แต่ถึงจะเป็อย่างนั้น ิอวี่เองก็ไม่ได้ถอย
เขาฝึกเพลงกระบี่เหมือนคนคลั่งวรยุทธ์ ไม่กินไม่นอนจนกระทั่งเหมือนคนลืมตัว ในสายตาของเขามีแต่กระบี่หวงฉวน โลกภายนอกเหมือนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลย
สำหรับคนปกติทั่วไปแล้ว คิดอยากจะฝึกลมปราณแห่งความตายหนึ่งพันห้าร้อยสายก็นับว่าเป็เื่ที่ยากมากเื่หนึ่งเลยทีเดียว หรือต่อให้เป็คนที่มีพร์มากแค่ไหน อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลากว่าครึ่งปีหรือนานกว่านั้น
แต่กับิอวี่นั้นไม่ใช่เลย เขามีพร์สูงเป็ทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งหลังจากได้บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์มาการเข้าใจเข้าถึงของเขาก็สูงขึ้นไปอีกขั้น
ทั้งดวงตาเทพมรณะกระบวนท่าที่แปดของเคล็ดวิชาหยินหยางขั้นสูงก็มีความคล้ายกับลมปราณแห่งความตายของกระบี่อยู่ ิอวี่คิดจะเข้าถึงแก่นแท้ของลมปราณแห่งความตายของกระบี่ก็เลยทำได้ง่ายขึ้น
อีกทั้งเขาก็ฝึกมันอย่างบ้าคลั่งจนมีความชำนาญในการควบคุมพลังลมปราณแห่งความตายมากขึ้นกว่าเดิม
ถึงแม้ิอวี่จะฟันลมปราณกระบี่ออกมาถึงวันละสามหมื่นสาย แต่ในแต่ละวันเขาก็ยิ่งมีความเชี่ยวชาญกระบี่มากขึ้น พลังกระบี่มรณะสังหารที่เขาปล่อยออกมาก็น่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ !
เขาฝึกซ้ำๆ แบบนี้หลังจากที่เข้าใจแล้ว เมื่อผ่านไปอีกห้าวัน ิอวี่ก็สามารถปล่อยพลังลมปราณกระบี่แห่งความตายหนึ่งพันห้าร้อยสาย ในขณะเดียวกัน เขาก็สามารถรวบรวมพลังลมปราณแห่งความตายได้หนึ่งพันห้าร้อยสายแล้ว
เมื่อฟันกระบี่ออกไป อากาศถูกฉีกออก ลมปราณแห่งความตายของกระบี่ทำให้ผู้คนหวาดหวั่น!
“ตอนนี้ข้าสามารถปล่อยพลังลมปราณแห่งความตายของกระบี่หนึ่งพันห้าร้อยสายแล้ว หรือก็คือ ข้าสามารถฝึกกระบี่วายุสังหารได้แล้วสินะ”
สายตาของิอวี่มีความตื่นเต้นดีใจอย่างปกปิดไว้ไม่อยู่ จากนั้นเคล็ดวิชาการฝึกกระบี่วายุสังหารก็ปรากฏออกมาในหัวของเขา
กระบี่วายุสังหารเมื่อถูกฟันออกไป พายุแห่งความตายก็จะโหมกระหน่ำ ลมปราณแห่งความตายจะถูกแผ่กระจายออกไป และก่อตัวเป็พายุหมุน เมื่อฝึกจนสำเร็จมันจะสามารถทำลายล้างทุกสิ่งได้!
กระบี่วายุสังหารเป็ทักษะการต่อสู้หลิงระดับสูงสุดยอด เมื่อผนวกเข้ากับลมปราณแห่งความตายบนตัวกระบี่ที่มีพลังทำลายล้างแล้ว อานุภาพของมันจะประมาทไม่ได้เลย
ฟันกระบี่ออกไปแค่ทีเดียว ก็สามารถสังหารคนได้นับสิบนับร้อยคน!
