ตอนนี้ทุกคนได้รับรู้เเล้วว่าคุณชายทั้งสองคนนั้นมีความสัมพันธ์อย่างไรกับตระกูลหวัง แน่นอนว่าคุณชายหนิงอ้ายเป็ที่รู้จักกันดีในนามของอดีตคุณชายใหญ่ตระกูลจางเเห่งแคว้นหงส์เเดง ด้วยเพราะทั้งสองแคว้นนั้นอยู่ติดกันไม่ต่างจากเมื่องพี่เมืองน้อง ดังนั้นข่าวคราวในแวดวงที่ว่าคุณชายหนิงอ้ายเปรียบดั่งสวะของตระกุลจาง ผู้คนต่างรับรู้กันทั่วเพียงเเต่ไม่ได้มีการพูดคุยให้เห็นชัดด้วยเกรงกลัวอำนาจตระกูลใหญ่อย่างเช่นตระกูลจางและตระกูลหวัง กระทั่งข่าวที่ว่าท่านหญิงเยว่ซินได้หย่าขาดกับประมุขจางเลี่ยงหวงน ม้เหตุการณ์จะผ่านมาได้เพียงไม่กี่วัน เเต่ว่าหอข่าวที่มีสายลับแฝงตัวอยู่ทุกแคว้นต่างรายงานความเป็ไปที่เกิดขึ้น
ท่ามกลางความยินดีที่เกิดขึ้นแน่นอนว่าตระกูลหวังเเห่งแคว้นเต่าดำต่างเป็ที่จับจ้องมากขึ้น ด้วยเพราะว่าผู้ชนะอันดับหนึ่งและอันดับสองในการประลองเวทย์ครั้งนี้ต่างมีความข้องเกี่ยวโดยตรงกับตระกูลหวัง แม้ว่าจะเป็ตระกูลที่เพิ่งก่อตั้งได้เพียงไม่กี่ร้อยปีเเต่กลับยืนหยัดในฐานะหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของแคว้นเต่าดำ ยิ่งกับวันนี้รุ่นเยาว์ในตระกูลหวังกลับสร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลไปอีกไม่น้อยด้วยฐานะของเ้ายุทธภพและหนึ่งในเสาหลักเเห่งยุทธภพรุ่นเยาว์ของทวีปบูรพา ตระกูลหวังหลังจากนี้คงไม่ต่างจากพยัคฆ์ติดปีก มัจฉาะโข้ามประตูัอย่างแน่นอน
ทางด้านของตระกูลหวังไม่ว่าจะเป็ประมุขตระกูลอย่างหวังจิ่งหลง เหมยฮวาและเยว่ซินรวมไปถึงทุกคนตรงที่นั่งของตระกูลหวังต่างพากันดีใจเป็อย่างมากที่คุณชายหนิงอ้ายมีชัยชนะในการประลองเวทย์ครั้งนี้และดำรงอยู่ในฐานะของเ้ายุทธภพรุ่นเยาว์อย่างเต็มภาคภูมิ สำหรับคุณชายใหญ่ลู่ซีก็นับว่าโดดเด่นไม่แพ้กันเพราะเป็ถึงผู้ชนะอันดับที่สองในการประลองเวทย์ เป็ถึงหนึ่งในห้าเสาหลักเเห่งยุทธภพของทวีปบูรพา ทั้งคุณชายใหญ่ลู่ซีและคุณชายเล็กหนิงอ้ายทั้งคู่เปรียบดั่งหยกคู่สกุลหวังอันเป็ที่ภาคภูมิใจแก่ตระกูลนั่นเอง
"ดียิ่งนัก!! ข้าจักจัดงานเลี้ยงฉลองให้กับหลานชายทั้งสองคนของข้า ฮ่าฮ่าฮ่า..." หวังจิ่งหลงเอ่ยขึ้นพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
ทว่ากลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลังโดยที่พวกเขานั้นไม่ทันได้ตั้งตัว…
"คำนับประมุขตระกูลหวังจิ่งหลงและฮูหยินเหมยฮวาขอรับ..." สิ้นเสียงของจางเลี่ยงหวง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขของทุกคนต่างหุบยิ้มลงโดยพลัน โดยเฉพาะหวังจิ่งหลงนั้นแทบที่จะสังหารอีกฝ่ายเสียด้วยซ้ำ
"ไม่ต้องมากพิธีไปประมุขตระกูลจาง ไม่รู้ว่ามีธุระอันใดกับตระกูลหวังของเรากัน??" หวังจิ่งหลงเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าราบเรียบ
"ข้ามาเเสดงความยินดีให้กับลูกเอ่อ คุณชายหนิงอ้ายกับคุณชายลู่ซีขอรับ..."
