มันไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มนักเลงพวกนี้กระทำเื่ราวเช่นนี้ในเมือง แต่เป็ครั้งแรกที่มีใครบางคนขัดขวางพวกเขา แถมยังจัดการอย่างโหดร้าย กระทืบแขนพรรคพวกเขาจนหัก
ชายหัวล้านเสื้อแจ็กเก็ตหนังโบกมือขึ้น เขาจ้องเขม็งไปยังเย่เฟิงอย่างเอาเื่ ส่วนห้าคนที่เหลือล้อมรอบเย่เฟิงไว้ พวกเขาโยนท่อนเหล็กในมือทิ้ง แล้วหยิบมีดแหลมคมออกมาแทน พวกเขาแค่ปล้นเงิน ไม่ได้เป็ฆาตกร แต่ในเมื่อมีคนกล้าออกมายั่วโมโห ถ้าพวกเขาไม่ได้เห็นเืก็คงไม่พอใจ
“ลุง นี่อีกหนึ่งพันที่เหลือ ลุงไปก่อนได้เลย”
เย่เฟิงเตะชายแขนหักหนึ่งทีก่อนยื่นธนบัตรสีแดงสิบใบให้คนขับรถ นักเลงพวกนี้เพียงก่อเหตุในถิ่นนี้เท่านั้น แค่ออกไปจากที่นี่ คนขับรถก็จะไม่เจออันตรายอะไรอีก
“แต่พ่อหนุ่ม...”
คนขับรถใในความหมายที่เย่เฟิงบอก ตัวเองมือเปล่าแต่กล้าไปสู้กับคนที่มีอาวุธน่ะหรือ? ถ้าเป็พวกตำรวจก็ว่าไปอย่าง ชายหนุ่มคนนี้ไม่มีทางหนีรอดไปได้ง่ายๆ แน่!
“ไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ แค่พวกมันไม่กี่คน สบายมาก” เย่เฟิงกระตุกยิ้มมุมปาก “มีเื่จะถามพวกเขาพอดีเลย เ้าเปย เสี่ยวเฉิน ไปตรวจสอบทุกที่ ดูว่าในเมืองนี้ยังมีใครน่าสงสัยอีก! ”
คนของตำหนักไท่จี๋ส่วนใหญ่อยู่ใกล้กับเมืองเล็กๆ แห่งนี้ น่าจะทิ้งคนเฝ้าไว้ในเมือง นอกจากนี้ได้ยินว่าสำนักหมัดเทวาก็มาด้วยตัวเอง หากรู้ตำแหน่งฝ่ายตรงข้ามได้ เย่เฟิงก็สามารถเตรียมพร้อมก่อนได้
ก่อนหน้านี้สวีเซียวหยู่และ ‘หลงโม่หราน’ ถูกจับกุมโดยหน่วย NSA แต่หน่วย NSA ไม่ได้สร้างความลำบากอะไร เพียงถามเื่บางอย่าง สอบสวนรายละเอียดเื่ทะเลตะวันออกก่อนปล่อยตัวเขาออกมา ขณะที่คนหลังเป็เพราะเย่เฟิงและหลินซือฉิงช่วยเหลือ หน่วย NSA จึงปล่อยตัวเขา
ตอนนี้ทักษะหยางเสินแปลงกายของซูเฟยหยิ่ง ยังคงเป็ร่างของหลงโม่หราน ตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่ในถ้ำหลัวฝูของตระกูลหลง เตรียมพร้อมสั่งการคนตระกูลหลงในยุทธจักรอยู่ทุกเมื่อ
เพียงไม่กี่คำเท่านั้น เย่เฟิงส่งเสียงบอกจ้าวอี้เปยและหลิงเฉินที่ลอยอยู่เหนือทะเลทราย เวลานี้เป็โอกาสที่พวกเขาจะได้ช่วยเหลือเย่เฟิงแล้ว
เมื่อทั้งสองได้ยินก็ตอบรับคำสั่งในทันที แยกออกค้นหาเป็สองทิศทาง ร่างของผู้ฝึกิญญาสามารถทะลุกำแพงได้ มองเห็นได้ไกลเพราะบินอยู่บนอากาศ จึงเหมาะสมแก่การดูลาดเลา
