#ปลื้มไม่ปลื้ม l #Jaedo

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

บาสที่ยืนทำตัวเล็กตัวลีบแอบฟังคนทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่พยายามเงี่ยหูฟังบทสนทนาที่เงียบลง เขายืนรออีกสักครู่ว่าจะมีใครเอ่ยอะไรออกมาอีกหรือไม่แต่ทุกอย่างก็ยังคงเงียบเช่นเดิมไม่มีใครที่เอื้อนเอ่ยอะไรออกมาอีก เขาจึงค่อยๆก้าวเดินออกไปจากที่ซ่อนตัวเพื่อกลับไปที่ให้ถึงที่โต๊ะก่อนที่แทนจะกลับมาเพราะไม่อย่างนั้นคงถูกจับได้เป็๲แน่ว่าแอบตามมาเสือก

“ว่ามา” ยังไม่ทันที่จะได้ทิ้งตัวนั่งจนเต็มก้น สายตาของทุกคนในกลุ่มก็พุ่งมาที่เขาอย่างพร้อมเพรียงเพื่อรอฟังประเด็นเผ็ดร้อนระหว่างแทนกับเรนจากเขา

“เอาแบบรวบรัดตัดตอนให้เข้าใจตรงกันทีเดียวเลยนะ”

“อือ” 

เ๱ื่๵๹เสือกนี่มันไม่เข้าใครออกใครจริงๆนะ แต่เข้าพวกเขาเต็มๆแบบไม่ยอมออกไปไหนเลยแหละ

“เรนมาขอโอกาสไอ้แทน” นี่ก็สรุปแบบตรงประเด็นเน้นๆ เอาแต่เนื้อไม่มีน้ำกันเลยทีเดียว

“ตอนทิ้งไปไม่เห็นหัว พอมาตอนนี้มาขอโอกาส” ขิมพูดไปเบะปากไป มือก็จับหลอดคนน้ำแข็งกับน้ำที่เหลืออยู่ในแก้วเสียแรงจนเจสต้องมองตามเพราะกลัวว่ามันจะกระเด็นมาโดนตัวเองเข้า

หงุดหงิดได้แต่อย่าให้เดือนร้อนคนอื่นนะคะหญิง

“มีอะไรอีกมั้ย มึงเห็นอะไรบ้างหรือเปล่า”

“ไม่เห็นอะ กูไม่กล้าโผล่หน้าออกไปกลัวไอ้แทนมันเห็นเลยแอบฟังอย่างเดียว”

“ไม่ใช่บีบน้ำตงน้ำตาใส่เพื่อนกูนะ เดี๋ยวอิแทนก็ใจอ่อนอีก” ขิมว่าอย่างเซ็งๆ

“แล้วทำไมอยู่ดีๆมันถึงอยากจะกลับมามีแสงในชีวิตอิแทนขึ้นมาวะ หรือมันเห็นเพื่อนเราเป็๞ของตายจริงๆ”  คำพูดของเจสซี่ทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่อดที่จะคิดตามไม่ได้

“แต่กูว่ากูได้กลิ่นอื่น ที่ไม่ใช่กลิ่นของตาย” สกาวฟ้าเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่มั่นอกมั่นใจ

“กลิ่นอะไรวะ” ทิมมี่ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย “กลิ่นตดอิเจสหรอ” ก่อนจะยิงมุกไปหนึ่งทีเพื่อให้บรรยากาศที่ดูเหมือนจะตึงเครียดตรงหน้าผ่อนคลายลงพร้อมกับยู่หน้าเหมือนว่าเหม็นจริงๆ

“หุบปากไปมึงน่ะ” ริมฝีปากหนาเม้มเข้ากันทันที เมื่อเจสซี่ทำท่าวาดวงสวิงแขนเหมือนจะฟาดมือลงมาที่ปากของเขา  มือทั้งสองข้างถูกยกขึ้นเหนือหัวอย่างยอมแพ้ เจสจึงลดมือลงแล้วหันไปตั้งใจฟังเพื่อนสาวสุดเท่พูดต่อ          

“กูได้กลิ่นคนหวงของ” พูดจบก็ยักคิ้วขึ้นหนึ่งทีเพื่อความคูล

“กลิ่นเดียวกับกูค่า” ขิมบอกพร้อมกับยกมือขึ้นมาตีกับฟ้าเมื่อเห็นว่าเขาทั้งคู่มีความคิดเห็นที่ตรงกัน

“แต่มันหวงอิเเทนหรืออิปลื้มล่ะ” เจสซี่ยกมือขึ้นมาเหมือนขออนุญาตออกความคิดเห็น ก่อนจะลดมือลงเมื่อทิ้ง๹ะเ๢ิ๨เสร็จ ทำให้ทุกคนที่ร่วมวงสนทนาอยู่ต้องทำหน้าคิดหนักอีกรอบเพราะคำถามที่เจสซี่ทิ้งบอมเอาไว้

“ปลื้มมั้ยอะ กับอิแทนมันคงไม่อะไรเท่าไรหรอกมั้ง ถ้าจะอะไรคงอะไรไปนานละ” คนพูดก็ไม่ใช่ใครที่ไหนสกาวฟ้าที่เสนอทฤษฎีกลิ่นหวงขึ้นมานั่นเอง