"ขอบคุณท่านประมุขประกูลจางขอรับ!!" หนิงอ้ายกับลู่ซีเอ่ยขึ้นพร้อมกับยกมือประสานโค้งตัวคำนับตามมารยาทที่พึงกระทำ...
ในใจของหนิงอ้ายด้วยเพราะเขาพึ่งทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของหนิงอ้ายคนนี้ได้ไม่นาน เท่าที่จำได้จางเลี่ยงหวงไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในบริเวณนั้นในสักครั้ง เเต่หลังจากที่เขาได้ปลุกพลังิญญาสำเร็จและสามารถเรียกใช้ความสามารถของเนตรเเห่ง์ได้ เขาัักลิ่นอายที่เเข็งแกร่งที่ลักลอบเข้ามาในบริเวณของเรือนเล็กติดป่าไผ่นี้หลายครั้ง บ้างก็เพียงหนึ่งชั่วยาม บ้างก็ครึ่งชั่วยามเท่านั้น ก่อนที่ไม่นานกลิ่นอายดังกล่าวก็หายไป
เมื่อได้เจอคนตรงหน้าจึงทำให้หนิงอ้ายรับรู้ได้เลยว่ากลิ่นอายของคนผู้นั้นนั่นคือประมุขจางเลี่ยงหวงผู้นี้นั่นเอง แม้ว่าอีกฝ่ายจะใช้ของวิเศษในการปกปิดกลิ่นอายเเค่ไหน เเต่ด้วยเพราะระดับของวิเศษเ่าั้ต่างมีความล้ำค่าด้อยกว่าเนตรแห่ง์ของเขา จึงทำให้สามารถัักลิ่นอายนี้ทั้งที่ไม่รู้ว่าเป็ผู้ใด
หากคาดเดาจากพฤติกรรมดังกล่าว จางเลี่ยงหวงผู้นี้คงลักลอบเข้ามาแอบดูสองเเม่ลูกหลายครั้งในยามดึก เเต่ที่เขาไม่เข้าใจนั่นคือเหตุใดจึงมีพฤติกรรมลับ ๆ ล่อ ๆ เช่นนี้ เเต่ถึงอย่างนั้นเขาคงไม่บอกกับท่านเเม่เยว่ซินให้รับรู้ เพราะหากว่าท้ายที่สุดแล้ว จางเลี่ยงหวงผู้เป็บิดาและท่านเเม่ของเขาจะสามารถกลับมารักกันเป็ครอบครัวเดียวกันหรือไม่ ก็ให้ขึ้นอยู่กับทั้งสองเเล้วกันเขาจะไม่ทำตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวในเื่นี้...
"บิดา เอ่อ...ข้ามีเื่จะคุยกับเ้าหนิงอ้าย" จางเลี่ยงหวงเอ่ยขึ้นด้วยความประหม่า
"ขออภัยขอรับ ข้าคิดว่าตัวของข้าเองกับท่านเเม่เยว่ซินคงไม่มีเื่ต้องคุยอะไรกับท่านเเล้วเพราะเราทั้งสองคนนั้นหาได้เกี่ยวข้องกันไม่..."
