ครั้งนี้เหลียนเซวียนกลับมาเร็วมาก เซวียเสี่ยวหรั่นจ่ายเงินเรียบร้อย ทั้งสองก็ออกจากเหลาสุรา
"พวกเราจะไปไหน" เซวียเสี่ยวหรั่นเงยหน้าถามเขา
"หาโรงเตี๊ยมล้างหน้าล้างตาผลัดเปลี่ยนอาภรณ์"
บนถนนมีคนไม่น้อย เหลียนเซวียนเดินอยู่ฝั่งด้านนอก ป้องกันมิให้ผู้ใดมาแตะต้องนางได้
"ไม่ไปหาพวกเสี่ยวเหล่ยหรือ" เซวียเสี่ยวหรั่นยังเป็ห่วงพวกเขาอยู่
"ไม่รีบ ที่นี่อยู่ไกลจากที่นั่นพอสมควร อีกอย่าง พวกเหลยลี่อาจจะยังอยู่บนูเา"
เหลียนเซวียนพานางไปร้านขายอาภรณ์สำเร็จรูป ทั้งสองเลือกเสื้อผ้ามาคนละสองชุดห่อกลับมา
หลังออกมาจากร้าน เซวียเสี่ยวหรั่นอุ้มอาภรณ์สองห่อใหญ่พลางเริ่มบ่นพึมพำ "ซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูปนี่แพงจริงๆ ราคาชุดหนึ่งซื้อผ้ามาตัดได้สามสี่ชุดเลยนะเนี่ย"
"เช่นนั้นก็ต้องรอมีเวลาก่อนค่อยตัดถึงจะได้" เหลียนเซวียนมองนางอย่างขบขัน ช่างเป็ตระหนี่น้อยโดยแท้
"ก็จริงอยู่ ทั้งค่าแรง ค่าเช่าร้าน ค่าคนงานทุกอย่างล้วนเป็ต้นทุน ใครจะทำการค้าที่ขาดทุนกันล่ะ"
เซวียเสี่ยวหรั่นหอบของกองใหญ่เดินตามเหลียนเซวียนไป โดยไม่ได้สังเกตว่าข้างกายมีเด็กหนุ่มอายุสิบกว่าปีคนหนึ่งลอบติดตามอยู่ สายตาจดจ้องกระเป๋าสะพายสีส้มของเธออยู่
เหลียนเซวียนกวาดมองมาด้วยแววตาเย็นะเื เด็กหนุ่มคนนั้นสะดุ้งโหยง ถอยห่างออกไปหลายก้าว ไม่กล้าตามพวกเขาไปอีก
"โฉ่วซาน เหตุใดไม่ลงมือ พวกเขามีเงินซื้ออาภรณ์สำเร็จตั้งหลายชุด เป็แพะอ้วนพีเห็นๆ" ข้างกายของเด็กหนุ่มพลันปรากฏร่างของผู้สมรู้ร่วมคิดซึ่งมีลักษณะคิ้วโจรั์ตามุสิก [1]
"กระเป๋าของสตรีผู้นั้นชอบกลนัก นางสะพายติดตัวตลอดเวลา ขโมยมาไม่ได้" โฉ่วซานส่ายหน้า "อีกอย่าง บุรุษสูงใหญ่ข้างกายนางดูท่าจะไม่เบา ดวงตาอย่างกับคมมีด มองทีข้าถึงกับสั่นไปทั้งตัว"
"น่าเสียดาย ไม่ง่ายเลยที่จะได้เจอแพะอ้วนจากต่างถิ่นแบบนี้"
"แต่ข้างแพะอ้วนมีพยัคฆ์ร้ายติดตามอยู่ เ้ากล้าไปถอนฟันจากปากพยัคฆ์ดูไหมล่ะ ตู้เหล่าเอ้อ?"
