ผู้คนที่อยู่ในสนามประลองที่ให้ความสนใจกับการประลองของคู่นี้ต่างแตกตื่นกันเป็อย่างมาก เพราะสัตว์อสูรที่คุณชายกวงเหยาหานเรียกออกมา นอกจากว่าจะเป็สิงโตเพลิงที่หายากเเล้วยังเป็สัตว์อสูรมายาขั้นกลางอีกด้วย นับว่าตระกูลกวงนั้นให้ความสำคัญแก่คุณชายกวงเหยาหานท่านนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว
"โจมตีพวกมันซะ!!!" กวงเหยาหานสั่งอสูรสิงโตมกรเพลิงของตนเข้าโจมตีลู่ซีในทันที
โฮก!
วูบ!
อสูรสิงโตมกรเพลิงคำรามออกมาเสียงดังพร้อมกับพุ่งทะยานเข้าโจมตีลู่ซีด้วยความรุนแรงเกรี้ยวกราด
โฮก!
ตู้ม! ตู้ม!
ลู่ซีไม่ยอมตกเป็รองในการประลองครั้งนี้ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายได้อัญเชิญอสูรรับใช้ของตนออกมา เขาจึงอัญเชิญอสูรในพันธะนั่นคือเสี่ยวเฟิง หรือวิฬาร์อัสนีสีชาดนั่นเอง
เสียงร้องของวิฬาร์อัสนีสีชาด สัตว์อสูรมายาขั้นกลางร้องดังขึ้นไปทั่วสนามประลอง จนผู้คนที่มีพลังิญญาไม่สูงมากรวมไปถึงชาวบ้านธรรมดาต่างต้องยกมือขึ้นมาปิดหูของตนในทันที สายพลังเเห่งอัสนีบาตที่พวยพุ่งอยู่โดยรอบตัวของวิฬาร์อัสนีสีชาดได้ถูกปลดปล่อยออกมา โดยที่ไม่ต้องให้ลู่ซีบัญชาการอีกฝ่ายได้พุ่งโจมตีไปยังสิงโตมกรเพลิงด้วยความรวดเร็วไม่ทันได้ตั้งตัวเสียด้วยซ้ำ
"เฮือกกกกกกก!!!!" กวงเหยาหานใเป็อย่างมาก ที่ลู่ซีนั้นมีอสูรรับใช้เป็สัตว์อสูรมายาขั้นกลางเช่นเดียวกับตน ยิ่งไปกว่านั้นสิงโตมกรเพลิงที่เป็อสูรรับใช้ของเขาได้ถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง และถูกไล่ต้อนไปทั่วอาณาเขตของการประลองที่ถูกจำกัดไว้ชวนให้รู้สึกอับอายยิ่งนัก
'สัตว์อสูรทั้งสองตัวที่อยู่ในสนามของประลองของคุณชายทั้งสองต่างเป็สัตว์อสูรมายา ไหนว่ากันว่ายากที่จะมีผู้ถือครองผูกพันธะโดยง่ายมิใช่รึ?'
'คราเเรกข้าคิดว่าคุณชายลู่ซีคงต้องเสียเปรียบเป็แน่ เพราะทางฝั่งคุณชายกวงเหยาหานนั้นครองครองสัตว์อสูรมายาในพันธะของตน เเต่ใครจะไปคิดว่าคุณชายลู่ซีนั้นก็ถือครองอสูรรับใช้เป็อสูรมายาเช่นเดียวกัน'
'ช่างเป็การประลองที่น่าสนุกอะไรเยี่ยงนี้ คุณชายทั้งสองคนต่างเป็ราชทินนามขุนนางิญญาขั้นสูงทั้งคู่ อีกทั้งอสูรรับใช้ในพันธะต่างเป็สัตว์อสูรมายาเหมือนกัน หากเป็เช่นนี้แล้วคงต้องวัดแพ้หรือชนะกันด้วยระดับพลังของบทเวทย์ที่ใช้หรือการต่อสู้ด้วยวรยุทธเสียเเล้วข้าว่า... '
