สุภาพบุรุษจอมปลอมอย่างฉีอวี้กล่าวได้ดีกว่าจริงๆ !
เขากล่าวว่า “เช่นนี้คือข้าจะอยู่ที่นี่ แล้วให้องค์หญิงเสด็จเข้าไปเยี่ยมท่านพี่ รบกวนองค์หญิงนำความจากท่านพ่อส่งต่อให้ท่านพี่ ท่านพ่อบอกเอาไว้ว่า หากนางทำเื่เนรคุณให้ขายขี้หน้า ตระกูลฉีก็จะไม่ยอมรับนางในฐานะบุตรสาวอย่างแน่นอน! หากนางถูกใส่ร้ายป้ายสีตระกูลฉีจะสืบหาข้อมูลให้ถึงที่สุด! ”
“ท่านพี่อวี้วางใจได้ ข้าจะนำความไปบอกให้”
แน่นอนว่าองค์หญิงหวายหนิงเข้าใจในสิ่งที่ฉีอวี้บอกเป็นัย นางหันไปเร่งรัดใต้เท้าเจียง “เ้ายังยืนอยู่ทำสากกะเบืออะไร ยังไม่รีบนำทางไปอีก? ”
ใต้เท้าเจียงยังคงมีความพะว้าพะวัง แต่น่าเสียดายที่เขาก็ไม่มีเหตุผลอื่นมาขัดขวางไว้ได้ ทำได้แค่เดินขึ้นไปอย่างเคารพนอบน้อม
“องค์หญิง เชิญด้านนี้พ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยจะไปด้วยกัน”
ในเวลานี้กูเฟยเยี่ยนที่เงียบสงบมาโดยตลอดเกิดความกระวนกระวายใจแล้ว นางแอบเหยียบไปที่เท้าของเซี่ยเสี่ยวหม่านเพื่อเตือนสติให้เซี่ยเสี่ยวหม่านรีบหาวิธีไปขัดขวางให้ได้
การวางแผนประทุษร้ายจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเป็คดีที่ใหญ่หลวง ศาลต้าหลี่ไม่มีทางที่จะอาศัยเพียงแค่คำให้การของแพทย์ชายคนหนึ่ง แล้ววินิจฉัยคดีโดยสะเพร่า ใต้เท้าเจียงยิ่งไม่กล้าลงโทษฉีฟู่ฟางอย่างง่ายดาย ด้วยเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวของแม่ทัพใหญ่ฉี และคุณธรรมสูงส่งจอมปลอมของฉีอวี้ที่มีมาโดยตลอด พวกเขาควรที่จะเลี่ยงและไม่ทำตัวน่าสงสัยถึงจะถูก พวกเขาไม่ถึงขนาดที่จะต้องรีบมาถึงเพียงนี้? ยิ่งมาในตอนกลางดึกกลางดื่น แล้วยังดึงตัวองค์หญิงหวายหนิงมากันะุอีกด้วย ทั้งยังขอหลักฐานและยังจะเยี่ยมเยียนผู้ต้องสงสัยอีก ปฏิกิริยาตอบสนองของตระกูลฉีนั้นมีความเป็ไปได้ว่ากลัวฉีฟู่ฟางให้การสารภาพเื่อะไรบางอย่างออกมา? กล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่าพวกเขากินปูนร้อนท้อง
ในตอนแรกกูเฟยเยี่ยนสงสัยว่าฉีฟู่ฟางจะถูกจิ้งจอกเฒ่าที่อยู่เื้ัโยนความผิดมาให้ แต่ในตอนนี้นางสันนิษฐานได้ว่าฉีฟู่ฟางนั้นคงได้ทำเื่อะไรที่่ไม่สามารถเปิดเผยไว้ได้ แล้วจึงถูกจิ้งจอกเฒ่าฉวยโอกาสเอาไว้
หากว่าองค์หญิงหวายหนิงพบกับฉีฟู่ฟาง แล้วเกลี้ยกล่อมให้ฉีฟู่ฟางสงบลง เช่นนั้นคดีนี้เกรงว่าคงจะไม่ง่ายที่จะสอบสวนต่อไปแล้ว?
