“ตอนแรกฉันกลัวจนต้องยืนเฉยๆ ไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไง… แต่บ่ายนี้ช่วยให้ฉันรู้สึกว่าไม่ว่ามือใครจะจับเรา จังหวะของหัวใจก็ยังเป็ของเราเสมอ”
เสียงผู้หญิงในกลุ่มเงียบลงสักครู่ ก่อนอุรชาจะพูดขึ้น “เราทุกคนต่างมีขอบเขต ถ้าอยากเริ่มจากการจับมือ ก็จับมือก่อน แล้วค่อยก้าวต่อไปทีละก้าวค่ะ”
หลังบทสนทนา สันต์กับปพนต์ช่วยกันเติมไม้ลงในกองไฟ เหลือทิ้งให้นั่งอยู่สองสามคน มารตีสังเกตว่าแสงไฟกระทบใบหน้าอุรชาให้มองดูอบอุ่นเป็พิเศษ
อุรชา ยื่นมือมา ให้มารตีจับ “ให้ฉันเป็คู่ฝึกมือแรกของคุณนะคะ”
มารตีรู้สึกถึงแรงสั่นเล็กๆ ในมือ พลางจับมืออุรชาไว้แน่นอย่างไม่ตั้งใจ พลางกล่าวเบาๆ “ฉัน…ขอบคุณนะ”
การััมือในแสงไฟอ่อนๆ ทำให้จังหวะหัวใจของมารตีเต้นแรงผิดปกติไปครู่หนึ่ง...มันไม่มีอะไรโจ่งแจ้ง แต่เป็แค่ความรู้สึก “เชื่อใจ” ที่ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ
กองไฟมอดลงเหลือแต่ถ่านแดงๆ กลุ่มควันลอยอ้อยอิ่งเป็ทางยาวสูงขึ้นไปก่อนจะกระจายหายไปตามสายลม ก้อนถ่านแดงๆ พอให้เห็นแสงอ่อนๆ พวกเขาลุกขึ้นเก็บผ้าห่ม เตรียมเดินกลับวิลล่า ปพนต์โอบมารตีจากด้านหลัง มือหนึ่งคล้องรอบเอวเธอ
ปพนต์ ก้มลงกระซิบเบาๆ ริมใบหู “คืนนี้ พีดีใจที่เห็นรตียิ้ม…พวกเราเริ่มก้าวออกจากขอบเขตเดิมแล้ว”
มารตีหันไปสบตาเขา รอยยิ้มที่ตอบกลับมาไม่ต้องใช้คำพูด แต่บ่งบอกถึงความเข้าใจของเธออย่างเต็มเปี่ยม
รุ่งเช้าวันถัดมา แสงแดดสีทองสาดผ่านหลังคาแพกลางลำธาร ทางเ้าของสปาจัดพื้นที่เล็ก ๆ ให้เป็ “โซนเรียนรู้คู่รัก”
มารตี และอุรชา สวมบิกีนี่ตัวจิ๋วบางเบาแบบผูกสายที่เอว ขณะที่ปพนต์และสันต์ สวมเพียงกางเกงขาสั้นผ้าบางๆ เดินเท้าเปล่าไปยังแผงนวดกลางแจ้ง เตียงผ้าใบเรียงรายบนพื้นกรวดละเอียด รอบตัวประดับด้วยผ้าพันคอชีฟองเบาและดอกกล้วยไม้ลอยบนอ่างน้ำ
เทรนเนอร์เริ่มต้นสอนด้วยน้ำมันสกัดเย็น ผสมกลิ่นลาเวนเดอร์และมะกรูด “วันนี้เราจะฝึกนวดคู่ พิสูจน์ว่าอารมณ์เร่าร้อนก็สามารถเริ่มขึ้นจากการไว้ใจและการัักันนะคะ” เทรนเนอร์สาวสวยส่งเสียงอ่อนหวาน พลางผายมือไปทางอุปกรณ์ที่จัดเตรียมไว้
มารตีสบสายตาปพนต์ ขณะหัวใจเต้นไม่เป็จังหวะ แต่เธอก็ยิ้มรับ ความรู้สึกหวาดหวั่นก่อนหน้านี้จางลงเหลือแต่ความตื่นเต้น เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าจะมีกิจกรรมแบบนี้ด้วย
สันต์เริ่มก่อนคู่กับภรรยาสาวสวยของเขา ทำท่าวางมือบนหลังของอุรชา อย่างมืออาชีพ มีจังหวะหนัก-เบา สลับกันเขย่ากล้ามเนื้อ มารตีเห็นวิธีใช้หัวแม่มือกดลงที่จุดฝังเข็ม นิ้วพับขยับลูบไล้แนวกระดูกสันหลังอย่างมั่นใจ
อุรชาหันมายิ้มให้มารตี “ดูไม่ยากใช่ไหมล่ะ ลองทำดูบ้างสิ”
