เมื่อคิดว่าหนีจวิ้นหว่านโดนลักพาตัว นายท่านหนีก็ตรอมใจจนล้มป่วย
บังเอิญว่าตอนนี้ตรงกับ่สอบขององค์รัชทายาทพอดี หนีเจียเฮ่อจึงไม่อาจปลีกตัวมาช่วยได้ ทำให้เื่นี้ต้องตกไปเป็ภาระของหนีเจียเอ๋อร์แต่เพียงผู้เดียว
เพื่อที่จะตามหาตัวพี่สาวให้เร็วที่สุด หนีเจียเอ๋อร์จึงตัดสินใจจะใช้วิธีล่องูออกจากโพรง
แน่นอนว่าโจวชิงหวาไม่เห็นด้วย แต่กระนั้นหญิงสาวก็พยายามโน้มน้าว จนเขาใจอ่อนยอมช่วยเหลือ
คืนนี้หนีเจียเอ๋อร์จึงพรางตัว แล้วลอบออกจากจวนตามลำพัง โดยมีโจวชิงหวาที่สวมชุดดำคอยปกป้องอยู่ห่างๆ
เพียงเดินเข้าไปในตรอกเล็กราวหนึ่งก้านธูป นางก็รู้สึกไม่ชอบมาพากล จึงรีบรั้งชายกระโปรงขึ้น ก่อนวิ่งหนีไปข้างหน้า
หญิงสาวได้ยินเสียงฝีเท้ากำลังวิ่งไล่ตามมาด้านหลัง พอหันไปมอง ก็พบว่ามีชายฉกรรจ์สองคนตามมาติดๆ วิ่งไปได้ไม่นาน ก็มีบุรุษอีกสองคนเข้ามาขวางหน้าเอาไว้ ทำให้ตอนนี้นางหมดหนทางที่จะหลบหนี
หนีเจียเอ๋อร์แสร้งทำเป็หวาดกลัว “พวกเ้า คิดจะทำอะไร?”
คนทั้งสี่พากันเดินเข้ามาหา หนึ่งในนั้นแสดงสีหน้าหื่นกาม พยายามที่จะแตะเนื้อต้องตัวนาง “เดินคนเดียวในซอยเล็กดึกๆ ดื่นๆ อาจจะเป็อันตรายได้ ให้พวกข้าไปส่งดีหรือไม่?”
หนีเจียเอ๋อร์ทำทีเป็กรีดร้อง “ช่วยด้วย...”
แต่ยังไม่ทันได้ะโ มืออันหยาบกร้านก็เข้ามาปิดปากนางเอาไว้
หนีเจียเอ๋อร์ััได้ถึงสายตาอันเยียบเย็นของโจวชิงหวา ที่กำลังจับจ้องมาจากเงามืดฝั่งตรงข้าม แต่บรรดาคนร้ายยังไม่รู้สึกตัว
หนึ่งในนั้นพูดด้วยความหื่นกระหาย “แหม! หากขายไปก็เสียดายแย่ ข้าว่าสนุกกับนางให้หนำใจก่อน แล้วค่อยขาย...”
เอ่ยยังไม่ทันจบ ก็โดนบุรุษอีกคนตบศีรษะอย่างแรง “ข้าบอกพวกเ้าไปแล้วอย่างไรเล่า ว่าจะไม่ขายสตรีกลุ่มนี้ให้กับหอโคมเขียว แต่จะส่งพวกนางไปให้เหล่าขุนนางยศสูง ขืนแตะต้องคงไม่พ้นตาย!”
กล่าวจบ ก็อุ้มร่างหนีเจียเอ๋อร์พาดไหล่ แล้วกระโจนหนีไป
โจวชิงหวาที่ลอบมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้แต่กำมือแน่น หากหนีเจียเอ๋อร์ไม่ขอเอาไว้ เขาคงจะบั่นคอพวกมันเรียงตัวไปแล้ว
ตอนนั้นเอง ก็เหมือนจะมีหนึ่งในพวกมันรับรู้ได้ถึงจิตสังหารของเขา มันชักกระบี่ออกมา พลางหันมองซ้ายทีขวาทีด้วยความระแวดระวัง
แต่พวกมันก็ยังไม่พบตัวเขา...
เหมียว!
ตรงหน้ามีแมวน้อยตัวหนึ่งปรากฏขึ้น เ้าโจรชั่วพลันบั่นร่างของมันจนขาดเป็สองท่อนโดยไม่ลังเล ก่อนถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นจึงสะบัดปลายมีด แล้วไล่ตามพรรคพวกไป
โจวชิงหวาที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดได้แต่แสยะยิ้ม ทั้งมากฝีมือและขี้ระแวง นับว่าอันตรายไม่น้อย ก็ไม่แปลกที่สือหวู่จะรู้สึกกังวล ไม่อยากให้เขาเข้าไปประจัญหน้าตรงๆ
ตอนนี้สิ่งที่พวกเขาอยากรู้ก็คือ ‘ขุนนางใหญ่’ ตามที่พวกมันพูด หมายถึงผู้ใด?