เซี่ยเสี่ยวหม่านเป็คนฉลาดเฉลียวทีเดียว เขาเข้าใจในเื่ลับลมคมในนี้ได้อย่างรวดเร็ว
“องค์หญิง ใต้เท้าเจียง ช้าก่อน! ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านแสร้งทำเป็ผู้ใหญ่กล่าวออกมาด้วยความสุภาพ “ใต้เท้าเจียง องค์หญิงหวายหนิง ก่อนที่ข้าพเ้าจะมาได้รายงานไปที่จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยแล้ว เตี้ยนเซี่ยกล่าวไว้ว่าเพียงแค่เป็บุคคลต้องสงสัย ไม่ว่าจะเป็ใครก็ตามล้วนไม่อนุญาตให้เข้าไปเยี่ยม! เตี้ยนเซี่ยกำลังเดินทางกลับเข้ามาในเมืองแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นจะเสด็จมาไต่สวนบุคคลต้องสงสัยด้วยพระองค์เอง”
“เช่นนั้นหรือ”
ใต้เท้าเจียงลูบเคราของเขาอย่างตั้งใจแล้วเอ่ยว่า “องค์หญิง ท่านว่า ในเมื่อจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยทรงกำชับมาแล้ว ถ้าอย่างนั้นองค์หญิงค่อยเสด็จมาวันพรุ่งนี้เถอะพ่ะย่ะค่ะ ดึกดื่นป่านนี้แล้วข้าน้อยจะให้คนส่งองค์หญิงกลับพระราชวังก่อน? ”
คราวนี้ฉีอวี้ไม่สงบเสงี่ยมแล้ว “จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยไม่ใช่เพิ่งจะเสด็จออกจากเมืองไปหรือ? วันพรุ่งนี้จะเสด็จกลับมาจริงหรือ? ”
องค์หญิงหวายหนิงหรี่ตามอง สายตานั้นเรียกได้ว่าสามารถสังหารเซี่ยเสี่ยวหม่านได้เลย
นางไม่ทราบว่าในวันพรุ่งนี้ท่านพี่จิ้งหวางจะเสด็จกลับมาหรือไม่ แต่ว่านางเข้าใจชัดเจนว่า ทันทีที่ท่านพี่จิ้งหวางเสด็จกลับมา นางจะไม่มีทางพบท่านพี่ฟู่ฟางอย่างแน่นอน! ยิ่งไปกว่านั้นคือหากท่านพี่จิ้งหวางไต่สวนพี่ฟู่ฟางด้วยพระองค์เอง มีความเป็ไปได้ว่าพี่ฟู่ฟางจะรับมือไม่ไหว
ทำอย่างไรดี?
องค์หญิงหวายหนิงกระซิบเบาๆ “พี่อวี้ เส้นทางตารางราชกิจของจิ้งหวางยากที่จะกล่าวได้”
ฉีอวี้นั้นไม่กล้าที่จะลองเสี่ยง เขายังคงกระซิบแ่เบา “เ้าเป็ถึงองค์หญิงยังสามารถถูกนู๋ไฉหนึ่งคนขู่ขวัญได้อย่างนั้นหรือ? ”
เมื่อได้ยินคำนี้องค์หญิงหวายหนิงจึงไม่ลังเลที่จะลุกขึ้นมากล่าวด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด “เซี่ยเสี่ยวหม่าน เปิ่นกงจู่พูดคุยกับใต้เท้าเจียง มีที่ให้เ้าสอดปากสอดคำหรือ? เ้าเป็เพียงแค่นู๋ไฉยังจะกล้ายกท่านพี่จิ้งหวางมาขู่ขวัญเปิ่นกงจู่! เ้าไปกินความกล้ามาหรืออย่างไรกัน? ในค่ำคืนวันนี้เปิ่นกงจู่จะพบพี่ฟู่ฟางให้ได้อย่างแน่นอน เ้ากลิ้งออกไปไกลๆ ซะ! หากว่าท่านพี่จิ้งหวางสืบหาสาเหตุขึ้นมาเปิ่นกงจู่จะไปอธิบายกับเขาด้วยตนเอง! ”
กูเฟยเยี่ยนลอบตะลึง นางคาดไม่ถึงว่าเซี่ยเสี่ยวหม่านได้อ้างถึงจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย แล้วองค์หญิงหวายหนิงก็ยังคงจะใช้อำนาจบาตรใหญ่อย่างไม่มีเหตุผลอยู่ดี นางยิ่งมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเื่นี้มีลับลมคมใน
เซี่ยเสี่ยวหม่านยิ่งเกิดความประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่าเพื่อตระกูลฉีแล้วองค์หญิงหวายหนิงจะกล้าเผชิญหน้ากับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย? ตกลงแล้วองค์หญิงหวายหนิงทราบหรือไม่ว่าสมุนไพรที่ฉีฟู่ฟางสับเปลี่ยนไปนั้น มันเพียงพอที่จะคร่าชีวิตคนได้อย่างลิ่วตันซางลู่? ตกลงแล้วทราบหรือไม่ว่าโทษนี้มีผลเก้าชั่วโคตร?
