ทั้งลานกว้างเงียบงัน
ลูกศิษย์ทุกคนข้างล่างเวที ดวงตาเบิกกว้าง อ้าปากหวอ
เสวียนเทียนพลังวัตรเพิ่งอยู่ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแปด ขนาดกระบี่ไม่ได้ใช้ใช้เพียงเพลงหมัดกระทิงดุที่เป็วิทยายุทธ์ของชั้นทองขั้นกลางแค่สี่กระบวนท่าเท่านั้นก็เล่นงานอู๋เหลียวผู้มีพลังวัตรชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเก้ากระอักเืถูกโจมตีตกเวที ขนาดกระดูกยังหักไปหลายแห่งได้
ดูท่าแล้ว อู๋เหลียวไม่พักฟื้นสิบวันหรือครึ่งเดือนอาการาเ็ไม่มีทางหายกลับมาดีได้ การแข่งขันชิงลำดับที่ 255 ถึงลำดับที่ 508 หลังจากนี้เขาก็เข้าร่วมไม่ได้แล้ว
ไม่สามารถเข้าร่วมแข่งได้ ลำดับก็เป็ได้แค่ลำดับต่ำที่สุดเท่านั้น ทั้งที่อู๋เหลียวเป็ศิษย์ชั้นสูงพลังวัตรชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเก้า กลับได้อันดับที่ 508 แม้กระทั่งศิษย์ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดบางคนยังมีอันดับสูงกว่าเขาเลย
อันดับที่ 508 อันดับเช่นนี้สำหรับอู๋เหลียวแล้วเป็ความอับอายอย่างแท้จริง
“พลังวัตรชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแปดใช้เพลงหมัดกระทิงดุวิทยายุทธ์ของชั้นทองขั้นกลางต่อสู้กับพลังวัตรชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเก้าที่ใช้เพลงกระบี่หวนเป็หนึ่งเพลงกระบี่ชั้นทองขั้นสูงแต่กลับชนะหรือ?”
“ขนาดกระบี่ยังไม่ใช้ก็เอาชนะคู่ต่อสู้ข้ามระดับชั้นได้ความสามารถของศิษย์พี่หวงเทียนอาจมากกว่าลูกศิษย์หัวแถวที่พลังวัตรขั้นสิบก็ได้”
“ถ้าหากศิษย์พี่หวงเทียนใช้กระบี่จะเข้าไปถึงรอบสิบอันดับแรกของการแข่งครั้งนี้ได้หรือไม่? จะกลายเป็สุดยอดม้ามืดได้หรือเปล่า?”
“เข้ารอบสิบอันดับแรกยากอยู่ แต่ถ้าไม่เจอกับศิษย์หัวแถวตัวฉกาจพลังวัตรขั้นสิบไม่กี่คนนั่นความสามารของศิษย์พี่หวงเทียนต้องเข้าไปถึงรอบที่ห้าแน่ เข้ารอบ 64 อันดับแรกแน่นอน”
“ไม่รู้ว่าศิษย์พี่หวงเทียนถ้าสู้กับศิษย์พี่พลังวัตรขั้นสิบผลแพ้ชนะจะเป็อย่างไร? ถ้าหากชนะได้ อาจจะเข้าไปถึงรอบที่หกเข้ารอบ 32 อันดับแรกเลยก็ได้”
“ศิษย์หัวแถวพลังวัตรขั้นสิบก็มี 32 คนแล้วนะ ถ้าศิษย์พี่หวงเทียนเข้ารอบ 32 อันดับแรกได้นั่นก็ร้ายกาจเกินไปแล้ว เขาเพิ่งพลังวัตรชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแปดเองนะ”
“ข้ารู้สึกว่าเป็ไปได้ ขนาดศิษย์พี่อู๋เหลียวผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเก้าศิษย์พี่หวงเทียนไม่ใช้กระบี่ ใช้แค่เพลงหมัดกระทิงดุก็เอาชนะได้แล้วลูกศิษย์หัวแถวพลังวัตรขั้นสิบธรรมดา ไม่แน่ว่าจะเป็คู่มือของเขาได้หรือไม่”
“ข้าว่าเป็ไปไม่ได้พลังวัตรชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบเป็ขั้นสุดท้ายของชั้นผู้ฝึกยุทธ์ ผู้ฝึกยุทธ์พลังวัตรขั้นสิบห่างชั้นกับผู้ฝึกยุทธ์พลังวัตรขั้นเก้าไปไกลเทียบไม่ติดศิษย์พี่หวงเทียนถึงจะร้ายกาจแต่ศิษย์หัวแถวพลังวัตรขั้นสิบคนไหนความสามารถไม่ร้ายกาจบ้าง?เข้ารอบ 64 อันดับแรกได้ก็ควรจะเป็ความสำเร็จสูงสุดของศิษย์พี่หวงเทียนแล้วถ้าหากเจอศิษย์ชั้นบนสุดของหัวแถวพวกนั้นก่อน เกรงว่าจะตกรอบเร็วกว่าเดิม”
“ข้าเชื่อในตัวศิษย์พี่หวง เขาต้องเข้ารอบ 32 อันดับแรกแน่”
“ข้าไม่คาดหวังกับเขานัก พลังวัตรชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแปดห่างจากขั้นสิบตั้งสองขั้น ความแตกต่างระหว่างกันกว้างเกินไป เข้าไม่ได้แน่ๆ”
.....