การต้องตรวจสอบสถานการณ์ภายในเมือง สำหรับจ้าวอี้เปยและหลิงเฉิน มันเหมือนกับการกินข้าวธรรมดา แน่นอนว่าพวกเขาไม่จำเป็ต้องกินข้าว แต่สามารถดูดซับพลังิญญาได้ทุกที่และทุกเวลา แต่่อายุของผู้ฝึกิญญาสั้นนัก ตอนนี้พวกเขามีพลังบ่มเพาะสิบปี ซึ่งสามารถอยู่บนโลกนี้ได้แค่สองปีเท่านั้น หลังจากสองปีผ่านไปถ้าพลังบ่มเพาะไม่เพิ่มขึ้น พวกเขาจะสลายหายไป
เมื่อเห็นว่าจ้าวอี้เปยและหลิงเฉินแยกกันไปสองทิศทางเพื่อตรวจสอบแล้ว เย่เฟิงพลันผ่อนคลาย เดินไปยังรถออฟโรด ก่อนตบฝากระโปรงรถ “ลุงไปได้เลยครับ”
หลังจากเย่เฟิงกล่าวกับคนขับรถก็หยิบมีดจากแหวนมิติและขว้างออกไปอย่างรวดเร็ว มีดอันแหลมคมพุ่งไปยังกลุ่มคนที่อยู่ล้อมรอบ ดูเหมือนจะเล็งไปยังชายสวมเสื้อแจ็กเก็ต
แทบจะไม่มีเวลาตอบสนอง สหายหัวล้านเผยสีหน้าเ็ป มีดบินที่เย่เฟิงขว้างออกไปแทงหลังมือของเขา ทำให้มีดที่อยู่ในมือหล่นลงพื้นทรายทันที
ฉากนี้ตกอยู่ในสายตาของคนขับรถ เฮ้ย! เขาอุทานกับความแข็งแกร่งของเย่เฟิง ด้วยฝีมือการขว้างมีดนี้ แสดงให้เห็นว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ธรรมดา คนขับรถโล่งใจ เหยียบคันเร่งออกไปทันที แต่ก่อนไปก็ถอยหลังชนอันธพาลสามคนแล้วค่อยจากไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งสามคนแยกกันหลบพร้ะโกน รีบไล่ตามรถที่กำลังจะหนีไป แต่ก็ถูกรั้งไว้โดยเย่เฟิง และถูกจับกระแทกพื้นทรายอย่างแรง ก่อนที่จะถูกหักกระดูกเช่นกัน ลุกขึ้นมาไม่ไหวอีก
บนถนนในเมืองเล็กๆ นี้เต็มไปด้วยคนมากมาย เย่เฟิงจัดการนักเลงหลายคนที่กำลังพุ่งออกไปล ขณะที่คนขับรถจากไปยังถนนใหญ่แล้ว
คนขับรถหันมามองเย่เฟิงและพบว่าชายหนุ่มจัดการฝ่ายตรงข้ามไปหมดแล้วก็โล่งใจ ดูเหมือนเ้าเด็กหนุ่มคนนี้จะเก่งกาจมาก เมื่อเื่เป็เช่นนี้ เขาก็ไม่จำเป็ต้องห่วงอะไรอีก
รถออฟโรดขับจากไปอย่างรวดเร็ว
ในที่สุดเย่เฟิงก็โล่งใจเช่นกัน ถ้าหากลุงคนนั้นไม่ยอมจากไป เขาก็คงไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากต้องไปทำธุระของเขา ถ้าปล่อยให้ลุงอยู่ในเมืองก็คงถูกปล้น มันอาจทำให้เย่เฟิงรู้สึกผิดได้ นอกจากนี้เย่เฟิงยังอยากให้อีกฝ่ายไปส่งให้ถึงทะเลทราย
“แก… แกเป็ใครกัน?”
