แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของนางจะแค่พอดูได้ แต่กลับแต่งกายอย่างงดงามหรูหรา บนใบหน้าคงไว้ด้วยความเย่อหยิ่งอยู่เสมอ ด้วยคิดว่าตนนั้นเป็ดั่งองค์หญิง คนผู้นี้คือหานซิน คุณหนูห้าแห่งตระกูลหาน
หากเรียงตามความาุโแล้ว หานโม่ควรจะเรียกนางว่าพี่หญิงห้าด้วยซ้ำ
แต่นั่นเป็เื่ของหานโม่ที่ตายไปแล้ว
บัดนี้ หานโม่กับคนตระกูลหานไม่ได้มีความรู้สึกใดต่อกันอีกนอกเสียจากความเกลียดชัง
หานซินเองก็มองเห็นหานโม่เช่นกัน อาจเป็เพราะหากนางได้เกลียดคนคนหนึ่งอย่างสุดชีวิตแล้ว นางก็จะให้ความสนใจกับคนคนนั้นเป็พิเศษ ทั้งที่บริเวณหน้าร้านมีผู้คนอยู่มากมาย แต่หานซินก็สามารถมองเห็นคนที่สร้างความโกรธให้นางได้ในทันที
“หานโม่! นางสารเลวเช่นเ้าเหตุใดถึงมาอยู่ที่นี่ได้?” แต่ไหนแต่ไรมาหานซินไม่เคยเข้าใจสถานการณ์อะไรเลย เมื่อได้เห็นหานโม่ก็ราวกับเห็นศัตรูที่ฆ่าบิดา [1] จึงก้าวเท้ายาวๆ เดินตรงเข้ามาหาหานโม่ด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
เดิมทีหานโม่ตั้งใจจะหันหลังเดินจากไป เพื่อเลี่ยงการปะทะกับคนตระกูลหานเป็การชั่วคราว ทว่าไม่คิดว่าหานซินจะทันได้เห็นนาง
ในเมื่อเป็เช่นนี้ การหลบหนีไม่ใช่นิสัยของหานโม่
นางหันกลับมาและพบเข้ากับดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวของหานซิน ใบหน้าสวยสดงดงามเย็นะเื โดยไม่มีอารมณ์ใดเจือปนอยู่แม้แต่น้อย "เปิดปากครั้งหนึ่งก็เอ่ยถ้อยคำสารเลว นี่คือคุณหนูห้าที่ถูกอบรมเลี้ยงดูมาอย่างดีหรือ?"
หานซินตกตะลึงไปครู่หนึ่ง
ครั้งสุดท้ายที่นางเห็นหานโม่คือตอนที่รูปร่างหน้าตาของหานโม่เสียโฉมโดยฝีมือตัวเอง หลังจากนั้นก็มอบหมายทุกอย่างให้สาวใช้ส่วนตัวอย่างเสี่ยวเหม่ยไปจัดการ ต่อมาก็มีข่าวคราวว่าหานโม่นั้นพูดจาหยาบคายและออกจากเมืองไป ซึ่งนางก็ได้ยินทุกอย่างมาจากปากของเสี่ยวเหม่ยด้วยเช่นกัน
พูดให้ถูกก็คือ นี่เป็ครั้งแรกที่นางได้เจอหานโม่ั้แ่ที่นางได้ทำให้หานโม่เสียโฉมไปครานั้น
และก็เป็จริงอย่างที่เสี่ยวเหม่ยพูดมา นางสารเลวนี่หลังจากที่มีอำนาจแล้ว นางก็ไม่เก็บพวกตนที่เป็ลูกพี่ลูกน้องไว้ในสายตาอีกเลยแม้แต่น้อย
แต่แล้วอย่างไรเล่า?
จะเป็ไปได้หรือว่าผู้ที่ไร้ค่ามาสิบห้าปีจะสามารถแปรเปลี่ยนเป็คลื่นลูกใหญ่ได้?
ถึงแม้ว่าพร์ด้านวรยุทธ์ของหานซินจะไม่ได้สูงมากนัก แต่ด้วยการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอของตระกูลหาน ทำให้ตอนนี้นางกลายเป็ผู้ฝึกวรยุทธ์ระดับเสวียนซื่อแล้ว และหากฝึกฝนเช่นนี้ต่อไป นางก็จะก้าวไปอีกขั้นหนึ่งกลายเป็ระดับเสวียนซือ
นางคิดไม่ถึงว่าผู้ที่ไม่สามารถฝึกฝนวรยุทธ์ได้อย่างหานโม่ จะกลายมาเป็ระดับเสวียนซือในเวลาอันสั้นได้อย่างไร
ด้วยพื้นฐานทางจิตใจที่คิดลบเช่นนี้ แต่ไหนแต่ไรมาหานซินเองก็ไม่ได้เต็มใจที่จะพูดคุยกับหานโม่มากนัก นางจึงวาดมือปรี่เข้าไปหาหานโม่
หานโม่คาดไม่ถึงเลยว่าหานซินจะอารมณ์ร้อนได้ถึงเพียงนี้ เมื่อก่อนถึงจะดีร้ายอย่างไรก็ต้องได้ด่าว่ากันสักคำสองคำและโต้เถียงลับฝีปากกันอย่างดุเดือด มาบัดนี้กลับกำลังจะถูกลงมือเสียแล้ว
ดวงตาเรียวทอประกายเย็นเยียบ หานโม่ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย กระทั่งหลบหลีกนางก็ไม่ทำ
เมื่อหานซินเห็นเช่นนี้ ก็อดหัวเราะออกมาอย่างภาคภูมิใจไม่ได้ นางสารเลวหานโม่นี่คงจะใและหวาดกลัวไปเสียแล้ว จะหลบก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องหลบอย่างไร!