ถึงอย่างไรเซี่ยเสี่ยวหม่านก็เป็คนรับใช้ เขาไม่กล้าและไม่มีวิธีที่จะท้าทายองค์หญิงหวายหนิงโดยตรง เขาทำได้เพียงกดดันใต้เท้าเจียง “ใต้เท้าเจียง ข้าพเ้าได้นำคำของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยมามอบให้แล้ว ควรที่จะทำอย่างไรท่านก็จัดการเองละกัน เมื่อถึงเวลาที่จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยทรงกล่าวโทษขึ้นมา ท่านอย่ามาโทษที่ข้าพเ้าไม่ได้เตือนสติท่าน! ”
ใครจะไปรู้ว่าองค์หญิงหวายหนิงจะคงสู้ต่อไป นางชี้นิ้วไปที่ใต้เท้าเจียงในทันที “ใต้เท้าเจียง คำสั่งของท่านพี่จิ้งหวางไม่สามารถฝ่าฝืนได้อย่างไร เปิ่นกงจู่ก็รังแกได้ง่ายอย่างนั้นหรือ? ”
ใต้เท้าเจียงอกสั่นขวัญแขวนเป็อย่างยิ่ง “นี่ นี่…ข้าน้อยไม่กล้า! ”
ใต้เท้าเจียงเกรงกลัวจิ้งหวางฝู่และหวาดกลัวองค์หญิงหวายหนิงด้วยเช่นกัน เพราะถึงอย่างไรองค์หญิงหวายหนิงนั้นไม่เพียงแต่เป็องค์หญิงที่ฮ่องเต้ทรงรักใคร่มากที่สุด ทว่าเื้ัยังมีองค์ชายใหญ่และอวิ้นกุ้ยเฟยที่เป็พระชายาโปรดมานานหลายปีคอยให้การสนับสนุน
กลางดึกกลางดื่นนี้ประการที่หนึ่งคือมาแล้วไม่พบจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย ประการที่สองคือไม่ได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้ ใต้เท้าเจียงลำบากใจจนหนังศีรษะชา เขาไม่รู้ว่าควรที่จะทำเช่นไรดีแล้ว!
่เวลาเพียงครู่เดียวองค์หญิงหวายหนิงก็ไม่อยากจะคอย นางตบลงไปที่โต๊ะแล้วกล่าวด้วยความโกรธจัด “ใต้เท้าเจียง เ้ายังรอช้าอยู่ทำไม? ดูท่าว่าเ้าคงคิดว่าเปิ่นกงจู่รังแกได้ง่ายสินะ! ”
“ไม่ๆ องค์หญิง ข้าน้อยไม่กล้า ข้าน้อย…”
ใต้เท้าเจียงยังไม่ทันได้อธิบายองค์หญิงหวายหนิงก็ขัดจังหวะขึ้นมา เปิ่นกงจู่จะบอกอะไรเ้าไว้ ในค่ำคืนนี้เปิ่นกงจู่ไม่เพียงแต่จะมาพบพี่ฟู่ฟางแล้ว แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือมาเป็พยานให้นาง! ตำรับยาย่าวซ่านของเสด็จย่าได้รับการประกาศเมื่อวันก่อน แต่เมื่อวานนี้จวบจนกระทั่งคืนวันนี้คุณหนูใหญ่ฉีล้วนอยู่กับเปิ่นกงจู่มาโดยตลอด นางไม่มีโอกาสไปติดสินบนแพทย์ชาย เปิ่นกงจู่สามารถเป็พยานให้นางได้ ภายในตำหนักของเปิ่นกงจู่มีสาวใช้สองคนขันทีหนึ่งคนล้วนเป็พยานให้นางได้ทั้งหมด! แพทย์ชายเฉินซานหยวนผู้นั้นเห็นได้ชัดว่าใส่ร้ายป้ายสีโยนความผิดให้คนอื่น! ”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมาผู้คนทั้งสถานที่นี้ล้วนจมลึกอยู่ในความเงียบ
ใต้เท้าเจียงลอบคิดว่าหรือว่าคุณหนูใหญ่ฉีจะถูกใส่ร้ายโยนความผิดมาจริงๆ?