เมื่อมองมือของตัวเองที่ถูกเย่เฟิงจัดการอย่างง่ายดาย ชายหัวล้านก็ใทันที มีดบินมือทำให้นึกถึงเื่บางอย่าง มือที่ถูกมีดบินเพียงไปนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลหลายวันก็หายแล้ว แต่ถ้าเขาล่วงเกินคนที่ล่วงเกินไม่ได้ ต่อให้มีหลายชีวิตก็ไม่พอ! ตอนนี้ในใจเขารู้สึกเศร้าที่ไม่ได้ฟังคำที่ลูกพี่บอกว่า่นี้มีคนที่เก่งกาจอยู่ข้างนอกมากมาย เขาไม่ได้สนใจมัน และไม่คิดเลยว่าตัวเขาจะวิ่งมาชนเื่ราวกับคนนี้
“ฉันเป็ใครไม่เกี่ยวข้องกับแกหรอก” เย่เฟิงกล่าวเสียงเบา ย่างเท้าไปทางชายหัวล้านที่มือาเ็ “บอกฉันมาที เมื่อไม่กี่วันก่อนเห็นคนแบบฉันบ้างไหม?”
เมื่อได้ยินชายหัวล้านก็มองตาโต คนแบบไหนที่เหมือนเขา? แต่เพียงไม่นานที่ใกับคำถามของชายหนุ่มเสื้อดำ หรือเขาจะหมายถึงคน ‘ที่มีวรยุทธ์แก่กล้า’ เช่นเขากัน?
“มีๆ… หัวหน้าบอกว่าไม่นานมานี้มีเข้ามามากมาย จึงบอกให้พวกเราระวังเอาไว้” เย่เฟิงเหยียบหลังมือของเขาจนเ็ปรวดร้าว ชายหัวล้านพูดพลางพยักหน้ารัวโดยไม่กล้าต่อต้าน “แต่ลูกพี่ไม่ค่อยเข้มงวดเท่าไร จึงออกมาปล้นกัน”
“ไม่มีงานทำหาเงินกันแล้วหรือไงวะ?” เย่เฟิงแค่นเสียง โยนธนบัตรใบละหนึ่งร้อยมากกว่ายี่สิบใบลงไปก่อนกล่าว “ฉันมีเื่ต้องจัดการที่นี่ แกต้องหาคนไปตรวจสอบให้ฉัน ถ้าเจอคนน่าสงสัยต้องรายงานฉันทันที นี่เบอร์โทรของฉัน”
จ้าวอี้เปยและหลิงเฉินต้องเข้าในทะเลทรายกับเขา เพื่อตามหาร่องรอย แต่เมืองเล็กแห่งนี้เป็จุดพักอยู่นอกเขตทะเลทราย ถ้ามีคนของยุทธจักรมา แน่นอนว่าจะต้องพักอยู่ที่นี่ พูดได้ว่ามีใครบางคนเป็หูเป็ตาอยู่ที่นี่ เมื่อเย่เฟิงเข้าไปในทะเลทรายแล้วจะได้จัดการถูก
เมื่อชายหัวล้านเห็นเย่เฟิงให้เงินจำนวนมากก็ใ เขาไม่คิดว่าคนที่เก่งกาจขนาดนี้จะมอบเงินให้ตน!
“พาพรรคพวกไปโรงพยาบาลดูอาการซะ จากนั้นจับตาดูคนที่ว่าเอาไว้ให้ฉันด้วย” เย่เฟิงแสยะยิ้มให้ก่อนตบไหล่ชายหัวล้าน “เมื่อเื่จบแล้วรอฉันกลับมา จะเพิ่มเงินให้แกอีก”
ตบหัวแล้วลูบหลัง เย่เฟิงซื้อตัวคนของชายหัวล้านได้ในทันที!