เสี่ยวโหรวมีสีหน้าหวาดผวา
“เธอรู้จักผู้หญิงคนนั้นหรือ?”
หลิวเทียนเฉวียนคิดในใจ มันจะบังเอิญเกินไปแล้ว
เสี่ยวโหรวพยักหน้า “เถ้าแก่คะ ที่ฉันเคยบอกว่าถูกคนบีบจนไม่สามารถอยู่ที่บ้านเกิดต่อได้ก็เพราะเซี่ยเสี่ยวหลานคนนั้น ฉันกลัวเธอจริงๆ ค่ะ”
เสี่ยวโหรวเป็เพียงนามแฝง ชื่อจริงของเธอคือฝานอวี่
หลังฝานเจิ้นชวนถูกจับ เธอถูกฝานหานบีบจนไม่อาจใช้ชีวิตอยู่ที่เขตเหอตงได้ จึงต้องออกมาจากที่นั่น ฝานอวี่ตัดสินใจเดินทางมาทางใต้ และพบกับคนสองคนที่บอกว่าจะพาเธอไปหาเงินก้อนโต จากนั้นเธอก็ได้เปลี่ยนเส้นทางมายังเผิงเฉิง ที่แท้การหาเงินก้อนโตที่ว่า ก็คือการเป็เด็กนั่งดริงก์
เริ่มแรกฝานอวี่ไม่ยินยอม
การสนิทชิดเชื้อกับฝานเจิ้นชวนกับการให้บริการผู้ชายมากหน้าหลายตานั้นเป็คนละเื่
แต่ฝานอวี่ไม่มีการศึกษา ดังนั้นเธอจึงไม่มีโอกาสได้เข้าไปทำงานในโรงงาน และหากพูดถึงประสบการณ์ทำงาน เธอเคยเป็แค่แม่บ้านเท่านั้น
อยู่ที่เผิงเฉิง งานแม่บ้านไม่ใช่งานที่สามารถหากันได้ง่ายๆ ผู้คนล้วนนิยมจ้างงานคนท้องถิ่นที่รู้หัวนอนปลายเท้า ถึงอย่างไรก็จ้างมาแค่ซักเสื้อผ้า ทำอาหาร ทำงานบ้านเท่านั้น จ้างใครก็ต้องเสียเงินเหมือนกัน แม่บ้านที่ยังสาว คุณนายเ้าของบ้านย่อมหวาดระแวงเป็ธรรมดา อีกทั้งฝานอวี่คือคนที่เคยมีชีวิตเสพสุขนานหลายปี จะให้ไปใช้แรงงานก็ทำไม่ไหว
สุดท้ายเธอจึงต้องยอมเป็เด็กนั่งดริงก์
เดิมทีเธอไม่ได้ทำงานที่ห้องเต้นรำหนานหยาง แต่หลิวเทียนเฉวียนเป็ผู้ไปเจอเธอที่อื่น และพบว่าหญิงสาวคนนี้ดูบอบบาง ให้ความรู้สึกน่าสงสารอย่างบอกไม่ถูก เขาจึงสั่งให้ฝานอวี่ไปยั่วยวนหลิวหย่ง สาเหตุที่หลิวเทียนเฉวียนยอมทุ่มให้กับหลิวหย่งเช่นนี้ก็เพราะทังหงเอิน นอกจากนี้นายกเทศมนตรีทังเองก็ยังโสด ไม่เคยได้ยินว่าเขามีครอบครัวอยู่ที่เผิงเฉิง ต่อให้มีเมียแล้วก็คงอยู่ต่างถิ่นสินะ ความคิดของหลิวเทียนเฉวียนนั้นไม่เคยเปลี่ยน ผู้ชายตัวคนเดียวที่ไหนจะไม่แอบมีบ้านเล็กบ้านน้อยกันเล่า
ฝานอวี่ยั่วยวนหลิวหย่งด้วยการใช้วิธีล่าถอยเพื่อเดินหน้า
