เถ้าแก่ตะลึงกว่าเซี่ยเสี่ยวหลานเสียอีก
“เธอรู้จักแม้กระทั่งเสื้อกันลม [1] ?”
ใครในอนาคตไม่รู้จักเสื้อกันลมบ้าง แต่มันเป็ที่นิยมจริงๆ ในปลายยุค 80 ผ้าไนล่อนหนาเป็ชั้นนอกของตัวเสื้อ สามารถป้องกันการผ่านของหยดน้ำและลม กันหนาวก่อนค่อยกักเก็บความอบอุ่นประกอบด้วยวัสดุฟิล์มบางกันความร้อนไหลออกและโพลีเอสเตอร์ที่กักเก็บความอบอุ่นไว้...มันไม่เหมือนกับเสื้อกันหนาวธรรมดาเลย
พกพาสะดวกแถมอบอุ่น เนื้อผ้าไนล่อนยังย้อมสีสันสดใสต่างๆ นานาได้อีกด้วย
เซี่ยเสี่ยวหลานลูบไล้เสื้อกันลมที่น้ำหนักเบาและฟูนุ่ม เธอลังเลเล็กน้อย
หลิวเฟินแอบบีบสักหน่อย รู้สึกว่าสิ่งที่บรรจุด้านในไม่ค่อยเหมือนฝ้ายวัสดุด้านนอกลื่นมัน และไม่ใช่ผ้าฝ้าย นี่คือเสื้ออ่าวอะไรกันนะคนเขาจะหลอกเสี่ยวหลานหรือไม่?
“เสี่ยวหลาน—”
หลิวเฟินเรียกเสียงดัง เธอเป็คนใจไม่กล้าแต่ความกังวลว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะโดนหลอกเอาชนะความขลาดกลัว นี่คือความแข็งแกร่งของมารดาเพื่อลูกรัก
“แม่ ขอฉันดูอีกหน่อย”
เสื้อกันลมก็มีแล้ว เสื้อนวมจะถือกำเนิดขึ้นแล้วเช่นกันหรือเปล่า?
“เสื้อนวมล่ะ คุณหาได้หรือไม่?”
เถ้าแก่นึกสักครู่ “เธอหมายถึงเสื้อขนเป็ด [2] สินะ ถ้าเธอ้าก็มี”
เสื้อขนเป็ดเพิ่งเป็ที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายแต่ไหนแต่ไรก็มีเสื้อชนิดนี้อยู่แล้ว ทว่าใช้สวมใส่สำหรับนักกีฬาปีนเขาส่วนใหญ่มันมีชื่อเรียกว่า ‘เสื้อปีนเขา’ คนทั่วไปทั้งสู้ราคาไม่ไหว และไม่รู้ว่าที่ไหนมีขายพอสองปีมานี้สภาพคล่องทางการเงินดีขึ้นเล็กน้อย มีคนธรรมดาสามารถรับราคาได้จึงย่อมมีโรงงานเสื้อผ้าผลิตออกมา—แม้จะถูกเรียกว่าเสื้อขนเป็ดทว่าเนื่องจากเทคโนโลยีที่ยังไม่สมบูรณ์ จึงไม่สามารถนำขนอ่อนนุ่มของเป็ด [3] ออกมาใช้เป็วัสดุเติมเต็มเดี่ยวๆ ได้ ด้านในเสื้อจึงบรรจุด้วยขนส่วนอื่นแทน
เถ้าแก่คนนี้ไม่กลัวเซี่ยเสี่ยวหลานจะคิดว่าแพงเกินไปด้วยซ้ำเสื้อขนเป็ดเป็ของแปลกใหม่ แต่ราคาค้าส่งของมันยังไม่เท่าเสื้อนอกขนสัตว์เลย!