ถึงแม้จะมีลมปราณแห่งความตายของกระบี่หนึ่งพันห้าร้อยสายเป็ตัวนำ อานุภาพของกระบี่วายุสังหารก็เหนือกว่ากระบี่มรณะสังหารหลายเท่า แค่อานุภาพของกระบี่มรณะสังหารก็แข็งแกร่งมากพออยู่แล้ว ไม่ต้องนึกเลยว่ากระบี่วายุสังหารจะมีอานุภาพน่ากลัวแค่ไหน!
แต่ว่า ิอวี่เพิ่งจะเคยัักับทักษะและขอบเขตของกระบี่วายุสังหารเป็ครั้งแรก คิดอยากจะเรียนรู้มันไม่ใช่เื่ง่าย
หลังจากนั้นอีกห้าวัน เขาก็ฝึกมันทั้งวันทั้งคืนโดยไม่กินไม่นอนอีก ตอนนี้เขาไม่ได้ทดลองควบคุมลมปราณแห่งความตายมากกว่าที่มี เพราะการเพิ่มพลังลมปราณกระบี่ถึงแม้จะดูเหมือนพลังเพิ่มขึ้น แต่ในระดับการรวบรวมพลังยังห่างชั้นอยู่มาก
ดังนั้น ิอวี่ถึงได้ฝึกดึงพลังลมปราณหนึ่งพันห้าร้อยสายออกมาหมดให้ก่อน จากนั้นถึงฝึกการะเิพลังกระบี่วายุสังหาร
ส่วนพลังลมปราณหนึ่งพันห้าร้อยสาย ิอวี่ยังไม่ได้คิดจะควบคุมทั้งหมด ด้วยความสามารถของเขาในเวลานี้ยังยากที่จะควบคุมได้
ิอวี่จับกระบี่หวงฉวนในมือ แล้วฝึกการออกกระบี่ การตวัด การฟัน การพุ่งแทง อยู่ในถ้ำ แสงจากกระบี่พุ่งออกไปอย่างคมกริบ แต่ละท่าที่ออกไปล้วนเป็กระบี่มรณะสังหารที่ดุดันมาก!
จะเห็นได้อย่างรางๆ ว่าระหว่างที่ิอวี่กำลังร่ายรำกระบี่นั้น มีลมปราณแห่งความตายจากกระบี่พุ่งออกมาหมุนรอบตัวของเขาด้วย
แสงสีเขียวจากกระบี่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งเสียงรอบตัวเขาอย่างต่อเนื่อง เมื่อลมปราณกระบี่หมุนรวดเร็วขึ้นจนแม้แต่ลมปราณเองก็มองไม่เห็นแล้ว พวกเศษแสงสีเขียวจางๆ ก็จะกลายเป็พายุหมุนขนาดใหญ่!
ิอวี่ยังออกกระบี่อย่างต่อเนื่องท่ามกลางพายุหมุน และจิตใจของเขายังควบคุมพลังลมปราณแห่งความตายของกระบี่ที่หมุนรอบตัวเขาเอาไว้ด้วย และฝึกเพลงกระบี่อยู่ในกระบี่วายุสังหารอย่างต่อเนื่อง!
จนกระทั่งผ่านไปห้าวัน ิอวี่ก็สามารถควบคุมลมปราณแห่งความตายหนึ่งพันห้าร้อยสายได้ทั้งหมด
ิอวี่แทงกระบี่ออกไปอย่างรุนแรงและเก็บกลับมา ในขณะเดียวกัน ลมปราณแห่งความตายสีเขียวที่หมุนรอบตัวเขาก็หดเล็กลง ทั้งหมดแปรเปลี่ยนไปอยู่ในกระบี่หวงฉวนทำให้พลังงานอันมหาศาลก่อตัวอยู่ในกระบี่นั้น
พลังจิตของิอวี่แข็งแกร่งมาก ลมปราณแห่งความตายหนึ่งพันห้าร้อยสายหลอมรวมอยู่ในกระบี่หวงฉวน มันแผ่ความน่าเกรงขามออกมาเพิ่มขึ้น
แต่ว่า มันเป็ความสงบก่อนที่คลื่นลมขนาดใหญ่จะมา
“กระบี่วายุสังหาร!”
