จินฝูมาถึงได้ไม่นานกู้เหยียนฉีก็ออกมาจากห้องนอนพอดี หญิงสาวลอบพรูลมหายใจออกมา โชคดีที่นางมาทันไม่อย่างนั้นอาจจะโดนทำโทษที่มาสายอีกหนึ่งกระทง
กู้เหยียนฉีปรายตามองเหล่าสตรีตรงหน้าคราหนึ่ง อย่างไรก็ต้องเลือกพวกนางให้มารับใช้ในเรือนใหญ่อยู่ดี หากเขาไม่ทำเช่นนี้ เจี่ยงฮองเฮาย่อมไม่ยอมรามือไม่สู้ตามน้ำนางไปก่อนก็ไม่นับว่าเสียหายอันใด
ด้านฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์ที่เห็นว่าจินฝูมาทันเวลา ก็ดีใจมาก พวกนางเป็ห่วงจินฝูแทบตายเกรงว่านางจะถูกทำโทษซ้ำสอง
"จินฝู ตาเ้า?"
ฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์ชี้ไม้ชี้มือมาที่ดวงตาของนาง จินฝูบอกเพียงว่าระหว่างที่เดินมาที่นี่นางเกิดหกล้มตากระแทกพื้นและไม่ได้เอ่ยอันใดต่ออีก
ยามนี้ดวงตาของนางคงช้ำเืได้ที่แล้ว ดีมาก เป็ไปตามแผน ใครอยากข้าปรนนิบัติเขาก็ทำไปเถอะ นางยอมต่อยตาตนเองจนบอดก็จะไม่ยอมตกเป็ทาสรักของเขา
กู้เหยียนฉีมองสำรวจสตรีทุกคนในห้องโถงอย่างละเอียด วันนี้พวกนางตั้งใจผลัดแป้งแต่งหน้ากันอย่างตั้งใจ กลิ่นเครื่องประทินโฉมลอยมาแตะจมูกจนเขารู้สึกฉุน ชายหนุ่มเดินมาหาเหล่านางกำนัลที่ยืนอยู่พลางมองสำรวจพวกนางไปทีละคน เหล่านางกำนัลที่ถูกเขาจ้องมองก็เขินอายจนตัวม้วน บางคนถึงกับลอบส่งสายตายั่วยวนให้เขาอย่างโจ่งแจ้ง กู้เหยียนฉียกยิ้มมุมปากอย่างเ็า
"พ่อบ้านตู้ นางกำนัลห้าคนนี้ส่งสายตาไม่เหมาะไม่ควรให้แก่ข้า ส่งพวกนางกลับวังหลวงไปเสียและห้ามไสหัวกลับมาอีก หากพวกนางยังไม่ยอมจากไป ก็ขายทิ้งไปเป็ทาสซะ"
เหล่านางกำนัลที่ลอบส่งสายตายั่วยวนให้กู้เหยียนฉีถึงกับเข่าอ่อน ยังไม่ทันได้ขอความเมตตาพวกนางก็ถูกลากตัวออกไปจากเรือนใหญ่เสียแล้ว เหล่านางกำนัลคนอื่นๆเริ่มหวาดกลัวและไม่กล้ามีความคิดที่ไม่บังควรอีก
จินฝูลอบซูดปาก ประหลาดคนเกินไปแล้ว เขามาอารมณ์ไหนกัน แบบนั้นก็ไม่ชอบ แบบนี้ก็ไม่ถูกใจ เื่มากเช่นนี้ใครจะอยากรับใช้เขากัน หากต้องปรนนิบัติคนเช่นนี้ นางยอมเอาส่วนนั้นถูเสาเสียดีกว่า!
"เ้าสองคน ต่อไปคอยทำความสะอาดเรือนใหญ่ของข้า ข้าเลือกพวกเ้า"
ฉินเซียงกับซ่งเอ๋อร์ที่ได้รับเลือกก็ดีใจมาก แม้จะเป็เพียงสาวใช้ทำความสะอาดนอกเรือนก็ถือว่าดีถมเถไป ยามใดที่ท่านอ๋องอารมณ์ดีและตกรางวัลให้พวกนางเล็กๆน้อยๆก็ถือว่าเมตตาพวกนางมากแล้ว แต่ถ้าหากเขาโปรดปราณรับพวกนางเป็อนุ เช่นนั้นก็ถือว่าเป็วาสนาแปดชาติ
กู้เหยียนฉีเดินสำรวจนางกำนัลคนแล้วคนเล่า จนมาหยุดอยู่ตรงหน้าจินฝู ชายหนุ่มย่นหว่างคิ้วเล็กน้อย
"ตาเ้าไปโดนอันใดมา?"