ขนาดเสื้อนอกขนสัตว์เซี่ยเสี่ยวหลานยังขายได้ หนึ่งครั้งยังกล้านำเข้ามากกว่า 10 ตัว
เสื้อนอกขนสัตว์ถึงจะมีราคาแพงมาก แต่สินค้าที่เซี่ยเสี่ยวหลานเลือกนั้นคุณภาพเหมือนในร้านสรรพสินค้า ทว่าขายราคาย่อมเยากว่าร้านค้าเล็กน้อยนอกจากนั้นเธอเลือกสรรเสื้อผ้าที่แปลกใหม่แม้แต่ร้านตัดเสื้อซางตูยังลักลอบลอกเลียนแบบ
เถ้าแก่เฝ้าแผงปลีกตัวออกไปไม่ได้ จึงไหว้วานมิตรสหายให้ช่วยเหลือผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมงก็นำสินค้าตัวอย่างของเสื้อขนเป็ดมาให้เซี่ยเสี่ยวหลานได้ยล
สิ่งนี้ให้ััแตกต่างจากเสื้อกันลมเซี่ยเสี่ยวหลานลูบเจอเส้นขนแต่ละเส้น เมื่อแตะใต้จมูกจะได้กลิ่นขนเป็ดอ่อนๆเป็เสื้อนวมขนเป็ดของปี 83 อย่างไม่ต้องสงสัย
พอถามราคาค้าส่ง ราคาส่งของเสื้อกันลมผู้ชายคือ 22 หยวน ผู้หญิง 20 หยวนสีสันและรูปแบบไม่จำกัด
เสื้อขนเป็ดราคาแพงกว่า 6 หยวน ผู้ชาย 28 หยวน ผู้หญิง 26 หยวน
ราคาส่งของเสื้อขนเป็ดหนึ่งตัวเป็เพียงครึ่งเดียวของเสื้อนอกขนสัตว์เท่านั้น...เซี่ยเสี่ยวหลานมีความ้าที่พลุ่งพล่านที่จะนำเงินทั้งหมดลงทุนกับเสื้อกันลมและเสื้อขนเป็ดไม่ได้สิ เสื้อผ้าพวกนี้มีแต่แบบตัวสั้น ยังราคาย่อมเยาไม่สู้เสื้อกันหนาวฝ้ายหรือเสื้อนอกทหาร [4]
นำกลับซางตูจะมีคนซื้อจริงหรือ?
เปรียบเทียบกับเสื้อขนเป็ดที่มีคุณสมบัติกักเก็บความอบอุ่นยอดเยี่ยมแล้วบางทีเหล่าสตรีซางตูอาจพอใจจะสวมเสื้อนอกขนสัตว์มากกว่า แพงทว่าสง่างามแพงเสียจนใครๆ ล้วนรู้ดี ทว่าสวมใส่บนร่างกายก็ไม่อ้วนท้วนเทอะทะเท่าเสื้อกันลมและเสื้อขนเป็ดด้วย
หญิงสาววัยรุ่นสวมเสื้อตัวบางทับในหนึ่งชั้นด้านนอกสวมเสื้อนวมความยาวคลุมเข่าไปจนถึงข้อเท้า การแต่งกายเช่นนี้ยังไม่เป็ที่นิยม
เซี่ยเสี่ยวหลานเงยหน้าขึ้นทันที “โรงงานเสื้อผ้าที่คุณไปรับสินค้าเคยผลิตเสื้อขนเป็ดและเสื้อกันหนาวแบบเลยเข่าไหม?”
เถ้าแก่มองเธออย่างระแวงนี่จะข้ามผ่านตัวเขาไปรับสินค้าจากโรงงานโดยตรงหรือ?
ครุ่นคิดดูอีกทีความระแวงนั้นก็สลายไป หากไร้ซึ่งคำสั่งซื้อจำนวนหลายร้อยตัวเครื่องจักรของโรงงานก็ไม่มีทางเดินให้
“เธอซื้อปลีก จะรับสินค้าได้เท่าไรเชียว เลือกได้เพียงแบบพวกนี้แหละ”
ขอซื้อสินค้าเพียงไม่กี่สิบชิ้น เป็ไปไม่ได้เลยที่จะกำหนดแบบเอง โรงงานเสื้อผ้าต้องร่างแบบต้องสร้างแบบ ต้องนำเข้าผ้า... ใช้เวลามากมายกับกระบวนการเหล่านี้อย่าว่าแต่หลายสิบตัว เสื้อผ้าหนึ่งแบบที่จำนวนผลิตต่ำกว่า 1000 ตัว ในโรงงานไม่แม้แต่จะชายตาแลคำสั่งซื้อประเภทนี้ด้วยซ้ำ
ช่างเถอะ เงินทุนส่วนนี้ของเธออย่างไรก็สู้ไม่ไหว
แม้เซี่ยเสี่ยวหลานมีความมั่นใจในวิธีจ่ายมัดจำก่อนค่อยชำระเงินส่วนเกินทีหลังแต่ต่อให้ก้าวข้ามผู้ค้าส่งคนกลางและรับสินค้าด้วยราคาโรงงานโดยตรง 500 ชิ้นราคาถึงหลักหนึ่งหมื่นหยวน หาก้า 1000 ชิ้นก็ต้องจ่ายสองหมื่นหยวนอยู่ดี
ขูดรีดทรัพย์สินของเธอและครอบครัวหลิวหย่งจนสะอาดเอี่ยมอ่อง คาดว่ายังรวมกันได้ไม่ถึงหนึ่งหมื่นหยวน
การลงทุนธุรกิจครั้งนี้ของลุงเธอเกือบขาดทุน... อย่ารีบร้อนไปเซี่ยเสี่ยวหลานเตือนสติตนเองให้ใจเย็นลง การรีบร้อนย่อมผิดพลาดได้ง่ายดายโอกาสหาเงินมีอยู่มากมาย วางทรัพย์สินของตนไปโดยไม่ดูตาม้าตาเรือนั้นไม่ควรค่าโดยสิ้นเชิง
เธอ้าพัฒนาในระยะยาว ไม่ใช่การเล่นซัวฮา [5] เสียหน่อย!
