู้แล้ว ขอบคุณสำหรับคำบอกเล่านะครับโอ้ใช่แล้ว คุณลุงพูดเกี่ยวกับวิธีการต่อต้านหมอกกร่อนิญญาใช่ไหม มันคืออะไรครับ?”
“อ้อ นั่นเป็อาหารสูตรพิเศษของเมืองเราหลังจากกินมันเข้าไป เ้าจะสามารถบรรเทาผลกระทบของหมอกกร่อนิญญาและมันยังอร่อยมากด้วย ข้าเคยกินมันเมื่อหลายปีก่อน และข้ายังคงกินไม่พออาหารสูตรพิเศษนี้มีขายอยู่ทั่วทุกที่ ข้าเชื่อว่าหลังจากเ้าได้ลองมันเ้าจะเข้าใจว่ารสชาตินี้อร่อยราวกับขึ้นสรวง์!” ชายวัยกลางคนชี้ไปที่ประตูที่ปิดอยู่และกล่าวด้วยท่าทางของความพึงพอใจบนใบหน้าของเขาดูเหมือนว่าเขาจะสามารถลิ้มรสมันได้เพียงแค่คิด “รสชาติที่อร่อยราวกับขึ้นสรวง์”
หลิงเฉินจดจำตำแหน่งของของบ้านหลังนั้นไว้ และถามต่อ “ที่สันเขาิญญาไร้เสียงมีพืชที่ชื่อว่า ‘หญ้าเปลวเพลิงทมิฬ’ไหมครับ?”
ชายวัยกลางคนผงกหัว “ในบันทึกโบราณของสันเขาิญญาไร้เสียงมีถ้อยคำเกี่ยวกับ‘หญ้าเปลวเพลิงทมิฬ’อยู่แต่นับั้แ่สันเขาิญญาไร้เสียงกลายเป็สถานที่ถูกปิดตาย ก็ไม่มีใครรู้ว่า ‘หญ้าเปลวเพลิงทมิฬ’ยังคงอยู่ที่นั่นหรือไม่พูดถึงเื่นี้แล้ว ่หนึ่งก่อนหน้านี้มี 2-3 ปาร์ตี้กำลังตามหา ‘หญ้าเปลวเพลิงทมิฬ’พวกเขาไม่ฟังคำเตือนของข้าและไปยังสันเขาิญญาไร้เสียง จนกระทั่งถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่ได้กลับมาพวกเขาต้องกลายเป็อันเดดไปแล้วแน่ๆ หนุ่มน้อย จำคำของข้าไว้ อย่าไปที่นั่นสถานที่แห่งนั้นน่ากลัวมากกว่าสิ่งที่เ้าจะสามารถจินตนาการได้”
หลังจากคุยกับชายวัยกลางคนหลังเฉินก็ยังคงอาศัยอยู่ในเมืองแห่งความสงบสุขอีกนานทุกครั้งที่เขาเห็นผู้คนของเมืองนี้ เขาจะตรงเข้าไปถามคำถามกับพวกเขาแต่เขาก็ไม่ได้รับข้อมูลที่เป็ประโยชน์ใดๆ อีก การได้ยินคำว่า ‘สันเขาิญญาไร้เสียง’ ก็ทำให้เกิดความหวาดกลัวแล้วจากนั้นพวกเขาจะพยายามหยุดเขาไม่ให้ไปที่นั่น หลิงเฉินหยุดความพยายามที่จะถามและไปที่บ้านของชายวัยกลางคน เขาเปิดประตู แล้วไอร้อนๆ สีขาวก็พ่วยพุ่งออกมา
“เป็ยังไงบ้าง นักผจญภัยจากดินแดนที่ห่างไกลมาดื่มด่ำกับอาหารสูตรพิเศษของพวกเราสิ และเพลิดเพลินไปกับความเย็นฉ่ำที่จะไหลผ่านร่างของเ้าข้าเชื่อว่าหลังจากเ้าได้ลองมัน เ้าจะเข้าใจถึงรสชาติที่อร่อยราวกับขึ้น์!และแม้กระทั่งปรารถนาที่จะอยู่ที่นี่ตลอดไปมีชีวิตอยู่ด้วยรสชาติอันน่าอัศจรรย์นี้”ชายชราร่างผอมซึ่งกำลังถือชามใบใหญ่กล่าวด้วยรอยยิ้มกว้าง
...อาหารนี้คืออะไร?มันเป็อาหารที่ดีขนาดนั้นเลยเหรอ? หลิงเฉินมองไปที่ชามใบใหญ่
[โจ๊กข้าวโอ๊ต]: โจ๊กที่ทำจากข้าว หลังจากกินจะได้รับการฟื้นฟู HP 10 หน่วยและบรรเทาผลกระทบของหมอกกร่อนิญญาเป็เวลา 10นาที ราคา: 3 เหรียญเงิน
หลิงเฉิน “!@#¥%……”
“ขอ 20 ชามครับ” หลิงเฉินพูดอย่างรวดเร็วข้ามการพูดคุยสัพเพเหระ และนำเงิน 6 เหรียญทองออกมา แล้วมอบให้กับชายชราโจ๊กข้าวโอ๊ตร้อนๆ 20 ชามจะมีผล 200นาที เขามาที่นี่เพื่อสำรวจ เขาไม่ได้คิดว่าเขาจะทำเควสนี้ได้สำเร็จ ดังนั้น 20 ชามน่าจะเพียงพอ ที่สำคัญยิ่งกว่านี้เขาจำได้ว่าตอนที่เขาออกจากนครัครามนั้นเขามีเหรียญทองเหลืออยู่เพียงไม่กี่เหรียญเท่านั้น เขาจะซื้อมากเกินไปไม่ได้ถึงแม้เขาจะ้าก็ตาม
ฉะนั้นหลังจากจัดเตรียมโจ๊กข้าวโอ๊ตร้อนๆ 20 ชามแล้ว เขาก็ไปหา ‘อาชาเหยียบเมฆา’ ของเขาก่อนจะมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือตรงไปที่สันเขาิญญาไร้เสียง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้