หลังจากรอสักพัก จนคิดว่าทิ้งระยะห่างพอสมควรแล้ว โจวชิงหวาจึงลอบตามพวกมันไป พบว่าอีกฝ่ายกำลังมุ่งหน้าไปยังวัดใตู้เาบริเวณชานเมือง
โจวชิงหวาะโไปบนหลังคา ดึงกระเบื้องออกเป็ช่อง แล้วมองลงไปด้านล่าง
บนพื้นเบื้องล่าง มีหญิงสาวที่ถูกจับตัวมาเจ็ดคน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือหนีจวิ้นหว่าน ที่กำลังนอนหมดสติอยู่
เมื่อพบพี่สาว หนีเจียเอ๋อร์ก็พยายามจะคลานไปหา แต่ก็ถูกชายผู้หนึ่งใช้กระบี่ขวางเอาไว้
เพราะฝ่ายตรงข้ามเป็กลุ่มโจรมีฝีมือ ดังนั้น โจวชิงหวาจึงไม่อาจเข้าไปแบบสุ่มสี่สุ่มห้าได้
จากการประเมินดูคร่าวๆ คิดว่าตอนนี้หนีเจียเอ๋อร์คงจะปลอดภัยดี เขาก็รีบปรี่ไปที่จวนแม่ทัพต้วน
...
ไม่ช้า ก็มาถึงหน้าประตูจวนสีแดงเข้ม
“เ้าเป็ใคร? เหตุใดถึงกล้าบุกมาที่จวนแม่ทัพต้วน อยากตายหรืออย่างไร?”
โจวชิงหวาหันไปมองรอบๆ ก่อนตอบ “ข้ามีนามว่าโจวชิงหวา ตอนนี้มีเื่ด่วนจะมารายงานท่านแม่ทัพ!”
เมื่อััได้ถึงจิตสังหารของเขา ทหารเฝ้ายามก็ลอบกลืนน้ำลาย
แต่กระนั้น ก็ไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยให้อีกฝ่ายเข้าไปง่ายๆ “รอตรงนี้ก่อน ประเดี๋ยวข้าจะไปแจ้งให้ท่านแม่ทัพทราบ”
กล่าวจบ ก็รีบวิ่งผละไป
โจวชิงหวากำหมัดแน่น ทำไมถึงได้ชักช้านัก ไม่ทันใจเอาเสียเลย
สักพัก คนผู้นั้นก็กลับมาด้วยท่าทีที่เปลี่ยนไป “คุณชายโจว ท่านแม่ทัพเชิญเข้าไปพบขอรับ!”
โจวชิงหวาปรายตามอง ก่อนเอ่ยเสียงเย็นะเื “นําทาง!”
นายทหารไม่กล้าต่อปากต่อคำอีก รีบหันหลังวิ่งนำไปทันใด
และแล้ว ทั้งสองมาถึงห้องพักของต้วนอวิ๋นหลาน
เพื่อมิให้เป็การเสียเวลา โจวชิงหวาจึงเข้าเื่ทันที “แม่ทัพต้วน เสี่ยวเอ๋อร์ได้ใช้กลยุทธ์ล่องูออกจากโพรง ตอนนี้เราจึงทราบแหล่งกบดานของพวกมันแล้ว ว่าอยู่ทีู่เาสือเหลียน โปรดรีบตามข้ามา เราต้องไปช่วยนางเดี๋ยวนี้!”
ต้วนอวิ๋นหว่านมิได้ซักถามอันใด รีบสั่งลูกน้องทันควัน “สือหู่ รวบรวมกำลังพล มุ่งหน้าไปทีู่เาสือเหลียน”
สือหู่รับคำสั่ง แล้วทะยานออกไปทันที
แม่ทัพหนุ่มหันมาเอ่ยกับโจวชิงหวา “พี่ชิงหวา พวกเราล่วงหน้าไปก่อนเถอะ”
เป็ครั้งแรกที่เขารู้สึกดีต่อต้วนอวิ๋นหลาน ชายหนุ่มพยักหน้า ก่อนเดินทางไปยังูเาสือเหลียน
ทันทีที่มาถึง รู้ได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ โจวชิงหวาเหงื่อแตกพลั่ก รีบพุ่งเข้าไปข้างในทันที
แน่นอนว่า นอกจากกลิ่นหอมอ่อนๆ จากถุงหอมของสตรีแล้ว ก็เหลือเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น
หนีเจียเอ๋อร์ตกอยู่ในอันตรายอีกแล้ว?
โจวชิงหวากัดฟันกรอด ชกเข้าใส่กำแพงวัดอย่างแรง จนบรรดาทหารที่สือหู่นำมาสะดุ้งเฮือก เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็เสียงของการต่อสู้ จึงรีบตามเข้ามาด้านใน
ต้วนอวิ๋นหลานโบกมือให้ทุกคนถอยออกไป ก่อนหันมาปลอบใจโจวชิงหวา “ใจเย็นๆ ก่อน ไว้ค่อยกลับไปคิดหาหนทางใหม่กัน”
โจวชิงหวาเตะซากไม้เบื้องหน้าเต็มแรง
แต่ทันใดนั้น เขาก็เห็นไข่มุกราตรีของหนีเจียเอ๋อร์วางอยู่บนพื้น ที่ข้างๆ กันยังมีกิ่งไม้รูปร่างคล้ายลูกศรอีกด้วย
โจวชิงหวาหยิบไข่มุกราตรีขึ้นมา ก่อนมองไปยังกิ่งไม้แห้งที่ชี้ไปทางทิศใต้ของูเา ชายหนุ่มยกยิ้มกว้าง เข้าใจทันที ว่านี่คือเครื่องหมายบอกทางที่หนีเจียเอ๋อร์ทิ้งเอาไว้ เพื่อให้เขาติดตามไปนั่นเอง!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้