“เสื้อกันลมกับเสื้อขนเป็ดยังรับหรือไม่?”
“เอาค่ะ เสื้อกันลม 20 ตัว เสื้อขนเป็ด 20 ตัว...”
คราวนี้เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ซื้อแค่เสื้อสตรี แต่ยังซื้อของบุรุษด้วยเ้าของแผงลอยขายสินค้าได้เป็พันหยวนในชั่วพริบตาอีกแล้ว เขาอารมณ์ชื่นมื่นจึงหยิบสินค้าลับออกมาจากถุงใส่เสื้อขนเป็ด “ยังมีเสื้อกั๊กขนแกะด้วยเธอเอาสักหน่อยไหม?”
เถ้าแก่คนนี้ค้าส่งราวกับเล่นเซี่ยงเซิง [6] มุกตลกเด็ดยังต้องเล่นค่อยๆ ปล่อยทีละหมัด
เซี่ยเสี่ยวหลานคร้านจะถามราคาส่งด้วยซ้ำ “เอา 5 ตัว!”
ขายไม่ได้ก็เก็บไว้ใส่เอง ในบ้านมิใช่มีผู้ใหญ่ห้าคนพอดีหรือ... เอ๋เหมือนมีตรงไหนไม่ถูกต้อง
ห้าคนนั้นต้องรวมโจวเฉิงด้วย
เซี่ยเสี่ยวหลานซื้อสินค้าจากแผงเดิมสามหนแล้วเธอได้สอบถามที่อยู่บ้านเถ้าแก่และหมายเลขโทรศัพท์ เถ้าแก่ชื่อว่าเฉินซีเหลียงคับคล้ายคับคลาว่าเคยได้ยินชื่อนี้จากที่ไหน
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่คิดมากนัก เฉินซีเหลียงค้าส่งเสื้อผ้าคงทำเงินได้ดีทีเดียวบ้านจึงมีโทรศัพท์ตั้งโต๊ะเซี่ยเสี่ยวหลานไตร่ตรองว่าบางครั้งแค่้าเติมสินค้า เธอไม่จำเป็ต้องเดินทางมาถึงหยางเฉิงโดยเฉพาะปี 83 ยังไม่มีบริการส่งพัสดุด่วน แต่สามารถฝากส่งด้วยรถไฟได้
ครั้งนี้เซี่ยเสี่ยวหลานซื้อสินค้าเกือบ 4000 หยวน ต้นทุนหลงเหลือประมาณหนึ่งพันหยวนเงินส่วนนี้ไม่รู้ว่าจะซื้อหน้าร้านและตกแต่งอย่างราบรื่นได้หรือไม่ หวังว่าหลังจากนำเสื้อผ้ารอบนี้กลับไปแล้วจะสามารถขายได้รวดเร็วสักหน่อยถอนทุนคืนให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้
เธอและหลิวเฟินกลับซางตูด้วยความเหนื่อยยากหลิวหย่งจัดการธุระโดยไม่ทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานผิดหวัง
หลิวหย่งเตร็ดเตร่ในซางตูอยู่สองวัน เบื้องต้นเลือกหน้าร้านไว้สองแห่ง
หลิวเฟินกับหลี่เฟิ่งเหมยจัดระเบียบรีดเรียบสินค้าครั้งนี้แข่งกับเวลาหลี่เฟิ่งเหมยก็ไม่เคยเห็น ‘เสื้อกันหนาว’ แบบใหม่เช่นนี้ ทว่าเธอเชื่อมั่นในเซี่ยเสี่ยวหลานไม่น้อย “เสี่ยวหลานบอกขายได้ เธอน่ะกังวลมากไป ใช่แล้วเนื้อหมูและซี่โครงที่ฉันเอามาจากหมู่บ้านใช้เกลือหมักไว้ ยังมีเท้าหมูอีกสองชิ้นของแบบนั้นไม่รู้ว่ามีอะไรอร่อย ทว่าเสี่ยวหลานเขาชอบ เก็บให้เธอทั้งหมดเลยนะ!”
