Re:Farm 1999 - วิจัยรัก พลิกวิกฤตต้มยำกุ้ง

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

บทที่ 9 : สื่อรักละอองเกสร (เมื่อวิศวะต้องมาเป็๲พ่อสื่อ)

07:30 น.

เสียงนาฬิกาปลุกแผดเสียงร้องลั่นห้อง แต่ร่างกายของฉันกลับหนักอึ้งเหมือนมีหินถ่วงไว้ที่ขาเปลือกตาบวมเป่งแทบลืมไม่ขึ้น

ความร้อนรุ่มแผ่ซ่านไปทั่วตัว... ไข้กิน จนได้!

ก็แหงล่ะ เล่นตากฝนขุดดินวันนั้น แถมยังอดหลับอดนอนเฝ้าดูอาการต้นกล้าในโรงเรือนมาตลอด 2 สัปดาห์ ร่างกายมนุษย์นะไม่ใช่เครื่องจักร

"แย่แล้ว... วันนี้วันดีเดย์..."

ฉันพยายามยันกายลุกขึ้นด้วยแขนที่สั่นเทา วันนี้คือ "วันนัดเดท" ของดอกเมล่อน! หรือวันที่ดอกตัวเมียบานพร้อมกันทั้งโรงเรือน

การผสมเกสรเมล่อน (Pollination) ต้องทำใน๰่๭๫เช้า 06:00 - 10:00 น. เท่านั้น ถ้าสายกว่านี้ ดอกจะหุบ และเกสรตัวผู้จะฝ่อ... เท่ากับว่าผลผลิตรุ่นนี้จะ สูญเปล่า 100%!

ฉันกัดฟันฝืนสังขาร เดินโซเซลงจากบ้าน มุ่งหน้าไปที่โรงเรือน

...

ณ โรงเรือนกรีนเฮาส์

อากาศข้างในเย็นสบายกว่าข้างนอก แต่เหงื่อกาฬของฉันกลับไหลพราก

ภาพตรงหน้าคือดงเถาเมล่อนสีเขียวขจี ดอกสีเหลืองสดใสบานสะพรั่งเต็มไปหมด รอคอยการผสมพันธุ์ แต่สายตาของฉันเริ่มพร่ามัว โลกหมุนติ้วๆ

มือฉันสั่นระริกขณะเด็ดดอกตัวผู้มา...

วูบ!

เข่าฉันอ่อนยุบลงไปกองกับพื้น ดอกไม้ร่วงหลุดมือ

"ตายล่ะ... ไม่ไหวจริงด้วย..."

ครืดดดด!

ประตูโรงเรือนถูกเลื่อนเปิดออกอย่างแรง พร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่พุ่งเข้ามา

"ขวัญ! เป็๞อะไรหรือเปล่า!?"

พี่ดินนั่นเอง... เขาคงเห็นว่าฉันหายหัวไป ไม่เอาข้าวเช้าไปส่ง เลยตามมาดู

เขาถลาเข้ามารับร่างฉันไว้ได้ทันก่อนหัวจะกระแทกพื้น ฝ่ามือหนาอังที่หน้าผากฉันทันที

"ตัวร้อนจี๋เลยนี่หว่า! บ้าเอ๊ย ไปหาหมอเดี๋ยวนี้!" เขาทำท่าจะช้อนตัวอุ้มฉันขึ้น

"มะ... ไม่ได้!" ฉันขัดขืนเสียงแหบพร่า ดันอกเขาไว้ "ดอกไม้... ต้องผสมเกสรก่อน... เหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงเดียว..."

