"เ้าพูดถูกแล้ว ราชันย์สัตว์อสูรทั้งสามได้ถูกศิษย์ในจับกลับไป แต่ข้าไม่เคยคิดว่าเ้าเหยี่ยวดำจะหนีออกมาได้อีกครั้ง สัตว์อสูรสายวิหคได้เปรียบเวลาหลบหนี"
หวงต้าพูด
"อืม เ้าหมาไร้ประโยชน์เช่นเ้าทำได้ดีนิวันนี้ เยี่ยมมาก!"
เจียงเฉินเริ่มลูบหัวหวงต้า
"หยุดเลย! อย่ามาลูบหัวข้า! บิดาไม่ใช่หมา เ้าต่างหากหมา แง่ง"
หวงต้าโมโหจริงๆ แต่การเห่าของมันทำให้เจียงเฉินหัวเราะออกมาเสียงดัง
ไม่นานหลังจากนั้น เจียงเฉิน หวงต้า และชายแก่ได้กลับไปยังตระกูลเยี่ยน เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นได้เตรียมตำหนักส่วนตัวไว้สำหรับพวกเขาเป็พิเศษ และไม่มีผู้ใดได้รับอนุญาตให้เข้าไปใกล้
ภายในตำหนัก เจียงเฉินและชายแก่หันหน้าเข้าหากัน ชายแก่ชุดดำดูสุภาพอ่อนน้อมและเขาไม่ได้แสดงกิริยาหยามเหยียดแต่อย่างใด ในใจของมันนั้นไม่ได้พอใจนักที่ต้องมาทำแบบนี้ แต่มันไม่สามารถที่จะขัดขืนได้ตราบที่ชีวิตของเขาอยู่ในกำมือของหวงต้า แค่เพียงหวงต้าคิดแค่นั้น มันก็จะตายทันที
ที่น่าสงสารยิ่งกว่า ตัวมันเกลียดชังหวงต้าแต่เขายังต้องอ้อนวอนหวงต้าตลอดชีวิต สาเหตุเพราะหากหวงต้าตาย ััเทวะในจิตใจของมันก็จะะเิ เป็การฆ่าเขาชัดๆ
"เ้าเหยี่ยวดำ ข้าขอถามเ้าหน่อย หลี่ชางเยว่มอบดวงจิตอสูรเหยี่ยวปีกโลหิตแก่เ้ารึ?"
เจียงเฉินถาม
"ใช่"
ชายแก่ชุดดำไม่กล้าพูดเท็จ
"ส่งมันมาให้ข้า"
น้ำเสียงของเจียงเฉินบ่งบอกว่าห้ามปฎิเสธ นี่เป็คำสั่ง
"อะไรนะ!?"
ท่าทีของชายแก่เปลี่ยนไป ดวงจิตอสูรเหยี่ยวปีกโลหิตมันมีประโยชน์ต่อเขาอย่างมาก มันเป็สมบัติล้ำค่าสำหรับเขา และตอนนี้เจียงเฉินมาขอให้เขาส่งไปให้ง่ายๆ มันทำให้เขาไม่พอใจ
"ส่งมันมาเดี๋ยวนี้ เ้ากล้าที่จะปฏิเสธคำสั่งของเ้านายงั้นรึ? เ้าคิดว่าข้าไม่กล้าที่จะมอบความตายอันน่าสยดสยองแก่เ้างั้นรึ?"