การทำเท้าหมูค่อนข้างยุ่งยาก ต้องใช้ไฟเผาหนังชั้นนอกและขนจนสะอาดแช่ในน้ำ จากนั้นใช้มีดเล่มเล็กฝานหนังไหม้ดำออกทีละนิดจนเกลี้ยงหั่นเป็ชิ้นโตตุ๋นกับถั่วที่แช่แล้วด้วยไฟอ่อนสักพัก...ได้รับประทานหนึ่งชามในฤดูหนาวก็เบิกบานไปทั้งกายและใจ
ฝีมือการทำอาหารของเซี่ยเสี่ยวหลานธรรมดาแต่อาหารชนิดนี้เธอกลับเชี่ยวชาญพอสมควร ชาติก่อนหลังจากทำงานสถานะทางการเงินดีขึ้นบ้างจึงอาศัยอยู่ห้องพักเดี่ยวมีเตาเล็กใช้ต้มน้ำร้อนได้เซี่ยเสี่ยวหลานซื้อหม้อดินหนึ่งใบเพื่อทำอาหารรับประทานเธอตุ๋นเท้าหมูถั่วเหลืองบ่อยที่สุด ย่อมฝึกฝนจนกลายเป็ยอดฝีมือ
หลิวเฟินคือทาสลูกสาว เซี่ยเสี่ยวหลานว่าอย่างไรก็อย่างนั้นแม้เธอจะคิดว่าเท้าหมูอร่อยไม่เท่าขาหมูก็ตาม
หลี่เฟิ่งเหมยกับหลิวเฟินทำงานพลางสนทนาเรื่อยเปื่อยส่วนเซี่ยเสี่ยวหลานกับหลิวหย่งออกไปดูหน้าร้าน
แห่งหนึ่งตั้งอยู่ที่ ‘จัตุรัสเอ้อร์ชี’ ห่างจากเจดีย์เอ้อร์ชีซึ่งเป็สถาปัตยกรรมเด่นของซางตูเพียงไม่กี่สิบเมตร
ร้านอีกแห่งอยู่ถนนซีอีถนนซีอีและซีเอ้อร์คือถนนเสื้อผ้าที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองซางตูตอนนี้มีร้านเสื้อผ้าเปิดกิจการแล้ว แต่เสื้อผ้าที่นี่ขายราคาถูกมากไปสายเส้นทางราคาต่ำ
หน้าร้านในปัจจุบันล้วนเป็สินทรัพย์ของรัฐไม่ว่าเซี่ยเสี่ยวหลานอยากเปิดร้านตรงไหนเธอต้องหาหน่วยงานที่รับผิดชอบร้านทั้งหมด ถึงจะสามารถเช่าร้านได้—ในมือคนทั่วไปไม่อาจถือห้างร้านไว้นอกเสียจากบ้านเรือนสำหรับอาศัยของประชาชนที่หันหน้าสู่ถนนและบูรณะอย่างผิดกฎหมาย
ร้านที่หลิวหย่งเลือกไว้ไม่ใช่บ้านบูรณะผิดกฎหมายแต่อยู่ในความของโรงงานใหญ่ที่บริหารโดยรัฐ
เชิงอรรถ
[1]防寒服 เสื้อกันลม คือ เสื้อกันหนาวประเภทหนึ่ง มีน้ำหนักเบามักทำด้วยวัสดุสังเคราะห์ ด้านในบรรจุด้วยใยโพลีเอสเตอร์ คุณสมบัติกันน้ำกันลมจึงกันความหนาวเย็นและเก็บความอบอุ่นได้
[2]鸭绒服 เสื้อขนเป็ด คือ เสื้อนวมที่ด้านในยัดด้วยขนเป็ดหรือขนห่านซึ่งเป็วัสดุเก็บความอบอุ่นจากธรรมชาติที่มีคุณภาพดี เก็บความอบอุ่นได้มากน้ำหนักเบา
[3]ขนเป็ดที่คุณภาพดีจะเรียกว่า ขนอ่อนเป็ด (鸭绒) ขนชนิดนี้จะอยู่บริเวณอกเป็ด มีความอ่อนนุ่มมากแต่เนื่องจากมีน้อย จึงทำให้ราคาสูงเสื้อขนเป็ดที่ราคาไม่แพงมากจึงใช้ขนส่วนอื่นซึ่งมีลักษณะเป็เส้นแบบขนนก (鸭毛) แทน หรือผสมขนไก่รวมไปถึงใยสังเคราะห์อื่นๆ
[4]军大衣 เสื้อนอกทหาร คือ เสื้อนอกตัวใหญ่สำหรับทหาร มีสีเขียวทหารต่อมากลายเป็ความนิยมทั่วไปอย่างหนึ่งคนธรรมดาก็สวมใส่เพื่อกันหนาวกักเก็บความอบอุ่นเช่นกัน
[5]梭哈 ซัวฮา คือ การเล่นสตั๊ดห้าใบของไพ่โป๊กเกอร์ มีอีกความหายหนึ่งคือนำสินทรัพย์ทั้งหมดลงเดิมพัน
[6]相声 เซี่ยงเซิง คือ การแสดงพื้นบ้านของจีน โดยแสดงเล่าเื่ตลกขบขันมีั้แ่แสดงคนเดียว เป็คู่ และแสดงเป็ละคร