หลิวหย่งคนนี้เมื่อเทียบกับพวกผู้ชายรักสนุกแล้วเขาเป็คนซื่อสัตย์เกินไป ทั้งยังมีความรับผิดชอบสูงมากดั่งพวกนิยมหลักการชายเป็ใหญ่ ละครฉากใหญ่ในวันนี้ รวมถึงการปูทางที่ผ่านมา ล้วนเป็สิ่งที่ฝานอวี่กับหลิวเทียนเฉวียนวางแผนไว้ รวมถึงการทำให้หลิวหย่งได้ยินเสียงนินทาของคนอื่น และพวกผู้ชายที่มาอาละวาดก็ด้วยเช่นกัน... วันนี้คือวันที่หลิวเทียนเฉวียนจะเก็บงาน แต่นึกไม่ถึงว่าความอดทนของหลิวหย่งนั้นจะแข็งแกร่งเกินคนปกติ หลิวเทียนเฉวียนจึงต้องสั่งให้ฝานอวี่ค่อยๆ เป็ค่อยๆ ไป
ค่อยๆ ทำลายกำแพงในใจหลิวหย่ง จากนั้นก็กระตุ้นต่อมความเห็นอกเห็นใจของเขา
ขอแค่หลิวหย่งยอมรับฝานอวี่ ยอมเลี้ยงดูเธอ ไม่ว่าจะเกิดจากความสงสาร หรือเกิดจากความรู้สึก้าทะนุถนอมของผู้ชายที่มีให้กับหญิงสาว ก็อย่าหวังว่าจะสลัดฝานอวี่ไปได้ง่ายๆ
แน่นอนว่าหากสลัดฝานอวี่ไปไม่ได้ ก็เท่ากับสลัดหลิวเทียนเฉวียนไม่หลุด
เหยื่อล่อที่หลิวเทียนเฉวียนโยนออกไป เขาย่อมมีวิธีการควบคุมให้อยู่ใต้อาณัติของตนเอง อดีตของ ‘เสี่ยวโหรว’ เป็อย่างไร หลิวเทียนเฉวียนไม่เคยสนใจ และหลิวเทียนเฉวียนไม่เคยบังคับใครให้มาเป็เด็กนั่งดริงก์
แต่ใครจะไปคิดว่า ‘เสี่ยวโหรว’ ดันรู้จักกับเซี่ยเสี่ยวหลาน
ฝานอวี่เองก็รู้สึกว่าตนนั้นโชคร้ายเหลือเกิน
เธอไม่เคยเจอหลิวหย่งมาก่อน จึงไม่รู้ว่าเขาคือลุงของเซี่ยเสี่ยวหลาน
ถ้าเธอรู้มาก่อน เธอคงอยู่ให้ห่างจากหลิวหย่ง เป็เด็กนั่งดริงก์สามารถทำเงินได้แน่นอน จะหาเงินจากใครก็เหมือนกันนั่นแล แล้วทำไมเธอต้องทำงานที่เสี่ยงเช่นนี้ด้วย
ฝานเจิ้นชวนทำไมถึงล้ม?
ผู้ชายที่ออกมาจากบ้านพักรับรองเทศบาลซางตูพร้อมกับเซี่ยเสี่ยวหลานนั้น ฝานอวี่จดจำได้ไม่เคยลืม
ตรงกันข้าม พวกเก่อเจี้ยนและหลี่ต้งเหลียงที่ตอนนั้นแม้จะเดินตามหลังเซี่ยเสี่ยวหลาน แต่เพราะฝานอวี่กำลังตื่นตระหนกเธอจึงไม่ทันได้สังเกตพวกเขา มิเช่นนั้น ตอนเธอเห็นเก่อเจี้ยนก็ควรรู้ว่าหลิวหย่งกับเซี่ยเสี่ยวหลานมีความเกี่ยวข้องกัน
และเพราะมีคน้าบังคับเซี่ยเสี่ยวหลานแต่งงาน เื่ราวจึงกลายเป็เื่ใหญ่โตถึงระดับเขต
หลิวเทียนเฉวียนครุ่นคิด เื่นี้เหมือนอย่างที่เขาคาดไว้ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้มีประวัติครอบครัวดีเด่อะไร เธอนั้นเป็เพียงนกน้อยที่คนใหญ่คนโตเลี้ยงเอาไว้สินะ!