ปพนต์รับหน้าที่นวดให้มารตีเป็คู่ต่อไป มือเขาคลึงน้ำมันบนฝ่ามือก่อนวางเบาๆ ลงบนหลังเธอ มารตีรู้สึกถึงไออุ่นจากฝ่ามือตรงิั ทำให้เธอผ่อนคลายจนเผลองีบหลับไป
สันต์เดินเข้าไปดูแล ทักท้วงเล็กน้อย “เบาอีกนิด ที่บริเวณบ่า ให้เธอรู้สึกสบาย ไม่ใช่เจ็บ”
ปพนต์ปรับแรงกดให้อ่อนลง มารตีหายใจแรงขึ้น “…รู้สึกดีจริง ๆ นะ” เธอยิ้มมุมปาก ขณะที่ยังเอียงหน้าแนบเบาะนุ่มปรือตาอย่างมีความสุข
เมื่อถึงคราวมารตีต้องเป็ผู้สาธิต สันต์กับอุรชานอนคว่ำพร้อมกัน มารตีคลึงน้ำมันอ่อนๆ บนแผ่นหลังอุรชา ก่อนจะค่อยๆ ลูบไล้ตามแนวสันหลังจนถึงบ่า ราวกับวาดภาพสายฝนลงบนผิว อุรชาหลับตาลงอย่างเพลิดเพลิน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างสุขใจ
ปพนต์ที่สังเกตช่วยแนะนำ “ค่อยๆ ประคองน้ำหนัก อย่ารีบร้อน ให้ทุกััสื่อถึงความใส่ใจ”
หลังจากฝึกครบทุกคู่แล้ว พวกเขานั่งลงรอบโต๊ะเตี้ย ดื่มชาสมุนไพรเย็น กลิ่นสะระแหน่ เพื่อผ่อนคลาย และพักผ่อนอารมณ์อย่างเบิกบานใจ
“วันนี้เราไม่ได้แค่เรียนท่านวด แต่ได้เรียนรู้การฟังกันด้วยหัวใจ ััเล็กน้อยก็พอสร้างความใกล้ชิดได้มากกว่าที่คิด” อุรชากล่าวเบาๆ ด้วยรอยยิ้ม
มารตีอึ้งไป แล้วลอบมองปพนต์ “รตีไม่เคยรู้สึกอุ่นผิวขนาดนี้มาก่อนเลย… ราวกับว่าพวกเขาตั้งใจส่งผ่านอะไรบางอย่างเข้ามา”
ปพนต์ยิ้ม และกุมมือเธอแน่นขึ้น “เรากำลังก้าวเข้าใกล้กันมากขึ้นแล้วนะ รตี”
มารตีเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีคราม ปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับประสบการณ์ใหม่ที่พบเจอ “ขอบคุณนะคะ…สำหรับทุกก้าวที่ไม่เคยปล่อยมือจากรตี”
คืนนี้ ก่อนจะก้าวเข้าสู่บททดสอบครั้งต่อไป มารตีเข้าใจแล้วว่า “การเปิดใจ” คือการให้โอกาสตัวเองได้รู้สึก ในขณะที่มีคนรักคอยประคองอยู่เคียงข้าง
เมื่อประสบการณ์บริเวณลำธารสอนให้เธอรู้จัก “ความไวต่อัั” คืนนี้ พวกเขาจะขยับสู่บทสนทนาลึกซึ้ง ที่อาจกำหนดทิศทางความสัมพันธ์ครั้งใหญ่…
เมื่อพระจันทร์เลื่อนสูงขึ้นท้องฟ้าเหนือทะเล ฝนที่หยุดโปรยปรายเปิดทางให้แสงจันทร์และไฟประดับเล็กๆ หลอดสลัวได้มีโอกาสส่องสว่าง ข้างสระน้ำอุ่นกลางสวน มารตี ปพนต์ สันต์ และอุรชา ในเครื่องแต่งกายน้อยชิ้น ต่างเดินไปยังอ่างจากุซซี่ส่วนตัว น้ำอุ่นพุ่งเป็เกลียวอ่อนๆ โอบอุ้มร่างกายให้ผ่อนคลายอย่างคนอ่อนล้า
ปพนต์อาสาเปิดฝักบัวล้างเกลือทะเลออกจากตัวมารตีก่อน ค่อยๆ ลูบไล้รอยเหนื่อยล้าจากกล้ามเนื้อ น้ำอุ่นซัดผ่านผิวเนียนราวกับการบีบนวด เธอหลับตาพริ้ม รู้สึกถึงการประคองที่มั่นคงของคนที่เธอรัก
สันต์กับอุรชาเข้ามานั่งข้างๆ ในอ่าง ฟองอากาศพ่นมาเบาๆ ปะทะกับผิวเปลือยตามซอกคอและไหล่ มารตีรับรู้ได้ว่ามีใครบางคนกำลังมองแผ่นหลังขาวผ่องอวบอิ่มของเธอด้วยความชื่นชม
