นครหลวงต้าซ่ง
รัชศกต่งปีที่ 30
"ฝ่าา โปรดทรงให้ความเป็ธรรมแก่ส่วนรวมด้วยพ่ะย่ะค่ะ องค์หญิงใหญ่ิจูมีนิสัยกำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว นางทุบตีบ่าวไพร่ ไม่ให้เกียรติเหล่าขุนนางก็ช่างเถิด แต่ถึงขนาดวางแผนสังหารหยางฮองเฮาและองค์ชายใหญ่ิอวี้ เช่นนี้ไม่อาจปล่อยเอาไว้ได้พ่ะย่ะค่ะ!"
"ท่านเ้ากรมกลาโหมเอ่ยถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเห็นด้วย แต่ไหนแต่ไรองค์หญิงใหญ่ิจูวางตนไม่เหมาะสมกับฐานะขององค์หญิงใหญ่เลยแม้แต่น้อย นางมีวรยุทธ์แต่ทว่ากลับใช้มันในทางที่ไม่ถูกไม่ควร เป็เพียงสตรีจะเรียนรู้เื่เหล่านี้ไปด้วยเหตุใดกัน ต้องเป็เพราะนางมีใจคิดเป็อื่นแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ นางทำเช่นนี้นับว่ามีใจคิดไม่ซื่อ อีกทั้งหลักฐานก็มัดตัวแ่า ขอฝ่าาโปรดทรงลงโทษเพื่อไม่ให้เป็เยี่ยงอย่างด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!"
เสียงของเหล่าขุนนางที่เอ่ยร้องขอความเป็ธรรมคนแล้วคนเ่าั้ทำให้ฮ่องเต้ิต่งรู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้าไม่น้อย เขามองดูบุตรสาวของตนที่นั่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าท้องพระโรงด้วยแววตาที่เรียบเฉยคราหนึ่ง
องค์หญิงใหญ่ิจู เป็บุตรสาวคนโตที่เกิดจากเขาและสวีฝูอดีตฮองเฮาผู้ล่วงลับ ซึ่งนางสิ้นพระชนม์ไปเมื่อสามปีก่อนแล้ว เดิมทีเขาไม่เคยมีใจรักใคร่ในตัวนาง แต่ที่ต้องแต่งงานกันก็เพราะยามนั้นนางสามารถเชิดชูอำนาจและบารมีของเขาได้
หลายปีก่อนเขายังเป็เพียงองค์ชายรองที่เกิดจากนางสนมเล็กๆและ้าให้ขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊สนับสนุนตนให้ได้ขึ้นเป็ฮ่องเต้ ในตอนนั้นบิดาของนางเป็ถึงราชครูผู้มากความสามารถและเป็ที่ไว้วางพระทัยของอดีตฮ่องเต้ สามารถผลักดันเขาขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดได้ เขาจึงยอมแต่งนางเป็พระชายาเอก
หลังจากได้ตำแหน่งองค์รัชทายาทมาสมใจ เขาก็ได้แต่งหยางเจินลี่เข้ามาเป็พระชายารอง นางคือสตรีที่เขารัก ตระกูลของนางเป็ถึงตระกูลแม่ทัพผู้เก่งกาจ สามารถส่งเสริมให้ขุนนางฝ่ายบู๊ยอมสวามิภักดิ์ต่อเขาได้
เขาลอบใส่ร้ายองค์ชายใหญ่จนเสียชื่อเสียงจนอดีตฮ่องเต้ไม่ทรงโปรดปราณและมอบตำแหน่งองค์รัชทายาทให้เขาเสีย เขาอดทนรอเวลานี้มาหลายปี สุดท้ายก็กำจัดเสี้ยนหนามทั้งหมดและก้าวขึ้นมาเป็ฮ่องเต้พระองค์ใหม่ได้สำเร็จ
เขาได้ครองใต้หล้ามาเป็เวลาหลายสิบปีแล้ว
เมื่อสามปีก่อน หลังจากที่สวีฝูอดีตฮองเฮาสิ้นพระชนม์เพราะโรคประจำตัว ตระกูลสวีก็เสื่อมถอยลง ราชครูสวีไม่มีบุตรชาย เมื่อสูญเสียบุตรสาวอย่างไม่มีวันกลับจึงล้มป่วยและตายจากไป จวนตระกูลสวีกลายเป็เรือนร้างนับแต่นั้น
เขาแต่งตั้งหยางเจินลี่ขึ้นเป็ฮองเฮาพระองค์ใหม่ และมอบตำแหน่งกั๋วกงให้แก่จวนตระกูลหยาง
ฮ่องเต้ิต่งปรายตามองิจู เดิมทีบุตรสาวคนนี้เขาก็ไม่ได้รู้สึกรักใคร่เท่าใดนัก เพราะเขาไม่เคยรักมารดาของนาง แต่กลับรักใคร่องค์ชายิอวี้และองค์หญิงรองิซินอี๋มากกว่า ิอวี้นั้นเกิดทีหลังิจูเพียงหนึ่งปี อีกทั้งยังมีความสามารถและเก่งกาจฉลาดรอบรู้
เดิมทีเื่ที่เด็กๆเล่นสนุกกันจนได้รับาเ็เพียงเล็กน้อยนั้นไม่นับเป็อันใด แต่ทว่าิจูกลับถูกตรวจสอบพบว่าลอบวางยาพิษหยางเจินลี่และิอวี้ นี่คือสิ่งที่เขาไม่อาจให้อภัยได้!