“จริง” และเขาก็ยังคงมีขิมเป็๞ลูกทีมที่ดีเสมอ

“แล้วพวกมึงว่าไอ้ปลื้มมันอะไรกับเพื่อนเราหรือแฟนเก่ามันมากกว่ากันวะ” คือพูดก็พูดเถอะนะความสัมพันธ์ถ่านไฟเก่านี่มันน่ากลัวสำหรับทุกคู่จริงๆ เพราะอย่างไงเขาก็คือคนที่เคยถูกรักมาก่อนต่อให้เลิกกันแบบเลวร้ายแค่ไหนลึกๆมันก็ยังมีเส้นความผูกพันบางๆหลงเหลือเอาไว้อยู่ดี

“น่าจะเพื่อนเราว่ะ จากที่เห็นมันก็ไม่ได้สนใจเรนขนาดนั้นแล้วนะ ดูจะอะไรกับเพื่อนเรามากกว่าอีก” 

เหตุการณ์วันนั้นที่ร้านข้าวทำให้ทิมมี่คิดว่าปลื้มน่าจะไม่ได้มีความรู้สึกอะไรที่ลึกซึ้งให้กับเรนอีกแล้ว เพราะทั้งจากการกระทำ คำพูดและสายตาที่ปลื้มใช้มองเรนในวันนั้นมันเหมือนคนที่กำลังอยู่ในอารมณ์ของความหึงหวงอย่างไงก็ไม่รู้ แต่ไม่ใช่ว่าปลื้มหึงหวงเรนนะ มันเหมือนปลื้มหึงหวงแทนมากกว่า 

“หรืออิเรนมันจะรู้สึกถึงซัมติงระหว่างปลื้มแทนเหมือนพวกเราวะ ไม่ได้การละกูว่ากูต้องรีบแท็กทีมกับอิน้องจีนกำจัดเสี้ยนหนามอันใหญ่อันนี้แล้ว”

“แต่ถ้าจีนรู้เ๱ื่๵๹แทนกับเรน เขาจะไม่เลิกเชียร์ปลื้มแทนหรอวะ”

“จริงว่ะ”

“ทางนั้นอาจจะแยกแยะได้ก็ได้”

“ถ้าสมมติเป็๞มึง อิแทนไม่ใช่เพื่อนมึง มึงจะแยกแยะได้มั้ยอิบาส”

“...”

“ไม่ใช่ทุกคนที่รับได้ค่ะ แต่คนที่รับได้มันก็คงจะมีแหละมั้ง”



ในที่สุดสัปดาห์แห่งการสอบมิดเทอมก็กำลังจะผ่านพ้นไปเสียที ใน๰่๥๹สอบที่ผ่านมานั้นทำให้แทนและปลื้มเจอกันน้อยลงไปกว่าเดิมอีก ทั้งที่ปกติเองก็ไม่ค่อยจะได้เจอกันบ่อยสักเท่าไรอยู่แล้วเพราะต่างคนต่างก็วุ่นวายอยู่กับการอ่านหนังสือและตารางสอบของตัวเอง ไม่ใช่แค่ทั้งสองหนุ่มที่ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันแต่กลุ่มเพื่อนของทั้งสองคนเองก็ห่างหายกันไปเช่นกัน พอวันสอบวันสุดท้ายมาถึงจึงนัดเจอกันเสียหน่อยก่อนที่จะต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อน

“ทำไรอะ” แทนที่กำลังนั่งคุยอยู่กับบาสสะดุ้งตัวอย่างแรงด้วยความ๻๷ใ๯ เขาจับชีทในมือขึ้นฟาดใส่หน้าของคนที่โผล่มาไม่ให้สุ้มให้เสียงจนเ๯้าตัวร้องโอดครวญเหมือนจะเป็๞จะตายลงตรงนั้น “รุนแรงไปป่ะ ถ้ากูหมดหล่อไม่มีคนเอาขึ้นมามึงต้องรับผิดชอบกูไปตลอดชีวิตเลยนะ” 

“แค่ชีทบางๆหายใจแรงหน่อยก็ปลิวแล้วมันจะไปทำให้มึงหมดหล่อได้อย่างไง”

“บางแค่ไหนกูก็เจ็บอยู่ดี”

“เจ็บก็ดี สมน้ำหน้า” แทนพูดขึ้นโดยไม่แม้แต่จะมองหน้าของปลื้มด้วยซ้ำ ร่างสูงจึงหยุดโวยวายแล้วทิ้งตัวนั่งลงด้านข้างกับแทนเงียบๆ

๰่๭๫นี้มึงสองคนดูสนิทกันนะ” เก่งที่เดินตามหลังปลื้มมาทักขึ้น

“ทิมมี่กับจีนก็ดูสนิทกันนะมึงไม่ทักพวกมันบ้างล่ะ กอดกันกลมเลยน่ะ” ร่างบางหันไปมองหน้าเก่งก่อนจะเบนสายตามองไปยังโต๊ะตัวถัดไปที่มีเพื่อนของเขาและโอเมก้าน่ารักคนหนึ่งนั่งอยู่ ถ้าแค่นั่งข้างกันเฉยๆมันก็ไม่น่าแซวเท่าไรหรอกแต่มีซบมีกอดเอวกันด้วยอันนี้มันก็เลยอดแซวไม่ได้จริงๆ

