ท่ามกลางถนนสายเล็กของหมู่บ้านหลิงเซียนเต็มไปด้วยร่องรอยหิมะที่ถูกเหยียดย่ำ ร่างหญิงสาวผู้หนึ่งนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นสวมอารมณ์ขาดวิ่นเต็มไปด้วยคราบเืจางๆ ราวกับปลาตากแห้ง
ชาวบ้านหลายคนยืนมุงกันเป็วงกว้าง บางกลุ่มยืนกระซิบกระซาบ บางกลุ่มชี้ไม้ชี้มือด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“นางตายแล้วหรือ?” หญิงชราผู้หนึ่งเอ่ย พลางส่ายหน้าอย่างเวทนา
“ไม่แน่หรอก บางทีอาจเป็คนเร่ร่อนหนาวจนหมดสติ” ชายวัยกลางคนพูดพลางยืนกอดอก
ขณะที่ทุกคนกำลังคาดเดาหญิงสาวตรงหน้า เสียงแหบแห้งแ่เบาก็ดังขึ้นจากร่างเล็กที่ไร้การขยับเขยื้อน
“อึก อยากกินหม้อไฟ” เสียงกลืนน้ำลายแ่ๆ เพียงเท่านั้น แต่ทำให้ชาวบ้านสะดุ้งโหยงเป็เสียงเดียวกัน
ไม่นานร่างบางก็ขยับเล็กน้อยเปลือกตาสีไข่ก็พยายามเปิดขึ้น เผยให้เห็นั์ตาพร่ามัวเต็มไปด้วยความสับสน หลินหลินจำได้ว่าเมื่อคืนกำลังจะเขียนนิยายบทสุดท้าย แต่นางหลับไปก่อน แต่พอตื่นขึ้นมาทำไมถึงได้มาอยู่สถานที่แห่งนี้
“ยังไม่ตาย นางยังไม่ตาย” เด็กชายคนหนึ่งร้องบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“รีบพานางไปหาหมอเถิด เดี๋ยวจะสิ้นใจเสียก่อน” หญิงวัยกลางคนเร่งเร้า ทว่ากลับไม่มีผู้ใดขยับ ทุกคนยืนจ้องร่างนั้นด้วยความลังเลราว เกรงว่าหากยื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออาจจะต้องแบกรับปัญหาหนักโดยไม่รู้ตัว
หลินหลินสั่นเล็กน้อยด้วยความหนาว นางพยายามจะพูดแต่เสียงแหบแห้งจนไร้ถ้อยคำ “ใคร..จะ..ตาย…กัน..ฉัน..ยัง…ไม่..ได้..ส่ง..เื่…ล่าสุด.เลย..”
เมื่อพูดจบร่างบางก็กระเด้งตัวขึ้นมานั่งอย่างแรง จนชาวบ้านที่ยืนอยู่รอบตัวถึงกับสะดุ้งถอยหลังออกไปหลายก้าว
“อะไรเนี่ย?” หลินหลินพึมพำเสียงดังสายตากวาดมองไปรอบตัวด้วยความงุนงง “ที่นี่ที่ไหนกัน?” ดวงตานางเบิกกว้างเมื่อเห็นผู้คนในชุดผ้าไหมแบบโบราณยืนจ้องมองตนเอง
“ส่งต้นฉบับช้าแค่สองวัน จับฉันมาค้ามนุษย์หรอเนี่ย ไอ้หัวหน้าเฮงซวย” หลินหลินตวาดลั่นทำเอาชาวบ้านมองหน้ากันเลิ่กลั่ก
“เอ๊ะ!” หลินหลินยกมือขึ้นลูบแขนตัวเองเบาๆ “น่าแปลกทำไมรู้สึกเหมือนหมู่บ้านโบราณจริงๆ” สิ้นประโยคนางก็หยิกเข้าที่แขนตัวเองอย่างเต็มแรง
“เจ็บจริงนี่หว่า..” นางก็เบิกตากว้างอย่างใ “อย่าบอกนะว่า…ฉันย้อนเวลามาหรอ?!”
สีหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนไปทันทีนางใมาก ก่อนจะขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด “ไม่จริงหรอกน่า..แบบนี้มันนิยายชัดๆ ! ฉันเป็นักเขียนนี่!” หลินหลินนิ่งเว้นจังหวะ “แต่ฉันไม่เคยเขียนบรรยากาศแบบนี้”
“ฉันไม่คุ้นสถานที่นี้เลยสักนิด”
“นังหนูนี่พูดอะไรของนาง?” ชายชราผู้หนึ่งกล่าวขัดเบาๆ
ทว่าไม่ทันไร หลินหลินก็เด้งตัวขึ้นยืนแล้วร้องลั่น “นี่มันเื่บ้าอะไรวะเนี่ย! ฉันไม่ยอมนะ” นางกล่าวจบก็วิ่งพล่านออกจากกลุ่มชาวบ้านทันที
“เฮ้ย นังหนูจะไปไหน” ชายชราร้องเรียกไล่หลัง
“ข้าว่านางเป็ปีศาจแน่ๆ” หญิงชราผู้หนึ่งกล่าวขณะที่ขายังวิ่งตาม
“ขโมยหรือ” ชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ซอกทางเดินเล็กๆ เห็นหญิงสาวสวมชุดเหมือนกับขอทานก็ะโพลางออกวิ่งตาม
หลินหลินวิ่งเตลิดเปิดเปิงไปตามถนนทางเดินนางในเวลานี้สภาพกระเซอะกระเซิง ภาพชุลมุนวุ่นวายไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ชาวบ้านพากันแตกตื่นวิ่งกรูตามราวกับกำลังไล่ตะครุบโจรกลางตลาด
“ฉันจะไม่ยอมตายอยู่ในโลกแปลกๆ นี่เด็ดขาด!” หญิงสาวะโพลางเร่งฝีเท้าวิ่งสุดชีวิต แม้ว่าหิมะจะตกหนักจนนางแทบมองทางไม่เห็นก็ตาม
ร่างกายของหลินหลินยังเต็มไปด้วยความสับสนและใจากการตื่นขึ้นมาในโลกที่ไม่คุ้นเคย ความหนาวเย็นและความผิดปกติรอบตัวทำให้นางแทบไม่สามารถคิดอะไรได้มากนัก นางแค่้าวิ่งหนีจากคนแปลกหน้าที่ไล่ตามอย่างไม่หยุดหย่อน
แต่ในขณะที่หลินหลินวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่รู้ทิศทาง ร่างนางก็ชนเข้ากับร่างของเด็กสาวที่ยืนอยู่กลางทางเดินอย่างเต็มแรง เด็กสาวที่ถูกรบกวนสะดุ้งไปเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมา
“ขอโทษเ้าค่ะ” เด็กสาวที่ถูกชนกล่าวขึ้นด้วยความใ ท่าทางยังมึนงงจากการโดนกระแทกจนเกือบเสียการทรงตัว
“ไม่เป็ไรค่ะ ฉันก็ต้องขอโทษคุณเหมือนกัน” หลินหลินก็รีบลุกขึ้นแล้วขอโทษอย่างรวดเร็ว นางใกับเหตุการณ์เมื่อครู่มาก
และไม่ทันได้หันมองว่าคนที่นางชนคือใคร แต่เมื่อหลินหลินเงยหน้าสบตากับเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า ความใในดวงตาของเด็กสาวก็ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน
“คุณ..หนู” ซูจินยืนอยู่ตรงหน้า นางยิ้มอ่อนๆ แต่สายตาของนางกลับเต็มไปด้วยความสงสัยและความเป็ห่วง หากประเมินอาการคุณหนูเมื่อคืนคุณหนูไม่น่าจะลุกขึ้นมาเดินได้ แต่ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่
“คุณ… คุณหนู?” ซูจินเอ่ยเสียงแ่เบา น้ำตาก็ไหลรินลงมาไม่ขาดสาย เมื่อเห็นหญิงสาวที่นางรักและเคารพกลับมา นางไม่สามารถพูดอะไรได้มาก
ร่างของซูจินสั่นไหวด้วยความดีใจ ก่อนที่นางจะเข้ากอดจ้าวเหม่ยหลินตรงหน้า
หลินหลินมองซูจินด้วยความงุนงง สภาพร่างกายเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า แต่ก็ยังคงไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น “คุณหนูหรอ?” นางเอ่ยเสียงอ่อนพลางเอื้อมมือไปขยี้ตาตัวเอง แล้วมองลงไปที่เด็กสาวอย่างไม่แน่ใจ “ฉัน… ฉันคงไม่ได้ย้อนมาในยุคเก่าใช่ไหม?”
“เ้าคะ? คุณหนูหมายความว่าอะไรเ้าคะ” ซูจินตาโตด้วยความใ เหตุใดคุณหนูถึงพูดจาแปลกไปจากเมื่อก่อน
“… ข้าจะไม่ยอมทิ้งคุณหนูไปอีกแล้ว” ซูจินพึมพำเบาๆ ในขณะที่โอบกอดหญิงสาวไว้แน่นอีกครั้ง นางคิดว่าจ้าวเหม่ยหลินคงมีอาการกลัวเหลืออยู่มาก
หลินหลินที่ถูกกอดยังคงไม่เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด แต่ในขณะที่กำลังคิดว่ายังไงก็ต้องหนีจากคนแปลกกน้าที่ไล่ตามมาก่อนจึงตัดสินใจอย่างรวดเร็ว “ไว้เธอค่อย… เล่าให้ฉันฟังทีหลัง แต่ตอนนี้ เราต้องไปจากที่นี่กันก่อน!”
เมื่อพูดจบหลินหลินก็จับมือซูจินแล้วรีบวิ่งออกไปจากฝูงชาวบ้าน ชาวบ้านที่ยังคงมองอยู่ก็ได้แต่เบิกตากว้างด้วยความสงสัย เหตุใดถึงมีผู้หญิงประหลาดมาวิ่งอีกคนแล้วล่ะ
“พวกนางคงเป็ปีศาจ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้