จินฝูที่ได้ยินเช่นนั้นก็เงยหน้าไปมองเขาพร้อมกับยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
"เรียนท่านอ๋อง หม่อมฉันคงไม่อาจปรนนิบัติพระองค์ในเรือนใหญ่ได้แล้วเพคะ เพราะหม่อมฉันเป็โรคเืรอบดวงตาไม่ไหลเวียนเพคะ อาการมักจะกำเริบทุกสามวันห้าวัน หม่อมฉันไม่อยากนำไออัปมงคลมาให้ท่านอ๋องเพคะ"
"โรคเืรอบดวงตาไม่ไหลเวียน?"
"เพคะ"
กู้เหยียนฉีลอบเยาะหยันในใจ ก่อนจะหันไปมองพ่อบ้านตู้ที่ยืนอยู่ไม่ไกล วันนี้พ่อบ้านตัวดีของเขาเงียบผิดปกติ อีกทั้งดวงตาของพ่อบ้านตู้ก็ช้ำเืช้ำหนองไม่ต่างจากจินฝูด้วย
จินฝูหันไปสบตากับพ่อบ้านตู้โดยไม่ตั้งใจก่อนที่นางจะสะดุ้งโหยง พ่อบ้านตู้ก็ใไม่ต่างกัน กู้เหยียนฉีนึกสนุกขึ้นมา
“พวกเ้าสองคน ป่วยเป็โรคเืรอบดวงตาไม่ไหลเวียนเหมือนกันเลยหรือ?”
จินฝูยกมือขึ้นเกาศีรษะ ด้านพ่อบ้านตู้ก็ร้องโอดครวญขึ้นมาทันที
"ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง นางกำนัลจิน ไหนเ้าบอกว่าการต่อยตาตนเองจะช่วยบำรุงดวงตาได้ ข้าทำตามเ้าแล้ว แต่ตอนนี้ตาข้าเบลอไปหมด อีกเดี๋ยวต้องไปหาท่านหมอให้ช่วยตรวจให้ นี่มันเป็วิธีที่เ้าใช้บำรุงดวงตาจริงๆหรือ!"
จินฝูลอบจุดเทียนไว้อาลัยให้กับตนเองพลางก่นด่าพ่อบ้านตู้ในใจ พ่อบ้านตู้ตาแก่บัดซบนี่ ผู้ใดใช้ให้มาต่อยตาตามนางกันเล่า!
กู้เหยียนฉีเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็คาดเดาเื่ราวได้ในทันที จินฝูไม่อยากรับใช้เขา นางจึงต่อยดวงตาตนเองแล้วอ้างว่าป่วย?
เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเจอสตรีบ้าบอคอแตกเช่นนี้!
"ต่อไปเ้าคอยรับใช้อยู่ข้างกายข้า"
"หา!"
จินฝูถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อได้ยินที่กู้เหยียนฉีเอ่ย แต่เมื่อเห็นสายตาเหมือนจะฆ่าคนของเขาแล้ว นางจึงรีบยกมือขึ้นปิดปากตนเองทันที
ไหนพ่อบ้านตู้บอกว่าเขาชอบสตรีที่ดวงตางดงามระยิบระยับไม่ใช่หรือ สภาพดวงตานางช้ำเืขนาดนี้เขายังเลือกนางอีกหรือ โด่ พ่อบ้านตู้นี่เชื่อไม่ได้เลย!
กู้เหยียนฉีเดินเข้ามาใกล้จินฝู ก่อนจะเอ่ยกับนางช้าๆ
"ข้าลืมบอกเ้าไป ข้าชอบคนที่ดวงตาช้ำเืช้ำหนองเป็ที่สุด มันดูแปลกใหม่น่าค้นหาดี"
ตาเถร น่ากลัวนัก รสนิยมเขาจะดำดิ่งเกินไปแล้ว!