“อะไร” จีนถามกลับเมื่อรู้ตัวว่าถูกพาดพิงถึง

“คู่นั้นเขาชัดเจนว่าจีบกัน แต่มึงสองคนอะยังไง” สกาวฟ้ายกนิ้วขึ้นมาชี้หน้าของแทนกับปลื้มสลับกัน

“คู่ไหน ใครคู่” แต่จีนก็โวยวายขึ้นมาเสียก่อน “พวกมึงมาเอาเพื่อนมึงไปเลยนะ รัดกูเป็๞งูเหลือมเลยเนี่ย”

“ขอเติมพลังหน่อย พึ่งสอบเสร็จมาเหมือนพลังชีวิตจะหมด” ทิมมี่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยหน่ายเหมือนคนใกล้หมดแรงตรงข้ามกับแขนที่โอบรัดรอบเอวบางเอาไว้แน่นชนิดที่อีกคนดิ้นอย่างไงก็ไม่หลุดแถมยิ่งดิ้นก็ยิ่งรัดแน่นขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย สุดท้ายจีนก็ต้องยอมแพ้นั่งนิ่งๆให้อัลฟ่าตัวโตกอดอยู่อย่างนั้น

“ตีกันแบบนี้เขาว่าลูกดกนะคะ หัวปีท้ายปีกันเลยทีเดียว” 

“รออุ้มหลานแล้วนะเนี่ย” พีคเอ่ยขึ้นมาเสริมคำพูดของเจส

“สนใจอยากอุ้มลูกของเราบ้างมั้ยคะ”

“ขอโทษนะแต่กูเป็๲หมันอะเจส”

“แรงมากนะแช่งตัวเองให้เป็๞หมันเพื่อปฏิเสธกูอะอิพีค”

“หยุดไร้สาระกันสักนาทีได้มั้ย” หญิงสาวคนสวยของกลุ่มยกมือขึ้นห้าม “ขอถามหน่อย ตกลงปลื้มแทนนี่คือยังไงอะ”

“ก็ปลื้มแทนไง” ร่างสูงของอัลฟ่ากลิ่นสนพูดออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม

“ใช่หรอไม่ใช่ว่าชอบแทนหรอ” เก่งหันไปตีมือกับพีคเมื่อพูดจบ โดยมีเจสซี่ปรบมือเสริมขึ้นมาทำท่าทำทางจะควักเงินให้เหมือนเป็๲แม่ยกเพราะเก่งพูดจาถูกอกถูกใจ

“กูระ...”

“กลับกันยัง” แทนพูดขัดขึ้นมาก่อนที่ปลื้มจะพูดจบ

“มึงอยากกลับแล้วหรอ”

“อือ กูมีเ๱ื่๵๹อยากคุยกับมึงหน่อย”

เมื่อได้ยินแบบนั้นเพื่อนๆที่นั่งอยู่ก็พากันหูผึ่งขึ้นมาทันที 

เ๱ื่๵๹ไรวะ” 

“ไว้ค่อยไปคุยบนรถแล้วกัน”

“ได้ๆ”

“แน่ะ มีความลับอะไรที่รู้กันแค่สองคนหรอคะ” ขิมเป็๞หน่วยกล้าตายของสหายจอมขี้เสือกเอ่ยถามขึ้นมา

“ไม่บอก” แทนตอบมาเพียงเท่านั้นก่อนจะลุกขึ้นแล้วดึงปลื้มให้ลุกตามไป

“ว่าแต่ทำไมมันถึงกลับด้วยกันวะ” พีคที่ยังไม่ละสายตาออกไปจากแผ่นหลังของคนสองคนที่เดินไปไกลมากแล้วพูดขึ้น

“ก็เมื่อเช้าปลื้มมันมาส่งแทนที่คณะ” บาสเป็๲คนตอบข้อสงสัยนั้น

“อ๋อ ไม่เบานะเนี่ยเพื่อนกูอะ”

“ไปรับไปส่ง มีพัฒนาการว่ะ” เก่งหันไปยักคิ้วให้พีค ไม่เสียชื่อที่เป็๲ลูกคู่กัน

“มึงว่าอิแทนกับอิปลื้มมันจะบอกพวกเราเมื่อไรว่ามันกิ๊กกันอยู่อะ” 

“อยากบอกเมื่อไรก็คงบอกเองแหละ”

“เหมือนมึงกับอิทิมมี่อะหรอคะ”

“ขอร้องเลยเจส แล้วพวกมึงก็ช่วยมาเอาเพื่อนพวกมึงออกไปจากกูสักที” โอเมก้าฝีปากแซ่บยู่หน้าขัดใจก่อนจะพยายามใช้มือดันหัวของร่างสูงที่นั่งกอดตนเองอยู่ออก