"จะบ้าเหรอ! คนจะตายอยู่แล้วยังห่วงดอกไม้อีก!" พี่ดินตะคอกด้วยความเป็๲ห่วง

"พี่ดิน..." ฉันจับแขนเขาแน่น มองด้วยสายตาขอร้อง "นี่คืออนาคตของบ้านขวัญ... ถ้าไม่ผสมวันนี้ อีก 3 เดือนเราไม่มีเงินใช้หนี้แน่ๆ... ช่วยขวัญหน่อยนะ"

พี่ดินชะงัก มองหน้าฉันสลับกับดอกไม้สีเหลืองนับร้อยดอกที่บานรออยู่ เขาถอนหายใจแรงๆ อย่างขัดใจ

"เออ! ก็ได้! แล้วต้องทำยังไงวะ ผมซ่อมแต่เครื่องยนต์ ไม่เคยซ่อมดอกไม้!"

ฉันยิ้มอย่างอ่อนแรง พยายามทรงตัวลุกขึ้น

"ขวัญจะสอน... พี่เป็๞มือให้ขวัญหน่อย"

ฉันพาเขาเดินไปที่ต้นเมล่อนต้นแรก

"ขั้นแรก... เด็ด ดอกตัวผู้ (ดอกที่มีก้านยาวๆ ไม่มีกระเปาะลูกใต้ดอก) มาค่ะ"

พี่ดินยื่นมือใหญ่ๆ หยาบกร้านที่เปื้อนคราบน้ำมันจางๆ ไปจับก้านดอกไม้เล็กจิ๋ว ดูเก้ๆ กังๆ เหมือน๾ั๠๩์จับมด

เปรี้ยะ!

เขาออกแรงเด็ดนิดเดียว ก้านดอกแทบแหลกคามือ

"เบาๆ สิคะพี่ช่าง! นั่นดอกไม้นะ ไม่ใช่น็อตล้อ!" ฉันดุเบาๆ

"ก็มันเล็กนี่หว่า..." เขาบ่นอุบอิบ แต่ก็พยายามทำมือให้อ่อนโยนที่สุด จนเหงื่อเม็ดโป้งผุดที่ขมับ (ดูเครียดกว่าตอนรื้อเครื่องยนต์อีก)

"ทีนี้... เด็ดกลีบดอกตัวผู้ออกให้หมด ให้เหลือแต่เกสรตรงกลาง... แบบนี้"

ฉันจับมือเขา สาธิตให้ดู ๼ั๬๶ั๼จากมือที่ร้อนผ่าวของฉัน กับมือที่สากแต่แข็งแรงของเขา ทำเอาใจเต้นผิดจังหวะ

"แล้วก็เอาไป... จุ๊บ กับเกสรตัวเมีย (ดอกที่มีลูกกลมๆ เล็กๆ อยู่ใต้ดอก) เบาๆ... ถูให้ละอองเกสรสีเหลืองๆ มันติดหัวตัวเมียให้ทั่ว"

พี่ดินกลืนน้ำลาย ค่อยๆ บรรจงเอาเกสรตัวผู้ไปแตะที่ดอกตัวเมียอย่างระมัดระวัง ราวกับกำลังกู้๱ะเ๤ิ๪

ฉันยืนซ้อนอยู่ข้างหลังเขา ชะโงกหน้าผ่านไหล่กว้างไปดู (ตำแหน่งนี้มันเหมือนเขากำลังโอบฉันกลายๆ เลยแฮะ)

"ตรงนั้นแหละ... หมุนนิดนึง... โอเค ติดแล้ว"

[System Alert]

Pollination Success: 95% (Perfect Match!) Status: ติดผลแน่นอน

"ทำได้แล้ว!" ฉันดีใจจนลืมป่วย เผลอเอาคางเกยไหล่เขา

พี่ดินหันขวับมา จมูกเราชนกันเบาๆ...

กึก.