"ตอนนี้เป็เวลาของครอบครัวคงไม่เหมาะกับท่านประมุขตระกูลจางสักเท่าไหร่ อย่างไรข้าขอรับเพียงคำชมเท่านั้นพอขอรับ..." หนิงอ้ายเอ่ยตัดบทขึ้นมาทันทีเนื่องจากััได้ว่ามือของมารดาที่จับอยู่นั้นสั่นไหวอย่างรุนแรง แน่นอนว่าเขาต้องเลือกปกป้องคนของตัวเองอยู่เเล้วจึงรีบเชิญอีกฝ่ายให้กลับตระกูลตนไปเสียที
"เช่นนั้น ขอท่านประมุขตระกูลหวังกับฮูหยินรักษาร่างกายด้วยขอรับ..." จางเลี่ยงหวงแม้ว่าจะมีถ้อยคำมากมายที่จะพูดคุย
เเต่เมื่อเห็นสายตาบุตรชายคนโตของตนมองมาด้วยสายตาอันเ็าและท่าทางของเยว่ซิน ดังนั้นเขาจึงเลือกกลับตระกูลจางไปก่อนอย่างไรเเล้วค่อยหาโอกาสเข้ามาพูดคุยอีกครั้งคงไม่สายเกินไปกระมัง
ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่รับรู้ถึงเื่ราวภายในของทั้งสองตระกูลใหญ่อย่างตระกูลจางเเห่งแคว้นหงส์เเดงกับตระกูลหวังเเห่งแคว้นเต่าดำ พวกเขาต่างรอชมว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ประมุขตระกูลจางเข้าไปทักทายทางฝั่งของตระกูลหวังจะมีการปะทะกันเกิดขึ้นหรือไม่ เเต่ทว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้ผ่านไปเพียงไม่ถึงครึ่งเค่อเลยเสียด้วยซ้ำ เพราะหลังจากนั้นประมุขตระกูลจางได้ทำความเคารพประมุขตระกูลหวังตามมารยาทของลำดับผู้าุโ และทะยานตัวกลับตระกูลจางของตนในฝั่งตรงข้ามของสนามประลองในทันที…
ไม่นานนักมีเสียงพลุ เสียงประทัดดังมาอย่างต่อเนื่องผู้เข้าร่วมรับชมงานประลองเวทย์ครั้งนี้รวมไปถึงประชาชนภายนอกหรือคนที่อยู่ในจวนของตระกูลต่าง ๆ ในแคว้นเต่าดำเมื่อเห็นสัญญาณดังกล่าว ต่างรับรู้ได้ว่าตอนนี้งานประลองเวทย์ครั้งที่แปดสิบแปด (88) ได้ทำการปิดพิธีการประลองไปเรียบร้อยเเล้ว เสียงปรบมือ เสียงเฮดังลั่นให้กับความยิ่งใหญ่กับงานประลองเวทย์ในครั้งนี้น่าจะเป็การประลองเวทย์ครั้งที่กล่าวได้ว่าเต็มไปด้วยผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์ที่เปี่ยมไปด้วยพร์และฝีมือเเปลกประหลาดพิศดารที่สุดเลยก็ว่าได้เลยทีเดียว
เพราะทุกคนต่างได้เห็นสัตว์อสูรระดับสูงในพันธะที่มีมากกว่าหนึ่งตัวปรากฏที่กล่าวกันว่ายากนักที่จะมีผู้ฝึกตนสามารถได้ นอกจากนั้นการปรากฏตัวของสัตว์อสูรระดับตำนาน ตัวตนที่ทุกคนคิดว่าอยู่ในเพียงตำราเื่เล่าตามโรงน้ำชาเท่านั้นเเต่ในวันนี้กลับมีรุ่นเยาว์คนหนึ่งมีในพันธะได้อย่างน่าเหลือเชื่อและคนผู้นั้นก็คือคุณชายหวังหนิงอ้ายเ้ายุทธภพคนล่าสุด
เมื่อพิธีการทุกอย่างเสร็จสิ้น ผู้ชมต่างเริ่มพากันทยอยออกจากสนามประลองเวทย์เเห่งนี้ บ้างก็ยังคงท่องเที่ยวในแคว้นเต่าดำอีกสักระยะด้วยเพราะขึ้นชื่อในเื่ของสถานที่งดงามไม่แพ้กัน บ้างก็เลือกที่จะเดินทางกลับแคว้นของตนด้วยขีดจำกัดของระยะทางที่ห่างไกลใช้เวลาเดินทางยาวนานหลายเดือนก็ว่าได้ ทว่ายังมีบุรุษหลากหลาย่อายุหลายคนคอยเฝ้ามองคุณชายหวังหนิงอ้ายแม้อีกฝ่ายจะกลับไปพร้อมกับตระกูลหวังเเล้ว ด้วยสายตาหลงไหลเคลิบเคลิ้มไม่อยากละสายตาและต่างวางแผนที่จะเฝ้ารอกันอยู่หน้าจวนของตระกูลหวังเผื่อจะได้เห็นใบหน้าของคุณชายหวังหนิงอ้ายแม้เพียงไกล ๆ ก็นับว่าคุ้มค่ามากเเล้ว...
