…. ขายอะไรดี?....
หลังจากหมดกังวลเื่แม่แล้ว อนงค์กานต์ก็เริ่มหันมาหมกมุ่นเื่การหาของมาขาย เธออยากมีเงินอยู่ในมือสักก้อนโดยไม่ต้องรบกวนกระเป๋าของพ่อแม่ ทำไมเธออยากมีเงินมากขนาดนั้นน่ะเหรอ?
แน่นอนเธอมีเป้าหมายอยากให้ครอบครัวเธอถือเงินล้านให้ได้ภายในสิ้นปีนี้! แต่เธอไม่ได้หวังว่าจะได้เงินล้านมาจากการขายของในตลาดหรอกนะ เพียงแต่ตลาดเป็จุดเริ่มต้นที่ดีที่จะช่วยให้เธอมีเงินก้อนแรกสำหรับใช้เป็ทุนเพื่อให้ได้เงินล้านในอนาคต
ชาติที่แล้ว เธอทำงานเอกสารที่สถาบันการเงินและการลงทุนมายี่สิบกว่าปี ข้อมูลที่เธอจดจำได้อย่างแจ่มแจ้งแบบไม่ต้องเสียเวลานึก นั่นคือประวัติการลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งได้ระบุข้อมูลสำคัญทั้งดีที่สุดและร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีในตลาดหุ้น และเธอก็เป็คนบันทึกข้อมูลเหล่านี้เองทั้งหมดเพื่อทำเป็เอกสารแจก เธอจึงจำได้ค่อนข้างแม่นยำโดยเฉพาะประวัติหุ้นใดดี หุ้นใดเสีย หุ้นใดโดนลากและหุ้นใดโดนปั่นจนราคาสูงลิบ
ตอนนี้เป็ปี พ.ศ. 2529 ตลาดหุ้นยังไม่ค่อยมีข้อกำหนดที่เข้มงวดนักในการซื้อขาย จึงมีการปั่นหุ้น ลากหุ้นกันอย่างเอิกเกริก เกิดเศรษฐีใหม่จากการซื้อขายหุ้นประเภทนี้เป็จำนวนมาก และตอนนี้ อนงค์กานต์มีชื่อหุ้นอยู่ในมือสิบกว่าตัว ซึ่งในปี พ.ศ.2529 จะมีหุ้นอยู่ห้าตัวที่โดนจ้าวลากราคาขึ้นจนสูงลิบเป็ประวัติการณ์ จนมีการกล่าวถึงและบันทึกลงในเอกสารอย่างแพร่หลายในยุคหลัง
และอนงค์กานต์ก็ไม่อยากตกรถขบวนสำคัญที่วิ่งไปถึงเงินล้านทั้งห้าขบวนนี้ ไม่ว่าอย่างไร เธอก็จะขอเป็เห็บฉลามเกาะไปด้วยให้ได้ แต่การที่จะเข้าร่วมขบวนได้ เธอจำเป็ต้องมีเงินอยู่ในมือก่อน จะไปพูดกับพ่อโต้ง ๆ เลยคงจะเป็ไปไม่ได้ ทางที่แน่นอนสุดตอนนี้คือหาเงินเอง และ่นี้ก็เป็่ปิดเทอมใหญ่ เธอมีเวลาสองเดือนกว่าที่จะหาเงินได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย และทันกับหุ้นสองตัวแรกที่จะโดนปั่นราคาพอดี ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นต้นเดือนมิถุนายน พ.ศ.2529
-----
"แม่...นิดจะขายไก่ทอด!"