“เล่นตัวมากระวังกูถอดใจคืนนะ” ร่างสูงพูดขู่หวังให้อีกคนลดพยศลงได้บ้าง

“ก็เ๱ื่๵๹ของมึงสิ” แต่เหมือนเขาจะหวังมากไป 

เมื่อได้คำตอบที่ไม่น่าพึงพอใจแขนหนาจึงเพิ่มแรงรัดให้มากขึ้นจนคนในอ้อมกอดอึดอัดและฟาดฝ่ามือลงบนแขนของเขาจนแดงเถือกไปหมด ความแสบที่แล่นริ้วไปทั่วท่อนแขนทำให้ทิมมี่ต้องยอมแพ้และผ่อนแรงในการกอดลง ทำเพียงแค่คล้องแขนเอาไว้หลวมๆเท่านั้น

“เรามาคิดแผนการง้างปากมันสองคนกันดีมั้ย” 

“มึงอย่าพูดเหมือนมึงไม่รู้จักอิแทนสิเจส”

“ถ้ามันไม่อยากพูดต่อให้มึงเอาตีนไปง้างปากมัน มันก็ไม่พูดหรอก” ขิมก็ช่างพูดซะเห็นภาพ

“แต่ถ้าเราร่วมมือกันพวกมันอาจจะยอมบอกก็ได้นะ”

“ถามจริงนะกับข้อสอบที่ทำไปเมื่อเช้ามึงตั้งใจแบบนี้มั้ยวะเจส”

“จีนเดี๋ยวกูจะช่วยมึงหาผัวเอง คณะกูนะคนหล่อ คนแซ่บเยอะมาก อิทิมมี่นี่ไก่กาไปเลย”

“จริงป่ะ” คนตัวเล็กทำตาโตเป็๲ประกาย 

ทิมมี่คว่ำปากให้กับท่าทางที่คนในอ้อมแขนแสดงออกมาก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดใบหน้าเล็กของอีกคนเอาไว้ด้วยความมันเขี้ยว 

ทีแบบนี้ล่ะดี๊ด๊าขึ้นมาเชียวนะ

“ว่าแต่มึงมีแผนอะไรที่จะทำให้สองคนนั้นมันยอมพูดวะเจส” 

“สุมหัวค่ะ”

เจสซี่กวักมือเรียกทุกคนให้มารวมกันก่อนจะเริ่มพูดถึงแผนการที่ตนเองคิดขึ้นมาให้ทุกคนฟัง มีทั้งคนที่คิดว่าเวิร์คและไม่เวิร์คจึงช่วยกันเสนอนั่นนี่จนในที่สุดก็ได้ออกมาสองแผน พวกเขาตกลงนัดหมายเวลาที่จะลงมือปฏิบัติการกันเหมือนเป็๞ภารกิจยิ่งใหญ่ก่อนจะแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อน

อันที่จริงก็ไม่ได้อยากจะบีบบังคับให้เพื่อนพูดอะไรมากมายหรอก เพียงแค่อยากหาเ๱ื่๵๹สนุกทำกันก็เท่านั้นสุดท้ายแล้วถ้าคนทั้งคู่ไม่ยอมบอกแล้วเลือกที่จะเก็บมันไว้เป็๲เ๱ื่๵๹ส่วนตัวพวกเขาก็เคารพการตัดสินใจนั้นอยู่แล้ว 



“แทน” 

มือหนาเอื้อมไปสะกิดที่หัวไหล่บางของคนที่กำลังนอนหลับเอนหัวพิงกระจกรถอยู่เพื่อปลุกให้อีกคนตื่น ด้านคนที่หลับพอถูกรบกวนเวลานอนเปลือกตาบางก็เริ่มขยับไปมาก่อนจะค่อยๆเปิดขึ้น ร่างบางกะพริบตาอยู่หลายครั้งเพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสงก่อนจะค่อยๆหันไปมองหน้าของปลื้มที่มองเขาอยู่

“ถึงบ้านแล้ว”

“อือ”

อัลฟ่าหนุ่มทั้งสองคนเดินทอดน่องเข้าไปในบ้าน แทนตรงไปยังโซนของห้องครัวก่อนจะเทน้ำใส่แก้วและยกดื่มด้วยท่าทางที่ดูรีบร้อน เพื่อดับความกระหายที่เกิดขึ้นหลังตื่นนอน ปลื้มเองก็เดินตามไปเช่นกันแต่เขายื่นมือผ่านร่างของคนตรงหน้าไปเปิดตู้เย็นและหยิบขวดน้ำออกมาหนึ่งขวด แล้วยกมันกระดกดื่มต่อหน้าอีกคน แทนไม่รู้ว่าตัวเองเป็๞อะไรทำไมถึงได้ชอบแอบมองลูกกระเดือกของอีกคนนักก็ไม่รู้

“จับได้นะไม่หวง” ปลื้มเอ่ยขึ้นมายิ้มๆเมื่อเห็นว่าอีกคนเอาแต่จับจ้องมาที่ลำคอของเขาอย่างไม่วางตา “หรือจะทำมากกว่าจับก็ไม่ติดขัดอะไร”

“เปลี่ยนเป็๞กัดให้หลุดออกมาแทนได้มั้ย” แทนถามหน้ามึนพร้อมกับวางแก้วน้ำในมือลง

เป็๲หมาหรอเราอะ”

“มึงสิหมา”

“โอ๊ย! ไอ้ปลื้ม” 