เมื่อคิดได้ดังนั้นหานซินก็เร่งความเร็วตรงเข้าไปหาหานโม่อย่างรวดเร็ว นางแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะได้เห็นหานโม่ถูกซัดจนกระเด็นลอยออกไป
เมื่อเห็นหานซินที่เร่งความเร็ววิ่งตรงเข้ามา หานโม่ยิ้มเยาะ ความเร็วเช่นนี้ในสายตาของนางนั้นถือว่ายังรวดเร็วไม่พอ เมื่อเห็นว่าหานซินมาถึงตรงหน้านางแล้ว หานโม่จึงยื่นมือออกมาและจับเข้าที่ข้อมือของหานซิน ก่อนจะค่อยๆ ออกแรงฝืนต้านกำลังของหานซินแล้วบิดข้อมือของหานซินเพื่อสกัดการเคลื่อนไหว ในเวลาเดียวกันก็วาดเท้าเตะเข้าที่หัวเข่าของหานซิน จนทำให้หานซินเปล่งเสียงกรีดร้องออกมา ก่อนจะคุกเข่าลงไปกับพื้น
“กรี๊ดดด! หานโม่ ข้าจะฆ่าเ้า นางสารเลวนี่เ้าปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!” หานซินไปเอาความคิดมาจากไหนที่คิดว่าการเผชิญหน้าด้วยตัวนางเองจะสามารถเอาชนะหานโม่ได้ ความรู้สึกอัปยศอย่างรุนแรงรวมกับความโกรธแค้นทำให้นางดูราวกับคนบ้าก็ไม่ปาน ไหนจะใบหน้าที่บิดเบี้ยวนี้อีก
ตัวหานโม่ไม่ได้สนใจความโกรธแค้นของหานซินเลย นางก้มตัวลงแล้วชักมีดสั้นที่ซ่อนตรงหัวเข่าออกมา จากนั้นจ่อไปที่แก้มนวลเนียนเกลี้ยงเกลาที่หานซินคอยหมั่นดูแลรักษาเป็อย่างดี
“ถ้าเ้าต่อว่าข้าอีกแค่คำเดียว ข้าจะกรีดหน้าเ้าเสีย!” หานโม่เอ่ยขู่
ทันใดนั้นหานซินก็เงียบลงราวกับไก่ [2]
สิ่งที่นางให้ความสำคัญมากที่สุดนั่นก็คือใบหน้าของตนเอง นางเฝ้าดูแลบำรุงในทุกๆ วัน ดังนั้นปัญหาเล็กๆ ล้วนไม่เคยเกิดขึ้น
“หานโม่ เ้าอย่าวู่วาม! หากเ้าทำลายใบหน้าข้าล่ะก็ ตระกูลหานต้องไม่ปล่อยเ้าแน่!”
หานโม่หัวเราะเยาะเย้ย “เดิมทีข้าเองก็ไม่ได้วางแผนที่จะกลับไปอยู่แล้ว เช่นนั้นพวกเรามาลองดูกันหน่อยไหม หากตระกูลหานเห็นว่าเ้าเสียโฉมแล้วจะจัดการลงโทษข้าอย่างไร?”
ขณะที่พูดมือของหานโม่ก็เพิ่มแรงกดมากขึ้น หานซินสามารถััได้ถึงคมมีดที่แนบอยู่ที่บนใบหน้าของนาง ทันใดนั้นก็ไม่กล้าเอ่ยคำพูดหยาบคายออกมาอีกและเริ่มเปลี่ยนมาเป็การขอร้องอ้อนวอนแทน "ไม่เอา ไม่เอาหานโม่! ข้าผิดไปแล้ว เ้าทำลายใบหน้าข้าไม่ได้นะ เป็ข้าที่ไม่ควรไปกวนเ้า ข้าผิดไปแล้ว เ้าปล่อยข้าไปเถอะ!"
หานโม่ดึงผมของหานซินจากด้านหลังเพื่อให้นางเงยหน้าขึ้นมามองตนเอง พร้อมเอ่ยอย่างเ็าว่า “จงจำสิ่งที่เ้าพูดในวันนี้ไว้ให้ดี หากมีครั้งต่อไป ข้าฆ่าเ้าแน่!”
หานซินตอบรับอย่างเร่งรีบ “ตกลง ตกลง ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจำได้แล้ว”
........................................................................
เชิงอรรถ
[1] ศัตรูที่ฆ่าบิดาเปรียบเสมือน การแค้นมากๆ แค้นฝังลึก
[2] เงียบราวกับไก่ หมายถึง ตอนที่ควรหุบปากก็ต้องหุบปาก ตอนที่ควรพูดก็ต้องพูด