ทันใดนั้นแขนของิอวี่ก็สั่นะเื ลมปราณแห่งความตายหนึ่งพันห้าร้อยสายถูกปล่อยออกไป กลายเป็พายุกระบี่ที่รุนแรงและพุ่งกวาดออกไปด้านหน้าถึงสามสิบเมตร
กระบี่วายุสังหารพุ่งชนกับกำแพงหินราวกับพุ่งชนก้อนเต้าหู้ ถ้ำถูกฟันออกเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อย
“ตู้ม!”
ภายในถ้ำะเิเพราะกระบี่วายุสังหารจนแหลกละเอียด ร่างของิอวี่ถูกแรงะเิซัดกระเด็นมาหล่นที่พื้น
เขามองไปที่กระบี่หวงฉวนในมือ ในใจของิอวี่ก็รู้สึกมั่นใจมาก เขาถือกระบี่ในมือแล้ววิ่งไปทางทิศเหนือของดินแดนอสูรว่านโซ่วทันที
ั้แ่เข้ามายังดินแดนอสูรว่านโซ่วจนถึงตอนนี้ก็ผ่านไปประมาณหนึ่งเดือนแล้ว ในระยะเวลาหนึ่งเดือน พลังความสามารถของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในเวลานี้ ก็คือการตามหาอสูรระดับสิบแล้วดูดซับพลังงานหยางสูงสุดของหัวใจมัน เพื่อให้เขาไปถึงร่างแห่งหยินหยางให้ได้!
ในป่าลึกของดินแดนอสูรว่านโซ่ว ิเสวียน ิอู่ แล้วก็ิเยวี่ย จะต้องกำลังสร้างความตะลึงอยู่ในนั้นแน่ ความสามารถของพวกเขาปกคลุมฟ้าได้ แต่ละคนมีความสามารถป้องฟ้าด้วยฝ่ามือเดียวทั้งนั้น
เดิมิอวี่ก็ไม่ต่างจากมดตัวหนึ่งในสายตาของพวกเขาเท่านั้น แต่เขากลับมีความเร็วที่น่าทึ่ง ตามพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ความสามารถจึงเข้าใกล้พวกเขาไปเรื่อยๆ แล้ว!
ระหว่างการเดินทาง ิอวี่พบว่ามีผู้กล้าจากพรรคและสำนักต่างๆ ตามเส้นทางูเามากมาย
คนพวกนี้รวมกลุ่มกันมา ความสามารถของพวกเขาแต่ละคนไม่ธรรมดาเลย หลังจากที่รวมกลุ่มกันแล้วพวกเขาก็อยู่ด้วยกันเหมือนเชือกที่มีกำลังต่อสู้ที่มากขึ้นไปอีก อีกทั้งยังดูเหมือนดีใจมากด้วยที่ได้มีเพื่อนร่วมทาง
สาเหตุสำคัญก็ง่ายมาก นั่นคือ มีแค่การรวมกลุ่มกันพวกเขาถึงสามารถเดินทางไปต่อได้ เพราะห่างออกไปพอประมาณ มีูเาลูกคลื่นที่มีอันตรายอยู่ข้างหน้า มีอสูรสัตว์ร้ายที่น่ากลัวมากมาย ผู้คนที่เข้าไปในนั้นส่วนมากไม่มีทางได้กลับออกมา ซึ่งมันถูกเรียกว่าเทือกเขาหลวนหมอหลิง!