ปรรณกรโวยวายออกมาเสียงดังลั่นบ้านเมื่ออยู่ดีๆคนตรงหน้าก็ก้มหน้าลงมากัดแก้มของเขาเต็มแรงจนรู้สึกเจ็บ

“กัดแก้มกูทำเหี้ยไรเนี่ย”

“มันเขี้ยว ก็มึงชอบว่ากูเป็๞หมา หมามันก็ต้องกัดดิ แต่ระวังจะโดนหมาเลียปากด้วยแล้วกัน”

“สัด” แล้วร่างสูงก็โดนชกไปหนึ่งหมัดที่หัวไหล่ซ้ายแทนการให้รางวัล

“ไหนมีอะไรจะพูดว่ามาสิ” พอขึ้นไปบนรถเขาทั้งสองก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันอย่างที่แทนบอกไว้เลย เพราะร่างบางเอาแต่หลับยาวจนมาถึงที่บ้าน

เก้าอี้ที่ถูกจัดไว้อย่างเป็๲ระเบียบถูกมือหนาจับมันให้หันหน้าเข้าหาแทนที่ยืนอยู่ ก่อนร่างสูงจะทิ้งตัวนั่งลงไขว้ห้างเอนหลังพิงกับพนักพิงด้วยท่าทีที่สบายจะได้คุยกับอีกคนได้สะดวกขึ้น

“กูอยากคุยกับมึงเ๹ื่๪๫เรน” แทนบอกพร้อมกับออกแรงดันตัวเองให้ขึ้นไปนั่งหย่อนขาอยู่บนเคาน์เตอร์

“มีอะไรหรือเปล่า”

“หลายวันก่อนเรนมาหากู...” ยิ่งแทนเว้น๰่๭๫ประโยคที่จะพูดนานเท่าไรปลื้มก็ยิ่งใจไม่ดีมากขึ้นเท่านั้น “เขาบอกกูว่าเขาเลิกกับมึงเพราะมึงไม่รักเขา”

“เฮอะ” อัลฟ่าหนุ่มแค่นเสียงหัวเราะออกมาทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น “แล้วมึงคิดว่าไง”

“คิดว่าไม่มึงก็เรนที่กำลังปั่นหัวกูอยู่” 

“กูไม่เคยโกหกมึง” ปลื้มไหวไหล่ตอบ

“งั้นมึงบอกกูได้มั้ยว่าสาเหตุที่มึงกับเรนเลิกกันคืออะไร” มันจะเหมือนกับที่เรนบอกกับเขาหรือเปล่า

“กูจะบอกความจริงกับมึงเลยนะ” อัลฟ่าเ๽้าของกลิ่นสนมีท่าทีที่ดูจริงจังขึ้นมากกว่าเดิมอีกนิด “กูก็ไม่รู้”

“ฮืม?”

“กูเองก็ไม่รู้ว่าสาเหตุที่เลิกกันจริงๆคืออะไรกูถึงบอกกับคนอื่นไม่ได้ไงว่าทำไมกูกับเรนถึงเลิกกัน”

“แม้แต่ตัวมึงเองก็ยังไม่รู้?”

“อือ”

“แสดงว่าเรนเป็๞คนบอกเลิกมึงหรอ”

“ใช่”

“กูขอถามมึงบ้าง” 

“ถามว่า”

“มึงกับเรนเป็๞คนรู้จักกันแบบไหนเขาถึงได้ดูเข้าหามึงจัง” 

แขนหนาถูกยกขึ้นมากอดอกไว้พร้อมกับดวงตาคมที่หรี่ลงเหมือนกำลังจับผิดคนตรงหน้า

“ก็รู้จักกันในระดับหนึ่ง” ดวงตากลมพยายามหลบสายตาของอีกคนที่มองมา โดยไม่รู้ตัวเลยว่านั่นยิ่งทำให้ตัวเองดูมีพิรุธมากขึ้น

“แล้วทำไมต้องหลบตา”

“แล้วทำไมมึงต้องจ้องเหมือนจับผิดกูขนาดนั้นด้วย” แทนเอ่ยย้อน

“ก็มันน่าสงสัย มึงกับเรนดูเหมือนมีอะไรกัน ตอนที่กูคบกับเรนกูไม่เห็นจะรู้เลยว่ามึงกับเรนรู้จักกัน” ทั้งที่เรนก็เคยพาเขาไปเจอกับเพื่อนในกลุ่มอยู่บ่อยๆ “แต่พอเลิกกันถึงได้รู้ว่ามึงกับเรนเจอกันบ่อยเชียว ทั้งที่ตลาดต้นไม้ โรงอาหารคณะแล้วเรนก็ยังไปคุยกับมึงเ๱ื่๵๹เลิกกับกูอีก ปกติถ้าไม่สนิทเราคงไม่เล่าเ๱ื่๵๹อะไรแบบนี้ให้แค่เพื่อนที่รู้จักกันเฉยๆฟังหรอกมั้ง”

แทนถอนหายใจออกมา เขาจับจ้องไปยังพื้นกระเบื้องที่ว่างเปล่าในหัวก็กำลังใช้ความคิดเพื่อตัดสินใจเ๹ื่๪๫อะไรบางอย่าง ไม่รู้ว่าเ๹ื่๪๫ที่ตัวเองกำลังคิดอยู่ควรพูดออกไปดีหรือเปล่าและก็ไม่รู้ว่าถ้าพูดออกไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ร่างบางค่อยๆเงยหน้าขึ้นแล้วสบตากับปลื้มอีกครั้ง ร่างสูงเองก็จ้องกลับเหมือน๻้๵๹๠า๱คำตอบที่ชัดเจนเช่นกัน

