บทที่ 9 : สื่อรักละอองเกสร (เมื่อวิศวะต้องมาเป็พ่อสื่อ)
07:30 น.
เสียงนาฬิกาปลุกแผดเสียงร้องลั่นห้อง แต่ร่างกายของฉันกลับหนักอึ้งเหมือนมีหินถ่วงไว้ที่ขาเปลือกตาบวมเป่งแทบลืมไม่ขึ้น
ความร้อนรุ่มแผ่ซ่านไปทั่วตัว... ไข้กิน จนได้!
ก็แหงล่ะ เล่นตากฝนขุดดินวันนั้น แถมยังอดหลับอดนอนเฝ้าดูอาการต้นกล้าในโรงเรือนมาตลอด 2 สัปดาห์ ร่างกายมนุษย์นะไม่ใช่เครื่องจักร
"แย่แล้ว... วันนี้วันดีเดย์..."
ฉันพยายามยันกายลุกขึ้นด้วยแขนที่สั่นเทา วันนี้คือ "วันนัดเดท" ของดอกเมล่อน! หรือวันที่ดอกตัวเมียบานพร้อมกันทั้งโรงเรือน
การผสมเกสรเมล่อน (Pollination) ต้องทำใน่เช้า 06:00 - 10:00 น. เท่านั้น ถ้าสายกว่านี้ ดอกจะหุบ และเกสรตัวผู้จะฝ่อ... เท่ากับว่าผลผลิตรุ่นนี้จะ สูญเปล่า 100%!
ฉันกัดฟันฝืนสังขาร เดินโซเซลงจากบ้าน มุ่งหน้าไปที่โรงเรือน
...
ณ โรงเรือนกรีนเฮาส์
อากาศข้างในเย็นสบายกว่าข้างนอก แต่เหงื่อกาฬของฉันกลับไหลพราก
ภาพตรงหน้าคือดงเถาเมล่อนสีเขียวขจี ดอกสีเหลืองสดใสบานสะพรั่งเต็มไปหมด รอคอยการผสมพันธุ์ แต่สายตาของฉันเริ่มพร่ามัว โลกหมุนติ้วๆ
มือฉันสั่นระริกขณะเด็ดดอกตัวผู้มา...
วูบ!
เข่าฉันอ่อนยุบลงไปกองกับพื้น ดอกไม้ร่วงหลุดมือ
"ตายล่ะ... ไม่ไหวจริงด้วย..."
ครืดดดด!
ประตูโรงเรือนถูกเลื่อนเปิดออกอย่างแรง พร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่พุ่งเข้ามา
"ขวัญ! เป็อะไรหรือเปล่า!?"
พี่ดินนั่นเอง... เขาคงเห็นว่าฉันหายหัวไป ไม่เอาข้าวเช้าไปส่ง เลยตามมาดู
เขาถลาเข้ามารับร่างฉันไว้ได้ทันก่อนหัวจะกระแทกพื้น ฝ่ามือหนาอังที่หน้าผากฉันทันที
"ตัวร้อนจี๋เลยนี่หว่า! บ้าเอ๊ย ไปหาหมอเดี๋ยวนี้!" เขาทำท่าจะช้อนตัวอุ้มฉันขึ้น
"มะ... ไม่ได้!" ฉันขัดขืนเสียงแหบพร่า ดันอกเขาไว้ "ดอกไม้... ต้องผสมเกสรก่อน... เหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงเดียว..."
"จะบ้าเหรอ! คนจะตายอยู่แล้วยังห่วงดอกไม้อีก!" พี่ดินตะคอกด้วยความเป็ห่วง
"พี่ดิน..." ฉันจับแขนเขาแน่น มองด้วยสายตาขอร้อง "นี่คืออนาคตของบ้านขวัญ... ถ้าไม่ผสมวันนี้ อีก 3 เดือนเราไม่มีเงินใช้หนี้แน่ๆ... ช่วยขวัญหน่อยนะ"
พี่ดินชะงัก มองหน้าฉันสลับกับดอกไม้สีเหลืองนับร้อยดอกที่บานรออยู่ เขาถอนหายใจแรงๆ อย่างขัดใจ
"เออ! ก็ได้! แล้วต้องทำยังไงวะ ผมซ่อมแต่เครื่องยนต์ ไม่เคยซ่อมดอกไม้!"
ฉันยิ้มอย่างอ่อนแรง พยายามทรงตัวลุกขึ้น
"ขวัญจะสอน... พี่เป็มือให้ขวัญหน่อย"
ฉันพาเขาเดินไปที่ต้นเมล่อนต้นแรก
"ขั้นแรก... เด็ด ดอกตัวผู้ (ดอกที่มีก้านยาวๆ ไม่มีกระเปาะลูกใต้ดอก) มาค่ะ"
พี่ดินยื่นมือใหญ่ๆ หยาบกร้านที่เปื้อนคราบน้ำมันจางๆ ไปจับก้านดอกไม้เล็กจิ๋ว ดูเก้ๆ กังๆ เหมือนั์จับมด
เปรี้ยะ!
