คดีมีความคืบหน้าอย่างมาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นั่นทำให้ความเหน็ดเหนื่อยของหลายๆ คนหายเป็ปลิดทิ้ง หลังกินอาหารเย็นเสร็จ พวกเขาก็รวมกลุ่มกันอย่างแข็งขันเพื่อสอบปากคำหรงลี่
หรงลี่หดหู่ เธอไม่แม้แต่จะมองทุกคนที่อยู่ตรงหน้าเลย
“หรงลี่ ยอมรับโทษเบา ปฏิเสธโทษหนัก คุณยังมีโอกาสตัดสินใจ...”
เซี่ยตันในฐานะผู้สอบปากคำหลักต้องบอกข้อตกลงหลายๆ อย่างเป็ธรรมดา ซึ่งเป็ขั้นตอนที่จำเป็ต้องกระทำ
“ไม่ใช่ฉัน ฉันไม่ได้ฆ่าเขา”
หรงลี่พึมพำประโยคนี้ซ้ำไปซ้ำมากับตนเอง ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ค่อนข้างงุนงง
ข้อสันนิษฐานของจ้าวอี้สมเหตุสมผล และหนังสือในบ้านเช่าซึ่งเป็หลักฐานก็พิสูจน์เื่นี้ได้
เซี่ยตันใช้สายตาส่งสัญญาณให้จ้าวอี้สอบปากคำต่อ
จ้าวอี้หยิบหนังสือสองสามเล่มที่บรรจุอยู่ในพลาสติกใสมาวางบนโต๊ะ "คุณหรงลี่ ั้แ่คุณพูดว่าคุณไม่ฆ่าใคร คุณช่วยอธิบายหน่อยสิครับ ว่าทำไมในหนังสือสองเล่มนี้ถึงมีจุดสำคัญที่ถูกเน้นไว้"
เมื่อเปิดหนังสือ จ้าวอี้ก็หาส่วนที่ถูกทำเครื่องหมายไว้บนนั้นซึ่งเขียนไว้ว่า ‘วิตามินซี ห้ามรับประทานคู่กับหอยและอาหารทะเล...’
ลายมือสวยงามชัดเจน เพียงแต่หนังสือค่อนข้างเก่า แสดงให้เห็นว่าน่าจะถูกพลิกเปิดเป็ประจำ
“จากการชันสูตรศพ ในกระเพาะอาหารของผู้ตายพบร่องรอยอาหารประเภทหอยอยู่ และอาหารเย็นที่คุณจัดเตรียมในวันที่เกิดเหตุมีอาหารประเภทนี้อย่างแน่นอน คุณจะอธิบายเื่นี้ยังไงครับ?”
หรงลี่ชะงักในทันที เธอเงียบลง จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นแล้วพูด “นี่พิสูจน์อะไรไม่ได้เลยนะคะ ความจริงแล้วการบริโภคอาหารปริมาณน้อยแบบนี้ไม่อาจทำให้เกิดอาการผิดปกติกับคนได้ พวกคุณมีหลักฐานอะไรมาพิสูจน์หรือเปล่าว่าวันนั้นเขาทานวิตามินซีด้วยน่ะ? ไม่มีหลักฐานสินะคะ?”