เป็เช่นนี้แล้วยังมีหน้ามาบอกให้เขาอย่าใช้ผู้หญิงเป็เครื่องมือกระทำเื่ชั่วร้ายอีกหรือ?
หลิวเทียนเฉวียนคิดในใจ ทั้งที่เซี่ยเสี่ยวหลานเองคือคนที่ได้ประโยชน์จากวิธีการชั่วร้ายแบบเดียวกันแท้ๆ ยังมีหน้ามาปรามาสเขาอีก
เขานึกว่าตนเองรู้พื้นเพของเซี่ยเสี่ยวหลานดีแล้วจึงเริ่มมั่นใจขึ้นมา
จากที่ฝานอวี่เล่า เซี่ยเสี่ยวหลานคือสาวน้อยบ้านนอกจากมณฑลอวี๋หนาน ไม่มีทางรู้จักกับนายกเทศมนตรีทังได้ง่ายๆ นอกเสียจากเธอจะใช้ใบหน้าสะสวยของเธอ เยี่ยมเลย แสดงว่านายกเทศมนตรีทังก็มีจุดอ่อนเช่นกันสินะ ขอเพียงเจอจุดอ่อนก็จะเจอหนทางตีสนิททังหงเอิน หลิวเทียนเฉวียนเองก็จนปัญญา เห็นเขาดูไปได้สวยที่เผิงเฉิง แต่อันที่จริงเขากำลังเกาะน้องสาวที่เป็เมียน้อยตู้เชิงหรงเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว ตอนนี้เมียทั้งสี่คนของตระกูลตู้ต่างแก่งแย่งชิงดีกันไม่หยุดหย่อน ทว่าคนที่ตู้เชิงหรงรักมากที่สุดคือลูกชายคนโตที่เกิดกับเมียหลวง เพียงแต่เมียหลวงนั้นตายเร็วไปหน่อย มิเช่นนั้นลูกของเมียน้อยอีกสามคนจะมีโอกาสแย่งชิงมรดกได้อย่างไร
หลิวเทียนเฉวียนไม่ได้สู้เพื่อตัวเอง แต่หากเขาลงหลักปักฐานที่เผิงเฉิงได้ก็จะสามารถเป็กำลังเสริมให้กับน้องสาวของเขาได้
มีทรัพย์สินหลายสิบล้านดอลลาร์ฮ่องกง?
เทียบกับทรัพย์สินของเครือเชิงหรง เงินแค่นี้ของเขาเทียบชั้นไม่ติดเลยสักนิด ถ้าได้ส่วนแบ่งจากกองมรดก นั่นต่างหากคือกำไรที่เป็กอบเป็กำ
เดิมทีแผนการของเขาถูกวางไว้อย่างดิบดี
ความสัมพันธ์ของเขากับรัฐบาลเผิงเฉิงกำลังไปได้สวย งานก่อนหน้าที่ร่วมมือกันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะ้าเอากำไรเท่านั้น แต่สุดท้ายพอทังหงเอินเข้ารับตำแหน่งกลายเป็นายกเทศมนตรีผู้รับผิดชอบเื่เศรษฐกิจเมืองเผิงเฉิง ทังหงเอินก็ไม่เห็นหัวหลิวเทียนเฉวียนอีกต่อไป ทำให้เขาพลาดโอกาสหลายต่อหลายครั้ง หลิวเทียนเฉวียนคิดถึงตรงนี้แล้ว ท้องอ้วนกลมของเขาก็กระเพื่อมเล็กน้อยเพราะการแค่นหัวเราะ
“เสี่ยวโหรว เธอก็เหมือนสุนัขที่เ้าของตายไปแล้ว ถูกขับไล่ออกจากบ้านเกิด หรือว่าอยู่ที่เผิงเฉิง เธอก็ยังกลัวเซี่ยเสี่ยวหลานอยู่? เธอไม่อยากหาโอกาสแก้แค้น...”