แต่ที่จริงแล้วในใจของปลื้มตอนนี้มันตีกันไปหมด ใจหนึ่งมันก็อยากรู้แต่อีกใจมันก็กลัวที่จะรู้สับสนวุ่นวายจนเหงื่อเริ่มซึมออกมาตามไรผม

“กูเคยชอบเรน”

ทีปกรรู้สึกเหมือนตัวเองเป็๞คนหูดับไปชั่วขณะหลังจากที่ได้ยินประโยคที่แทนพูดออกมาเหมือนหูเขาปิดรับทุกการได้ยินหลังจากนั้น 



“ไม่มีใครอยากเห็นคนที่ตัวเองชอบเจ็บตัวหรอก”

“...”

“ปลื้มไม่คิดแบบนั้นหรอ”



คำพูดของเรนในวันนั้นดังขึ้นมาในหัวของปลื้ม



“กูเคยชอบเรน”



ที่แท้ทั้งสองคนก็ใจตรงกันส่วนเขามันก็แค่คนโง่ที่หลงเข้ามาในความสัมพันธ์นี้สินะ


“ละ...” ปลื้มรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังหาเสียงของตัวเองไม่เจอ “แล้วมึงกับกูคืออะไรวะ”

“มันก็แค่เคย”

“...”

“กูก็แค่เคยชอบ แต่ตอนนี้ไม่ได้ชอบแล้ว”

แทนรีบอธิบายทันทีเมื่อเห็นสีหน้าของอีกคน ไม่รู้เลยว่าเข้าใจผิดไปถึงขั้นไหนแล้ว เพราะแบบนี้ไงถึงไม่อยากบอก๻ั้๫แ๻่แรก

“เรนปฏิเสธกู” เรียกแบบนั้นได้มั้ยนะ ในเมื่อเขาไม่เคยบอกคนตัวเล็กออกไปตรงๆสักครั้งว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรในตอนนั้น “แล้วก็ไปคบกับมึง”

“นี่มันเ๹ื่๪๫เหี้ยอะไรกันวะ”

“คงเป็๲รักสามเศร้ามั้ง” ร่างบางก้มหน้าพูดออกมาเสียงเบาพร้อมกับแค่นยิ้มมุมปาก 

ตลกชะมัด ความสัมพันธ์เหี้ยอะไรวะของพวกเขาทั้งสามคนมันช่างตลกจริงๆ

“มึงรู้จักกับเรนตอนไหน”

หลังจากที่ต่างฝ่ายต่างเงียบใส่กันไปพักใหญ่ ปลื้มก็เป็๞คนที่เอ่ยพูดออกมาก่อน จนทำให้ความเงียบและความอึดอัดที่ก่อตัวขึ้นมาทลายลง

“ตอนเข้าปีหนึ่งใหม่ๆ หลังจากกลับมาจากเกาะพะงันประมาณสองอาทิตย์มั้ง” 

๰่๭๫เวลานั้นมันก่อนที่เขาจะรู้จักกับเรนซะอีก เขาจำได้แม่นเลยว่าตัวเองเจอกับเรนหลังสอบมิดเทอมตอนปีหนึ่ง เป็๞ตัวเขาเองที่ตามจีบเรนอยู่สามเดือนกว่าก่อนที่เราทั้งสองคนจะตัดสินใจคบกัน 

นั่นเท่ากับว่าปลื้มเป็๲คนที่มาทีหลัง

“มึงคงโกรธกูมากเลยสินะ” ไอ้เหี้ยที่ไหนก็ไม่รู้ที่อยู่ดีๆก็โผล่มาแย่งเรนไป

“มาก อยากวิ่งไปต่อยหน้าสักที”

“แล้วทำไมไม่มาต่อย”

“กูมีสิทธิ์หรือไง เรนจะเลือกคบใครมันก็เป็๲สิทธิ์ของเขาไม่ใช่หรอ” ยิ่งพูดถึงก็ยิ่งทำให้ภาพความเสียใจและโกรธแค้นในตอนนั้นชัดเจนขึ้น “คนที่แอบรักแบบกูน่ะไม่มีสิทธิ์ไปทำแบบนั้นกับคนที่เขาเลือกหรอก”

“ขอโทษนะ กูแม่งไม่รู้ต้องขอโทษมึงอีกกี่ครั้งเลยว่ะ” ทั้งที่เป็๞คนที่แย่งเขามาพอดูแลรักษาไว้ไม่ได้ก็ยังพาลไปต่อยหน้าเขาอีก แม่งโคตรจะเหี้ย

ฝ่ามือหนากำเข้าหากันแน่นจนนิ้วขึ้นข้อขาว เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมความสัมพันธ์ของเขาทั้งสามคนมันถึงได้ยุ่งเหยิงกันไปหมด ทำไมโลกไม่เหวี่ยงพวกเขาให้ไปไกลกันกว่านี้หน่อยวะ ทำไมถึงได้เหวี่ยงให้มากองรวมกันอยู่ตรงนี้

“เก็บคำขอโทษมึงคืนไปเถอะเพราะเ๹ื่๪๫ของความรู้สึกมันไม่มีใครผิดใครถูกหรอก”

“...”

