เมื่อเยว่เฟิงเกอกลับไปถึงเรือนเยว่เหยา สิ่งแรกที่นางทำก็คือการหยิบโทรศัพท์ที่ซ่อนไว้ใต้หมอนออกมา
ตอนที่ยังไม่ได้หยิบขึ้นมาดูก็แล้วไปเถอะ พอหยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ นางถึงได้พบว่า้าของจอปรากฏสัญลักษณ์หนึ่งที่บ่งบอกว่ามีสามสายที่ไม่ได้รับ
และทั้งสามสายนี้ยังมาจากพี่รองของนาง เยว่เฉินอี้
ดีที่เรือนเยว่เหยาแห่งนี้ไม่มีสาวใช้คนอื่นอยู่ ไม่เช่นนั้นการที่จู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาเช่นนี้ คงจะดึงดูดความสนใจจากผู้อื่นได้ไม่น้อย
ความรู้สึกของเยว่เฟิงเกอยามนี้ราวกับมดบนเตาร้อน นางเสียใจมากที่เมื่อครู่ยามออกไปเดินเล่นไม่ได้พกโทรศัพท์ไปด้วย
ตอนนี้นางหวังจริงๆ ว่าพี่รองเยว่เฉินอี้จะโทรหานางอีกครั้ง เช่นนี้นางจะได้ไม่ต้องซื้อบัตรโทรศัพท์นั่นแล้ว
เพียงแต่นางรออยู่นานมากก็ไม่เห็นพี่รองจะโทรมาอีก
ในตอนที่เยว่เฟิงเกอกำลังหมดอาลัยตายอยากอยู่นั้น โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
‘ฉันยังคงเป็เด็กน้อยในวันวาน ไม่แปรเปลี่ยนไปแม้แต่น้อย เวลาเป็เพียงด่านทดสอบ ความคะนึงหาที่ถูกปลูกไว้ในหัวใจเหมือนไม่เคยลดลง...’
เสียงเพลงแจ้งเตือนนี้เป็เยว่เฟิงเกอเองที่ตั้งใจโหลดไว้ ยามนี้โทรศัพท์ดังขึ้น บนหน้าจอเป็ชื่อของพี่รองเยว่เฉินอี้
เยว่เฟิงเกอรับโทรศัพท์ด้วยความตื่นเต้นดีใจอย่างที่สุด ทว่า เมื่อครู่นางเพียงส่งเสียง ฮัลโหล ไปคำหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงแทรกเสียดแก้วหูดังมาจากในโทรศัพท์
จากนั้นยังไม่รอให้นางได้พูดอะไรต่อ โทรศัพท์ก็ตัดไปเอง
เยว่เฟิงเกอร้อนใจจนอยากจะร้องไห้ออกมาแล้ว นางอุตส่าห์รอจนในที่สุดพี่รองก็โทรมา แต่กลับไม่สามารถสื่อสารกันได้
ตอนนี้นางจึงไม่รอสายจากพี่รองอีก เพราะรู้แล้วว่าต่อให้พี่รองจะโทรมา นางก็ไม่สามารถรับสายได้อยู่ดี
ดูท่าคงต้องเร่งดำเนินการแผนการให้เร็วขึ้นอีกหน่อยแล้ว นางไม่อาจทนรอให้ม่อหลิงหานมาหลงรักนางได้ เพราะไม่รู้ว่าต้องรอไปจนถึงปีมะโว้หรือเปล่า
นางต้องรีบทำภารกิจนั่นให้สำเร็จ เช่นนี้ถึงจะสามารถซื้อบัตรโทรศัพท์ไว้ติดต่อกับพี่ชายในโลกยุคปัจจุบันของนางได้
เยว่เฟิงเกอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่า รอจนฟ้ามืด ในยามที่ม่อหลิงหานพักผ่อนไปแล้ว นางจะแฝงตัวเข้าไปในเรือนหานโยวแล้วแอบจุ๊บม่อหลิงหานที่กำลังหลับสนิทอยู่
เช่นนี้นางก็สามารถทำภารกิจให้สำเร็จได้โดยไม่มีใครรู้แล้ว
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนมาถึงกลางดึกของคืนนั้น
เยว่เฟิงเกอสวมชุดพรางตัวสีดำพร้อมด้วยผ้าคลุมหน้าสีดำผืนเดิม ก่อนจะแอบหนีออกไปจากเรือนเยว่เหยา
ครั้งนี้เยว่เฟิงเกอพกโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย
เหตุที่นางทำเช่นนี้ก็เพราะหนึ่ง โทรศัพท์มีฟังก์ชันไฟฉาย สอง ในโทรศัพท์มีฟังก์ชันนำทางที่นางสามารถใช้ได้ เพื่อจะได้หาทางไปยังเรือนพักของม่อหลิงหาน
เช่นนี้นางจะได้ไม่หลงทางอีก
