เมื่อฮูหยินใหญ่เวินได้ยินคำพูดของเวินเยียน สีหน้าของนางก็ซีดเผือดทันที แววตาเบิกกว้างอย่างใ ริมฝีปากสั่นเทา แต่สุดท้ายก็มิได้พูดอันใด
นางถูกให้รับโทษแทนโดยไร้ทางหนีแล้ว ครั้นจะลากบุตรสาวให้ลำบากไปด้วยย่อมมิได้ เวินเยียนรอดพ้นความผิดเพราะไม่มีหลักฐานชี้ตัว
โชคยังดีที่เด็กน้อยคนนั้นมิได้เห็นเวินเยียนที่อยู่ข้างนอกบ้าน
“เ้าจะบอกว่าไม่รู้เห็นกับเื่ที่เกิดขึ้นเช่นนั้นหรือ?” เวินซีจ้องมองเวินเยียนอย่างเย้ยหยัน
“ข้าไม่รู้ หากวันนี้ท่านเ้าอำเภอมิได้พาน้องเข้ามา ข้าคงถูกท่านแม่หลอกไปตลอด”
“ท่านแม่ทำผิด บุตรสาวอย่างข้าคู่ควรที่จะรับโทษแทนนาง ท่านเ้าอำเภอ ได้โปรดจับตัวข้าไปด้วยเ้าค่ะ”
เวินเยียนโขกหัวลงกับพื้น ในตอนที่เงยหน้าขึ้นหน้าผากก็เต็มไปด้วยเื พร้อมกับดวงตาที่แดงก่ำ
“หยุดได้แล้ว เื่นี้ไม่เกี่ยวอันใดกับเ้า ข้าทำผิดคนเดียว เ้าไม่ต้องรับโทษแทนข้า”
ฮูหยินใหญ่เวินจ้องมองนางด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า นางอยากจะเข้าไปหยุดบุตรสาวที่โขกหัวลงกับพื้น แต่ตัวเองก็ถูกจับมัดไว้อยู่
นางหันไปมองท่านเ้าอำเภอ แล้วโขกหัวลงพื้น “ท่านเ้าอำเภอ ข้ายอมรับผิดแล้วเ้าค่ะ ข้าทำร้ายเวินซีเอง จับข้าไปเถิด”
“ท่านแม่ ลูกก็มีส่วนผิดเช่นกัน”
......
ทั้งสองต่างแสดงความรักของมารดาและความกตัญญูของบุตรสาวต่อหน้าประชาชน เวินซีมองดูภาพนี้พลันหัวเราะอย่างเย้ยหยัน
เหตุการณ์วุ่นวายไปหมด เวินอวิ๋นโปมองฮูหยินใหญ่เวินด้วยสายตาเ็า แล้วสะบัดชายเสื้อเดินจากไปต่อหน้านาง
เขาให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของตระกูลเวินมาโดยตลอด เื่ที่ฮูหยินใหญ่เวินกระทำลงไป ในวันนี้เขาทำได้เพียงตัดนางทิ้ง
เมื่อเห็นว่าเขามีจิตใจเหี้ยมโหดเช่นนี้ ฮูหยินใหญ่เวินก็ยิ่งสิ้นหวัง นางไม่แม้แต่จะเปิดปากพูด เพียงแค่มองไปบนพื้นอย่างหมดอาลัยตายอยาก
ขณะนั้นเ้าหน้าที่ที่ไปตรวจค้นเงินกวนหยินได้กลับมา และวางเงินกวนหยินอันแวววับเรียงลงบนมือของเ้าอำเภอ
“ท่านเ้าอำเภอ นี่เป็สิ่งที่ขุดออกมาจากเตียงเตาของบ้านคนขับรถม้าขอรับ”
“เอาตัวไป”
ยามนี้มีหลักฐานครบถ้วนแล้ว เ้าอำเภอจึงนำเงินห่อไว้ในผ้าแล้วเดินจากไป
ฮูหยินใหญ่เวินถูกเ้าหน้าที่ฉุดกระชากไปอย่างไม่ปรานี นางฝืนเดินเซอยู่ด้านหลัง
“ท่านแม่” เวินเยียนเอ่ยปากเรียกด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอาลัยและรู้สึกผิด
แต่ฮูหยินใหญ่เวินมิได้หันกลับมามองแม้แต่น้อย
ฝูงชนเริ่มพากันเคลื่อนไหวเพื่อหลีกทางให้กลุ่มคนของเ้าอำเภอ
เมื่อปมปัญหาคลี่คลายแล้ว เวินซีจึงพยุงสืออีที่อยู่บนพื้นขึ้นมา และกำลังจะเรียกเขาให้จากไปด้วยกัน แต่ทันใดนั้นหางตาก็เหลือบไปเห็นมีดสั้นเล่มหนึ่งลอยเข้ามาจากทางประตูบ้านของตระกูลเวิน
นางผลักสืออีให้หลบออกไป พลันเงยหน้ามองดูหลานเยว่เฉิงที่ยิ้มนิ่งๆ
“มิทราบว่าคุณชายซูหมายความเช่นไร?” เวินซีเอ่ยถามเสียงนิ่ง
“เพียงอยากทดสอบวิทยายุทธของคุณหนูเวินซีน่ะขอรับ ทำให้ข้าทึ่งจริงๆ”
หลานเยว่เฉิงยืนพิงที่ประตู
“คุณชายซูชมเกินไปแล้ว แค่ความบังเอิญเท่านั้น” เวินซีพูดกับเขาอย่างสุภาพ แต่แสดงท่าทีที่ระมัดระวังอยู่ตลอด
“คุณหนูเวินซีมีฝีมือยิ่งนัก” หลานเยว่เฉิงหัวเราะเยาะ
นางเป็คนแรกที่สามารถรับมือกับลูกน้องของเขาได้
“ไม่ทราบว่าคุณชายซูหมายถึงด้านใดเ้าคะ?”