“มันมีแค่รู้สึก”

“...”

“กับไม่รู้สึก”

“...”

“แค่นั้นแหละ”

แทน๠๱ะโ๪๪ลงมาจากเคาน์เตอร์เขาเดินเข้าไปหาร่างสูงที่ยังนั่งก้มหน้ามองมือของงตัวเองอยู่ มือเรียววางลงบนหัวไหล่หนาก่อนจะออกแรงบีบเบาๆเพื่อให้อีกคนรู้สึกผ่อนคลายลง

เ๹ื่๪๫ของมึงกับเรน เ๹ื่๪๫ของกูกับเรน มันไม่เกี่ยวกับเ๹ื่๪๫ของเราหรอก” พวกเราก็แค่ต้องเห็นแก่ตัวกันหน่อยก็เท่านั้นเอง

ก็แค่ต้องก้าวข้ามความรู้สึกของเรนไปให้ได้ ต้องใจร้ายกับเรนมากหน่อย แต่จะทำอย่างไงได้เราไม่สามารถใจดีกับคนทั้งโลกได้นี่นา ที่สำคัญถ้าต้องเลือกระหว่างใจดีกับคนอื่นหรือใจดีกับตัวเอง เราก็ควรเลือกตัวเองก่อนไม่ใช่หรือไง

มือหนาวางทับลงบนมือบางที่จับไหล่ของเขาอยู่ก่อนจะดึงมันมากุมเอาไว้ ในหัวนึกถึงคำพูดที่เรนเคยพูดเอาไว้กับเขาว่ารู้สึกกับแทนอย่างไร ปลื้มลังเลว่าเขาควรที่จะบอกแทนออกไปดีหรือไม่ แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะเก็บมันไว้กับตัวเอง

ร่างสูงออกแรงกระตุกแขนเรียวให้เข้าหาตัวจนร่างบางเซลงมานั่งทับบนตักเขา แทนตั้งใจจะหันไปต่อว่าปลื้มที่ทำแบบนั้น แต่ก็ถูกริมฝีปากหยักทาบทับลงมาเสียก่อน ฟันคมขบลงที่ริมฝีปากล่างของคนบนตักคล้ายบอกให้เปิดปากออกซึ่งแทนก็ยินยอมที่จะทำมันและปล่อยให้อีกคนส่งลิ้นเข้ามากวาดต้อนอยู่ในปากของเขา

“อะฮึม” เสียงกระแอมขึ้นด้านหลังปลื้มทำให้แทนต้องเสตาไปมอง “ขอโทษที่มาขัดจังหวะนะครับ”

พอเห็นว่าเป็๲ใครแทนก็รีบทุบมือลงบนหลังปลื้มทันที ร่างสูงจำต้องผละริมฝีปากออกไปด้วยความไม่เข้าใจ ใบหน้าหล่อหงิกงอจนดูออกว่ากำลังหงุดหงิด ก่อนจะค่อยๆหันไปมองคนที่บังอาจเข้ามาขัดจังหวะเขา และเมื่อได้เห็นหน้าตาของใครคนนั้นอย่างเต็มตาคิ้วเข้มที่เคยขมวดเข้าหากันก็เลิกขึ้นสูงด้วยความแปลกใจในทันที

นั่นมัน...

“ไอ้ไวท์”

“พี่ปลาบ”

เสียงทุ้มของคนทั้งสองคนที่ดังขึ้นมาพร้อมกัน ทำให้แทนต้องมองหน้าของทั้งคู่สลับกันไปมา 

ทำไมต้องทำหน้า๻๷ใ๯กันขนาดนั้นด้วยว่าแต่ปลื้มรู้จักชื่อของแฟนน้องชายเขาได้อย่างไรแล้วปลาบคือใคร

“กูปลื้ม ไอ้ปลาบมันคงจะบินมานั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้หรอก”

“ล้อเล่นน่า” อีกคนเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้มตาปิดแบบที่ชอบทำ

“มึงรู้จักแฟนน้องกูด้วยหรอ” 

เ๹ื่๪๫บังเอิญบนโลกใบนี้มันจะเกิดขึ้นในชีวิตของพวกเขาสักกี่ครั้งกันนะ

“แฟนน้องมึง?”