เยว่เฟิงเกอหาทิศทางไปยังเรือนหานโยวได้อย่างรวดเร็วภายใต้ความช่วยเหลือของฟังก์ชันนำทางในโทรศัพท์
นางมอบรอบทิศ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครถึงได้ค่อยๆ เปิดประตูใหญ่ของเรือนออก
หลังจากที่เยว่เฟิงเกอแอบเข้าไปในเรือนหานโยวได้ นางก็เห็นคนที่นอนอยู่บนเตียง
คนคนนั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร ต้องเป็ม่อหลิงหานแน่
นางค่อยๆ ย่องมาถึงข้างเตียง และได้เห็นว่าม่อหลิงหานกำลังหลับสนิท คนหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ
เยว่เฟิงเกอรีบดึงผ้าปิดหน้าลงแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ม่อหลิงหาน
นางอยากทำภารกิจแอบจุ๊บนี่ให้สำเร็จให้ได้ แต่จะอย่างไรก็ทำไม่ลง
ที่จริงแล้วม่อหลิงหานมีหน้าตาหล่อเหลามากโดยเฉพาะยามหลับใหล เพราะในตอนนี้ใบหน้าของเขาปราศจากความเ็าดังเช่นในตอนกลางวันโดยสิ้นเชิง ทำให้ดูเป็มิตรมากยิ่งขึ้น
อีกทั้งใบหน้าของม่อหลิงหานก็ตรงตามความชอบของเยว่เฟิงเกอทุกประการ
ตอนที่ยังอยู่ในยุคปัจจุบัน นางชอบอ่านการ์ตูนแนวโบราณเป็ที่สุด ซึ่งบรรดาบุรุษในการ์ตูนเ่าั้ไม่ว่าใครต่างก็มีดวงตายาวรีเหมือนหงส์ สันจมูกโด่ง กรอบหน้าคมสันชัดเจน
ยามนี้นางได้มาอยู่ในยุคโบราณจริงๆ ได้เห็นชายในการ์ตูนเดินออกมาตัวเป็ๆ นางย่อมต้องอยากใกล้ชิดกับคนงาม
แต่ว่ายามนี้เยว่เฟิงเกอกลับลังเลใจ
เมื่อคิดถึงว่าชายคนนี้เอะอะก็บีบคอนาง ในใจจึงอดหักคะแนนพิศวาสในตัวม่อหลิงหานไม่หยุดไม่ได้
จนถึงตอนนี้ม่อหลิงหานยังเป็ชายที่นางไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยแม้แต่นิดเดียว
ขอถามหน่อย ชายเช่นนี้จะดึงดูดความสนใจให้นางอยากใกล้ชิดด้วยได้อย่างไร
ทว่า ในตอนที่เยว่เฟิงเกอกำลังลังเลอยู่นั้น จู่ๆ ม่อหลิงหานก็เคลื่อนไหว
เยว่เฟิงเกอใจนรีบทรุดตัวลงหมอบอยู่ข้างเตียงอย่างไม่กล้าเคลื่อนไหวอีก
โชคดีที่ม่อหลิงหานแค่ขยับตัว ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใดอีก
เยว่เฟิงเกอถอนใจเบาๆ ก่อนจะกุมหน้าอกที่ด้านในมีหัวใจเต้นระส่ำบ้าคลั่งไว้ จากนั้นค่อยๆ ลุกยืนขึ้นอีกครั้ง
“ไม่สนแล้ว จะอย่างไรคืนนี้ข้าก็ต้องทำภารกิจให้สำเร็จให้ได้ ก็แค่จุ๊บทีเดียวเองไม่ใช่หรือ ถือเสียว่าจุ๊บหมูไปหนึ่งทีก็แล้วกัน” เยว่เฟิงเกอพึมพำเสียงเบา ในที่สุดนางก็รวบรวมความกล้าได้ จึงหลับตาลงแล้วยู่ปากไปด้านหน้าเพื่อจุ๊บเขา
กระนั้นเยว่เฟิงเกอกลับรู้สึกเหมือนว่าริมฝีปากตนััเข้ากับโหนกแก้มของม่อหลิงหาน ความรู้สึกเย็นเฉียบนั้นทำให้นางอดลืมตาขึ้นมาตรวจดูให้ชัดเจนไม่ได้
พอลืมตาดูถึงได้รู้ว่าที่แท้นางไปจุ๊บลำคอของม่อหลิงหานเข้า
นี่มันอะไรกัน นางตั้งใจจะจุ๊บหน้าเขาชัดๆ เหตุใดถึงคลาดเคลื่อนไปได้
แต่จะอย่างไรก็ช่างเถอะ เมื่อครู่ก็ถือว่าได้จุ๊บไปแล้ว ไม่ว่าจะจุ๊บตรงไหนก็นับว่านางได้แอบจุ๊บม่อหลิงหานไปแล้ว