หรงลี่ที่ปกติอ่อนน้อมคนนั้นหายไปหมดแล้ว แทนที่ด้วยความมั่นใจในตนเอง
“คุณเข้าใจวิชาชีพของคุณดีมาก แน่นอนว่าถ้าเป็อาหารประเภทเดียวย่อมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ถ้ามีอาหารหลายชนิดรวมกันล่ะครับ? คุณอาจลืมไปว่าในกระเพาะอาหารอาจไม่พบสารตกค้าง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่พบในเืด้วย ถ้าคุณยังไม่ยอมรับอีก พวกเราจะเชิญผู้เชี่ยวชาญที่มีสิทธิ์ในการประเมินทางวิชาชีพมาเอง”
จ้าวอี้พูดถูก ในหนังสือจดทฤษฎีข่มกันของอาหารแร่ธาตุโมเลกุลเดี่ยวเอาไว้ มันอาจไม่มีปัญหาในการจดร่องรอยหนึ่งไว้ แต่ถ้าหลายเป็อาหารหลายประเภทรวมกัน เกรงว่าอาจจะฆ่าคนได้อย่างไร้ร่องรอย เหมือนกับรายงานการชันสูตรศพครั้งแรกของผู้ตายเฉิงเซินซึ่งถูกระบุว่าเป็การเสียชีวิตโดยธรรมชาติ
หรงลี่เอียงศีรษะ จากนั้นก็มองตรงไปที่จ้าวอี้ “พวกคุณจะกล่าวหาฉันโดยไม่มีหลักฐานไม่ได้นะ สิ่งที่คุณพูดมาทั้งหมดก็เพียงคำพูดลอยๆ เท่านั้นเอง การตรวจสอบหลายๆ อย่างก็ออกมาว่าร่างกายของเขาแข็งแรงดีนี่คะ นอกจากนั้นการฆ่าคนต้องมีแรงจูงใจสิคะ ฉันไม่มีแรงจูงใจในการก่อเหตุเลย อีกทั้งฉันไม่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย”
เหตุผลของเธอชัดเจนเป็พิเศษ ก่อนที่รอยยิ้มจะปรากฏขึ้นในทันใด
รอยยิ้มนี้แสดงถึงความยั่วยุ ทำให้ในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นโกรธเคือง
ในตอนนี้ แม้กระทั่งเฉินตงก็เข้าใจแล้วเช่นกันว่า ผู้หญิงตรงหน้าต้องมีความเกี่ยวข้องกับฆาตกรอย่างแน่นอน เพียงแต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยัน
ทุกคนต้องให้ความสนใจกับหลักฐาน ไม่มีหลักฐานก็เอาผิดเธอไม่ได้
ปัง!
เฉินตงตบโต๊ะในทันทีและะโอย่างโกรธเกรี้ยว “หรงลี่ มาถึงขั้นนี้แล้ว พวกเราจับกุมคุณย่อมต้องมีหลักฐานแน่นอน ตอนนี้คุณต้องพูดออกมา เราให้โอกาสคุณแล้วนะ ลองนึกถึงลูกสาวของคุณสิ ลูกสาวของคุณใกล้เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วนี่ อยากให้ลูกสาวเสียแม่ของเธอไปตอนที่ใกล้จะเรียนจบงั้นเหรอ?”
นี่ก็เป็หนึ่งในกลยุทธ์การสอบปากคำ เฉินตงแสดงบทร้าย
น่าเสียดายที่วิธีนี้ใช้กับหรงลี่ไม่ได้ผล เธอแค่มองเฉินตงอย่างดูถูก ทว่าหลังจากนั้นก็ไม่พูดเลยสักคำ
“แรงจูงใจในการก่ออาชญากรรมของคุณ ผมคิดว่าลูกสาวของคุณอาจเข้าใจดี เธอน่าจะมาที่นี่พรุ่งนี้เช้า”
จ้าวอี้กลับไม่รีบร้อน เขาเพียงอธิบายเื่จริงออกมา
ใครจะรู้เล่าว่าความจริงข้อนี้ทำให้หรงลี่ตื่นตระหนก เธอยืนขึ้นและโบกมือในทันที พร้อมกับเอ่ยอย่างร้อนรน “เื่นี้ไม่เกี่ยวกับลูกสาวของฉันเลย พวกคุณเรียกเธอมาทำไมกัน!”
“แน่นอนว่าเป็เพราะคุณไงล่ะ!”
จ้าวอี้พูดอย่างไม่เกรงใจ ยิ่งพิสูจน์ข้อสงสัยในใจของเขาได้มากยิ่งขึ้น
“ไม่นะ! พวกคุณทำอย่างนี้ไม่ได้ พวกคุณทำแบบนี้ไม่ได้!”
หรงลี่ร้อนรน ไม่มีความมั่นใจเหมือนเมื่อครู่ การต่อต้านของเธอเปลี่ยนไปเหมือนถูกยึดติดไว้กับเก้าอี้
“ทำไมจะทำอย่างนี้ไม่ได้ล่ะ? ถ้าคุณไม่บอกว่าคุณฆ่าผู้ตายยังไง พวกเราก็ทำได้เพียงตรวจสอบจากรอบด้าน หาแรงจูงใจในการก่ออาชญากรรมของคุณ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าลูกสาวของคุณต้องรู้แน่ว่าคุณฆ่าคนทำไม!”