.....
หลังจากความนิ่งเงียบ ตกตะลึงแสนสั้นผ่านไปศิษย์นอกรอบเวทีประลองก็ฮือฮาขึ้นมา หัวข้อสนทนาวนเวียนอยู่กับเสวียนเทียนวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือด
เสวียนเทียนใช้เพลงหมัดกระทิงดุเพียงสี่กระบวนท่าก็เอาชนะอู๋เหลียว ะเืเลือนลั่นศิษย์สำนักนอกอีกครั้งเสวียนเทียนกลายเป็คนที่เด่นดังที่สุดถูกพูดถึงมากที่สุดในการแข่งขันจัดอันดับครั้งนี้แม้กระทั่งศิษย์นอกชั้นหัวแถวอย่างหยางติ่งจวิน ไป๋จั่นเฮอ จางหลงก็ไม่เป็ที่สนใจได้มากเท่ากับเสวียนเทียน
เพราะความสามารถของพวกเขาร้ายกาจอยู่แล้ว ต่อให้เอาชนะศิษย์ระดับขั้นเดียวกันได้ในใจศิษย์นอกทั้งหลายก็รับได้
แต่เสวียนเทียน ครึ่งปีก่อนยังเป็คนไร้ชื่อไร้เสียงอยู่ในเวลาสั้นๆ ไม่กี่เดือนกลับแข็งแกร่งผงาดขึ้นมาไม่เพียงเอาชนะคู่ต่อสู้ข้ามระดับชั้น วิทยายุทธ์ที่ใช้ยังต่ำกว่าของคู่ต่อสู้อยู่หนึ่งขั้นทำให้ในใจของบรรดาศิษย์พลุ่งพล่านไปด้วยความตื่นตะลึง
“ดูแล้วการแข่งขันจัดอันดับครั้งนี้พวกเราจะมีคู่ต่อสู้เพิ่มมาอีกคนแล้ว”
ในที่ซึ่งห่างออกไป ศิษย์ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบคนหนึ่งพูดกับคนข้างๆขึ้นมา ในใจของเขานับเสวียนเทียนเป็คู่แข่งคนหนึ่งไปแล้วเรียบร้อย
ศิษย์ที่ยืนอยู่ข้างกันก็มีพลังวัตรชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสิบเช่นกันเขาคิ้วขมวดเล็กน้อย กล่าวว่า “เขาแข็งแกร่งมากก็จริงแต่ระดับขั้นต่ำเกินไป พลังวัตรเพิ่งจะขั้นแปด สู้กับผู้ฝึกยุทธ์พลังวัตรขั้นเก้าเขาอาจจะเอาชนะได้ แต่กับพวกเรา เขายังใช่คู่มือแน่นอน”
คนที่พูดขึ้นก่อนผู้นั้นครุ่นคิดเล็กน้อยก็ตอบว่า “ก็ใช่ อู๋เหลียวในหมู่ศิษย์พลังวัตรขั้นเก้าความสามารถก็อยู่ในกลุ่มหางแถว ศิษย์พลังวัตรชั้นเก้าที่เก่งกาจก็เอาชนะเขาได้ถ้าหากศิษย์ที่เก่งกาจที่สุดของชั้นพลังวัตรขั้นเก้าสู้กับหวงเทียนแพ้ชนะอาจยากคาดเดา แต่พวกเรากับเขาพลังวัตรห่างกันสองขั้น ยังได้เปรียบอยู่มาก”
.....