สองสามีภรรยาละสายตาจากจอโทรทัศน์มามองหน้าลูกสาวอย่างงง ๆ
"จะกินหรือจะขายนะ?" กานต์ยังคงรู้สึกว่าน่าจะฟังผิด
"ฮ่าฮ่า…ขายสิพ่อ ขายแทนแม่่นี้ไง แผงจะได้ไม่ว่าง เปิดเทอมค่อยหยุด" อนงค์กานต์หัวเราะอย่างอารมณ์ดี
หลังจากคิดอยู่สามวันเธอก็คิดออก ในตลาดตอนนี้ยังไม่มีของทอดขาย แต่จะให้ขายพวกของทอดแบบง่าย ๆ ก็ดูจะไม่มีจุดขายที่เพียงพอและคนเลียนแบบได้ง่าย แต่ถ้าจะขายของทอดที่ขั้นตอนเยอะ ๆ เธอก็ทำไม่เป็อีก เธอ้าขายของที่มีจุดเด่นและขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ที่สำคัญเธอต้องทำเป็และอร่อยด้วย
อนงค์กานต์เลยนึกถึงความชอบของเธอในชาติก่อน เธอเป็คนชอบกินไก่ทอดจากต่างประเทศเ้าดังที่มีแฟรนไชส์อยู่ทั่วประเทศเป็อย่างมาก สามารถกินได้ทุกสัปดาห์ แต่เพราะไก่ทอดราคาต่อชิ้นค่อนข้างสูง จึงมีคนพยายามหาสูตรและพยายามเลียนแบบจนเหมือน และมีการสอนวิธีทำลงในอินเทอร์เน็ตอยู่มากมาย เธอจึงลองทำตามในหลาย ๆ สูตร จนเจอสูตรที่ถูกใจและรสชาติเหมือนต้นฉบับอย่างไม่ผิดเพี้ยน หลังจากนั้นเธอก็ได้ทำกินเองมาโดยตลอด
ในเมื่อเธอมีสูตรไก่ทอดนี้อยู่ในความทรงจำอยู่แล้ว เธอก็ไม่จำเป็ต้องไปคิดหาขายอย่างอื่นอีก ถึงแม้ตอนนี้จะมีไก่ทอดร้านดังมาเปิดในกรุงเทพฯ บ้างแล้ว แต่สาขายังมีน้อย และยังไม่เป็ที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และที่สำคัญยังเป็สูตรที่ไม่ได้ปรับให้ถูกลิ้นคนไทย เธอจะถือโอกาสนี้นำหน้าร้านต้นตำรับโดยนำสูตรที่ปรับปรุงแล้วมาขายก่อน และเธอก็มั่นใจว่าไก่ทอดนี้ต้องเป็ที่นิยมแน่นอน ต้องขอโทษท่านผู้พันล่วงหน้าแล้วจริง ๆ!
"เป็ไก่ทอดยังไง นิดทำเป็เหรอลูก" อนงค์ถามอย่างกังขา
"นิดเห็นเค้าลงในโทรทัศน์เมื่อวานนี้" อนงค์กานต์อ้างไปเรื่อย "ทำไม่ยากนะแม่ นิดจำส่วนผสมไว้หมดแล้ว พรุ่งนี้นิดจะลองทำให้พ่อกับแม่กินนะ แต่ก่อนอื่นพรุ่งนี้พ่อต้องพานิดไปซื้อของจากตลาดมาทำก่อน และที่สำคัญกว่านั้นคือนิดยังไม่มีตังค์ซื้อของ" อนงค์กานต์เกาหัวพลางส่งรอยยิ้มเขิน ๆ ให้พ่อกับแม่
กานต์และอนงค์หันมายิ้มให้กัน "เอาล่ะ พรุ่งนี้เราไปกันแต่เช้าเลย ถ้าอร่อย พ่อยินดีสนับสนุนและออกทุนให้ลูกเอง"
อนงค์กานต์โผเข้ากอดกานต์อย่างดีใจ "เย้! นิดนึกแล้วว่าพ่อกับแม่ต้องเห็นด้วย นิดรับรองพ่อกับแม่ได้กินแล้วต้องติดใจแน่ ๆ เดี๋ยวนิดขอไปนั่งเขียนรายการของที่จะซื้อก่อนนะคะ ราตรีสวัสดิ์ ฝันดีทั้งพ่อและแม่นะคะ" อนงค์กานต์หอมแก้มพ่อและแม่ก่อนวิ่งปรู๊ดเข้าห้องไปอย่างอารมณ์ดีสุดขีด
กานต์และอนงค์ยิ้มและมองตามลูกสาวไปอย่างมีความสุข พวกเขาชอบลูกสาวที่เป็แบบนี้จริง ๆ ดูมีพลังชีวิตเต็มเปี่ยม สนใจที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ หากสิ่งไหนไม่เกินกำลังพวกเขามากเกินไปนัก พวกเขาก็ยินดีที่จะสนับสนุนให้เธอได้เรียนรู้ เพื่อสั่งสมประสบการณ์ไว้ใช้ในอนาคต