เสียงฮือฮาดังขึ้นอย่างคึกคักไปทั่วสนามประลองในครั้งนี้ เมื่อพวกเขาได้เห็นอสูรรับใช้ในพันธะของคุณชายทั้งสองที่ได้ทำการเผยโฉมเเสดงพลังโจมตีกันออกมาเนื่อง พวกเขาต่างทราบกันดีว่าอสูรมายานั้นน้อยที่จะมีผู้คนผูกพันธะได้ เเต่สิ่งที่พวกตนได้เห็นนี้เล่าเพียงเเค่หนึ่งชั่วยามเเรกเท่านั้นในการประลองแคว้นครั้งนี้ พวกเขาต่างได้ประสบพบเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิด พวกเขาทั้งหมดต่างอดใจรอแทบไม่ไหวที่จะได้เห็นการประลองของผู้ฝึกตนราชทินนามขุนนางิญญาที่จะมีการเเข่งขันต่อไปคงจะสร้างความตื่นตาตื่นใจมากกว่านี้อีกหลายเท่าตัว
ลู่ซีเองแม้จะเเปลกใจไม่น้อยที่วิฬาร์อัสนีสีชาดของเขาสามารถเลื่อนระดับเป็สัตว์อสูรมายาขั้นกลางได้เช่นนี้ ส่งผลให้ในตอนนี้เสี่ยวเฟิงมีหางงอกเพิ่มเป็ห้าหางเเล้วนั่นเอง โดยที่ความลับของสัตว์อสูรโบราณวิฬาร์อัสนีสีชาดนั่นก็คือพลังการโจมตีจะเพิ่มขึ้นเป็เท่าตัวตามจำนวนหางที่งอกเพิ่มขึ้น เท่ากับว่าเมื่อครบเก้าหางเมื่อใดต่อให้คู่ต่อสู้จะมีขนาดที่ใหญ่โตกว่าเพียงไหนก็ไม่อาจนับว่าเป็คู่ต่อสู้ของวิฬาร์อัสนีสีชาดได้นั่นเอง
ระหว่างที่สัตว์อสูรทั้งสองตนเข้าห้ำหั่นต่อสู้กันอย่างดุเดือด ฝั่งของลู่ซีและคุณชายกวงเหยาหานต่างเข้าต่อสู้กันด้วยเพลงกระบี่อีกครั้ง โดยที่ครั้งนี้เป็การต่อสู้ที่รุนเเรงเป็อย่างมากสร้างความตื่นตาตื่นใจของผู้ที่รับชมการประลองไม่น้อย ด้วยความที่พวกเขาไม่คาดคิดว่าการต่อสู้ในรอบเเรกที่เป็เพียงการประลองของราชทินนามขุนนางิญญานี้จะถึงขั้นมีการใช้บทเวทย์ระดับสูงรวมไปถึงการเรียกใช้สัตว์อสูรออกมาต่อสู้กัน
"ข้าไม่ยอมแพ้เ้าหรอก!!!" เสียงของกวงเหยาหานเอ่ยขึ้น เสื้อผ้าอาภรณ์ที่ขาดแหว่งไปไม่น้อยรวมไปถึงมีร่องรอยจากการโดนกระบี่ฟาดฟัน ทำให้รูปลักษณ์ของอีกฝ่ายดูราวกับเป็ขอทานน้อยที่ถูกรุมตีหาใช่เป็คุณชายที่มาจากตระกูลใหญ่ของแคว้นไม่
"ควรจบการประลองครั้งนี้เถอะข้าเสียเวลามากเกินไปเเล้ว..." ลู่ซีเอ่ยขึ้นด้วยความจริงจัง สภาพของเขาในตอนนี้ทั้งอาภรณ์ที่สวมใส่ต่างมีร่องรอยการฉีกขาดหรือาแที่เกิดขึ้นจากการตั้งรับและโจมตีจากคุณชายกวงเหยาหาน
ต้องบอกตามตรงว่าเขายังอยู่ในสภาพที่ดีกว่าอีกฝ่าย อย่าได้เห็นว่าเขามีรูปร่างสูงโปร่งไม่ได้มีกล้ามเนื้อเช่นเดียวกับบุรุษทั่วไป เพราะเขาได้อาศัยช่องโหว่ที่กวงเหยาหานมักจะใช้อารมณ์ในการประลอง กับเขาที่มีสมาธิสติมากกว่าจึงได้เปรียบกว่ามาก
ครั้นมองไปยังการต่อสู้ของสัตว์อสูรทั้งสองตัว ก็พบว่าสภาพของสิงโตมกรเพลิงอันเป็สัตว์อสูรในพันธะของกวงเหยาหานนั้นสภาพแทบจะไม่มีความแตกต่างจากนายของมันเสียเท่าไหร่นัก ในส่วนของวิฬาร์อัสนีสีชาดที่เป็สัตว์อสูรรับใช้ของเขามีเพียงเเต่ร่องรอยาเ็เล็กน้อย พอให้ตัวของลู่ซีนั้นได้อุ่นใจว่าสัตว์อสูรในพันธะของตนไม่ได้เป็อะไร