“เ้ารู้หรือไม่ว่าคนที่อยู่ด้านหลังเ้าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานเท่าไร?”
“เื่นี้มิต้องให้คุณชายซูกังวลหรอกเ้าค่ะ ท่านมิใช่หมอดูเสียหน่อย จะรู้ได้อย่างไรว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานเท่าไร”
หลานเยว่เฉิงถูกเวินซีตอกกลับทุกประโยคอย่างไม่ไว้หน้า
เขาที่ยามปกติเป็คนฝีปากเก่งถึงกับตอบโต้ไม่ถูก และทำได้เพียงเดินกลับเข้าไปในจวนตระกูลเวินอย่างไม่สบอารมณ์
เวลานี้ผู้คนเกือบทั้งหมดแยกย้ายกันแล้ว เวินเยียนมองเวินซีด้วยความเกลียดชัง
“ไม่จำเป็ต้องมองข้าเช่นนั้นหรอก ทุกอย่างล้วนเป็ความผิดที่เ้าก่อไว้ทั้งนั้น” เมื่อตระกูลเวินถูกโจมตีอย่างหนัก เวินซีก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาก นางแสยะยิ้มมองไปที่เวินเยียน
“เื่ที่เกิดขึ้นในวันนี้ข้าจะเอาคืนทั้งหมด” เวินเยียนหันหลังเดินกลับเข้าไปในจวน
“เวินซี...” เวินอวิ๋นโปเอ่ยเรียก แต่แล้วก็หยุด ในยามนี้เขาดูเหมือนชราตัวไปสิบปี
“ไม่ทราบว่านายท่านเวินมีอันใดจะพูดเ้าคะ?”
“เ้า...เห้อ...” ในตอนนี้เวินอวิ๋นโปรู้สึกเสียใจที่เชื่อเวินเยียน และบอกเื่ตัวตนที่แท้จริงของเวินซี
มิฉะนั้น เขาก็คงหาเหตุผลที่จะขอร้องให้เวินซีไม่เอาเื่และปล่อยตระกูลเวินไปได้
“ในเมื่อนายท่านเวินไม่มีอันใดแล้ว ข้าก็ขอตัว ที่ร้านเครื่องหอมยังต้องมีคนเฝ้า”
เวินซีหาข้อแก้ตัวมามั่วๆ พลันหันหลังเดินจากไป สืออีกับจ้าวต้านก็เดินตามประกบนางซ้ายขวา
เมื่อกลับมาถึงร้านเครื่องหอม นางก็รีบอาบน้ำทันทีแล้วกลับออกมาด้วยท่าทีสดชื่น
เมื่อได้เจอเื่ดีๆ จิตใจก็เบิกบาน ยามนี้นางมองดูสิ่งใดก็ถูกใจไปหมด
“เวินซี” ขณะนั้นโจวอวี่ชางกำลังยืนรออยู่ที่หน้าประตู เมื่อเห็นเวินซีเดินออกมาก็เข้าไปหาทันที
“ท่านพี่เป็เช่นไรบ้างเ้าคะ?”