หวงต้าแค่นเสียงอย่างเ็า
"ขอรับ"
ชายแก่ผงกหัวและรีบนำดวงจิตอสูรออกมา เ้าหมานี่หมายความตามนั้นจริงๆ นั่นเป็เหตุที่ว่าทำไมเขาจึงไม่กล้าที่จะปฎิเสธคำสั่งของหวงต้า เมื่อเทียบกับดวงจิตอสูรเหยี่ยวปีกโลหิต ชีวิตของเขาสำคัญยิ่งกว่า
เมื่อมองไปยังดวงจิตอสูรสีแดงเื ตาของเจียงเฉินเป็ประกาย เขาเคยเห็นมาเกือบทุกอย่าง และเขาสามารถที่จะบอกถึงตัวตนสิ่งนั้นได้ทันทีเพียงแค่มองเท่านั้น ิญญาอสูรนี้เป็ดวงจิตอสูรของเหยี่ยวปีกโลหิตอย่างแท้จริง มันมีสายเืสมบูรณ์ของเหยี่ยวปีกโลหิตอยู่
ดวงจิตอสูรนี้มีต้นกำเนิดจากเหยี่ยวปีกโลหิตขอบเขตแก่นแท้มนุษย์ขั้นปลาย มันเป็สิ่งที่เขา้า ตามที่เจียงเฉินได้คาดการณ์การไว้หากเขาได้ดูดซับดวงจิตอสูรนี้ด้วยการใช้ทักษะร่างแปลงัในการดูดซับสายเืของอสูรเหยี่ยวปีกโลหิต เขาก็จะสามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้มนุษย์ได้
"แต่ว่านายท่านสำหรับมนุษย์ ดวงจิตอสูรไม่สามารถช่วยอะไรนายท่านได้มากนัก ข้าเป็เหยี่ยวอสูร ดวงจิตอสูรของเหยี่ยวปีกโลหิตนี้จะเหมาะสมกับข้า!"
ชายแก่ยังไม่ยอมแพ้
เจียงเฉินจ้องไปยังชายแก่ และหยิบดวงจิตอสูรไป
"อย่าได้กังวลไป ข้าไม่ได้รับไปเฉยๆ ข้าจะให้ทักษะบ่มเพาะปีศาจ์ให้แก่เ้า หากเ้าทำการบ่มเพาะด้วยทักษะนี้ เ้าจะได้รับสิ่งที่ล้ำค่ายิ่งกว่าดวงจิตอสูรนี่เสียอีก สามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตราชันย์ปีศาจในอนาคตใช่ว่าจะเป็เื่เป็ไปไม่ได้"
เจียงเฉินพูดขึ้นก่อนที่จะส่งบทคัดย่อสำหรับ'ทักษะปีศาจ์' ไปให้ชายแก่ทางััเทวะ ร่างของชายแก่สั่นเทิ้ม ดวงตาของเขาเปล่งประกายอย่างรุนแรงจนเห็นแสงสว่างออกมาจากตาของเขา
ทักษะบ่มเพาะปีศาจ์ได้มาจากสัตว์อสูรที่ทรงพลัง ในชีวิตที่แล้วของเขามันเป็สุดยอดทักษะบ่มเพาะสำหรับสัตว์อสูร หากเป็การแบ่งประเภทตามระบบของมนุษย์ที่ใช้มันก็จะอยู่ในระดับนักบุญ
ในโลกต้นกำเนิดเซียนนั้น สิ่งใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนักบุญนั้นล้วนเป็สมบัติล้ำค่าทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็ทักษะบ่มเพาะ ทักษะยุทธ ยุทธภัณฑ์ พวกมันเหมือนๆกัน ทักษะการบ่มเพาะของสัตว์อสูรนั้นหายากยิ่งกว่า ในชีวิตที่แล้วของเจียงเฉิน เขาได้พบเจอหลากหลายสิ่ง และเขาพบทักษะนักบุญปีศาจไม่มากนัก แม้เขาจะไม่สามารถที่จะบ่มเพาะด้วย ทักษะปีศาจ์ แต่เขาก็ได้บันทึกมันเอาไว้ วันนี้เขาได้ส่งมอบทักษะนี้ให้ชายแก่ชุดดำผู้นี้ นอกเหนือจากที่เขามอบดวงจิตอสูร เจียงเฉินยังมีเป้าหมายอย่างอื่นอีก
ไม่นานหลังจากนี้เขาจะต้องออกเดินทางต่อและตระกูลเจียงนั้นเป็สิ่งเดียวที่เขายังกังวลอยู่ หากราชันย์สัตว์อสูรได้พำนักอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลเจียง ก็สามารถที่จะปกป้องพวกเขาได้ เจียงเฉินจะสามารถวางใจได้ ยิ่งชายแก่ผู้นี้แข็งแกร่งขึ้นเพียงใด ก็จะสามารถช่วยเหลือมากขึ้นด้วย
หลังจากที่ถ่ายทอด ทักษะบ่มเพาะปีศาจ์เสร็จสมบูรณ์ ชายแก่ได้ตื่นเต้นอย่างมาก ร่างกายของเขาสั่นเทิ้ม เขาคุกเข่าลงและพูดออกมา
"ขอบพระคุณนายท่านสำหรับของขวัญที่น่าอัศจรรย์! ขอบพระคุณนายท่านสำหรับของขวัญที่น่าอัศจรรย์!"