ในเทือกเขาหลวนหมอหลิงถึงแม้จะมีอันตรายอยู่มากมาย แต่ก็มีสมบัติซ่อนอยู่เป็จำนวนมาก
สมบัติบางอย่างได้รับการปกป้องจากอสูรและสัตว์ร้าย เมื่อพวกเขาสามารถสังหารอสูรดุร้ายได้บางส่วนก็จะสามารถได้ทั้งหัวใจและสมบัติเ่าั้มา ไม่ว่าจะเอาไปฝึกหรือเอาไปขายต่อ ก็จะได้ผลประโยชน์มากมาย
ด้านหลังเทือกเขาหลวนหมอหลิงมีอสูรค่อนข้างน้อยแล้ว แต่ว่าที่นั่นอสูรแต่ละตัวน่ากลัวอย่างมาก และด้านหลังเทือกเขานั่นก็เป็ที่อยู่อาศัยของอสูรระดับสิบ!
สมบัติล้ำค่าต่างๆ ที่หายากล้วนซ่อนอยู่ในเทือกเขาหลวนหมอหลิง และก็เป็สาเหตุที่ว่าทำไมผู้กล้าที่ความสามารถไม่มากพอ จะไม่สามารถเข้าสู่เทือกเขาหลวนหมอหลิงได้เลย
เื่เสี่ยงดวงแบบนี้ มีหลายคนที่ยอมเสี่ยง!
แต่ิอวี่กลับ้าหัวใจอสูรระดับสิบ ซึ่งก่อนหน้านั้น เขาจะต้องผ่านเทือกเขาหลวนหมอหลิงไปให้ได้
ิอวี่ฝึกทักษะการต่อสู้ของกระบี่หวงฉวนมากว่าครึ่งเดือน แต่เขาฝึกมันแค่คนเดียว โดยไม่ได้ประลองฝีมือกับคนอื่นเลย และอสูรที่อยู่ในเทือกเขาหลวนหมอหลิงก็น่าจะเป็คู่ฝึกของเขาได้เป็อย่างดี!
ิอวี่แอบรู้สึกว่าเขาได้กลิ่นลมปราณของมีดบินปี้ลั่ว มันเหมือนอยู่ทางด้านเหนือสุด ...
เขารีบวิ่งไปทางเทือกเขาหลวนหมอหลิงในทันที
ผู้กล้ารอบๆ ข้างก็กำลังเร่งเดินทางไปยังเทือกเขาหลวนหมอหลิงเหมือนกัน เมื่อเห็นชายหนุ่มที่อยู่ห่างออกไปกำลังเดินทางมาคนเดียวก็อดส่ายหัวกันไม่ได้
พวกเขาเคยเห็นชายหนุ่มอย่างิอวี่มาแล้ว คนที่บุ่มบ่ามบ้าคลั่งคิดอยากจะฝ่าเทือกเขาหลวนหมอหลิงเข้าไปเพียงลำพังจำนวนมาก แต่ผลสุดท้ายก็ถูกอสูรร้ายกัดกินฉีกร่างกลืนลงท้องไปกันหมด ตายอย่างน่าอนาถ
พวกเขาเองก็เป็คนหยิ่งผยองเหมือนกัน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าอสูรร้ายจำนวนมากพวกนี้ พวกเขาจำเป็ต้องก้มหัวให้!
“พวกเ้าดูเ้าหนุ่มนั่นสิ มาคนเดียวยังกล้าเข้ามาที่เทือกเขาหลวนหมอหลิงนี่อีก บุ่มบ่ามขนาดนี้ไร้เดียงสาเกินไปแล้ว ข้าโตกว่าเขาไม่รู้เท่าไร มีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่แปดระดับประสานเป็หนึ่ง ข้ายังไม่ทำเหมือนเขาเลย”
พวกเขาล้วนแต่เป็ผู้มีพร์จากภายนอก อายุประมาณยี่สิบสี่ยี่สิบห้าทั้งนั้น เพราะคิดอยากจะข้ามผ่านเทือกเขาหลวนหมอหลิงเลยมารวมตัวกัน เกาหยางคือหนึ่งในผู้กล้าอายุยี่สิบห้าคนหนึ่ง เขามีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่แปดระดับประสานเป็หนึ่ง มีพลังเทียบเท่าราชสีห์หกพันห้าร้อยตัว!