ในตลาดหรือบนถนนผู้คนคับคั่ง ย่อมเป็ถิ่นทำมาหากินของหัวขโมยเหล่านี้
เหลียนเซวียนไม่อยากมีปัญหาเพิ่ม จึงใช้สายตาปรามพวกเขาเอาไว้ก่อน
หลังจากหาโรงเตี๊ยมได้แล้ว ยังคงเหมาหมู่เรือนเล็กทั้งหลังเหมือนเดิม เหลียนเซวียนสั่งให้คนงานเตรียมน้ำอาบ ทั้งสองต่างชำระร่างกายให้สะอาด
เซวียเสี่ยวหรั่นเปลี่ยนชุดมาสวมเสื้อตัวสั้นสีปะการังแดง [2] คู่กับกระโปรงยาวสีผลซิ่ง [3] ล้วนแต่เป็ชุดสีพื้นเรียบง่ายไม่ปักลวดลาย นางผิวขาวเรือนร่างบอบบาง ยิ่งสวมใส่อาภรณ์สีแดงยิ่งขับเสริมดวงหน้าขาวผ่องอมชมพูของนาง
เหลียนเซวียนเปลี่ยนมาเป็อาภรณ์ตัวยาวสีเทาเข้มแบบเรียบๆ เขารูปร่างสูง อาภรณ์สำเร็จสั้นไปเล็กน้อย ชายอาภรณ์จึงสั้นเต่ออย่างเห็นได้ชัด
เขาจงใจปิดบังกลิ่นอายสงวนท่าทีจึงดูเรียบง่ายกว่าเดิมมาก
"ฮ่าๆ จำได้ว่าเมื่อก่อน ข้าเคยตัดชายอาภรณ์สีขาวของท่านเอามาทำเป็ผ้าเช็ดตัว อาภรณ์ของท่านตัวนี้เหมือนอาภรณ์สีขาวที่ถูกตัดชายทิ้งตัวนั้นเลย"
เซวียเสี่ยวหรั่นยิ้มอย่างมีเลศนัย "เห็นไหมล่ะ รูปร่างสูงก็ใช่ว่าจะเป็เื่ดีเสมอไป"
เมื่อเช้าเขาหัวเราะที่นางตัวเบาเหมือนเด็ก เมื่อสบโอกาสจะไม่เอาคืนสักหน่อยได้อย่างไร
เหลียนเซวียนเห็นนางหัวเราะเบิกบาน ก็เอื้อมมือไปลูบเรือนผมที่ยังชื้นอยู่บ้าง "บ่ายนี้เ้ารออยู่ในโรงเตี๊ยม อย่าออกไปไหน ข้าจะออกไปข้างนอกสักครู่ เ้ารอข้ากลับมา"
"ออกไปอีกแล้วหรือ เช่นนั้นก็กลับมาเร็วหน่อยเล่า" เซวียเสี่ยวหรั่นครุ่นคิดก่อนจะรื้อห่อผ้าไหมออกมาจากกระเป๋าสะพาย
"ตั๋วเงินในนี้ข้าช่วยตากจนแห้งแล้ว ท่านพกติดตัวไปด้วยเถอะ"
ออกไปข้างนอก จะไม่พกเงินติดตัวไปได้อย่างไร
เหลียนเซวียนยิ้มพลางรับมาแล้วใส่เข้าไปในแขนเสื้อ "เ้ารออยู่ในห้อง ลั่นดาลประตูให้ดี แล้วนอนพักสักตื่น ข้าวางกระบี่ไว้ตรงนี้ หากมีใครหน้าไหนไม่รู้จักดูตาม้าตาเรือ ก็ใช้ฟันได้เลย เกิดอะไรขึ้นข้ารับผิดชอบเอง"
นางอยู่คนเดียวในโรงเตี๊ยมเขาไม่ค่อยวางใจนัก
"รู้แล้วน่า ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น พอใจหรือยัง" เธอหาใช่เด็กไม่รู้ความเสียหน่อย เซวียเสี่ยวหรั่นผลักเขาเอาไปอย่างรำคาญเต็มที "ท่านรีบไปรีบกลับเถอะ"
เหลียนเซวียนหัวเราะ หันกลับมาลูบศีรษะของนางก่อนไป
เซวียเสี่ยวหรั่นลั่นดาลประตูอย่างดี พลางอ้าหาวหวอด กลับไปนอนบนเตียง อากาศร้อน ประกอบกับเดินทางมาครึ่งวัน ทำให้คนอ่อนเพลียได้ง่าย
เธอเอากระเป๋าสะพายกับกระบี่วางไว้ข้างหมอน เอื้อมมือไปหยิบสเปรย์พริกจากในกระเป๋ามาวางไว้ด้านข้าง เรือนผมยังเปียกชื้นอยู่ จึงสยายแผ่ไว้ที่ขอบเตียงช่วยให้แห้งเร็วขึ้น
นอนไปสักพักหนังตาเริ่มหนัก ค่อยๆ ผล็อยหลับไป
"ตึง" เสียงเบาๆ ดังขึ้น เซวียเสี่ยวหรั่นลืมตาอย่างงัวเงีย ขณะที่เธอยังไม่ตื่นสติเต็มที่ ก็พบว่าเงาคนตัวผอมเล็กเดินมาถึงข้างเตียงแล้ว