เสียงะโยังคงดังขึ้นไปทั่วทั้งสนามประลองนี้ คุณชายทั้งสองนับว่าเป็สุดยอดรุ่นเยาว์ที่มากไปด้วยฝีมืออย่างแท้จริง ไม่รอช้าการแลกเปลี่ยนเคล็ดวิชากระบี่ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง แต่ดูไปแล้วในครานี้ถือว่ามีความเหนือชั้นกว่าตอนแรกเริ่มการประลองจนเห็นได้ชัด
ตระกูลจาง
การประลองที่เกิดขึ้นในตอนนี้นั้นได้สร้างความเเปลกใจอย่างมากแก่คนในตระกูลจางเเห่งแคว้นหงส์แดงอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะทุกคนในตระกูลจางทั้งสายหลักและสายรองต่างจดจำลู่ซีในฐานะบ่าวรับใช้ของอดีตคุณชายใหญ่จางหนิงอ้ายได้เป็อย่างดี
พวกเขาไม่คาดคิดว่าลู่ซีบ่าวรับใช้ที่ตนมองว่าเป็สวะไม่ต่างกับนายของมันจะสามารถพัฒนาฝีมือได้ก้าวะโเช่นนี้ ทั้งพลังิญญาที่อยู่ในราชทินนามขุนนางิญญาที่นับได้ว่าสูงเกินไปที่บ่าวรับใช้คนหนึ่งที่ไม่ได้รับการสนับสนุนในทรัพยากรของการฝึกตนจะสามารถเข้าถึงได้ นอกจากจะมีฝีมือวรยุทธที่ร้ายกาจแล้วยังสามารถใช้บทเวทย์ระดับสูงได้อย่างคล่องแคล่วทรงพลัง และยังวิฬาร์อัสนีสีชาดที่เป็สัตว์อสูรมายาที่หายากเช่นนี้ได้
'ที่เหล่านักฆ่ารับจ้างไม่สามารถทำตามภารกิจได้สำเร็จคงเป็ฝีมือของมันผู้นี้!! หากรู้ว่าในอนาคตมันจะสร้างปัญหา ข้าคงส่งนักฆ่าไปลอบสังหารมันเสียตั้งเเต่ยังเป็บ่าวรับใช้ตัวน้อยที่ถูกชุบตัวมาจากขอทานเสีย...'
หวงลู่เอินครุ่นคิดด้วยความแค้นเคืองใจเป็อย่างมาก แม้จะเเปลกใจไม่น้อยในฝีมือของบ่าวคนนี้และอสูรรับใช้ของมันว่ามีที่มาอย่างไร เเต่ก็ไม่เท่ากับที่นางคิดว่าที่แผนลอบสังหารหนิงอ้ายไม่สำเร็จคงเป็ฝีมือของมันผู้นี้อย่างแน่นอน
นางรวมไปถึงอนุทั้งสองคนของจางเลี่ยงหวง ต่างรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจเป็อย่างมากที่อดีตบ่าวในจวนของตนนั้นมีความสามารถที่โดดเด่นได้รับคำชมถึงเพียงนี้ เเต่เมื่อคิดว่าลู่ซีเป็เพียงบ่าวเท่านั้นและหนิงอ้ายที่ไม่สามารถปลุกพลังิญญาได้คงได้ขึ้นชื่อว่าเป็สวะของตระกูลต่อไป
"ท่านเเม่ขอรับ!!" เสียงของคุณชายรองหรือจางเหยากวงเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองหน้ามารดาของตนด้วยความไม่พอใจ เขาสังเกตว่าบิดานลอบมองอย่างไม่วางตา
"ใจเย็นเสียเถิดกวงเอ๋อร์ มารดาเ้าผู้นี้จะจัดการให้เ้าเอง!!" หวงลู่เอินเอ่ยขึ้นเบา ๆ เพราะนางได้วางแผนอื่นรับมือเอาไว้สำรองเเล้ว...