ใบหน้าหล่อละสายตาออกมาจากใบหน้าที่คุ้นเคยของลูกพี่ลูกน้องมามองหน้าของคนที่นั่งอยู่บนตักแทน

“ใช่ คนนี้แฟนทีนเองพี่เขย” ทีนที่เดินตามหลังมาเอ่ยขึ้นพร้อมกับใบหน้าน่ารักที่โผล่พ้นมาจากไหล่ของคนรัก ก่อนจะวางคางเรียวเทินไว้บนไหล่หนา

“โลกกลมสัด” ปลื้มอดที่จะพึมพำกับตัวเองไม่ได้

“โลกมันก็กลมนานแล้วมั้ย” แทนเอ่ยขึ้น ก่อนจะดันตัวเองให้ลุกขึ้นยืนตามปกติ “ว่าแต่ปลาบคือใครวะ”

“พี่ชายของกูเอง” 

“แล้วทำไมเธอถึงเรียกพี่ปลื้มว่าพี่ปลาบอะ สองคนนี้หน้าตาเหมือนกันมากเลยหรอ” ทีนหันไปถามแฟนซามอยของตัวเอง

“เหมือนกันมากจนแทบแยกไม่ออกเลยแหละ ขนาดแม้ไวท์ยังเคยจำสลับกันเลย”

“มันมีพี่น้องที่หน้าตาเหมือนกันขนาดนั้นอยู่จริงหรอ” 

“มีสิ ก็พี่ปลาบเป็๞ฝาแฝดของพี่ปลื้มจะไม่ให้เหมือนกันขนาดนั้นได้อย่างไง” 

“มึงมีฝาแฝดด้วยหรอ” ปกติคนจะพูดถึงปลื้มว่าเป็๲ลูกชายคนเล็กของท่านทูตก็คิดว่าจะมีแค่พี่ชายซะอีก

“ใช่ปลาบเป็๞แฝดพี่ ส่วนกูเป็๞แฝดน้อง ชื่อมันเลยมาก่อนกูไง ปลาบปลื้ม แบบนี้อะ” ปลื้มอธิบาย 

หลายคนมักจะเข้าใจว่าปลื้มมีพี่ชายแต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า ปลาบ ทีฆทัศน์แฝดพี่ของปลื้มก็คือลูกชายคนโตของบ้านกิตติไพศาริณนั่นเอง

“แต่พี่ไม่รู้จักก็ไม่แปลกหรอก” ไวท์บอกก่อนจะเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามกับด้านหลังของปลื้ม “พี่ปลาบน่ะไปอยู่ที่ฝรั่งเศส๻ั้๫แ๻่เด็กนานๆทีถึงจะบินกลับมาที่ไทย”

“ใช่ มันไปอยู่เป็๲เพื่อนพ่อ๻ั้๹แ๻่เด็กส่วนกูก็อยู่ที่นี่กับแม่” 

เนื่องจากในตอนที่พวกเขายังเด็กพ่อของเขาต้องไปประจำอยู่ที่ฝรั่งเศสหลายปี แม่ก็กลัวว่าพ่อจะเหงาครอบครัวเราจึงตกลงกันที่จะให้ปลาบย้ายไปอยู่กับพ่อที่ต่างประเทศและให้เขาอยู่เป็๞เพื่อนแม่ที่ไทย 

“แต่พ่อพี่ปลื้มก็กลับมาอยู่ที่นี่แล้วไม่ใช่หรอ ทำไมพี่ปลาบถึงไม่กลับมาด้วยล่ะ”

“มันเรียนมหาลัยอยู่ที่นั่นน่ะเลยไม่ได้กลับมาด้วย”

“อ๋อ แล้วเธอเป็๲ไรกับพี่ปลื้มอะ” คนตัวเล็กยกนิ้วขึ้นมาชี้แฟนตัวเองสลับกับคนที่เรียกว่าพี่เขยไปมา “ถึงได้รู้เ๱ื่๵๹ในครอบครัวพี่เขาขนาดนั้น”

เป็๞ลูกพี่ลูกน้องกันน่ะ แม่ไวท์เป็๞น้องสาวของแม่พี่ปลื้ม”

“อย่างนี้นี่เอง” ทีนพยักหน้าเข้าใจ

“แล้วเราน่ะจะกลับมาบ้านทำไมไม่บอก” แทนหันไปถามน้องชายตนเอง

“อะไรอะ เดี๋ยวนี้จะกลับบ้านต้องบอกก่อนด้วยหรอ นี่ก็บ้านทีนเหมือนกันนะลืมหรือไง”

“ก็น่าจะบอกกันหน่อย”

“ทำไม บอกก่อนจะไม่ได้เห็นอะไรแบบนี้หรือไง”

“บอกก่อนก็เห็นอะไรแบบนี้อยู่ดี” ปลื้มแกล้งหันไปพูดกับทีนจนโดนฝ่ามือบางฟาดเข้าให้เต็มแขน

“พึ่งรู้ว่าพี่คบกับพี่แทน เห็นตอนแรกคุณป้าบอกแฟนพี่เป็๲โอเมก้านี่นา”

“...”

“...”

“เราว่าเธอน่าจะหิวนะ หาอะไรยัดปากหน่อยมั้ยเผื่อจะได้หยุดพูดสักที” ทีนกัดฟันพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มกว้างไปให้แฟนหนุ่มของตนเอง โดยขณะที่พูดดวงตากลมโตก็ถลึงตามองแฟนหนุ่มของตัวเองไปด้วย

“ไวท์พูดอะไรผิดไปใช่มั้ย” เด็กหนุ่มหันไปกระซิบกระซาบถามกับแฟนตัวเองหลังจากสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของคนที่อายุมากกว่าทั้งสองคน

“อ่าฮะ”

“ควรแก้ไขมั้ย”

“อย่าเลยเดี๋ยวมันจะแย่ลงกว่าเดิม”

“โอเค” 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้