หยางเจินลี่เป็สตรีที่เขารัก บุตรสาวบุตรชายของนางก็เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจของเขา ใจของฮ่องเต้ยากคาดเดาและลำเอียงก็นับเป็เื่ปกติมิใช่หรือ
แม้ิจูจะปฏิเสธเสียงแข็ง แต่เขากลับไม่ฟังอันใด เขาเชื่อหลักฐานที่ตนเห็นกับตามากกว่า
องค์หญิงใหญ่ิจูที่นั่งเงียบอยู่นาน เริ่มอดทนต่อการป้ายสีของเหล่าขุนนางไม่ไหว จึงเงยหน้าไปเอ่ยกับพระบิดาของตนทันที
"เสด็จพ่อ ลูกไม่ได้ทำนะเพคะ หยางฮองเฮาใส่ร้ายลูก ขุนนางพวกนี้ก็เป็คนของนาง ย่อมต้องเข้าข้างนางอยู่แล้ว ลูกจะทำร้ายนางไปด้วยเหตุใดกัน!"
"หุบปาก ข้าให้เ้าพูดแล้วหรือ!"
ฮ่องเต้ิต่งเอ่ยกับิจูอย่างไม่ชอบใจ ิจูเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงเหอะในลำคอก่อนจะเปล่งเสียงหัวเราะออกมา ฮ่องเต้ิต่งเมื่อเห็นว่าบุตรสาวไม่สงวนท่าทีก็พลันขมวดคิ้วมุ่น
เมื่อหัวเราะจนพอใจแล้ว ิจูจึงหันมาจ้องมองบิดาของตนเองคราหนึ่ง
นางเป็ถึงองค์หญิงใหญ่ แม้จะมีฐานะสูงส่งแต่กลับอ้างว้างเหลือเกิน ั้แ่มารดาตายจากไป นางต้องมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก หยางฮองเฮาก็คิดวางแผนการทำร้ายนางอยู่ตลอดเวลา เื่ราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ ก็เป็เพราะนางหลงกลสตรีใจคอชั่วช้าเช่นหยางฮองเฮา
มีหรือที่นางจะไม่รู้ ที่หยางฮองเฮาเกลียดชังนางปานนี้ก็เพราะเกลียดชังมารดานาง จึงเอาโทสะทั้งหมดมาลงกับนาง!
"ลูกไม่ควรร้องขอความเห็นใจจากฮ่องเต้ิต่งเลยจริงๆ แต่ไหนแต่ไรท่านก็ไม่เคยเชื่อคำของลูก ท่านเชื่อแต่หยางเจินลี่และบุตรทั้งสองคนที่เป็ดั่งแก้วตาดวงใจของท่านเท่านั้น ลูกมันก็เป็เพียงส่วนเกินที่ท่านอยากกำจัดทิ้งใจจะขาด!"
"ิจู เ้าจะบังอาจเกินไปแล้วนะ!"
ฮ่องเต้ิต่งที่ถูกบุตรสาวต่อว่ากลางท้องพระโรงต่อหน้าเหล่าขุนนางก็โทสะคุกรุ่น ิจูที่เห็นเช่นนั้นกลับไม่หวาดหวั่นแม้แต่น้อย
"เสด็จพ่อ ลูกไม่ผิด แต่ไหนแต่ไรลูกไม่เคยทำผิดคิดชั่ว แต่ท่านกลับไม่เคยฟังเสียงของลูกเลย ท่านช่างเป็บิดาที่ใจคอคับแคบยิ่งนัก !"
"บังอาจนัก! ในเมื่อเ้าไม่ยอมรับผิด อีกทั้งยังทำตัวโอหัง เช่นนั้นก็ดี ทหาร! จับตัวองค์หญิงใหญ่ไปขังเอาไว้ในคุกหลวง โบยนางห้าสิบไม้ ชั่วชีวิตนี้อย่าได้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันอีก!"
ิจูเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะในชะตาของตน
"เสด็จพ่อ พระองค์ช่างเป็บิดาที่ประเสริฐยิ่งนัก!"
เหล่าทหารรีบเข้ามาลากตัวนางออกไป ก่อนจากิจูหันไปมองบิดาของตน ดวงตาของนางแดงกล่ำ แต่กลับไม่มีน้ำตาไหลออกมาสักหยด นางเปล่งเสียงะโจนก้องไปทั่วทั้งโรงพระโรง
"เสด็จพ่อ หากพวกเราได้พบกันอีกครั้งในชาติหน้า ข้าจะไม่มีทางเรียกท่านว่าเสด็จพ่อ และจะไม่ขอเกิดเป็บุตรของท่านอีก!"
เอ่ยจบนางก็ไม่ขัดขืนอันใดอีก ปล่อยให้เหล่าทหารลากตัวนางออกไปจากท้องพระโรงอย่างว่าง่าย
นางถูกโบยอย่างไร้ความปรานี เหล่าขันทีที่ลงมือตีนางล้วนเป็คนของหยางเจินลี่มีหรือพวกเขาจะยอมเมตตาปรานีนาง
ิจูไม่ร้องออกมาเลยแม้แต่น้อย เหงื่อผุดซึมขึ้นเต็มใบหน้าของนาง หญิงสาวหมดสติไปหลายครั้ง นางรู้สึกเหมือนว่าร่างกายของตนแทบจะแหลกละเอียดแล้ว
นางถูกลากตัวมาขังในคุกหลวงด้วยสภาพโลหิตโทรมกาย ใบหน้างามซีดเผือด ไม่หลงเหลือท่าทีอวดดีขององค์หญิงใหญ่อีก
ยามที่เสด็จแม่ยังอยู่ แม้หยางเจินลี่จะเหิมเกริมแต่กลับไม่กล้าแตะต้องนาง เพราะอย่างไรเสด็จพ่อก็ยังเห็นแก่หน้าท่านตาของนางอยู่ แต่เมื่อสิ้นตระกูลสวี สิ้นเสด็จแม่ นางกลับไร้ที่พึ่งพิง บิดามีใจลำเอียง เชื่อคำยุยงของผู้อื่น
ั้แ่เล็กจนโต เท่าที่นางจำความได้ เสด็จพ่อไม่เคยสนใจนางเลย สิ่งใดที่ดีดีล้วนส่งไปให้ิอวี้และิซินอี๋ก่อน นางทั้งน้อยใจทั้งโมโห จึงเอาโทสะที่มีไปลงกับเหล่าขุนนางและข้ารับใช้หวังจะใช้ความรุนแรงเรียกร้องความสนใจจากเสด็จพ่อ แต่มันกลับกลายเป็ว่านางทำตัวเหิมเกริม บ้าอำนาจ มีใจคิดไม่ซื่อไปเสียอย่างนั้น
"ฮึก ฮือ"
ก่อนหน้านี้นางพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา แต่ยามนี้มันกลับพังทลายราวคำนบแตก นางร้องไห้ด้วยความเสียใจ น้อยใจ คำว่าครอบครัวคืออันใดนางไม่เคยรู้จัก ความรักจากบิดาคืออันใดนางไม่เคยเข้าใจ เพราะเสด็จพ่อเฉยชาต่อนางและมารดามาโดยตลอด
"พี่หญิง ข้ามาส่งท่านเป็ครั้งสุดท้าย ขอให้ท่านเดินทางไปปรโลกอย่างมีความสุข อย่าได้อยู่เป็ตัวขวางหูขวางตาของพวกเราอีกต่อไปเลย"
เสียงหวานใสของสตรีนางหนึ่งเอ่ยขึ้นมาท่ามกลางความมืด ในน้ำเสียงนั้นเจือไปด้วยความเวทนาและขบขัน ิจูพยายามเงยหน้าไปมอง ภายใต้แสงสลัวเรือนลางของเปลวเทียนทำให้นางมองเห็นใบหน้าของผู้มาใหม่ได้อย่างชัดเจน
เป็ิซินอี๋!