ลู่ซีพุ่งเข้าโจมตีกวงเหยาหานด้วยความรุนแรงรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง เมื่อสมควรแก่การประลองครั้งนี้จะรู้ผลแพ้ชนะกันได้เสียที เพราะหนิงอ้ายได้นั่งอยู่ตามลำพังนานเกินไปเสียเเล้ว
ฟิ้ว!
ตู้ม! ตู้ม!
บทเวทย์โจมตีระดับสูงของลู่ซีใช้พุ่งเข้าโจมตีกวงเหยาหานอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าคุณชายกวงเหยาหานจะใช้บทเวทย์ป้องกันเข้ามารับการโจมตีนี้ เเต่ก็แทบจะไม่มีผลสักนิดด้วยความแตกต่างของระดับพลังของบทเวทย์
อีกทั้งในตอนนี้กวงเหยาหานต่างเสียสมาธิเป็อย่างมาก ด้วยเพราะในตอนนี้อสูรรับใช้สิงโตมกรเพลิงของเขาก็ได้รับาเ็อยู่ไม่น้อยอีกทั้งยังถูกไล่ต้อนและถูกโจมตีจากสัตว์อสูรของลู่ซี นับได้ว่าเป็สภาพที่ไม่น่าดูสักเท่าไหร่นัก
ตู้ม! ตู้ม!
โฮ้ก!
กวงเหยาหานได้เรียกสัตว์อสูรรับใช้ของตนเข้ายังมิติจิต เนื่องจากััได้ว่ามันได้รับาเ็ไปไม่น้อย เพียงครู่เดียวที่เขาเสียสมาธิก็เผยช่องโหว่ให้ลู่ซีนั้นสามารถลงมือได้ในทันที
"อั้กกกก!!! ข้าแพ้เเล้ว..." กวงเหยาหานกระอักเืออกมาหลายคำ ตัวเขายอมรับในความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และมั่นหมายว่าในสักวันเขาจะต้องเอาชนะลู่ซีให้ได้
ครั้งที่ที่เขาพ่ายแพ้ก็ด้วยเพราะความหยิ่งทะนงว่าตนเป็ผู้มีฝีมือที่มาจากตระกูลใหญ่ของแคว้น อีกทั้งในขณะที่ประลองอยู่ก็ไม่มีสมาธิและใช้เเต่อารมณ์จนเกินไป นี่คงเป็ครั้งเเรกที่เขายอมรับว่าความคิดหรือมุมมองของการฝึกตนของเขาได้เติบโตขึ้นไม่น้อย
"ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะ!!!" ลู่ซีและกวงเหยาหานต่างได้ยกมือประสานกันและก้มลงเล็กน้อยตามมารยาทของผู้ฝึกตนที่พึงกระทำหลังจากเเลกเปลี่ยนฝีมือกัน
"คุณชายลู่ซีเเห่งแคว้นเต่าดำเป็ผู้ชนะ!!!!" ผู้าุโที่ดำเนินการประลองนั้นได้ประกาศออกมาเสียงดังเมื่อสิ้นเสียงประกาศผู้คนที่อยู่ในสนามประลองนั้นต่างพากันส่งเสียงเชียร์บ้างก็ะโส่งเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณทางด้านตระกูลหวังในตอนนี้ไม่ว่าจะเป็หวังจิ่งหลงผู้เป็ประมุขตระกูลหวังรวมไปถึงภรรยาของตนและลูกสาวของพวกเขานั่นคือหวังเยว่ซินต่างภูมิใจในหลานและบุตรชายบุญธรรมของตนผู้นี้ยิ่งนัก...
