ไท่จื่อชำเลืองสายตาเ็าไปทางศพทั้งสองร่างเขาไม่สนใจความเป็ความตายของพวกผู้หญิง
ทว่าเขาไม่อาจกักเก็บสีหน้าของตนเองในเวลานี้ได้
“ท่านอ๋องร่างกายหม่อมฉันยังไม่แข็งแรงดี ช่วยพยุงหม่อมฉันไปพักที่ห้องข้าง ๆได้หรือไม่เพคะ”
หลินเมิ้งหยายกมือปิดปากราวกับว่ามิอาจทนเห็นศพทั้งสองได้
หลงเทียนอวี้รีบเข้าไปพยุงร่างหลินเมิ้งหยาท่ามกลางสายตาเ็าของไท่จื่อ เขาพานางไปยังห้องเล็กด้านข้าง
“ชิชิไท่จื่อแสดงออกได้อย่างน่าชื่นชมจริงเชียว เ้าเด็กน้อยเหตุใดเ้าจึงนึกแผนร้ายกาจเช่นนี้ขึ้นมาได้? ”
ทันทีที่เข้ามาภายในชิงหูที่ไม่รู้ว่าโผล่มาั้แ่ตอนไหนรีบเข้ามาชิงร่างหลินเมิ้งหยาออกจากหลงเทียนอวี้ ก่อนจะเข้าไปประคองร่างนาง
สีหน้าของคนถูกผลักอย่างหลงเทียนอวี้เคร่งขรึมไปในทันทีแต่เมื่อเห็นสีหน้าสุขุมลุ่มลึกของหลินเมิ้งหยาสีหน้าของเขาจึงกลับมาเป็ปกติดังเดิม
“เ้าลองเดา”
หลังจากทิ้งคำตอบที่ทำให้ชิงหูแทบกระอักเป็เืแล้วหลินเมิ้งหยายกผ้าคลุมสีดำขึ้นห่มร่าง
ทุกคนตามไท่จื่อกลับไปยังงานเลี้ยงเรียบร้อยแล้ว
คาดว่าจะต้องถูกไท่จื่อขู่เข็ญอย่างแน่นอน
“เ้าจะไปไหน? ”
หลงเทียนอวี้เอ่ยถามทว่าหลินเมิ้งหยากลับหยักยิ้มเล็กน้อยริมฝีปากสีแดงดั่งลูกเชอรี่เอ่ยออกมาเพียงสองพยางค์
“ความลับ”
ยืมแสงจากพระจันทร์พาชิงหูและป๋ายซูเดินไปด้านหลังสวน
เมื่อเดินพ้นโค้งนางได้เห็นเงาหนึ่งแอบอยู่ด้านหลังูเาปลอมกลางสวน
“ออกมาเถิดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้าต้องขอบใจเ้ามาก”
แสงจันทร์สาดส่องร่างบางเดินออกมาจากหลังูเาปลอม ใบหน้างดงามเรียวเล็กรูปไข่ขาวซีด
“สองคนนั้นตายอย่างไร? ”
เสียงของหญิงสาวอ่อนโยนเป็อย่างมากทว่ากลับทำให้ขนแขนลุกชัน
“ถูกไท่จื่อฆ่าตายเองกับมือเขาใช้ดาบฟันตายในฉับเดียว”
หลินเมิ้งหยาลอบสำรวจใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้าความสงสัยเกิดขึ้นในใจ
ภายในห้องที่ถูกขังนางพบว่าชายคนนั้นคือหลงเทียนอวี้
หลังจากตรวจสอบดูแล้วจึงพบว่าเขาถูกหมี่กุ่ยเซียงทำให้สลบไป
ยาพิษชนิดนี้ไร้สีไร้กลิ่นแม้แต่เข็มเงินก็ไม่อาจนำมาทดสอบได้ ยิ่งไปกว่านั้น หากคนธรรมดาถูกวางยาเข้าคงจะสลบไปนานหลายวัน
แต่ถ้าหากคนที่มีกำลังภายในเผลอกินเข้าพวกเขาจะไม่อาจใช้กำลังภายในได้ไปสักระยะ