เซี่ยเสี่ยวหม่านลอบคิดว่าหรือว่าที่ฉีอวี้รีบร้อนเช่นนี้อาจเป็เพราะหวาดผวา?
กูเฟยเยี่ยนลอบคิดว่าหรือว่าการคาดการณ์ของตนเองเกิดความผิดพลาด?
คดีนี้เกี่ยวข้องกับชีวิตของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเชียวนะ! ให้พูดตรงๆ ก็คือคดีลอบสังหารครั้งยิ่งใหญ่! แม้ว่าองค์หญิงหวายหนิงจะชื่นชอบในตัวของฉีอวี้ แต่ก็ไม่ถึงขนาดกับต้องเสี่ยงอันตรายปลอมแปลงหลักฐานขึ้นมานี่นา! ต้องรู้ไว้ว่าคดียิ่งใหญ่เช่นนี้หากว่าองค์หญิงหวายหนิงสร้างหลักฐานเท็จ มันไม่เพียงแต่จะต้องชดใช้ด้วยชีวิตของตนเองแล้ว แต่มันยังพัวพันไปถึงพระมารดาของนาง อวิ้นกุ้ยเฟยและพี่ชายมารดาเดียวกันอย่างองค์ชายใหญ่!
เมื่อเห็นลักษณะท่าทียืนกรานขององค์หญิงหวายหนิง กูเฟยเยี่ยนยิ่งแน่ใจมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเื่ราวไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด เพียงแต่ว่า ณ วินาทีนี้นางคาดเดาไม่ออกว่าจุดไหนที่ไม่ง่ายดาย
ในขณะนี้เองฉีอวี้ก็ได้ทิ้งคำพูดรุนแรงเอาไว้ “ใต้เท้าเจียง ในเมื่อองค์หญิงได้เป็พยานให้แล้วเ้ายังไม่ปล่อยคนออกมาอีก? หรือว่า้าให้ตระกูลฉียื่นเื่ไปที่ฮ่องเต้? ”
ใต้เท้าเจียงไม่กล้าชักช้าอีกต่อไป เขาออกคำสั่งในทันที “ทหาร รีบปล่อยตัวคุณหนูใหญ่ฉีที่ไร้ซึ่งความผิดออกมา! แล้วเชิญตัวมาที่นี่! ”
ั์ตาของกูเฟยเยี่ยนทอประกายไปด้วยความซับซ้อน นางกำลังจะส่งสัญญาณให้เซี่ยเสี่ยวหม่านออกไป แต่ใครจะไปรู้ว่าองค์หญิงหวายหนิงได้ชี้นิ้วมาที่นางโดยไม่ได้คาดคิดมาก่อน แล้วเอ่ยถามอย่างสูงส่ง “ใต้เท้าเจียง กลางดึกกลางดื่นเหตุใดสาวใช้ผู้ต่ำต้อยผู้นี่จึงได้มาอยู่ที่นี่? ห่อย่าวซ่านเป็นางที่รับกลับไป นางก็มีความน่าสงสัยถูกหรือไม่? ”
อย่าว่าแต่กูเฟยเยี่ยนเลยแม้แต่ฉีอวี้ก็ยังคงเกิดความประหลาดใจ ถึงแม้ว่าเขาก็้าที่จะจัดการกับกูเฟยเยี่ยน ทว่าในตอนนี้กูเฟยเยี่ยนเป็คนของจิ้งหวางฝู่ อีกอย่างหนึ่งคือตอนนี้ยังไม่ทราบชัดเจนว่า เหตุใดเฉินซานหยวนจึงได้ทรยศท่านพี่ เขาจึงไม่้าสร้างปัญหายุ่งยากไปมากกว่านี้
ฉีอวี้กระซิบแ่เบา “องค์หญิง ช่วยชีวิตคนก็พอแล้ว เื่อื่นไว้ว่ากันทีหลัง”
องค์หญิงหวายหนิงมีพิรุธอยู่ภายในใจ นาง้าแสดงความโอ้อวดเป็สง่าน่าเกรงขามในฐานะองค์หญิงต่อหน้าฉีอวี้ และยิ่ง้าตัวตายตัวแทนมาให้ได้เร็วที่สุด นางกระซิบแ่เบา “ท่านพี่อวี้ ท่านไม่ต้องกังวลใจ ก่อนที่ท่านพี่จิ้งหวางจะเสด็จกลับมา ข้ารับรองว่าจะทำให้คดีนี้ปิดตัวลงอย่างสวยงาม! ”