‘คุณหนูเมายาต้มแต่หัววัน พวกเ้าระวังตัวด้วย อย่าได้ขัดใจนางเด็ดขาด’
บ่าวรับใช้กระซิบบอกต่อกันไป จนได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ กระแทกบนพื้นไม้ บ่าวหญิงชายห้าคนบนระเบียงเรือนสะดุ้ง ก้มหน้าเนื้อตัวสั่นเทา ไม่กล้าสบตาเ้าของเรือน โชคดีที่นางแค่เดินผ่านพวกเขาไปไว ๆ
ไม่มีใครในวงสนทนาโดนระบบสุ่ม! นำตัวไปขังในห้องใต้ดิน ให้อดข้าวอดน้ำสักสามวัน โทษฐานนินทาเ้านาย
‘เยว่ฉี’ นางเอกนิยายเื่นี้แสนร้ายกาจ โดยปกติวิสัยของนาง ร้ายก็ต่อเมื่อใครขัดใจนาง ส่วนใหญ่นางใช้ชีวิตหมกมุ่นอยู่กับการปรุงยาและวิชาแพทย์ บ้านเมืองมาเป็อันดับหนึ่ง กระทั่งนางได้พบชายผู้เป็ที่รักอย่างคุณชายหลิว
คุณชายสามสกุลจางสุขุมเยือกเย็น สติปัญญาฉลาดหลักแหลม ว่าที่บุตรเขยอันดับหนึ่งของท่านหมอหลวง าุโตระกูลหยางเป็แม่สื่อให้ทั้งสองได้พบกัน หลังคุณชายสามสอบข้าราชการ ดำรงตำแหน่งเป็ผู้ตรวจการ
“คุณหนูรอง ใต้เท้าหลิวมาถึงแล้วเ้าค่ะ ท่านหมอหลวงขอเจรจากับเขาสักประเดี๋ยว”
‘เื่ข้าแน่ ๆ ล่ะ’
เหม่ยฉีอึดอัดใจ ไม่รู้บิดาบอกเื่นางเปลี่ยนใจจะไม่แต่งงานกับคุณชายแล้วหรือไม่ ในเมื่อซูหนี่ว์ปลุกนางั้แ่รุ่งเช้าให้แต่งตัว เกล้าผมมัดแกละน่ารัก เครื่องประดับเต็มยศทั้งต่างหู แหวน ปิ่นปักผมอย่างผู้ดี
“ใต้เท้าหลิวหายหน้าหายตาไปร่วมสองเดือน แต่ให้ม้าเร็วส่งสารมาหาคุณหนูรองตั้งหลายฉบับ”
“จดหมาย...” นางเงียบ มือหยิบกล่องไม้ฉลุลายบุปผชาติงาม เปิดมันออกแล้วขยุ้มเศษกระดาษเป็หยิบข้าวสาร นางกำกระดาษเปื้อนหมึกจนยับเยิน “จดหมายรักผ่านนักกวี นี่เขาแต่งมันด้วยตัวเองไหมนะ?”