.....
คำวิพากษ์วิจารณ์ของบรรดาศิษย์คนอื่นเสวียนเทียนฟังเข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวา ไม่ว่าพวกเขาจะมองตนเองดีก็ดีจะมองไม่ดีก็ช่าง ล้วนไม่อาจส่งผลต่อจิตใจของเขาได้
ใจของเสวียนเทียนเป็ดั่งกระบี่เล่มหนึ่ง ตั้งตรง แหลมคม ทรงพลังไม่หวั่นไหวกับคำพูดคำวิจารณ์ของคนนอก บนเวทีผู้ชมผู้าุโคนหนึ่งมองเสวียนเทียนเดินลงจากเวทีประลอง ในดวงตามีแววชื่นชมในใจกล่าวว่า “เด็กคนนี้ไม่เพียงเป็อัจฉริยะที่หาได้ยากแห่งวิถีกระบี่บนวิถียุทธ์ก็ชนะคนธรรมดาไปไกลเพลงหมัดกระทิงดุชุดหนึ่งสามารถใช้ออกมาได้ถึงขนาดนี้สมัยข้ายังหนุ่มก็ไม่แน่ว่าจะทำได้ แต่เสียดาย พลังวัตรของเขาต่ำเกินไปหน่อยอายุสิบห้าแล้ว พลังวัตรเพิ่งอยู่ชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแปดถ้าหากเด็กกว่านี้อีกสักสองสามปี แทบจะเทียบได้กับฉู่เฟิงยอดอัจฉริยะที่ในรอบร้อยปีจะมีสักคนของสำนักเราน่าเสียดายนัก!”
หลังการแข่งขันรอบที่สอง ต้องรอศิษย์ที่ตกรอบแข่งขันจัดอันดับที่ 225 ถึง 508 เสร็จเสียก่อน ถึงจะดำเนินการแข่งขันรอบที่สามเวลาคืออีกหนึ่งวันให้หลัง
วันนี้เสวียนเทียนก็มาอยู่ที่เขาด้านหลังอีกคราฝึกเพลงกระบี่อยู่ครึ่งวัน เวลาที่เหลือฝึกฝนปราณเบิกนภาเวลานี้ปราณเบิกนภาของเสวียนเทียนติดอยู่ที่ขั้นห้าปราณเบิกนภาจะเลื่อนสู่ขั้นหกก็ต่อเมื่อพลังวัตรของเสวียนเทียนทะลุชั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเก้า
วิถีปราณของชั้นทองขั้นสูงทั้งหมดมีเจ็ดขั้นขั้นที่สี่คือชั้นบรรลุบางส่วนร้ายกาจกว่าวิถีปราณชั้นทองขั้นกลางชั้นบรรลุส่วนใหญ่อยู่มาก
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกฝึกฝนวิถีปราณชั้นทองขั้นสูงเมื่อมาถึงขั้นที่สี่พลังวัตรเข้าสู่ขั้นเจ็ด เมื่อบรรลุขั้นห้าพลังวัตรก็เข้าสู่ขั้นแปดเมื่อถึงขั้นหกพลังวัตรก็จะเข้าสู่ขั้นเก้าเมื่อถึงขั้นเจ็ดสำเร็จชั้นบรรลุส่วนใหญ่ พลังวัตรก็จะเข้าสู่ขั้นสิบ
เสวียนเทียนฝึกปราณเบิกนภาก็เป็เช่นเดียวกันเพียงแต่ว่าปราณเบิกนภานั้นฝึกฝนได้ยากมาก ต้องมีสติปัญญาอันสูงส่งคนธรรมดาหากฝึกฝนมาถึงขั้นสี่ชั้นบรรลุบางส่วนก็ยังยากจะทำได้พลังวัตรจะเลื่อนชั้นยากแสนยาก แต่หากเลื่อนขั้นได้พลังภายในที่ได้รับก็จะเป็พลังที่วิถีปราณอื่นๆ ชั้นทองขั้นสูงล้วนไม่มีทางเทียบชั้นได้