จินฝูลอบก่นด่ากู้เหยียนฉีในใจแต่กลับไม่อาจโอดครวญออกมาได้
ท้ายที่สุด มีเพียงนางกำนัลสามคนที่ได้รับเลือก จินฝู ฉินเซียง และซ่งเอ๋อร์
"ต่อไปพวกเ้าสามคนย้ายขึ้นมาอยู่เรือนปีกข้าง ข้าจะได้เรียกใช้งานพวกเ้าได้สะดวก"
จินฝูหมดอาลัยตายอยากแล้ว ยิ่งหนียิ่งเจอ นางรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังจะเอานางไปทรมานเสียอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อไม่มีอันใดแล้วกู้เหยียนฉีจึงบอกให้พวกนางแยกย้ายกันออกไปได้ จินฝูและสหายอีกสองคนต้องเก็บของไปอยู่ที่เรือนปีกข้าง เหล่านางกำนัลคนอื่นๆต่างมองนางด้วยสายตาริษยา โดยเฉพาะเสิ่นหลีที่มองจินฝูอย่างไม่ละสายตา จินฝูเองเข้าใจได้ เสิ่นหลีหมายตาที่จะเป็อนุของกู้เหยียนฉี อยากรับใช้ข้างกายเขา แต่กลับไม่ได้รับเลือก นางจะแค้นก็ไม่ใช่เื่แปลกอันใด
หลังจากที่พวกนางย้ายเข้ามาอยู่ที่เรือนปีกข้างแล้ว เช้าวันต่อมาจินฝูก็ต้องมาทำหน้าที่ดูแลในเรือนใหญ่ตามที่ได้รับมอบหมาย ส่วนฉินเซียงและซ่งเอ๋อร์นั้นก็ไปทำความสะอาดรอบๆเรือนใหญ่ตามหน้าที่ของตน
เหล่านางกำนัลคนอื่นๆอิจฉานางจนตาลุกเป็ไฟ เพราะมีเพียงนางเท่านั้นที่สามารถรับใช้ใกล้ชิดกู้เหยียนฉีได้ แต่จินฝูไม่รู้สึกดีใจแม้แต่น้อย นางยังไม่รู้ว่าจะต้องรับมือกับเขาอย่างไร แล้วหากต้องปรนนิบัติเขาเื่อย่างว่าจริงๆ หากนางทำไม่ถูกใจเขาแล้วเขาบีบคอนางตายคาเตียง นางคงไม่อาจจะขัดขืนได้
"นางกำนัลจิน เ้าจะยืนเหม่ออีกนานหรือไม่?”
จินฝูได้สติกลับคืนมาทันทีที่ได้ยินเสียงพ่อบ้านตู้ นางจึงหันไปยิ้มให้เขาเล็กน้อย พ่อบ้านตู้ที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยกับจินฝูทันที
“นี่คืออาหารเช้าของท่านอ๋อง ท่านอ๋องชอบกินโจ๊กไก่ในยามเช้า ส่วนยามบ่ายต้องจัดเป็ชาหลงจิ่งคู่กับขนมดอกกุ้ยฮวา รสชาติห้ามหวานเลี่ยนเกินไป จำไว้ว่าจะต้องปรนนิบัติท่านอ๋องให้ดี อย่าให้ขาดตกบกพร่องเข้าใจหรือไม่?"
"เข้าใจแล้วเ้าค่ะ"
จินฝูรับคำก่อนจะจัดการยกอาหารเข้าไปด้านใน ยามนี้กู้เหยียนฉีเพิ่งจะอาบน้ำเปลี่ยนอาภรณ์เสร็จ เมื่อออกมาก็พบว่าจินฝูกำลังยืนรออยู่และยิ้มให้เขาอย่างอ่อนหวาน แต่รอยยิ้มของนางดูฝืดฝืนชอบกล
"ท่านอ๋อง ได้เวลาเสวยอาหารเช้าแล้วเพคะ"
กู้เหยียนฉีพยักหน้าคราหนึ่ง แล้วจึงเดินมาที่โต๊ะอาหาร เขานั่งกินอาหารอย่างไม่รีบไม่ร้อน ท่วงท่าดูสง่างามจนจินฝูละสายตาไปจากเขาไม่ได้ กู้เหยียนฉีลอบยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยทำเป็มองไม่เห็นสายตาที่นางลอบมองเขา
อยู่ๆท้องของจินฝูก็เกิดร้องขึ้นมา นางถึงกับทำหน้าไม่ถูก นั่นเป็เพราะว่านางหิวมากจริงๆ เมื่อเช้ายังไม่ได้กินอาหารเช้าเลย และคงต้องรอให้เขากินอิ่มเสียก่อน นางจึงจะสามารถไปกินได้ กู้เหยียนฉีที่ได้ยินเสียงท้องของนางร้องก็ทำเป็ไม่ได้ยิน อีกทั้งยังเอ่ยถามนางเื่อื่นอีกด้วย
"คุ้นเคยกับเรือนใหญ่หรือยัง?"