สิ่งที่ทำให้หลินเมิ้งหยายิ่งสงสัยไปกว่านั้นคือภายในห้องนั้นมีกลิ่นยาปลุกกำหนัดอ่อนๆ
หากสูดดมเข้าเช่นนั้นจะเกิดภาพหลอน
โชคดีที่นางพกยาแก้พิษติดตัวเอาไว้เสมอดังนั้นจึงสั่งให้ป๋ายซูนำตัวหลงเทียนอวี้ออกมา
“เช่นนั้นก็ดีแล้วเท่านี้ก็ถือว่าข้าแก้แค้นให้ลูกของข้าได้สำเร็จ ขอบคุณท่านมาก ชายาอวี้”
หญิงคนนั้นเอ่ยออกมาด้วยความซาบซึ้งใจหลินเมิ้งหยาพยักหน้าลง แต่มิได้เอยอันใด
หลังจากที่นางพาตัวหลงเทียนอวี้ออกมาแล้วผู้หญิงคนนี้จึงปรากฏตัวออกมา
บางทีอาจเพราะนางกำลังซ่อนตัวดังนั้นจึงได้เห็นหลินเมิ้งหยาพาตัวหลงเทียนอวี้ออกมา
ทว่าผู้หญิงคนนี้แปลกประหลาดเป็อย่างมาก ราวกับว่านางรู้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง
ไม่เพียงนำยาถอนพิษมาแต่ยังช่วยหลินเมิ้งหยาแสดงละครอีกด้วย
ชิงหูชำนาญในการเลียนเสียงผู้อื่นดังนั้นหลินเมิ้งหยาจึงสั่งให้เขาแสดงเป็ขันทีของไท่จื่อเพื่อไปแจ้งข่าวให้กับฮูหยินอัน
จากนั้นเขาตีฮูหยินอันจนสลบ ก่อนนะกรอกยาชนิดเดียวกันเข้าไป
สุดท้ายเขาจึงโยนยามเฝ้าประตูที่ถูกกรอกยาแล้วเข้าไปในนั้น
ผู้หญิงคนนี้บอกกับหลินเมิ้งหยาว่าอันที่จริงแล้วเื่ทั้งหมดนี้ล้วนเป็แผนการที่ไท่จื่อวางเอาไว้เพื่อบีบให้หลงเทียนอวี้แต่งงานกับองค์หญิงิเยว่
แต่ไม่มีใครรู้ว่านางจะแอบหักหลังทุกคน
“ไม่จำเป็ข้าเพียงแต่ร่วมมือกับท่านเท่านั้นเหตุเพราะเ้าบอกว่าเ้าอยากเป็หนอนบ่อนไส้ในจวนไท่จื่อให้กับข้าเช่นนั้นข้าขอถามเ้าหน่อยว่า ตกลงแล้วเ้าเป็ใครกันแน่? อีกอย่างเหตุใดจึงอยากแก้แค้นฮูหยินอัน? ”
ภายใต้แสงจันทร์ผู้หญิงคนนั้นหยักยิ้มขมขื่น
ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความทุกข์ระทมแต่ถึงกระนั้นก็ยังส่งเสียงเล่า
“ข้าเป็หนึ่งในชายารองของไท่จื่ออีกทั้งยังเป็ลูกสาวคนหนึ่งของใต้เท้าจาง เ้าคงจะเคยได้ยินชื่อของข้าใช่หรือไม่? ”
ใต้เท้าจาง?สมองของหลินเมิ้งหยารีบประมวลผล ก่อนจะนึกถึงหญิงสาวที่มีใบหน้าเงียบขรึมและไม่พูดอะไรแต่มักจะยืนอยู่ด้านหลังไท่จื่อทุกครั้งออก
มองผู้หญิงตรงหน้านางคือลูกสาวแท้ ๆ ของใต้เท้าจางอย่างนั้นหรือ?
แต่เคยได้ยินว่าชายารองจางได้รับความรักและความเอ็นดูเป็อย่างมากเหตุใดจึง...