ฝานอวี่เงยศีรษะขึ้น สีหน้าของเธอยังมีร่องรอยของความหวาดหวั่น แม้รอยช้ำบนใบหน้าจะไม่น่ามองนัก แต่ความน่าสงสารกลับเด่นชัดเหลือเกิน
หลิวเทียนเฉวียนเห็นแล้วก็ฉุกคิดขึ้นได้
ถึงอย่างไรวันนี้ฝานอวี่กับเซี่ยเสี่ยวหลานก็นับว่าได้รู้จักกันแล้ว ทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะเฝ้าอยู่ที่เผิงเฉิงได้ตลอดไปหรืออย่างไร
หลานสาวอยากแส่ทุกเื่ แต่จะคุมเื่ใต้เข็มขัดของลุงได้อย่างนั้นหรือ?
คิดได้ดังนั้นหลิวเทียนเฉวียนจึงตัดสินใจทำตามแผนเดิมของตนต่อไป
—----------------------------------------------
“ลุงคะ ถ้าป้ารู้ว่าลุงไปที่ห้องเต้นรำ...”
ระหว่างนั่งรถกลับ เซี่ยเสี่ยวหลานพูดแค่ประโยคเดียว ก็ทำเอาหลิวหย่งอยากะโออกจากรถ
“ลุงไม่ได้ไปทำอะไรที่นั่นจริงๆ นะ หลานว่าคนฮ่องกงพวกนั้นแปลกไหม ชอบคุยงานที่ห้องเต้นรำ แถมชาวแผ่นดินใหญ่อย่างเรายังต้องทำตามธรรมเนียมของพวกเขาอีก”
หลิวหย่งกำลังอธิบาย
เซี่ยเสี่ยวหลานอยากกลอกตามองบน คนฮ่องกงชอบคุยงานที่ห้องเต้นรำเสียที่ไหน ธุรกิจทั่วไปส่วนใหญ่ล้วนคุยกันในห้องทำงานด้วยกันทั้งนั้น มีแต่ธุรกิจที่ไม่ค่อยน่าพิศมัยเท่าไรน่ะสิ ถึงได้ไปคุยกันในสถานที่อย่างพวกไนต์คลับ หลังรู้ประวัติของหลิวเทียนเฉวียน เซี่ยเสี่ยวหลานก็เข้าใจวิธีการทำธุรกิจของชายคนนี้ทันที
“คนที่ชื่อเสี่ยวโหรว ทำไมถึงไม่กล้ามาเจอฉันนะ ฉันไม่กินคนสักหน่อย”
เซี่ยเสี่ยวหลานบ่นอุบ ส่วนหลิวหย่งนั้นรู้สึกปวดหัวไปหมด
“เสี่ยวหลาน โชคดีที่หลานมาวันนี้ ไม่อย่างนั้นลุงคงปลีกตัวออกมาไม่ได้!”
หลิวหย่งเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ให้เธอฟังทันที
ั้แ่หลิวเทียนเฉวียนเรียกเขาไปหา จากนั้นก็ผลักไส ‘เสี่ยวโหรว’ ให้มาอยู่กับเขา บอกให้เขารับผิดชอบ หลิวหย่งรู้ว่าตนถูกคนวางกับดักเข้าเสียแล้ว แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหลิวเทียนเฉวียนต้องพยายามอ้อมโลกเพื่อจัดการกับเขาด้วย
เขารู้ดีว่าคุณสมบัติของตนเป็อย่างไร เขามีค่าขนาดนั้นเสียที่ไหนกัน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้