ตรงมุมลับสายตาของสนามประลอง ด้วยบทเวทย์พลางสายตาระดับสูง ทางฝั่งที่นั่งของคุณชายทั้งสามคนรวมไปถึงชายชุดดำที่ใส่หน้ากากพยัคฆ์ เมื่อเห็นว่าท้ายที่สุดเเล้วใครกันเป็ผู้ชนะอันดับหนึ่งของการประลองเวทย์ครั้งนี้ แม้ตัวคนนั้นจะไม่ได้เอ่ยอันใดออกมาก็ตาม เเต่องครักษ์เงาที่เร้นกายอยู่รวมไปถึงสหายองศ์ชายทั้งสาม ต่างััได้ว่าอีกฝ่ายนั้นอารมณ์ดีมากเพียงใด
ทว่าอาการดังกล่าวกลับอยู่ได้เพียงชั่วครู่เท่านั้นเมื่อเห็นว่าคนในสายตาของตนถูกสายตามองมาอย่างลวนลามหยาบคาย ทันใดนั้นั์ตาคมกล้าดุดันแปรเปลี่ยนเป็ดำมืด กลิ่นอายสังหาระเิออกมาจนองครักษ์เงาในระดับพลังิญญาที่ไม่สูงมากต่างทรุดตัวลงไปนอนกับพื้น ตัวของชายหนุ่มโกรธจนมือสั่น จ้องไปยังกลุ่มคนเ่าั้ด้วยความรู้สึกที่หลากหลายก่อนที่จะค่อย ๆ หรี่ตาลงและครุ่นคิดอะไรบางอย่าง เมื่อได้ข้อสรุปในใจของตนเเล้ว ใบหน้าหล่อเหลาภายใต้หน้ากากพยัคฆ์จึงกลับมาราบเรียบไร้ซึ่งอารมณ์อีกครั้งราวกับว่าเหตุการณ์ก่อนหน้าไม่เคยเกิดขึ้น
"..."
"..."
"..."
เหล่าสหายองศ์ชายทั้งสามคนเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มมีท่าทีเเปลก ๆ เหมือนคนกำลังวางแผนชั่วร้ายบางอย่างก็อดสะท้านในใจไม่ได้ ดูเหมือนว่ากำลังมีบางคนต้องโชคร้ายอย่างไม่รู้ตัวอย่างแน่นอน...