ดวงตาของชายแก่มีต้ำตาคลอ มุมมองที่เขามองเจียงเฉินได้เปลี่ยนไปโดยสมบูรณ์ ถึงแม้เจียงเฉินจะมีระดับการบ่มเพาะเพียงระดับฉีไห่ แต่ภาพลักษณ์ของเขาที่มีต่อชายแก่ผู้นี้ใหญ่โตดั่งขุนเขา
นี่เป็ทักษะการบ่มเพาะของนักบุญปีศาจ ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาให้ทักษะระดับนักบุญแก่เขาง่ายๆ นี่เป็สิ่งที่มนุษย์ทำกันหรือ? นี่มันไม่น่าเชื่อเลย แม้แต่ราชันย์สัตว์อสูรที่ทรงพลังในตำนานยังไม่มีทักษะบ่มเพาะนักบุญปีศาจเลย
นอกจากนี้หากพวกเขามีทักษะที่ทรงพลังอย่างทักษะปีศาจ์ จะมีผู้ใดอยากที่จะแบ่งให้แก่ผู้อื่น? ในทวีปตะวันออกแห่งนี้ไม่มีทักษะระดับนักบุญอยู่ ไม่แค่เพียงเจียงเฉินจะมีมันอยู่ เขายังมอบให้อย่างไม่สะทกสะท้านอีก ความกล้าแบบนี้ ความลึกลับขนาดนี้ เขาสามารถที่จะพิชิตใจชายแก่ชุดดำได้อย่างสมบูรณ์
สิ่งที่เจียงเฉินพูดนั้นถูกต้อง ทักษะปีศาจ์นั้นทรงคุณค่ายื่งกว่าดวงจิตอสูรเหยี่ยวปีโลหิตมากมายนัก
"บัดซบ! ทำไมไอ้หนูอย่างเ้าถึงรู้ทักษะปีศาจ์ได้? อย่าบอกนะว่าเ้าเป็มารเฒ่ามาจุติ บอกมาเร็วๆเลยว่ามีอะไรดีๆอีก ให้บิดาเ้าได้รับประโยชน์บ้าง"
หวงต้าได้มองเจียงเฉินด้วยความตะลึง มันรู้สึกมาโดยตลอดว่าเจียงเฉินนั้นลึกลับ แต่เมื่อเห็นว่าเจียงเฉินมอบทักษะปีศาจ์ มันได้ประหลาดใจอย่างมาก
"ทักษะบ่มเพาะของนักบุญปีศาจไม่มีประโยชน์อันใดต่อเ้า"
เจียงเฉินพูดอย่างอับจนหนทาง เ้านี่เป็กิเลน สายเืของมันอยู่จุดสูงสุดของสัตว์อสูร ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็ที่จะบ่มเพาะด้วยทักษะบ่มเพาะปีศาจใดๆ หากมันฝืนตัวเองใช้วิถึทางบ่มเพาะของปีศาจ มันจะจบด้วยการจำกัดศักยภาพของมัน
"ข้า้าที่จะปิดด่านฝึกตน พวกเ้าทั้งคู่ช่วยข้าดูแลทางเข้าด้วยอย่าปล่อยให้ผู้ใดมารบกวนข้า"
เจียงเฉินพูดและหันกลับเดินเข้าห้องไป
"เ้าบ้านี่ มันสุดยอดแย่จริงๆ"
หวงต้ามองไปยังเจียงเฉินและบ่นอุบ หลังจากนั้นมันได้บอกชายแก่ที่ยืนขึ้นจากพื้น