เสวียนเทียนในตอนนี้ฝึกฝนปราณเบิกนภาถึงขั้นห้าแล้ว แต่ความล้ำลึกของพลังภายในเทียบกับศิษย์ชั้นพลังวัตรขั้นเก้าแล้วยังล้ำลึกกว่า ต่อให้เทียบกับหัวแถวพลังวัตรขั้นสิบพลังภายในก็ไม่เป็รองเลยสักนิด
เพียงแต่ปราณหยางบริสุทธิ์ที่มีชื่อเทียบเคียงกับปราณเบิกนภาในกรณีที่ระดับชั้นสูงกว่า พลังภายในถึงจะชนะเสวียนเทียนอยู่ก้าวหนึ่งอย่างเช่นศิษย์พี่หยาง เขาฝึกปราณหยางบริสุทธิ์จนถึงขั้นเจ็ด ถึงชั้นบรรลุส่วนใหญ่พลังภายในของเขาล้ำลึก ศิษย์นอกทั้งหมดไม่มีใครสู้ได้พลังปราณเบิกนภาของเสวียนเทียนเพิ่งฝึกถึงขั้นห้า ด้อยกว่าเขาอยู่ไม่น้อย
ทว่าเสวียนเทียนมีวิทยายุทธ์ที่แตกฉานอยู่ ความสามารถของผู้ฝึกยุทธ์พลังภายในเป็เพียงพื้นฐาน การใช้วิทยายุทธ์ก็เป็ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ส่งผลต่อความสามารถด้วย
ดังนั้น ถึงแม้พลังภายในของศิษย์พี่หยางจะไม่มีใครในหมู่ศิษย์สำนักนอกเทียบเคียงได้แต่เสวียนเทียนก็ไม่เกรงกลัวเขา
ตอนกลางวัน หวงสือมาชมการแข่งขันที่ลานกว้าง กลางคืนกลับไปยังที่พักอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นคุยโม้เื่การแข่งขันสองรอบแรกของเสวียนเทียน ทั้งสองข้ามผ่านคืนนี้ไปท่ามกลางเสียงหัวเราะ
เพียงพริบตา หนึ่งวันก็ผ่านไป การแข่งขันจัดอันดับของศิษย์สำนักนอกของสำนักกระบี่์เริ่มต้นรอบที่สาม
รอบที่สามยังไม่มีศิษย์หัวแถวชั้นพลังวัตรขั้นสิบคนไหนจับฉลากได้เสวียนเทียนเป็คู่มือ
คู่ต่อสู้ของเสวียนเทียนเป็ศิษย์ชั้นพลังวัตรขั้นเก้าอันดับหมายเลขที่ 92 ชื่อถังไห่ แข่งที่เวทีประลองหมายเลขสี่ดูลำดับก็รู้แล้วว่าถังไห่ความสามารถสูงกว่าอู๋เหลียวอยู่บ้าง แต่ไม่ได้สูงกว่ากันเท่าไรนัก
ได้บทเรียนจากอู๋เหลียวก่อนหน้านี้ ถังไห่ย่อมไม่กล้าดูถูกเสวียนเทียนแต่อย่างใดน้ำเสียงที่พูดด้วยก็ไม่มีความดูถูกแม้แต่น้อย ถังไห่คนนี้ไม่ใช่คนของหยางติ่งจวินไม่ใช่คนของจางหลง เสวียนเทียนไม่ได้โหดร้ายกับเขานัก ยังคงใช้เพลงหมัดกระทิงดุสู้กับเขาสิบกระบวนท่าบีบเขาไปจนถึงขอบเวที ถังไห่รู้ตัวว่าไม่ใช่คู่มือ เลือกยอมแพ้
ถังไห่ตกรอบ เสวียนเทียนเข้าสู่รอบที่สี่ เข้าสู่ 127 อันดับแรก
รอบที่สามผู้เข้าแข่งขันน้อยลงกว่ารอบที่หนึ่งและรอบที่สองมากการแข่งขันจึงจบลงในวันเดียว อีกทั้งการแข่งขันจัดดันอับ 128 ถึงลำดับ 254 ก็เสร็จสิ้นลงในวันเดียวกัน
วันต่อมาการแข่งขันรอบที่สี่ใกล้จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