"โจ๊กหอมมากเพคะ"
กู้เหยียนฉีที่กำลังจะคีบอาหารขึ้นมากินพลันหันขวับมามองจินฝูทันที จินฝูสะดุ้งโหยงพลางยิ้มกลบเกลื่อน
"เมื่อครู่เ้าเอ่ยว่าอันใดนะ?"
"เอ่อ เมื่อครู่ท่านอ๋องทรงถามว่าอันใดนะเพคะ”
"ข้าถามว่า เ้าคุ้นเคยกับเรือนใหญ่แล้วหรือยัง?"
"อ้อ คุ้นเคยแล้วเพคะ แหะแหะ"
แม้ปากจะพูดกับเขาแต่ดวงตาของนางกลับเอาแต่จ้องมองซาลาเปาบนโต๊ะอย่างไม่ละสายตา กู้เหยียนเกิดมาก็เพิ่งเคยเจอสตรีที่แสดงท่าทางตละกละอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ ทำเอาเขาเอ่ยวาจาใดไม่ออกไปชั่วขณะ
จินฝูลอบกลืนน้ำลายลงคอ ตอนนี้โจ๊กในถ้วยถูกเขากินไปแล้ว แต่ซาลาเปาแป้งนุ่มเด้งนั่นเขายังไม่ได้กินเลย ดูสิ น่ากินนัก นางอยากจะกินมันทีเดียวให้หมดจานเลย
"น้ำลายเ้าย้อยจะถึงคางแล้ว"
จินฝูเมื่อได้ยินก็รีบยกมือขึ้นปิดปากพร้อมกับสงวนท่าทีให้สงบเสงี่ยมมากยิ่งขึ้น กู้เหยียนฉีไม่เอยอันใด เขายื่นมือไปยกจานซาลาเปามามอบให้นาง จินฝูที่เห็นอย่างนั้นก็ใเป็อย่างมาก
“ให้หม่อมฉันหรือเพคะ?”
“ไม่อยากกินหรือ?”
“อยากกินสิเพคะ พระกรุณาจากท่านอ๋อง หม่อมฉันย่อมต้องรับเอาไว้อยู่แล้ว”
จินฝูรีบยื่นมือไปรับจานซาลาเปามาทันที
วันนี้เขาหล่อมาก หล่อกว่าทุกวัน หล่อชั่วฟ้าดินสลาย!
นางรับซาลาเปามากิน พบว่ารสชาติดีมาก เนื้อในซาลาเปาฉ่ำน้ำยิ่งนัก นางกินหมดไปหนึ่งลูกแล้ว และกำลังจะกินลูกที่สอง อยู่ๆกู้เหยียนฉีก็เอ่ยขึ้นมา
"บางคราซาลาเปานี่อาจมีพิษ เ้ากินไปแล้ว ก็สังเกตดูอาการของตนเองด้วย หากไม่ตายก็คือรอด"
จินฝูชะงักไปชั่วขณะ พลางมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง นี่เขากำลังหลอกใช้นางเพื่อทดสอบพิษในอาหารอย่างนั้นหรือ!
ชั่วช้าสามานย์ถึงเพียงนี้เชียวพ่อหนุ่ม?
กู้เหยียนฉีที่เห็นว่านางมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกก็รู้สึกสนุกมากขึ้นทุกที
"เ้ากลัวตายหรือไม่นางกำนัลจิน?"
จินฝูที่ถูกถามเช่นนี้แผ่นหลังก็พลันเยียบเย็นขึ้นมา หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วจึงเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"กลัวเพคะ แต่กลัวไม่ได้กินมากกว่า"
เอ่ยจบนางก็ยัดซาลาเปาที่เหลือในจานเข้าปากจนหมด ไหนๆก็ใกล้จะตายแล้ว เื่อะไรนางจะยอมหิวจนตายกันเล่า ไม่สู้กินให้อิ่มจนท้องแตกตายเสียยังดีกว่า จากนั้นก็ซ้อมตาย เลือกท่าตายที่สวยที่สุด อย่างไรก็เป็ถึงอดีตนางเอกดาวรุ่ง จะตายทั้งทีต้องสวยไว้ก่อน
หลังจากกินซาลาเปาหมดแล้ว นางจึงหันมาเอ่ยกับกู้เหยียนฉีด้วยสีหน้าจริงจัง
"ท่านอ๋องเพคะ ไหนๆหม่อมฉันก็จะต้องตายเพราะพิษในอาหารอยู่แล้ว เช่นนั้น เกี้ยวนึ่งกับปลาราดพริกสองจานนั้น หม่อมฉันขอกินก่อนตายได้ไหมเพคะ?"
กู้เหยียนฉี"......"