"เ้าจงคุ้มกันอยู่ด้านนอก บิดาจะหลับสักพัก"
"ขอรับ"
ชายแก่ก้มหัวอย่างสุภาพต่อหวงต้าก่อนที่จะเดินตรงไปยังประตูด้านนอก ใบหน้าของมันเปี่ยมไปด้วยความสุข ไม่หลงเหลือความเศร้าหมองอีก การที่เขาได้รับทักษะปีศาจ์มา นี่เป็โชคที่แท้จริงของเขา
ภายในห้อง เจียงเฉินนั่งขัดสมาธิกับพื้น ดวงจิตอสูรสีแดงกำลังลอยอยู่ตรงหน้าเขา เจียงเฉินไม่ได้กลืนดวงจิตอสูรทันที นี่เป็ครั้งแรกที่เขาพยายามที่จะดูดซับดวงจิตอสูรที่มีสายเืหายาก เขาเตรียมตัวให้อยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุด และโคจรทักษะร่างแปลงัจนถึงขีดสุด
หวงต้าได้นอนบนหินสีเขียวขนาดใหญ่ในลานกว้างและนอนหลับโดยไม่กังวลสิ่งใดแม้แต่น้อย ชายแก่ชุดดำยืนอยู่ทางเข้าประตูหลัก ได้แสดงออกถึงผู้คุ้มกันที่ซื่อสัตย์ของเจียงเฉินในขณะเดียวกันก็ตั้งใจศึกษาทักษะปีศาจ์อย่างเงียบๆ
ค่ำคืนมืดมิดและมีสายลมพัดรุนแรง ใจกลางจตุรัส โลหิตไหลนองทุกหนแห่ง มันเป็การต่อสู้นองเื ตระกูลหลี่ที่สูญเสียหลี่ชางเยว่ไป ไม่เพียงแค่พวกเขาสูญเสียเสาหลักไป พวกเขายังสูญเสียกำลังใจอีกด้วย ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว สิ่งที่เหลือสำหรับพวกเขาคือรอให้ตระกูลเยี่ยนมาฆ่าเท่านั้น
การต่อสู้กินเวลาเพียงแค่ชั่วโมงครึ่งเท่านั้นก่อนที่จะสรุปผลได้ ตระกูลหลี่พ่ายแพ้ โลหิต ศพ แขน ขา มีศพนอนเกลื่อนทุกหนแห่ง นี่เป็การต่อสู้ที่รุนแรงที่สุดในเมืองชื่อ
คนจากตระกูลหลี่มากกว่าร้อยคนที่ได้ตายไป และที่เหลือได้ยอมจำนน พวกเขาอยู่ที่มุมโดยมีคนตระกูลเยี่ยนยืนล้อมเป็วงกลม สีหน้าของพวกเขาราวกับคนตาย พวกเขาไม่รู้ว่าต่อไปพวกตนจะพบเจอบทลงทัณฑ์อะไร
"ท่านผู้นำขอรับ พวกเราจะจัดการกับคนพวกนี้อย่างไรดีขอรับ?"
เยี่ยนหยางพูดอย่างฮึกเหิม
"สังหารพวกมันให้สิ้น! ก่อนที่น้องเจียงจะไป เขาได้บอกว่าหากจะตัดหญ้าให้ถอนทั้งราก"
าุโแก่นแท้มนุษย์ได้พูดขึ้น
"อย่านะ!"