จวนตระกูลหวัง
ตระกูลหวังได้จัดงานเลี้ยงฉลองขนาดใหญ่ขึ้นภายในพื้นที่ของจวนอย่างคึกคัก ตระกูลหวังทั้งสายหลักและสายรอง รวมไปถึงเชื้อสายของตระกูลหวังที่อยู่ในการปกครองต่างรวมตัวกันในงานเลี้ยงฉลองในครั้งนี้อย่างเเน่นหนากันเลยทีเดียว บรรดาบ่าวชายหญิงในจวนนั้นถือโอกาสนี้เพื่อเเสดงความยินดีกับคุณชายเล็กหนิงอ้ายที่สามารถเอาชนะเป็อับดับหนึ่งในการประลองเวทย์ครั้งนี้และได้รับฐานะอันสูงส่งถือครองในวัยเพียงสิบห้าสิบหกปีนั่นคือตำแหน่งเ้ายุทธภพของทวีปบูรพา และคุณชายใหญ่ลูซีที่ความสามารถพร์โดดเด่นไม่แพ้กันในฐานะผู้ชนะอันดับสองของการประลองเวทย์ ยังมีฐานะเป็ถึงหนึ่งในเสาหลักเเห่งยุทธภพของทวีปบูรพาด้วยวัยเพียงสิบเจ็ดสิบแปดปีเท่านั้น กล่าวได้ว่าคุณชายทั้งสองนั้นได้สร้างชื่อเสียงเป็อย่างมากให้แก่ตระกูลหวังยิ่งนัก
เช้าของวันรุ่งขึ้นเื่ราวของคุณชายหนิงอ้ายที่ทุกคนได้รับรู้เเล้วว่าความจริงแล้วอีกฝ่ายนั้นเป็ถึงบุตรชายของท่านหญิงเยว่ซินตระกูลหวังยอดพธูอันดับหนึ่งของแคว้นเต่าดำที่มีชื่อเสียงเล่าลือถึงความงดงามสูงศักดิ์รวมไปถึงความสามารถในวิถีผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์ที่นับว่าหาได้ยากยิ่งเพราะมีส่วนน้อยมากในการที่บุตรีของตระกูลใหญ่จะเป็ผู้ฝึกตนอีกทั้งยังโดดเด่นด้วยพลังิญญาระดับสูง
โดยเฉพาะการประลองเวทย์ในปีนั้นที่หวังเยว่ซินได้เข้าร่วมการประลองเวทย์ของแคว้นถึงสุดท้ายแล้วจะไม่ได้เป็ผู้ชนะสูงสุดเเต่ก็ได้เป็หนึ่งในห้าของเสาหลักเเห่งยุทธภพรุ่นเยาว์ในปีนั้นได้ ภายหลังนางจะถอนตัวจากทำเนียบวิหารเทพยุทธ์ในนามของเสาหลักเเห่งยุทธภพรุ่นเยาว์เเต่ถึงอย่างนั้นความสามารถของนางนับว่าเป็สิ่งที่ผู้ฝึกตนในยุทธภพไม่สามารถดูเเคลนได้เลยแม้เเต่น้อย
ดังนั้นจึงเท่ากับว่าในตอนนี้คุณชายหนิงอ้ายมีศักดิ์เป็คุณชายตระกูลหวังเเห่งแคว้นเต่าดำ เป็หลานของท่านประมุขหวังจิ่งหลงและฮูหยินเหมยฮวานับว่าเป็คุณชายตระกูลใหญ่ของแคว้นผู้หนึ่งที่ประกอบไปด้วยเื้ัสนับสนุนที่ไม่ธรรมดาสามัญ กลายเป็ที่พูดถึงของผู้คนทุกชนชั้นในมหานครเต่าดำเเห่งนี้ และแคว้นใกล้เคียงซึ่งไม่ว่าผู้ใดก็ต่างทราบตรงกันเเล้วว่าคุณชายใหญ่ตระกูลจางแห่งแคว้นหงส์เเดง ไม่ใช่สิ คุณชายหวังหนิงอ้ายนั้นหาใช่เป็สวะไร้ค่าของตระกูลจางดั่งเช่นข่าวลือที่ทุกคนต่างรับรู้กันมาในหลายปีมานี้ แน่นอนว่าล้วนย่อมไม่ใช่ความจริงทั้งสิ้น
ด้วยงานประลองเวทย์ครั้งที่แปดสิบแปด (88) ที่พึ่งจบไป คุณชายหวังหนิงอ้ายเป็ผู้ชนะอันดับหนึ่งในการประลองเวทย์และสามารถถือครองฐานเ้าเเห่งยุทธภพรุ่นเยาว์ของทวีปบูรพามาได้สำเร็จ อันเป็ตัวตนที่น่ายกย่อง เป็ที่หวั่นเกรงต่อชาวยุทธภพรวมไปถึงกลุ่มอิทธิพลระดับแถวหน้าทั้งที่ปรากฎตัวและหลบหลีกซ่อนเร้นที่ต่างต้องให้ความนอบน้อมไว้หน้าอีกฝ่ายไปสามถึงสี่ส่วนเลยทีเดียว