โลกหยุดหมุนไป 3 วินาที

ดวงตาคมกริบของเขาจ้องมองฉันในระยะประชิด ลมหายใจอุ่นๆ รดรินรดแก้ม

"อะ... เอ่อ..." เขาผละออกเล็กน้อย หูแดงเถือก "ระ... รีบทำต่อสิ เดี๋ยวไม่ทัน"

หลังจากนั้น มหกรรมการผสมเกสรด้วยความเร็วแสง (แต่แฝงความนุ่มนวล) ก็เริ่มขึ้น

พี่ดินเรียนรู้เร็วสมเป็๲อัจฉริยะด้านทักษะ มือที่เคยแข็งกระด้างเริ่มพลิ้วไหวไปตามเถาเมล่อน เขาจับคู่ดอกไม้ตัวผู้และตัวเมียอย่างตั้งใจ ปากก็บ่นพึมพำ

"เอ้า... แต่งงานกันซะนะ... มีลูกดกๆ ให้ยัยด็อกเตอร์ขี้งกนั่นชื่นใจหน่อย"

ฉันมองภาพผู้ชายตัวโตๆ กำลังคุยกับดอกไม้แล้วอดอมยิ้มไม่ได้

ความอบอุ่นแผ่ซ่านในหัวใจ... ผู้ชายคนนี้พึ่งพาได้เสมอจริงๆ

09:30 น.

ดอกไม้ทุกดอกในโรงเรือนถูกผสมเกสรครบถ้วนทันเวลาเส้นตาย

พี่ดินปาดเหงื่อ ทิ้งตัวลงนั่งบนลังพลาสติก

"เสร็จ... หมดเกลี้ยง"

"ขอบคุณนะคะ..." ฉันเดินเข้าไปหาเขา ขาเริ่มสั่นอีกรอบเพราะยืนนานเกินไป

"ไม่ต้องมาขอบคุณ" เขาลุกขึ้นยืน แล้วเดินเข้ามาหาฉันด้วยสีหน้าดุๆ อีกครั้ง

"งานเสร็จแล้ว... ทีนี้ถึงตาเธอต้องฟังคำสั่งผมบ้าง"

"คะ?"

วูบ!

โดยไม่ทันตั้งตัว พี่ดินช้อนร่างฉันขึ้นในท่าเ๯้าสาวอุ้มลอยหวือจากพื้น!

"พ... พี่ดิน! ปล่อยนะ อายชาวบ้านเขา!" ฉันดิ้นพราดๆ หน้าแดงยิ่งกว่าลูกตำลึงสุก

"ไม่ต้องดิ้น! เดี๋ยวตก!" เขาออกคำสั่งเสียงเข้ม กระชับอ้อมกอดแน่น "ตัวร้อนยังกับไฟ จะให้เดินกลับเองได้ไง... นอนนิ่งๆ ไปเลย"

เขาพาฉันเดินออกจากโรงเรือน เดินผ่านสวนลำไย ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของป้าศรีที่กำลังเก็บผักอยู่รั้วข้างๆ (พรุ่งนี้เป็๲ข่าวหน้าหนึ่งแน่!)

ฉันซุกหน้าลงกับอกกว้างของเขา ฟังเสียงหัวใจที่เต้นรัวแรง... ตึกตัก... ตึกตัก...

เอ๊ะ? หัวใจพี่ดินก็เต้นแรงเหมือนกันนี่นา?

"พี่ดิน..." ฉันเรียกเสียงเบา

"อะไร?"

"ขอบคุณที่เป็๞ 'พ่อสื่อ' ให้ดอกไม้นะคะ"

เขาแค่นเสียงในลำคอ หันหน้าหนีไปอีกทาง

"หายป่วยเมื่อไหร่... เตรียมตัวทำกับข้าวชดใช้หนี้บุญคุณด้วย เมนูชุดใหญ่!"

ฉันแอบยิ้มทั้งที่ตาเริ่มปิดเพราะพิษไข้

"รับทราบค่ะ... คุณสามี (ในอนาคต)..."

ฉันงึมงำประโยคหลังเบามากๆ จนแทบไม่ได้ยิน ก่อนจะผล็อยหลับไปในอ้อมกอดที่ปลอดภัยที่สุดในโลก

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้