เยี่ยนเฉินหยวี่ะโออกมาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของนางดูซีดขาวและขวัญเสีย เด็กสาวผู้ไร้เดียงสาที่ไม่มีประสบการณ์ภายนอกมาก่อน นางไม่เคยเห็นฉากเช่นนี้มาก่อน ในตอนสู้รบนางได้ใช้ความหนาวเย็นจากชีพจรเก้าหยินสังหารพวกเขาไป นั่นทำให้นางรู้สึกแย่พอแล้ว มันจะโหดร้ายเกินไปหากพวกเขาได้สังหารคนพวกนี้ทั้งหมด นางไม่สามารถรับได้
"ท่านพ่อ พวกเขาได้ยอมจำนนแล้วนะเ้าคะ ฆ่าพวกเขาทั้งหมดนั้นไม่โหดร้ายไปหน่อยหรือ! ข้าเชื่อว่าสิ่งที่ท่านพี่เจียงเฉินพูดไม่ได้หมายความเช่นนี้"
เยี่ยนเฉินหยวี่รีบพูดออกมา
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นลูบหัวเยี่ยนเฉินหยวี่อย่างอ่อนโยน ใบหน้าของเขาเผยออกมาถึงความปวดใจ บุตรีของเขาช่างมีจิตใจดีงามนัก และความอ่อนต่อโลกของนางจะทำให้นางต้องทุกข์ทรมานในอนาคต นี่เป็เหตุผลที่ได้พานางมาร่วมการต่อสู้ด้วย ความรู้สึกเมื่อได้สังหารคนไปครั้งแรกย่อมรู้สึกไม่ดีแต่เมื่อนางได้ออกเดินทางไปยังโลกฝึกตนที่แท้จริง นางจำเป็ต้องทำ หากไม่ทำเช่นนั้นภายหลังที่ได้เข้าแคว้นฉีแล้วนางอาจต้องพบกับความทุกข์ทรมาน
เยี่ยนเฉินหยวี่ผู้มาพร้อมกายศักดิ์สิทธิ์ เมืองเล็กๆอย่างเมืองชื่อไม่สามารถรั้งนางไว้ได้ตลอด นอกจากนี้บุตรีเขาได้กำลังตกหลุมรักเจียงเฉิน ผู้ใดคือเจียงเฉิน? เขาคือร่างอวตารของาาปีศาจ! การที่จะเป็สตรีที่สามารถอยู่เคียงข้างเขาได้ นางจะต้องไม่เป็ภาระให้แก่เขา
"หยวี่เอ๋อร์ถอยไป พ่อรู้ดีว่าควรทำเช่นไร และพ่อเข้าใจความหมายแท้จริงของน้องเจียงเฉินอีกด้วย"
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นและก้าวไปข้างหน้า สายตาที่เ็าของเขาได้จับจ้องไปยังคนตระกูลหลี่
"สังหารทุกคนจากตระกูลหลี่! ผู้ที่มาจากตระกูลที่อยู่ใต้อาณัติ ข้ายอมรับการจำนนของพวกเ้า แต่พวกเ้าต้องผ่านการทดสอบเสียก่อน"
ด้วยเหตุนี้ เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นได้ตัดสินชะตาของคนจากตระกูลหลี่ มันคล้ายกับตอนที่เจียงเฉินทำกับตระกูลมู่หรง แต่เขามีเมตตายิ่งกว่าเจียงเฉินด้วยการที่เขายอมรับการยอมจำนนของผู้คนที่อยู่ในตระกูลใต้อาณัติตระกูลหลี่
เยี่ยนเจิ้นอวิ๋นเข้าใจในสิ่งที่เจียงเฉินบอกเขา จะกำจัดวัชพืชให้ถอนทั้งราก วัชพืชคือตระกูลหลี่มันเอง แล้วคนที่ยอมแพ้ เขาไม่ได้สังหารทั้งหมด
ในตอนนี้ตระกูลเยี่ยนเป็ผู้ปกครองเพียงหนึ่งเดียวของเมืองชื่อ เขาจึงต้องมีความเมตตาสักนิด
เยี่ยนเฉินหยวี่ถอนหายใจ นางได้ออกจากจตุรัสด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยว เยี่ยนหยางรีบเดินตามนางไป การต่อสู้ในวันนี้ได้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเยี่ยนเฉินหยวี่ บางทีสาวน้อยผู้นี้อาจต้องใช้เวลาสักระยะในการปรับตัว
แต่เื่นี้ไม่สามารถที่จะเลี่ยงได้ สิ่งแวดล้อมสร้างบุคคล ไม่ช้าก็เร็วที่นางต้องปรับตัวให้ได้