การแข่งขันรอบที่สี่มีผู้เข้าแข่งทั้งสิ้น 127 คน หมายเลข 1 ไป๋จั่นเฮ่อรอบนี้ไม่ต้องประลองอีก 126 คนแข่งขันเอาคนชนะ 63 คนเข้าสู่รอบที่ห้าไปพร้อมกับไป๋จั่นเฮ่อ กลายเป็ 64 อันดับแรก
เมื่อมาถึงการแข่งขันรอบที่สี่ เหลือเพียงลูกศิษย์พลังวัตรขั้นสิบกับขั้นเก้าลูกศิษย์ชั้นพลังวัตรขั้นแปดมีเพียงเสวียนเทียนคนเดียวเท่านั้นสิ่งที่น่าสนใจหลักๆ ของรอบนี้คือการแข่งขันกันของศิษย์พลังวัตรขั้นเก้า
แน่นอนว่าการแข่งขันรอบที่สี่ เสวียนเทียนจะได้พบกับคู่ต่อสู้แบบไหนเป็คำถามที่ศิษย์นอกทุกคนสนใจที่สุด
รอบที่สามเสวียนเทียนเอาชนะถังไห่ ผลเป็ไปตามที่บรรดาศิษย์ทั้งหลายคาดเดาตอนนี้ศิษย์นอกทั้งหมดล้วนอยากให้เสวียนเทียนเจอกับคู่ต่อสู้ที่เก่งกาจที่มีอันดับสูงขึ้นไปอีกดูว่าความสามารถของเสวียนเทียนแท้จริงแล้วจะไปได้ถึงระดับไหน
“รอบที่สี่ หมายเลข 29 ฝานหงกับหมายเลข 467 หวงเทียน เวทีประลองหมายเลขหนึ่ง”
ผู้าุโหานประกาศเสียงดังขึ้นมา
ฝานหง ศิษย์หัวแถวพลังวัตรขั้นสิบกับเสวียนเทียน ยอดฝีมือคนใหม่ของการแข่งขันจัดอันดับครั้งนี้!
หลังสิ้นเสียงของผู้าุโหาน ฉับพลันศิษย์นอกจำนวนมาก มีทั้งศิษย์ธรรมดาและศิษย์ชั้นสูงทุกคนต่างก็วิ่งไปเบียดเสียดกันที่เวทีประลองหมายเลขหนึ่ง
บางทีอาจเป็ความคาดหวังในใจของบรรดาศิษย์ทั้งหลายบังเกิดผลเสวียนเทียนเจอเข้ากับคู่ต่อสู้ที่มีความสามารถแข็งแกร่งคนหนึ่งเข้าแล้วจริงๆ
แต่ว่า คู่ต่อสู้คนนี้เหนือกว่าความคาดหวังในใจของศิษย์ทั้งหลายพวกเขาหวังว่าจะได้เห็นเสวียนเทียนเจอกับศิษย์พลังวัตรชั้นเก้าที่ลำดับต้นๆไม่คิดว่าเพียงแค่รอบที่สี่เสวียนเทียนก็ต้องเจอกับศิษย์หัวแถวพลังวัตรขั้นสิบแล้ว
ไม่ว่าใครจะแพ้ใครจะชนะ ในคู่นี้จะต้องมีคนหนึ่งตกรอบ
ศิษย์หัวแถวส่วนใหญ่ล้วนเอาชนะคู่ต่อสู้ลงได้แล้วเมื่อการแข่งขันเสร็จสิ้น ศิษย์หัวแถวพลังวัตรชั้นสิบอย่างไป๋จั่นเฮ่อหยางติ่งจวิน จางหลง หลินอู๋อิ่ง หลี่อี้ฉาง เหลียงจ้ง หม่าเทาเป็ต้นก็มาที่เวทีประลองหมายเลขหนึ่ง สนอกสนใจการต่อสู้คู่นี้
ศิษย์บริเวณด้านล่างของเวทีข้างสองเวทีสายตาล้วนหันมามองที่เวทีประลองหมายเลขหนึ่ง เพราะรอบด้านของเวทีประลองหมายเลขหนึ่งนอกจากทางขึ้นลงเวทีแล้ว ที่อื่นๆ มีคนเบียดกันแน่นขนัดไปหมดอย่างไรก็ไม่มาทางเบียดเข้าไปได้ แม้กระทั่งผู้าุโบนลานผู้ชมของเวทีประลองใกล้เคียงผู้าุโและหัวหน้าผู้ดูแลสำนักนอกทุกคนบนหอสูงด้านหน้าของลานกว้างสายตาต่างก็หันมาที่เวทีประลองหมายเลขหนึ่ง