“เมื่อห้าปีก่อนข้าอภิเษกกับไท่จื่อและกลายมาเป็ชายารองของเขา ตอนแรกไท่จื่อรักและเอ็นดูข้ามากแต่เมื่อผู้หญิงคนนั้นเข้ามา ทุกสิ่งทุกอย่างพลันเปลี่ยนไป”
หลินเมิ้งหยาพยักหน้าลงดูเหมือนจะหมายถึงชายารองตู๋กู
ก็จริงตอนนี้ไม่ว่าไท่จื่อเสด็จที่ใด นางก็มักจะตามเสด็จไปด้วย
เพราะแบบนี้ชายารองคนอื่นๆ จึงรู้สึกเดียวดายอย่างนั้นสินะ
เกรงว่าผู้หญิงตรงหน้านางเองก็เป็เช่นนั้น
“ข้าทำใจไว้อยู่แล้วเมื่อรู้ว่าต้องอภิเษกสมรสกับไท่จื่อข้าอยู่อย่างสงบนิ่งมาโดยตลอดคิดมาเสมอว่าต้องปกป้องดูแลคนในตระกูลและตำแหน่งของข้าเอาไว้ให้ได้เมื่อครึ่งปีก่อนข้าตั้งครรภ์ ไท่จื่อดีใจเป็อย่างมากแต่ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าลูกที่น่าสงสารของข้าจะนำมาซึ่งความเกลียดชังของผู้หญิงคนนั้น”
เมื่อพูดถึงลูกตัวเองสีหน้าของชายารองจางเผยให้เห็นถึงความเสียใจ
แม้หลินเมิ้งหยาจะไม่เคยเป็แม่คนแต่นางพอจะเข้าใจความรู้สึกนั้น
ดังนั้นนางจึงเดาบทสรุปได้แล้ว
ชายารองตู๋กูกับฮูหยินอันจะต้องร่วมมือกันทำร้ายลูกในท้องของชายารองจางอย่างแน่นอน
ฉะนั้นนางจึงผูกใจเจ็บเช่นนี้
ที่ใดมีมนุษย์ที่นั่นย่อมมีา โดยเฉพาะในจวนที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้
“วันนี้ข้าทำเพื่อแก้แค้นให้กับลูกของข้าไท่จื่อถูกพวกนางปิดหูปิดตา ข้ารู้ว่าเ้าเองก็เหมือนกันกับข้าพวกเราล้วนตกอยู่ในแผนร้ายของนางทั้งสิ้น ฉะนั้นข้าจึงอยากร่วมมือกับเ้าเพื่อกำจัดผู้หญิงชาติชั่วคนนั้นเสีย! ”
ไร้เดียงสา!เมื่อได้เห็นความลุ่มหลงในดวงตาของนางเวลาพูดถึงไท่จื่อ
หลินเมิ้งหยารู้ได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้กำลังถูกความรักครอบงำ
ดวงตาเผยให้เห็นร่องรอยของความเสียดายแต่ชายารองจางเป็คนเลือกหนทางเส้นนี้เอง
ตัวนางเป็เพียงน้ำที่จะพาเรือแล่นไปเท่านั้น
“ได้ข้าจะร่วมมือกับเ้า แต่ไท่จื่อจะต้องสงสัยสนมในจวนอย่างแน่นอนหลังจากที่เ้ากลับไปแล้ว อย่าลืมแอบเอารองเท้า ชุดกระโปรงออกไปซักให้สะอาดระวังอย่าให้หลงเหลือร่องรอยใดๆเท่านี้เ้าจะมีโอกาสทำให้ไท่จื่อได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของนาง”
หลินเมิ้งหยาเอ่ยออกมาด้วยความปรารถนาดีเพื่อทำให้ชายารองจางคิดว่านางเป็คนดี
ชายารองจางขอบคุณหลินเมิ้งหยาด้วยความซาบซึ้งใจก่อนจะหายไปในความมืดอีกครั้ง
“เ้าเด็กน้อยเ้าเชื่อนางอย่างนั้นหรือ? ”
ชิงหูที่ยืนเงียบตลอดเวลาเอ่ยถาม
“เชื่อเหตุใดจึงไม่เชื่อเล่า?ข้ายังเชื่ออีกด้วยว่านาง้าชิงความรักจากไท่จื่อคืนมา”
หลินเมิ้งหยาจัดผ้าคลุมของตนเองอีกครั้งก่อนจะเดินกลับ
ทว่านางมิได้กลับไปยังห้องเดิมที่จากมา แต่กลับเดินลัดเลาะเส้นทางเล็ก ๆจนกระทั่งมาถึงเรือนไม้หลังเล็กที่ไม่โดดเด่นหลังหนึ่ง
ป๋ายซูยกโคมไฟสูงขึ้นภายในคือคนที่ควรจะเป็หญิงสาวร่วมสวาทในห้องนั้น
องค์หญิงิเยว่กำลังนอนหลับสนิท
“หลับสบายเสียจริงเ้าจิ้งจอกเ้าเล่ห์ ตอนนี้ถึงตาเ้าแล้ว”
ชิงหูหัวเราะคิกคักดวงตาที่กำลังมองหลินเมิ้งหยาหรี่เล็กลง
“เ้านี่หนาช่างเป็ผู้หญิงที่ร้ายกาจยิ่งนัก”
ประโยคตำหนิติเตียนนี้เปรียบเสมือนคำชม
ไม่พูดพร่ำทำเพลงชิงหูอุ้มิเยว่แล้วะโหายไป
หลินเมิ้งหยาเชื่อใจในการทำงานของชิงหูที่สุด