“ได้ยินว่าเกิดเื่ขึ้นกับฮูหยินใหญ่เวินหรือ”
“ท่านพี่มาขอความเมตตาให้กับฮูหยินใหญ่เวินหรือเ้าคะ”
“มิใช่ เื่นี้นางสมควรแล้ว ไม่จำเป็ต้องขอความเมตตาให้นาง ที่พี่มาเพราะอยากให้เ้าช่วยถอนพิษในร่างกาย พี่รู้สึกว่าฟื้นตัวดีแล้ว”
“ท่านพี่มิได้มาเพื่อขอความเมตตาให้ฮูหยินใหญ่เวินจริงหรือเ้าคะ? ถึงแม้ฮูหยินใหญ่เวินจะโเี้อำมหิต แต่นางก็เป็คนเลี้ยงดูท่านมาั้แ่วัยเยาว์”
เวินซีเม้มริมฝีปากพลางมองเขา จงใจพูดทดสอบ
“นางเป็คนที่้าฆ่าข้าให้ตายเช่นกัน น้องพี่ เรามิพูดถึงเื่นี้กันอีกแล้ว” โจวอวี่ชางมีแววตาเศร้าสลด เขารู้สึกทนไม่ไหว แต่สุดท้ายก็มิได้เอ่ยปากขอให้นางช่วยเหลือ
เขารู้จักนิสัยของฮูหยินใหญ่เวินดี หากช่วยนางไปก็มีแต่จะทำให้เวินซีลำบากยิ่งขึ้น
“เช่นนั้นเราไปถอนพิษกันเถิดเ้าค่ะ”
เวินซีพอใจกับท่าทีของโจวอวี่ชางมาก นางเดินไปด้านหน้า พาเขาไปยังสถานที่เก็บยา
“นอนลงเ้าค่ะ”
นางจุดกระถางเผาเครื่องหอมและเปิดหน้าต่างออก แสงตะวันจึงสาดส่องเข้ามา
หลังจากที่โจวอวี่ชางนอนลง เวินซีก็ถลกชายเสื้อของเขาขึ้น และเริ่มจัดการกับาแ
เป็เพราะฤทธิ์ยาจึงทำให้หลายวันที่ผ่านมาาแมิได้แย่ลง ถึงแม้จะยังมิได้สมานกันดี
“เจ็บหน่อยนะเ้าคะ ท่านอดทนหน่อย”
เวินซีแทงเข็มเงินลงไปในจุดฝังเข็มด้วยสีหน้าจริงจัง นางหยิบยาออกมาจากโกร่งบดยาแล้วเทลงบนปากแผลของโจวอวี่ชาง
โจวอวี่ชางกัดฟัน ฝืนทนต่อความเ็ป ตอนนี้เขารู้สึกว่าที่ปากแผลราวกับมีมดหลายพันหมื่นตัวกำลังกัดกินอยู่
เวินซีแทงเข็มเงินลงไปในจุดฝังเข็มหลายแห่งด้วยความชำนาญ จากนั้นใช้ผ้าพันใกล้ๆ าแ และใส่ยาต่อไป
ไม่นานนักก็มีของเหลวสีดำไหลออกมาจากาแของโจวอวี่ชาง หยดลงพื้นทีละหยด
เวินซีเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว นางหยิบยาอีกตัวออกมา เทลงบนปากแผลของเขา
“อ้าก——” โจวอวี่ชางร้องเสียงหลง หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อที่ผุดพราย เขานอนบนเตียงอย่างหมดแรง แต่มิได้ละสายตาออกจากเวินซีเลย
“อดทนไว้นะเ้าคะ นี่เป็ยาที่ใช้สำหรับฆ่าเชื้อ ป้องกันมิให้าแของท่านติดเชื้อ”
นี่เป็ยาที่นางเพิ่งคิดค้นขึ้นมา โจวอวี่ชางจึงช่วยทดลองยาพอดี โชคดีที่ผลลัพธ์ออกมาไม่เลวเลย
เมื่อรอจนของเหลวสีดำหยุดไหลออกจากาแ เวินซีก็ใช้ผ้าอีกผืนสะบัดไปที่ร่างของเขา “กัดไว้”
โจวอวี่ชางทำตาม
เวินซีหยิบกริชออกมาเล่มหนึ่ง หลังจากที่ใช้ยาฆ่าเชื้อแล้วก็เริ่มกรีดชิ้นเนื้อที่อยู่ใกล้กับาแเน่าเสียทิ้ง
โจวอวี่ชางเจ็บจนแทบดิ้น แต่เมื่อเห็นนางตั้งใจถึงเพียงนี้ จึงฝืนทนไว้
เวลาผ่านไปไม่นานนัก เวินซีก็กำจัดเนื้อเน่าเสียออกมาทั้งหมด จากนั้นจึงพันแผลให้เขา
“ท่านพี่ คืนพรุ่งนี้ตอนที่ข้าส่งท่านออกไป ข้าหวังว่าท่านจะพายียีไปด้วย”
“เร็วเพียงนี้เชียวหรือ?” โจวอวี่ชางเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ
“เื่นี้หากปล่อยไว้นานจะยิ่งเป็อันตราย ข้าจะเตรียมยาทั้งหมดที่ใช้รักษาาแไว้ในสัมภาระของท่าน ท่านพี่ ข้าขอฝากยียีให้ท่านดูแลด้วยนะเ้าคะ”
“ได้” โจวอวี่ชางไม่อยากปฏิเสธ จึงรับปากนาง
“คุณหนูเวินซี! คุณหนูเวินซี!” ขณะนั้นเสียงของจ่างกุ้ยก็ดังขึ้นที่หน้าประตู เขามีอาการแตกตื่นอย่างเห็นได้ชัด
“เข้ามา”
หลังจากที่เวินซีอนุญาต เขาก็รีบเดินเข้ามาทันทีอย่างรีบร้อน