"ใคร?" เซวียเสี่ยวหรั่นใจนขวัญหนีดีฝ่อ คว้าขวดสเปรย์ตรงหัวเตียงพลิกกายลุกขึ้นมา
ชายวัยกลางคนตัวเล็กรูปร่างผอมคิ้วโจรตามุสิกยืนอยู่ไม่ไกลจากหัวเตียง ใบห้าของเขาผุดแววละล้าละลังในชั่วพริบตา แต่ไม่ช้า ก็ยิ้มอย่างสงบ "ข้าน้อยเป็คนงานในโรงเตี๊ยม ก่อนหน้านี้เคาะประตูห้องแล้ว แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับ นึกว่าลูกค้าเกิดเื่อะไร จึงผลักประตูเข้ามาตรวจสอบ ท่านลูกค้าโปรดอย่าเข้าใจผิด"
ขณะกล่าววาจา สายตาก็กวาดมองไปทั่วจนกระทั่งเห็นกระเป๋าสีส้มบนหัวเตียง ในนั้นมีตั๋วเงิน ยามนางชำระค่าสินค้า เขากับโฉ่วซานต่างก็เห็น
กว่าจะเจอแพะอ้วนสักตัวไม่ง่าย เขาไม่อาจตัดใจวางมือ ดังนั้นจึงสะกดรอยตามพวกเขามา เ้าเคราดกผู้นั้นออกไปข้างนอก ไม่อยู่โรงเตี๊ยม มีแค่สตรีผอมบางอยู่ห้องพักเพียงคนเดียว โอกาสดีเช่นนี้ เขาจะปล่อยไปได้อย่างไร
โฉ่วซานไม่มาก็ดี ตนเองจะได้ฮุบไว้คนเดียว
"คนงานอย่างเ้าเข้ามาในห้องแขกตามอำเภอใจได้อย่างไร รีบออกไปนะ" เซวียเสี่ยวหรั่นรู้ว่านี่คือนักย่องเบา
ประตูห้องลงดาลไว้แท้ๆ กลับเปิดเข้ามาได้ เธอไม่ใช่คนเขลา จะเดาไม่ออกได้อย่างไร บุรุษหน้าตาไม่น่าไว้วางใจตรงหน้าก็คือโจรดีๆ นี่เอง
แต่เธอให้หาทางลงให้ตามที่เขากล่าวอ้างแล้ว ถ้าเขายอมออกไปย่อมเป็การดีที่สุด
เหลียนเซวียนไม่อยู่ อย่างไรเสียเธอก็เป็แค่สตรีอ่อนแอคนหนึ่ง หากสามารถเลี่ยงการปะทะได้ก็อย่ามีเื่เลยดีกว่า เธอจ้องบุรุษร่างผอมเขม็ง พลางหันปากขวดสเปรย์เล็งไปที่เขา
น่าเสียดาย โจรขวัญกล้าเทียมฟ้า กระเป๋าใส่ตั๋วเงินอยู่ตรงหน้า เขาจะละทิ้งได้อย่างไร
คนยอมตายเพราะเงิน ปักษายอมตายเพื่ออาหาร
บุรุษกวาดมองสตรีงดงามอรชรบนเตียง ความกระสันผุดวาบในแววตา แต่เมื่อชั่งน้ำหนักในใจระหว่างเงินกับหญิงงาม ในที่สุดเงินทองก็เป็ฝ่ายเหนือกว่า
ส่วนของประหลาดในมือของแม่นางคนสวยคือสิ่งใด ไม่อยู่ในสายตาเขาอยู่แล้ว
บุรุษหัวเราะแห้งๆ แสร้งทำเป็เอี้ยวศีรษะไป แต่กลับยื่นมือไปคว้ากระเป๋าสีส้มที่หัวเตียง
เสียง "ฟืดๆ" ดังขึ้นสองครั้ง ละอองสีแดงพ่นเข้าใส่หน้าของบุรุษผู้นั้น
"อ๊าก..."
เสียงร้องโหยหวนดังมาจากในห้อง ชายร่างผอมปิดตาดิ้นทุรนทุรายกับพื้น ในอากาศมีกลิ่นพริกฉุนแสบจมูกรุนแรง
เซวียเสี่ยวหรั่นกลั้นหายใจไว้ ฉวยโอกาสคว้ากระบี่และกระเป๋าสะพายจากหัวเตียง หลังจากนั้นก็ะโลงจากเตียง วิ่งออกจากห้องพักไปทันที ไม่ห่วงกระทั่งสวมรองเท้า
พอพ้นจากประตูห้อง ก็วิ่งออกไปยังประตูโค้งของหมู่เรือน สูดหายใจลึก ก่อนจะโก่งคอร้องะโสุดแรงเกิด
"ใครก็ได้ มาช่วยจับโจรเร็วเข้า"
...
[1] คิ้วโจรั์ตามุสิก หมายถึง คนที่มีหน้าตาไม่น่าไว้วางใจ ดวงตาเล็กเหมือนตาของหนู สายตาล่อกแล่ก คิ้วบางและสั้น
[2] สีปะการังแดง คือสีแดงอมส้ม หรือ โรสโกลด์
[3] สีผลซิ่งคือสีส้มอมเหลือง หรือสีเนื้อ