ข้างๆ เกาหยางมีผู้หญิงสวมชุดกระโปรงสีเหลืองอ่อน ผมยาวประบ่า มีชื่อว่าเซินซวน
นางมีดวงตาที่สดใสและฟันที่ขาวเรียงสวย ผิวพรรณขาวผ่อง ดูงดงามมาก แต่ใบหน้าของนางกลับไม่แสดงสีหน้าใดๆ เลย
ที่จริงเกาหยางตั้งใจพูดประโยคนั้นให้เซินซวนฟัง เดิมเขารวมกลุ่มเข้ามาที่นี่เพื่อที่จะข้ามเทือกเขาหลวนหมอหลิงไป แต่พอเห็นความงามของเซินซวนเขาก็เกิดความ้าที่จะเอาชนะใจนางขึ้นมาให้ได้อย่างรุนแรง ดังนั้น เขาถึงพยายามเน้นย้ำถึงพลังฝีมือของเขา เป้าหมายก็เพื่อให้เซินซวนนั้นสนใจ
เมื่อเห็นเซินซวนไม่ใยดีตนเอง เกาหยางก็พูดกับคนอื่นอีกว่า “หากพวกเ้าทำเหมือนเ้าหนุ่มนั่น ฝืนตัวเองอย่างนั้น ผลลัพธ์คงอนาถมาก แต่ข้าพอจะมีฝีมืออยู่บ้าง หลังจากที่เข้าไปในเทือกเขาหลวนหมอหลิงแล้ว จะช่วยลดภาระของพวกเ้าลงได้อย่างแน่นอน”
“ไม่เทียบกับคนที่สูสี แต่ไปเทียบกับคนที่อ่อนกว่า”
เซินซวนทนฟังเกาหยางโอ้อวดตัวเองไม่ได้เลย นางจ้องไปที่เขาด้วยสายตาที่เ็า จากนั้นก็ตรงไปที่เทือกเขาหลวนหมอหลิงทันทีโดยไม่ได้ไปสนใจอะไรเกาหยางอีกเลย
ที่จริงเซินซวนก็มีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่แปดระดับประสานเป็หนึ่ง มีพลังเทียบเท่าราชสีห์หกพันสามร้อยตัวแล้วเหมือนกัน
ถึงแม้ความสามารถของเซินซวนจะเหนือกว่าเกาหยาง แต่นางเป็คนที่เหย่อหยิ่งอย่างมาก นางเป็ผู้หญิงที่มาถึงขั้นนี้ได้ มีพลังเทียบเท่าราชสีห์หกพันสามร้อยตัว ผู้ชายที่นางจะชายตาแลมอง พลังความสามารถก็ต้องเหนือกว่านางอย่างน้อยก็ต้องมากกว่าราชสีห์หนึ่งพันตัว นางถึงจะรู้สึกชื่นชม
ส่วนคนที่ชอบอวดตัวอย่างเกาหยาง คนที่ชอบเอาตัวเองไปเทียบกับมดตัวเล็กๆ ไม่ได้มีใจคิดจะก้าวหน้า นางจะไปชอบผู้ชายแบบนี้ได้อย่างไรกัน?
เมื่อเห็นเซินซวนเดินจากไปแล้ว เกาหยางก็รู้สึกหงุดหงิดมาก เขาคิดในใจว่า “ชิ! สาวน้อยมาพูดจาแขวะข้าแบบนี้ อีกเดี๋ยวเข้าไปในเทือกเขาหลวนหมอหลิงแล้วเ้าก็จะรู้ว่าข้าสำคัญอย่างไร!”
จากนั้น เกาหยางเองก็รีบเร่งเดินตามหลังเซินซวนตรงเข้าไปในเทือกเขาหลวนหมอหลิงทันที