"ยินดีด้วยนะขอรับข้ารู้อยู่เเล้วว่าท่านจะต้องเป็ผู้ชนะ!!" หนิงอ้ายเอ่ยขึ้นพร้อมกับรวบตัวของลู่ซีเข้าไปกอดทำเอาผู้คนในบริเวณต่างยกยิ้มยินดีที่พี่น้องคู่นี้ต่างรักใคร่กันยิ่งนัก
"ขอบใจมากหนิงอ้าย เกอยังเฝ้ารอชมฝีมือของเ้าในรอบต่อไปอยู่นะ..." ลู่ซีเอ่ยขึ้นพร้อมกับกอดตอบกลับไป
"เราทั้งสองคนจะต้องไปสู่รอบสุดท้ายให้ได้ขอรับ!!" หนิงอ้ายเอ่ยขึ้นด้วยความมั่นใจ
ลู่ซีสามารถผ่านการทดสอบในการประลองครั้งเเรกไปได้สำเร็จและรอเรียกการประลองในครั้งต่อไป หากว่ามีรายชื่อของตนปรากฏขึ้นอีกครั้งดูเหมือนว่าการประลองรอบเเรกของผู้ฝึกตนราชทินนามขุนนางิญญาจะใช้เวลาอีกนานพอสมควรด้วยเพราะว่าผู้ฝึกตนที่ต้องลงเเข่งขันในการประลองรอบเเรกนี้มีจำนวนมาก
คุณชายลู่ซีตามที่ถูกเรียกสุ่มรายชื่อในการลงประลองได้กลายเป็ที่จับจ้องของทุกคนที่อยู่ในบริเวณโดยรอบของสนามประลองเวทย์ครั้งนี้เป็อย่างมาก เนื่องจากว่าการประลองที่พึ่งจบไปเมื่อสักครู่นั้นไม่ว่าจะเป็ทั้งระดับของบทเวทย์ที่ลู่ซีได้ใช้ในการโจมตีหรือป้องกันตัวเองรวมไปถึงท่วงท่าของวรยุทธการต่อสู้ต่าง ๆ ที่สามารถรับมือจากคุณชายกวงเหยาหานที่ขึ้นชื่อว่าเป็ผู้มีฝีมืออีกคนหนึ่งที่มาจากตระกูลใหญ่ได้แล้ว
การที่คุณชายลู่ซีนั้นมีสัตว์อสูรมายาในในพันธะ เพียงเเค่การลงประลองในสนามครั้งเเรกเท่านั้นชื่อของคุณชายลู่ซีต่างเป็ที่สนใจและพูดถึงเป็วงกว้างไม่น้อยว่าเขานั้นเเท้ที่จริงเเล้วเป็ผู้ใดกันแน่ เหตุใดพวกตนจึงไม่คุ้นหน้าหรือทราบประวัติความเป็มา
หรือบ้างก็ว่าคุณชายลู่ซีอาจจะเป็คุณชายตระกูลของใหญ่ของแคว้นอื่นที่พวกตนยังไม่รู้จักที่เลือกมาลงประลองเเข่งขันในครั้งนี้เพื่อพิสูจน์ฝีมือของตนให้เป็ที่ประจักษ์ บรรดาผู้คนต่างพากันจับกลุ่มพูดคุยคาดเดากันไปต่าง ๆ นานาถึงสิ่งที่คาดว่าน่าจะเป็ไปได้
การประลองเวทย์ของผู้ฝึกตนราชทินนามขุนนางิญญาได้มีการประกาศรายชื่อของผู้ลงเเข่งขันให้ลงสนามประลองไปเพื่อทำการคัดผู้แพ้ในเเต่ละรอบของการแข่งขันออกจากรายชื่อและเฟ้นหาผู้ชนะไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ตัวเเทนที่จะผ่านเข้ารอบเป็ของผู้ฝึกตนระดับเเรกนี้ให้เหลือเพียงสิบคนเพื่อไปเเข่งขันอีกในรอบต่อไปสำหรับการประลองในครั้งสุดท้ายเพื่อหาผู้ชนะห้าอันดับเเรกในระดับเเรกของการประลองแคว้นในครั้งนี้
หนิงอ้ายตั้งใจดูการประลองของเเต่ละคู่ไปเรื่อย ๆ โดยมีการพูดคุยเเลกเปลี่ยนความคิดกับลู่ซีบ้างไม่ว่าจะเป็การทายเล่น ๆ กันว่าคู่ที่ลงเเข่งขันการประลองในเเต่ละรอบนั้นผู้ใดกันจะเป็ผู้ชนะ หรือพูดคุยเกี่ยวกับทักษะฝีมือของเเต่ละผู้เเข่งขันในการรับมือ หากว่าตนนั้นเป็ผู้ลงสนามประลองที่เป็คู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายว่าจะทำเช่นไรเพื่อที่พลิกกลับเป็ฝ่ายชนะ ยิ่งเมื่อการประลองได้ดำเนินไป ย่อมเหลือเพียงผู้ฝึกตนที่มีฝีมือโดดเด่นและมีความสามารถที่หลากหลาย