เดินกลับไปยังห้องพักผ่อนเล็กๆ กับป๋ายซู
ทันทีที่ก้าวเข้าไปแขนกำยำสองข้างวาดขึ้นมารั้งตัวนางเข้าหาอ้อมกอดอันแสนอบอุ่น
“หนาวหรือไม่ดูสิ มือของเ้าเย็นหมดแล้ว”
เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นที่้าศีรษะร่างกายของหลินเมิ้งหยาแข็งทื่อ
ตอนที่กลับมาได้ัักับความเย็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเขาสังเกตเห็นด้วยอย่างนั้นหรือ
“เสื้อขนสัตว์ที่สั่งทำเอาไว้ให้เ้าถูกส่งมาใกล้จะถึงเมืองหลวงแล้วหากอากาศเย็น ก็จงนำมันมาใส่เถิด”
หัวใจเต้นระรัวลูกตาสีดำเปล่งประกายราวไข่มุกสั่นไหว
ทว่าขนตางอนยาวกลับปิดบังความรู้สึกที่แท้จริงของนางเอาไว้
“หม่อมฉันไม่หนาวตายง่ายๆ หรอกเพคะ หากใส่เสื้อขนสัตว์ั้แ่ตอนนี้เช่นนั้นฤดูหนาวหม่อมฉันคงต้องขลุกตัวอยู่ใต้ผ้านวมทั้งวัน”
มิรู้ว่าเพราะร่างกายของตนเองหรือยาพิษที่ยังหลงเหลืออยู่ในร่างกาย
ทั้งที่เพิ่งจะถึงปลายฤดูหนาวแต่ร่างกายของนางกลับสั่นสะท้านเพราะความหนาวเย็น
แม้จะมีเสื้อผ้ากั้นกายเนื้อของทั้งคู่ทว่าหลินเมิ้งหยากลับรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิอุ่น ๆ จากร่างกายของหลงเทียนอวี้ได้
กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ส่งออกมาจากร่างกายของเขาทำให้หลินเมิ้งหยารู้สึกสงสัย
“ท่านอ๋องใช้เครื่องหอมชนิดใดหรือเพคะกลิ่นหอมเหลือเกิน”
ดื่มด่ำกับความอบอุ่นที่เขาส่งมอบให้ก่อนจะทำจมูกฟุดฟิดเพื่อสูดดมกลิ่นกายของเขาเหมือนลูกสุนัขตัวน้อย
หลงเทียนอวี้หยักยิ้มเล็กน้อยโอบกอดหญิงสาวร่างบางตรงหน้าเอาไว้จนมิด
ราวกับ้าจะฝังร่างกายของนางอยู่ภายในอ้อมกอดของตนเอง
“ตอนเด็กข้ามักจะฝันร้ายหมู่เฟยจึงสั่งให้คนนำกลิ่นหอมที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมาให้ข้า หากเ้าชอบข้าจะมอบให้เ้าดีหรือไม่? ”
“ดีเพคะ”
อ้าปากหาวเล็กน้อยหลินเมิ้งหยาหลับไปในอ้อมกอดของหลงเทียนอวี้
ฟังเสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอกันของนางใบหน้าหยักยิ้มของหลงเทียนอวี้เผยให้เห็นถึงความกังวล
“พระชายาหลับลึกแบบนี้ั้แ่เมื่อไหร่กัน? ”
ป๋ายจื่อที่อยู่ข้างๆ ถูกท่านอ๋องถามกระทันหัน นางจึงสะดุ้ง
นางนับนิ้วก่อนจะเอ่ยตอบ
“ดูเหมือน...นับั้แ่ตอนที่มีอาการป่วยเ้าค่ะหนู่ปี้เคยถามหมอหลวงแล้ว หมอหลวงบอกว่าหัวใจของนายหญิงได้รับาเ็ไม่สามารถทำงานหนักได้ ดังนั้นจึงจำเป็ต้องนอนพักสักเล็กน้อยทุกวัน”
คำพูดของป๋ายจื่อยังมิอาจทำให้หลงเทียนอวี้คลายความกังวล
เมื่อก่อนหลินเมิ้งหยาเป็คนระมัดระวังตัวเป็อย่างมาก
หลายวันที่ผ่านมาเมื่อถึงเวลานอน เขามักจะลอบเข้าไปอยู่ข้างเตียงของนาง
ทุกครั้งที่ได้เห็นใบหน้าไร้พิษสงยามหลับของนางหลงเทียนอวี้มักรู้สึกสบายใจ
แต่มีครั้งหนึ่งที่เขาชนกับเชิงเทียนเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจทว่านางกลับไม่รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย
หวังว่าเหตุผลที่เป็เช่นนี้ก็เพราะร่างกายของนาง้าพักผ่อน
ภายในห้องพักผ่อนเล็กหลงเทียนอวี้กอดนางเสมือนกอดอัญมณีมีค่า เขาไม่แม้แต่จะเปลี่ยนท่าทาง
หลินเมิ้งหยายังคงหลับสนิทอีกทั้งยังกอดแขนของเขาเอาไว้