เสียงน้ำซ่าเป็จังหวะเบาๆ กลบคำพูดของสันต์ ที่กระซิบว่า “อ่างนี้ช่วยให้ร่างกายและใจเชื่อมกันได้มากขึ้นครับ”
อุรชาหันมายิ้ม “ใช่ค่ะ พลังของน้ำอุ่นกับคนที่ไว้ใจ…มันทำให้เรากล้าเปิดใจจริงๆ”
มารตียิ้มรับ ทั้งสี่คนสบสายตากันอย่างเข้าใจ ต่างคนต่างไม่ต้องเอ่ยขออนุญาต ยอมปล่อยให้ความใกล้ชิดเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
ในโอกาสที่ปพนต์เผลอตัว หัวไหล่ของเขาอยู่ติดกับหลังมารตี เธอวางมือบนแผ่นหลังเขาเบาๆ รู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วขึ้นไม่แพ้แรงพุ่งของน้ำข้างล่าง
ขณะเดียวกัน สันต์ก้มลงกระซิบบอกอุรชา “คืนนี้…เป็คืนที่ดีสำหรับทุกคนจริงๆ เลยนะครับ”
มารตีััได้ถึงปฏิสัมพันธ์ที่นุ่มนวล ไม่ร้อนแรงจนออกนอกกรอบ แต่ก็ไม่แห้งเหือดจนชืดชา ทุกการเคลื่อนไหว ทุกคำพูด ทุกสายตา…ล้วนปลุกให้เธอ “รู้สึก” อย่างเต็มหัวใจ
คืนนี้ มารตีไม่ได้ก้าวข้ามข้อจำกัดด้วยการทดลองทางกายเพียงอย่างเดียว แต่เธอกำลังเปิด “ประตู” ของความไวต่อัั และเรียนรู้ว่าการให้ใจคนอื่นเข้าใกล้ ก็เป็บทเรียนที่งดงามไม่แพ้บทเรียนใด
คืนสุดท้ายในสปากลางลำธาร ฝนหยุดเม็ดแล้วเหลือเพียงละอองไอน้ำฟุ้งกระจายในแสงจันทร์ มารตี ปพนต์ สันต์ และอุรชา ยืนประจันหน้ากันในพื้นที่โล่งๆ ริมธารน้ำตกเล็กๆ ไหลซู่เบาๆ คลอเคล้าบทสนทนา
ปพนต์หยิบผ้าเช็ดตัวมาห่มให้มารตี เพียงัันั้นก็กระตุ้นความอบอุ่น ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมานานแล้วให้แผ่ซ่านขึ้นมาทันที
“เราทำสำเร็จแล้วนะรตี”
มารตียิ้มบางๆ “ใช่…รตีรู้สึกมากกว่าแค่ได้ลองอะไรใหม่ๆ” เธอเหลือบตามองสันต์และอุรชา
“มันเหมือนเราได้ค้นพบขอบเขตของตัวเอง และรู้สึกถึงการเชื่อมต่อระหว่างหัวใจหลายดวง”
สันต์ก้าวเข้ามาใกล้ พลางพนมมือคล้ายสวดไหว้ธรรมชาติ “บางครั้ง ความอุ่นจากการััคนอื่น ก็สอนให้เราเข้าใจว่าร่างกายและใจคู่กันเสมอ”
อุรชายิ้มตอบ มือแตะเบาๆ ที่แขนมารตี “ฉันเองก็ไม่คิดว่าการเปิดใจ...จะทำให้รู้สึกเห็นตัวเองได้ลึกขนาดนี้”
สายลมพัดเย็น ความเงียบของลำธารโอบอุ้มทุกคำพูดให้ดังก้องในจิตใจ ทั้งสี่หันไปมองกัน ่เวลาเ่าั้ไม่้าการกระทำใดนอกจาก “การยอมรับ”
ปพนต์โอบทุกคนเข้าไว้ในวงแขนแข็งแรงของเขา “ผมดีใจที่พวกเราได้เดินมาถึงตรงนี้ ไม่ใช่เพื่อเปลี่ยนแปลงใคร แค่เรียนรู้ที่จะเข้าใจกันให้มากขึ้น”
มารตีพิงไหล่สามี พลางสูดลมหายใจ “ฉันรู้แล้วว่า…ไม่ว่าจะกับใคร ขอแค่เราเคารพกัน เข้าใจกัน เส้นขอบเขตนั้นก็จะปลอดภัย”
ใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องผ่านกิ่งไม้ เธอมองไปยังธารน้ำไหล และรู้สึกว่าการเดินทางยังอีกยาวไกล แต่หัวใจเธอวันนี้…พร้อมจะก้าวต่อไป
“คืนนี้ เราไม่ได้ค้นหาจุดจบ แต่ค้นพบจุดเริ่มต้น…ของความเข้าใจที่แท้จริง”