หนิงอ้ายแทบที่จะอดใจรอให้ถึงตอนที่เขาจะได้ลงประลองแทบไม่ไหว การประลองของเเต่ละคู่เริ่มมีการใช้บทเวทย์ระดับสูงที่มีความรุนแรงและหนักหน่วงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากว่าเป้าหมายของเเต่ละคนที่เข้าร่วมในการประลองครั้งนี้นั่นคือให้เข้ารอบได้ลึกมากที่สุดเพื่อเป็การสร้างชื่อเสียงของตนเองและชื่อเสียงตระกูลของตนให้เป็ที่รู้จักได้รับการยอมรับมากขึ้นนั่นเอง
"ตอนนี้มีผู้เเข่งขันในรอบแรกของผู้ฝึกตนราชทินนามขุนนางิญญามีจำนวนทั้งสิ้นยี่สิบคนสุดท้าย!! ในครานี้จะเป็การประลองที่ละคู่เพื่อหาผู้ชนะเพียงเเค่สิบคนเท่านั้นการประลองเริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้!!!! " สิ้นเสียงของผู้าุโผู้รับหน้าที่ดำเนินการประลองนั้นได้กล่าวจบลงผู้คนโดยรอบสนามประลองต่างพากันโห่ร้องส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่มเพราะว่าการประลองในรอบต่อไปนี้จะมีความดุเดือดเพิ่มขึ้นนั่นเอง
''การประลองในรอบนี้นั้นคงจะมีความดุเดือดและรุนเเรงมากกว่าเดิมหลายเท่ายิ่งนัก ข้าขอให้เกอระวังตนให้มากไม่ว่าผลการประลองจะออกมาเช่นไรข้าเชื่อว่าท่านตา ท่านยาย ท่านเเม่รวมไปถึงข้าเองนั้นภูมิใจในตัวท่านที่สุดนะขอรับ...''
หนิงอ้ายเอ่ยขึ้นกับลู่ซีด้วยความเป็ห่วง แม้ว่าเขานั้นจะมั่นใจในฝีมือของลู่ซีว่าสามารถผ่านการประลองไปในรอบสุดท้ายได้ เเต่ถึงอย่างไรเเล้ว ผู้ฝึกตนที่ผ่านเข้ารอบมาในตอนนี้ยี่สิบคนสุดท้ายนั้นต่างมีความสามารถและฝีมือที่เป็เอกลักษณ์อีกทั้งยังมีจุดเด่นหรือจุดด้อยที่แตกต่างกันไป
มุมหนึ่งในสนามประลอง
"เก็บจิตสังหารของเ้าก่อนเถอะสหายก่อนที่ผู้คนในบริเวณจะตายกันไปเสียหมด..."
"เ้าเป็อันใดกันอยู่ ๆ ถึงได้ไม่พอใจเยี่ยงนี้??'' เสียงของรัชทายาทอันดับหนึ่งเเห่งแคว้นเสือขาวหรือจินหลงดังขึ้นเมื่อเห็นว่าสหายตนผู้สวมหน้ากากพยัคฆ์สีดำนั้นอยู่ ๆ ก็ปล่อยจิตสังหารออกมา
"…" ชายหนุ่มผู้สวมหน้ากากพยัคฆ์สีดำไม่ได้สนใจรัชทายาทเท่าใดนัก พร้อมกับมองไปยังจุดหนึ่งก่อนที่จะเก็บจิตสังหารของตนไป
'เสี่ยวไป๋ทู่น้อยของข้าเ้ากอดชายหนุ่มคนอื่นต่อหน้าข้างั้นรึ??'
'หากคนผู้นั้นไม่ใช่คนที่เ้านับถือเฉกเช่นพี่ชายเเล้วละก็ มันผู้นั้นคงไม่มีชีวิตอยู่อย่างแน่อน...'
บรรดาเหล่าชายชุดดำที่เป็องครักษ์ขององศ์รัชทายาทและผู้ติดตามส่วนตัวของชายหนุ่มผู้สวมหน้ากากพยัคฆ์สีดำต่างลอบถอนหายออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน แม้ว่าพวกเขาจะเป็ผู้ฝึกตนระดับสูงก็จริง ทว่าจิตสังหารเมื่อครู่หากไม่รีบเร่งเดินพลังลมปราณป้องกันร่างกายคงแหลกเหลวไปแล้วเป็แน่...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้