เขาออกแรงเด็ดนิดเดียว ก้านดอกแทบแหลกคามือ
"เบาๆ สิคะพี่ช่าง! นั่นดอกไม้นะ ไม่ใช่น็อตล้อ!" ฉันดุเบาๆ
"ก็มันเล็กนี่หว่า..." เขาบ่นอุบอิบ แต่ก็พยายามทำมือให้อ่อนโยนที่สุด จนเหงื่อเม็ดโป้งผุดที่ขมับ (ดูเครียดกว่าตอนรื้อเครื่องยนต์อีก)
"ทีนี้... เด็ดกลีบดอกตัวผู้ออกให้หมด ให้เหลือแต่เกสรตรงกลาง... แบบนี้"
ฉันจับมือเขา สาธิตให้ดู ััจากมือที่ร้อนผ่าวของฉัน กับมือที่สากแต่แข็งแรงของเขา ทำเอาใจเต้นผิดจังหวะ
"แล้วก็เอาไป... จุ๊บ กับเกสรตัวเมีย (ดอกที่มีลูกกลมๆ เล็กๆ อยู่ใต้ดอก) เบาๆ... ถูให้ละอองเกสรสีเหลืองๆ มันติดหัวตัวเมียให้ทั่ว"
พี่ดินกลืนน้ำลาย ค่อยๆ บรรจงเอาเกสรตัวผู้ไปแตะที่ดอกตัวเมียอย่างระมัดระวัง ราวกับกำลังกู้ะเิ
ฉันยืนซ้อนอยู่ข้างหลังเขา ชะโงกหน้าผ่านไหล่กว้างไปดู (ตำแหน่งนี้มันเหมือนเขากำลังโอบฉันกลายๆ เลยแฮะ)
"ตรงนั้นแหละ... หมุนนิดนึง... โอเค ติดแล้ว"
[System Alert]
Pollination Success: 95% (Perfect Match!) Status: ติดผลแน่นอน
"ทำได้แล้ว!" ฉันดีใจจนลืมป่วย เผลอเอาคางเกยไหล่เขา
พี่ดินหันขวับมา จมูกเราชนกันเบาๆ...
กึก.
โลกหยุดหมุนไป 3 วินาที
ดวงตาคมกริบของเขาจ้องมองฉันในระยะประชิด ลมหายใจอุ่นๆ รดรินรดแก้ม
"อะ... เอ่อ..." เขาผละออกเล็กน้อย หูแดงเถือก "ระ... รีบทำต่อสิ เดี๋ยวไม่ทัน"
หลังจากนั้น มหกรรมการผสมเกสรด้วยความเร็วแสง (แต่แฝงความนุ่มนวล) ก็เริ่มขึ้น
พี่ดินเรียนรู้เร็วสมเป็อัจฉริยะด้านทักษะ มือที่เคยแข็งกระด้างเริ่มพลิ้วไหวไปตามเถาเมล่อน เขาจับคู่ดอกไม้ตัวผู้และตัวเมียอย่างตั้งใจ ปากก็บ่นพึมพำ
"เอ้า... แต่งงานกันซะนะ... มีลูกดกๆ ให้ยัยด็อกเตอร์ขี้งกนั่นชื่นใจหน่อย"
ฉันมองภาพผู้ชายตัวโตๆ กำลังคุยกับดอกไม้แล้วอดอมยิ้มไม่ได้
ความอบอุ่นแผ่ซ่านในหัวใจ... ผู้ชายคนนี้พึ่งพาได้เสมอจริงๆ
09:30 น.
ดอกไม้ทุกดอกในโรงเรือนถูกผสมเกสรครบถ้วนทันเวลาเส้นตาย
พี่ดินปาดเหงื่อ ทิ้งตัวลงนั่งบนลังพลาสติก
"เสร็จ... หมดเกลี้ยง"
"ขอบคุณนะคะ..." ฉันเดินเข้าไปหาเขา ขาเริ่มสั่นอีกรอบเพราะยืนนานเกินไป
"ไม่ต้องมาขอบคุณ" เขาลุกขึ้นยืน แล้วเดินเข้ามาหาฉันด้วยสีหน้าดุๆ อีกครั้ง
"งานเสร็จแล้ว... ทีนี้ถึงตาเธอต้องฟังคำสั่งผมบ้าง"
"คะ?"
วูบ!
โดยไม่ทันตั้งตัว พี่ดินช้อนร่างฉันขึ้นในท่าเ้าสาวอุ้มลอยหวือจากพื้น!
"พ... พี่ดิน! ปล่อยนะ อายชาวบ้านเขา!" ฉันดิ้นพราดๆ หน้าแดงยิ่งกว่าลูกตำลึงสุก
"ไม่ต้องดิ้น! เดี๋ยวตก!" เขาออกคำสั่งเสียงเข้ม กระชับอ้อมกอดแน่น "ตัวร้อนยังกับไฟ จะให้เดินกลับเองได้ไง... นอนนิ่งๆ ไปเลย"
เขาพาฉันเดินออกจากโรงเรือน เดินผ่านสวนลำไย ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของป้าศรีที่กำลังเก็บผักอยู่รั้วข้างๆ (พรุ่งนี้เป็ข่าวหน้าหนึ่งแน่!)
ฉันซุกหน้าลงกับอกกว้างของเขา ฟังเสียงหัวใจที่เต้นรัวแรง... ตึกตัก... ตึกตัก...
เอ๊ะ? หัวใจพี่ดินก็เต้นแรงเหมือนกันนี่นา?
"พี่ดิน..." ฉันเรียกเสียงเบา
"อะไร?"
"ขอบคุณที่เป็ 'พ่อสื่อ' ให้ดอกไม้นะคะ"
เขาแค่นเสียงในลำคอ หันหน้าหนีไปอีกทาง
"หายป่วยเมื่อไหร่... เตรียมตัวทำกับข้าวชดใช้หนี้บุญคุณด้วย เมนูชุดใหญ่!"
ฉันแอบยิ้มทั้งที่ตาเริ่มปิดเพราะพิษไข้
"รับทราบค่ะ... คุณสามี (ในอนาคต)..."
ฉันงึมงำประโยคหลังเบามากๆ จนแทบไม่ได้ยิน ก่อนจะผล็อยหลับไปในอ้อมกอดที่ปลอดภัยที่สุดในโลก