ยามนั้นหยางเจินลี่ยังเป็เพียงพระสนมเอก ิซินอี๋ย่อมไม่อาจเทียบกับบุตรที่เกิดจากฮองเฮาเช่นนางได้ แต่หลังจากมารดาิซินอี๋ได้เป็ฮองเฮา ิซินอี๋ก็ยิ่งกำเริบเสิบสาน วางอำนาจบาตรใหญ่ ถึงขนาดลอบใส่ร้ายนางสารพัด ยิ่งทำให้ท่านพ่อเกลียดชังและไม่ชอบใจในตัวนางมากขึ้นไปอีก ถึงขนาดคิดว่านางจะลอบฆ่าเชื้อพระวงศ์และตั้งตนเป็ฮ่องเต้หญิงเสียเอง
ิจูไม่เอ่ยตอบโต้อันใด นางสิ้นหวังกับชีวิตไปตั้งนานแล้ว ยามนี้ในใจของนางไม่มีแม้กระทั่งความแค้นหลงเหลืออยู่เลยด้วยซ้ำ นางถึงกับภาวนาต่อเทพบน์ว่า หากนางมีโอกาศเกิดใหม่อีกครั้ง ขอให้นางได้เกิดในตระกูลธรรมดา ไม่ต้องมีฐานะสูงศักดิ์ เป็เพียงบุตรสาวที่ถูกบิดามารดารักใคร่ถนอมอยู่ในฝ่ามือราวไข่มุก มีพี่น้องที่รักใคร่และจริงใจต่อกัน เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
นางไม่อยากจะแก้แค้นผู้ใดทั้งสิ้น นางคิดเพียงว่านี่คือชะตากรรมที่นางต้องยอมรับ
นางหวังเพียงว่าหากได้พบกับท่านแม่อีกครา นางจะทำทุกทางให้ท่านแม่มีความสุข
ด้านิซินอี๋เมื่อเห็นว่าิจูไม่เอ่ยตอบโต้เช่นที่เคยทำมาตลอดก็รู้สึกหมดสนุก นางสั่งให้คนนำน้ำเกลือมาสาดลงบนาแิจู ก่อนจะยกเท้าเหยียบกลางหลังิจู เมื่อรังแกคนจนสาแก่ใจแล้ว นางจึงจากไปด้วยใจที่เป็สุข
ิจูนอนคว่ำหน้าด้วยแววตาเลื่อนลอย ภาพตรงหน้าค่อยๆมืดลงทุกขณะ ในที่สุดห้วงจิตสุดท้ายของนางก็มอดดับลง
นางได้จากโลกใบนี้ไปตลอดกาลแล้ว
"องค์หญิงใหญ่สิ้นพระชนม์แล้ว ฝ่าามีรับสั่งว่าให้นำศพของนางไปฝังที่นอกนครหลวง ห้ามนำไปฝังในสุสานราชวงศ์และไม่ต้องสลักป้ายชื่อหน้าหลุมศพ!"
เหล่าทหารเมื่อได้ยินคำสั่งก็รีบเข้ามาหามศพของิจูออกไปฝังยังด้านนอกนครหลวง ก่อนจะจัดการฝังศพของนางอย่างลวกๆที่ตีนเขาวัดไป๋หม่าราวกับศพไร้ญาติ
ิจูที่กลายเป็ิญญาล่องลอยได้มองเห็นเื่ราวนี้ทั้งหมด ท่านพ่อเกลียดชังนางถึงกับไม่ให้นางฝังในสุสานราชวงศ์ และยังไม่ให้สลักป้ายชื่อของนาง แต่กลับนำนางมาฝังที่ตีนเขาวัดไป๋หม่า เสด็จพ่อทำราวกับว่านางไม่ใช่บุตรของเขา
ิจูมองภาพเ่าั้ด้วยแววตาไม่ยินดียินร้าย
เมื่อทหารจากไปหมดแล้ว ก็มีบุรุษผู้หนึ่งปรากกฎตัวขึ้น เขาสวมชุดสีขาวทั้งชุด และยังสวมหมวกงอบปิดบังใบหน้าเอาไว้ ท่วงท่าดูสง่างามราวกับเทพเซียน ิจูที่เห็นเช่นนั้นก็ย่นหัวคิ้วพลางมองชายหนุ่มผู้มาใหม่ด้วยความแปลกใจ
เขาจัดการฝังศพของนางใหม่ และยังสลักป้ายชื่อหน้าหลุมศพของนางด้วยตนเอง เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มจึงทิ้งกายนั่งลงข้างหลุมศพของนางอย่างเกียจคร้าน ท่าทีของเขาดูเรียบเฉยและเ็าราวน้ำแข็งจนนางััได้
"ิจู ข้าจะดูแลหลุมศพของเ้าเอง หากชาติหน้ามีจริง พวกเรามาดื่มสุราด้วยกันอีกคราดีหรือไม่?"
เมื่อได้ยินเสียงของเขา ิจูก็ตัวชาวาบ
หยางซี เป็หยางซีหรือ?
อยู่ๆร่างของนางก็คล้ายถูกเหวี่ยงอย่างแรง ก่อนที่นางจะหมดสติไปอีกครั้งหนึ่ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้