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เยว่เฟิงเกอก็รีบนั่งยองๆ ลงไปอีกครั้ง แต่เมื่อนางตรวจมูลค่าการซื้อในโทรศัพท์กลับพบว่าไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง ไม่ได้มีมูลค่าการซื้อเพิ่มขึ้นเลย
เยว่เฟิงเกอรีบเปิดเงื่อนไขของภารกิจมาอ่านอีกครั้ง พอได้เห็นข้อความที่ปรากฏในนั้น นางก็ถึงกับโง่งมไปในทันที
ในนั้นเขียนไว้ว่า ต้องจุ๊บริมฝีปากม่อหลิงหานเท่านั้น ภารกิจจึงจะสำเร็จ ไม่เช่นนั้นไม่ว่าจุ๊บที่ใดก็ล้วนไม่นับ
“เ้าภารกิจน่าตายนี่ ก่อนหน้านี้ไม่ได้เขียนเช่นนี้สักหน่อย” เยว่เฟิงเกอโกรธจนแทบอยากจะโยนโทรศัพท์เครื่องนี้ทิ้งอยู่แล้ว
นางจำได้อย่างชัดเจนว่าก่อนหน้านี้ภารกิจนี่เขียนไว้ว่า ขอแค่สามารถแอบจุ๊บม่อหลิงหานได้สำเร็จก็จะได้รับยี่สิบมูลค่าการซื้อ ไม่ได้เขียนไว้เช่นนี้ว่าต้องจุ๊บริมฝีปากม่อหลิงหานเท่านั้น
ตอนนี้พอนางแอบจุ๊บม่อหลิงหานได้สำเร็จ ภารกิจกลับเปลี่ยนไป
เ้าภารกิจนี่ตั้งใจจะหาเื่ใช่หรือไม่
ในตอนที่เยว่เฟิงเกอกำลังนั่งยองๆ มองโทรศัพท์ด้วยสายตาดุร้ายเข้มข้น ชายบนเตียงก็ได้พลิกตัวอีกครั้ง
เยว่เฟิงเกอรีบปิดโทรศัพท์ทันที ไม่กล้าขยับอีก
กระนั้นก็ยังโชคดีที่ในเรือนแห่งนี้มืดสนิท อีกทั้งเยว่เฟิงเกอเองยังสวมชุดพรางตัวสีดำแอบอยู่ข้างเตียง จำกัดลมหายใจเข้าออก จึงทำให้ไม่มีใครค้นพบ
เพียงแต่เยว่เฟิงเกอไม่เห็นว่ายามนี้ม่อหลิงหานที่อยู่บนเตียงกำลังหรี่ตามองนาง
เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าดึกดื่นค่อนคืนเช่นนี้เยว่เฟิงเกอมาทำอันใดที่เรือนของเขาอีกแล้ว?
หรือว่ายังคิดอยากจะขโมยกางเกงในเขาไปแขวนไว้ที่หลังคาอีก?
แต่เมื่อครู่เหมือนว่าเขาจะได้ยินสตรีนางนี้พูดในทำนองที่ว่าจุ๊บหมูตัวหนึ่ง คำพูดนี้หมายความว่าอย่างไร?
ครั้งนี้คงต้องบอกว่าเป็โชคดีอีกครั้งที่ม่อหลิงหานไม่ได้ยินสิ่งที่เยว่เฟิงเกอพูดออกมาทั้งหมด มิฉะนั้นเขาคงได้โกรธจนลุกขึ้นมาบีบคอเยว่เฟิงเกออีกรอบแน่
ม่อหลิงหานแอบสังเกตการเคลื่อนไหวของเยว่เฟิงเกอเงียบๆ เห็นเพียงนางนั่งยองๆ ไปได้ครู่หนึ่งก็ลุกยืนขึ้นอีกครั้ง
ชั่วขณะนั้นม่อหลิงหานรีบปิดตาแกล้งทำเป็หลับ เขาอยากจะดูว่าเยว่เฟิงเกอคิดจะทำสิ่งใดกันแน่
ทางด้านเยว่เฟิงเกอ นางเห็นว่าม่อหลิงหานยังคงนอนตะแคงและหันหน้ามาทางนาง
หากนางคิดจะแอบจุ๊บริมฝีปากของเขาคงมีแต่จำต้องนั่งยองลงไปอีกครั้ง หามุมให้ดีแล้วจุ๊บลงไป
ด้วยเหตุนี้ นางจึงต้องนั่งยองลงไปอีกครั้งแล้วขยับศีรษะไปมาอยู่อีกหลายครั้ง เพื่อหามุมดีๆ ในการจุ๊บม่อหลิงหาน
ม่อหลิงหานรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของเยว่เฟิงเกอที่กำลังรดบนใบหน้าเขา
เขาอดทนต่อความโกรธภายในใจ รอดูว่าเยว่เฟิงเกอจะทำสิ่งใดต่อไป
ในที่สุดเยว่เฟิงเกอก็หามุมได้ นางหลับตาลงพลางคิดในใจว่าแค่นางกำลังจุ๊บหมูตัวหนึ่งอยู่เท่านั้น เช่นนี้เองนางถึงตัดใจจุ๊บลงไปได้
เพียงแต่ ทันทีที่ริมฝีปากของเยว่เฟิงเกอประทับลงบนริมฝีปากของม่อหลิงหาน ััที่อ่อนนุ่มนั้นทำให้คนทั้งสองอดตกตะลึงไม่ได้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้