จ้าวอี้มองไปที่หรงลี่อย่างสงบ ยิ่งทำให้เธอตื่นตระหนก แสดงว่าวิธีนี้ได้ผล
“ถ้าคุณปฏิเสธที่จะตอบคำถาม งั้นพวกเราก็ต้องสอบปากคำลูกสาวของคุณแทน นี่ต้องส่งผลต่อการเรียนของเธอแน่ คุณหรงลี่ คุณก็เข้าใจดีนี่คะ ั้แ่พวกเราปักใจเชื่อว่าคุณคือฆาตกร ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่มีหลักฐานเอาผิดโดยตรงก็ตามที มันอาจต้องใช้เวลาอยู่บ้าง แต่ก็แค่ต้องรายงานการตรวจเืและทำการเปรียบเทียบกับสารตกค้างในกระเพาะอาหาร จากนั้นหาผู้เชี่ยวชาญที่มีอำนาจดำเนินการมาตรวจสอบ ซึ่งคุณจะถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมแน่นอน รีบพูดออกมาก่อนที่จะส่งผลเสียต่อลูกสาวของคุณแม้จะเล็กน้อยก็ตาม ในจุดนี้คุณคงเข้าใจดีสินะคะ”
เซี่ยตันโจมตีทางจิตใจต่อ ทั้งตัวหรงลี่ดูเหมือนถูกดึงกระดูกออกมา ร่างกายเป็อัมพาตอยู่บนเก้าอี้
“เมื่อคุณยังไม่ยอมอธิบาย งั้นเราก็ทำได้เพียงรอจนกว่าจะได้สอบปากคำลูกสาวของคุณถึงเหตุผลตอนพรุ่งนี้เช้า” จ้าวอี้พูด ยืนขึ้นอย่างช้าๆ และมองไปที่หรงลี่
ผลของการยอมถอยเพื่อชนะนั้นดีมาก เมื่อมองเห็นผู้สอบถามในห้องเริ่มจัดข้าวของ หรงลี่ก็ชะงักในทันที
“ฉันจะพูด ฉันจะพูดทุกอย่างเลย ฉันจะพูดแล้ว!”
เมื่อได้ยินคำพูดของหรงลี่ ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็กระฉับกระเฉงขึ้นมาทันควัน
“ดี!”
“ฉันมีเงื่อนไขข้อหนึ่งค่ะ พวกคุณไม่เรียกลูกสาวฉันมาได้ไหม เื่นี้ไม่เกี่ยวกับเธอเลยแม้แต่นิดเดียว”
หรงลี่พูดอย่างกระสับกระส่าย ขณะเดียวกันก็มองเซี่ยตันอย่างระมัดระวัง
พวกเซี่ยตันปรึกษากันไม่กี่คำจากนั้นจึงพูดกับหรงลี่อย่างเด็ดขาด “ถ้าคุณตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา พวกเราจะยอมรับเงื่อนไขนั้นค่ะ”
หรงลี่ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“หลายปีก่อนหน้านี้ เพื่อให้ลูกสาวได้รับการศึกษาที่ดีขึ้น ฉันเลยมาตั้งรกรากที่เมืองนี้ค่ะ อีกทั้งใช้เวลาว่างในการอ่านหนังสือมากมาย และสอบเพื่อให้ได้ใบรับรองคุณสมบัตินักโภชนาการระดับสูงด้วย เพราะแม่บ้านที่มีใบรับรองนี้กับแม่บ้านที่ไม่มีใบรับรอง เงินเดือนมันต่างกันสองถึงสามเท่าเลยทีเดียวค่ะ...”