ด้วยเพราะอิทธิพลของวิหารเทพยุทธ์ที่เป็ตัวตนระดับสูงสุดของผู้ฝึกตนในมหาทวีปบูรพาเเห่งนี้ อีกทั้งคุณชายหวังหนิงอ้ายยังมีตระกูลหวังแห่งแคว้นเต่าดำหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของแคว้นคอยหนุนหลังอยู่เพราะหากกล่าวถึงตระกูลหวังแห่งแคว้นเต่าดำนั้นกล่าวได้ว่าเป็ตระกูลที่มีความเป็มาลึกลับไม่ชัดเจนในการรับรู้ของคนทั่วไปในหลายอย่าง
ในการประลองเวทย์ที่พึ่งจบไปนั้นถือว่าเป็การรวบรวมบรรดาชาวยุทธภพในโลกของผู้ฝึกตนและประชาชนจากทุกแคว้น ทั่วทุกสารทิศในมหาทวีปบูรพาเเห่งนี้ซึ่งมีผู้ฝึกตน ชาวบ้านจำนวนมากที่อยู่ร่วมเป็พยานรู้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดจึงได้มีการเล่าเื่ราวจากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่งยิ่งกับเหลาอาหาร โรงน้ำชาที่มีอยู่ทั่วเมืองนั้นต่างพูดถึงเื่คุณชายหนิงอ้ายอย่างคึกคักยิ่งพูดถึงมากเท่าไหร่เื่ของหนิงอ้ายนั้นยิ่งเป็ที่กล่าวถึงรู้จักมากขึ้นเท่านั้น
ยังมีอีกหลายคนไม่น้อยที่อยู่จนจบการประลองเวทย์ ต่างพากันพูดถึงฝีมือที่โดดเด่นที่เปี่ยมไปด้วยพร์กว่าในรุ่นเดียวกันของคุณชายหนิงอ้าย แน่นอนการที่อีกฝ่ายถือครองสัตว์อสูรระดับตำนานในพันธะสัญญาได้นั้น ต่างทำให้ผู้คนที่ได้ยินต่างตกตะลึงยิ่งนักด้วยเพราะหากกล่าวว่าสัตว์อสูรระดับมายานั้นยากที่จะได้พบเจอได้เเล้วนั้น ยิ่งกับสัตว์อสูรระดับตำนานที่เป็ดั่งนิทานเื่เล่านั้นแทบไม่มีทางเป็ไปได้ที่จะพบเจอเลยเสียด้วยซ้ำ เเต่คุณชายหนิงอ้ายผู้นี้สามารถอยู่ในพันธะได้ย่อมหมายถึงว่าอีกฝ่ายนั้นคงมีเื้ัสนับสนุนที่ไม่สามัญ
สิ่งที่ทุกคนต่างพูดเป็เสียงเดียวกันนั่นคือคุณชายหวังหนิงอ้ายผู้นี้ช่างงดงามราวกับนางเซียนในตำนานเื่เล่าก็คงไม่เกินจริงไปนัก ด้วยใบหน้าฟ้าประทานที่คล้ายคลึงมารดาไปถึงแปดในสิบส่วนเเต่ยังมีเค้าโครงของบุรุษช่างเป็ส่วนผสมที่ลงตัว อีกทั้งเส้นผมสีขาวเงินบริสุทธิ์ที่ยาวสยายจรดกลางหลังเป็ประกายหยอกล้อกับสายลมที่พัดปลิว ดวงตาสีอัญมณีสีฟ้าที่กระจ่างใสชวนให้ใจสั่นไหวเหล่าชายหนุ่มที่พลาดโอกาสได้เห็นถึงความสามารถและความงามของหนิงอ้ายนั้นต่างร้องโอดครวญด้วยความเสียดายที่ตนเลือกที่จะไม่อยู่จนจบการประลอง เช่นนั้นเเล้วชายหนุ่มหลายคนที่ได้เห็นใบหน้างามของหนิงอ้าย ต่างยืดอกยกยิ้มเต็มไปด้วยความถือดีว่าตนนั้นเหนือกว่าผู้ใด มีไม่น้อยเลยทีเดียวที่ตกลงกันว่าจะไปรออยู่ตรงบริเวณหน้าตระกูลหวังเผื่อว่าคุณชายหวังหนิงอ้ายออกมาจากจวนพวกตนนั้นคงจะได้เห็นสักครั้ง...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้