หรงลี่เหมือนจมอยู่ในความหลัง ไม่มีใครรบกวนเธอ
“ตอนนั้นมันยากมากๆ ฉันต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย และยังต้องดูแลลูกสาวของฉันอีก เธอบอกกับฉันว่าไม่ต้องลำบากขนาดนี้ก็ได้ แต่เพื่อให้ลูกสาวมีชีวิตที่ดีขึ้น ลำบากแค่นี้ไม่เป็ไรหรอกค่ะ จากนั้นก็ดีขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือเมื่อห้าปีก่อนค่ะ”
จิติญญาของทุกคนสั่นไหวเมื่อรู้ว่าหรงลี่ใกล้จะเข้าเื่หลักแล้ว
“ห้าปีก่อน บริษัทจัดหาแม่บ้านแนะนำฉันให้ไปบ้านตระกูลเฉิงค่ะ หลังผ่านการทดลองงานและเซ็นสัญญา ชีวิตของฉันก็ได้รับการรับประกัน ครอบครัวของเขาดีมากเลยค่ะ เวลานั้นพูดได้เลยว่า เป็เวลาที่พวกเราแม่ลูกร่ำรวยมากที่สุด ครอบครัวของเขาจัดหาอาหารและที่อยู่ให้อีกด้วยค่ะ”
จ้าวอี้ฟังถึงตรงนี้อดนึกถึงประโยคนี้ไม่ได้ ‘เ้านายยุ่งตัวเป็เกลียวทุกวัน พวกแม่บ้านกลับใช้ชีวิตอย่างเรื่อยเปื่อย ซื้อคฤหาสน์ไม่รู้ว่าที่จริงแล้วซื้อให้ใครอาศัย’
“งั้นทำไมสองปีก่อนคุณถึงย้ายออกจากบ้านเขากะทันหันล่ะคะ? ทั้งยังมาเช่าบ้านอยู่ข้างนอกด้วย?” เซี่ยตันชี้ให้เห็นถึงใจกลางของปัญหา
ตามหลักแล้ว ในสถานการณ์เช่นนี้เธอไม่จำเป็ต้องเช่าบ้านที่อื่นเลย อย่างไรก็ตาม การเช่าบ้านก็้าเงินใช่ไหมเล่า? สิ่งอำนวยความสะดวกของบ้านเช้าย่อมไม่ดีเท่าในคฤหาสน์อยู่แล้ว
หรงลี่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันทันที “เฉิงเซินเป็สัตว์ป่า เป็ไอ้เสแสร้ง! พวกเราถูกหลอกลวงด้วยภาพลักษณ์ภายนอกของเขา!”
เธอหลบสายตาของคนที่อยู่ในห้องและหลับตาลง “เขาทำลายความบริสุทธิ์ของฉันค่ะ”
“แล้วทำไมคุณถึงไม่แจ้งตำรวจล่ะ?”
“แจ้งตำรวจจะไปมีประโยชน์อะไรล่ะ? ตอนนั้นเฉิงเซินทำลายหลักฐานไปหมดแล้ว พวกตำรวจจะทำอะไรได้? เขารวย... รวยมาก ต่อให้ขึ้นศาลก็คงจะจบลงในไม่กี่ปี” หรงลี่ถามกลับประโยคหนึ่ง ทำให้ทุกคนต่างเงียบไป
แม้เื่จริงอาจไม่เลวร้ายเท่าที่หรงลี่พูด แต่ในสถานการณ์ที่ไม่มีหลักฐานนั้น หาก้าให้เขารับโทษเกรงว่าจะไม่ใช่เื่ไม่ง่าย
“ดังนั้น ฉันเลยเลือกเงิน เขาจ่ายเงินให้ฉันก้อนหนึ่งและเพิ่มเงินเดือนให้ฉันอีกสองเท่า เื่นี้จึงถือว่าผ่านไป” หรงลี่หลับตา หางตามีหยดน้ำตาไหลออกมา
หรงลี่อายุสี่สิบกว่าปี แม้ว่าจะเกิดในชนบทแต่เธอก็ไม่ธรรมดา บวกกับนิสัยดื้อดึงของเธอ อาจมีความดึงดูดอย่างรุนแรงต่อชายที่ประสบความสำเร็จเช่นนี้ จุดนี้เกินความคาดหมายของคนในห้องพอสมควร
“งั้นทำไมคุณถึงเลือกที่จะฆ่าเขาในอีกสองปีต่อมาล่ะคะ? ไม่ใช่ว่ามันผ่านไปแล้วเหรอ?”
เซี่ยตันถามอย่างสงสัย
“เพราะเขายังคิดที่จะกดขี่ฉันอยู่ไงล่ะคะ ฉันทนไม่ไหวแล้ว และลูกสาวของฉันก็ใกล้เรียนจบแล้วด้วย ฉันมีเงินเก็บไม่มากนัก แต่ก็พอจะอยู่ไปได้อีกสักพัก ถึงตอนนั้นพวกลูกหลานก็คงมีทางรอดของเขาเอง ยังไงฉันก็ไม่สามารถดูแลเธอไปทั้งชีวิตได้อยู่แล้ว”
สายตาของหรงลี่มีทั้งความไม่เต็มใจและลังเล แต่ก็มีความแน่วแน่แฝงอยู่ด้วย!
จ้าวอี้คิดว่ามีบางจุดที่ไม่ถูกต้อง หรือก็คือหรงลี่ยังคงปิดบังอะไรบางอย่างไว้ ั้แ่หรงลี่สารภาพความลับบางอย่างออกมา จ้าวอี้และคนอื่นๆ ก็ไม่ได้แทรกเพื่อสอบถามรายละเอียดเลย
“มาพูดถึงเื่ที่คุณฆ่าผู้ตายยังไงดีกว่า”
“อาหารใน่สองปีมานี้ ฉันจัดเตรียมเพื่อให้เฉิงเซินพอใจ แต่จะไม่ส่งผลต่อกระทบต่อสุขภาพของเขา ในคืนนั้น ฉันเพิ่มเมนูพิเศษอย่างตั้งใจหลายเมนู ในหลายเมนูนี้ทำให้เขาปรากฏอาการผิดปกติอย่างเส้นเืในสมองแตกตาย สูตรของเมนูก็คือ... วันนั้นหลังทำความสะอาดเสร็จแล้ว ฉันก็ออกจากคฤหาสน์ เพราะฉันรู้ว่ามันจะปรากฏการตอบสนองที่รุนแรงในอีกประมาณสองชั่วโมง และเขามักจะอาบน้ำในเวลานี้”
หรงลี่พูดจบในลมหายใจเดียวราวกับแบกพระพุทธรูปหนักกว่าพันจินเอาไว้
“แล้วคุณจะอธิบายรอยนิ้วมือเด็กสีฟ้าบนคอเขายังไงคะ?”
เซี่ยตันถามถึงประเด็นนี้
“ฉันใช้ทิงเจอร์ทำขึ้นมาในเช้าวันต่อมา นี่จะทำให้ชื่อเสียงของเขาป่นปี้! พวกคุณไม่คิดว่ามันเป็ความคิดที่ดีเหรอคะ?”
หรงลี่เหยียดยิ้ม ทำให้ทุกคนรู้สึกขนลุก
ในรายงานข่าวที่สามารถหาได้นั้น เฉิงเซินเป็นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เป็คนใจบุญและมีภาพพจน์ที่ดีคนหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ในสายตาหรงลี่ มันคือการเสแสร้ง
“ถ้าคุณไม่ใช่คนแรกที่พบศพผู้เสียชีวิตล่ะ?”
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะล้มเลิกขั้นตอนนี้ ยังไงเขาก็ตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ถึงมันจะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ไม่ใช่เื่ใหญ่อะไรนี่คะ”
หรงลี่พูดอย่างไม่ใส่ใจ ทำให้ทุกคนได้แต่มองกันไปมา
เหมือนนี่จะเป็เื่จริงนะ?
“คุณตำรวจคะ อย่าบอกลูกสาวฉันได้ไหมคะ?”
“แน่นอน ช่วยอ่านคำสารภาพนี้ด้วยค่ะ ถ้าไม่มีข้อคัดค้านอะไรอีก กรุณาเซ็นชื่อลงในนี้เลยค่ะ”
หรงลี่ไม่แม้แต่จะอ่าน เธอเขียนชื่อตนเองลงไป ลายมือของเธอฉวัดเฉวียนเล็กน้อย ไม่เป็ระเบียบ แต่ชัดเจนอย่างมาก