“จดหมายให้คนรัก ย่อมเขียนด้วยตนเอง ทำไมคุณหนูจึงคิดเช่นนั้นเ้าคะ?” ซูหนี่ว์มีสีหน้าสงสัย ซิงอี ซีซวนยกน้ำชาและเครื่องประดับสวยงามเข้ามาในห้องนอน ลองบนเกล้าผมคุณหนู อันนี้สวยอันนี้ดี คุณหนูรองสวมอะไรก็งาม ก่อนที่พวกนางจะหันไปสนใจจดหมาย
“ข้าหลวงผู้ตรวจราชการติดภารกิจเดินทางไปต่างแคว้น เพื่อตรวจตราเื่การบริหารงาน คุณชายสามงานยุ่งวุ่นวายเท่าไร ไม่เคยละเลยคุณหนูรอง” ซีซวนชื่นชมท่านผู้ตรวจการเป็อย่างมาก พอ ๆ กับสาวใช้คนอื่น อาจเพราะพวกเขาได้รับของฝากมากมายเป็น้ำใจ เหม่ยฉีแค่นหัวเราะด้วยความที่นางรู้... เื่ติดสินบนบ่าวรับใช้ในเรือนของเขา
“องครักษ์คนสนิทของเขาช่วยเขียนจดหมายพวกนี้มากกว่ากระมัง ตัวเขารึจะมีเวลา ขึ้นเกี้ยวเดินทางข้ามเมืองแสนเหน็ดเหนื่อย ท่าทางจะหลับเป็ตาย”
“คุณหนูรองไปได้ข่าวมาจากไหน? จริงหรือไม่เ้าคะ” ซูหนี่ว์ไม่เชื่อหู ซิงอีให้น้ำหนัก
“ข้าว่าฟังดูแปลก ๆ ปกติท่านออกจะชื่นชมท่านผู้ตรวจการ ท่านละเมอหาคุณชายสามวันละสิบเวลาได้”
“ก็เหมือนการที่บ่าวรับใช้เอาใจข้าวันละหลายเวลา พวกเ้าคาดการณ์ว่าข้าควรอารมณ์ดี แต่ไม่เลย เ้ากำลังเข้าใจผิด ข้าเป็เยว่ฉีคนใหม่แล้ว” นางหัวเราะบ่าวรับใช้แล้วเดินออกจากห้องไป
เมื่อเช้านี้ระหว่างที่นางขลุกอยู่ในโรงปรุงยากับบิดา นางหยิบตำราจากชั้นวางตำราทำจากไม้ไผ่มานั่งอ่านทบทวน หน้าโรงปรุงยาในยามเซิน[1] บ่าวผู้จงรักภักดีวิ่งแจ้นมาแจ้งข่าวเื่บุตรชายเสนาบดีคนสำคัญแห่งราชสำนักต้าเหลียงเข้าเมืองมาแล้ว นางนั่งขมวดคิ้วนึกอยู่นานว่าใคร
“เยว่ฉี... ข้ากลับมาแล้ว!” เสียงที่ดังขึ้นเรียกคุณหนูรองให้มองขวับตาม คุณชายหลิวมาพบนางถึงระเบียงเรือนติดกับสวนด้านหน้าและห้องนอนนาง ไล่บ่าวที่ทำหน้าตากรุ่มกริ่มมีลับลมคมใน เพื่อออกไปต้อนรับแขก
“คารวะใต้เท้าหลิว ไม่พบกันนานทีเดียว” พูดพลางก้าวขาเดินตรงไปนั่งบนม้าหินในสวน คุณชายสามในชุดสีฟ้าครามนั่งลงข้างนาง ใบหน้าหล่อเหลาระรื่นดีใจ ทว่าพอเขาจะก้มตัวลงกอดนาง พลันลุกขึ้นอย่างระวัง นางไม่ยอมให้เขาแตะต้องแม้ปลายเส้นผม คุณชายหลิวชะงักนิ่ง
“เยว่ฉี... เ้าโกรธข้า”
“มิบังอาจเ้าค่ะ”
“เ้าโกรธข้าแน่นอน เยว่ฉี ข้าขอโทษเ้าก็ได้ ข้า...”
“ข้าไม่ได้โกรธท่าน ตรงข้ามเสียอีก ข้ากำลังคิดถึงท่าน มีเื่สำคัญจะคุยกับท่านพอดี”
“อ้อ... เ้าไม่โกรธข้าก็ดี ข้าเดินทางกลับต้าเหลียงล่าช้ากว่ากำหนดการ รู้สึกผิดกับเ้าไม่น้อย”
ถึงแม้ว่าระยะห่างระหว่างเขาและนางเป็เครื่องบ่งชี้ ทั้งั์ตาดำขลับลุ่มลึกแลดูสุขุม นางมิได้มองเขาด้วยแววตาหลงใหลอีกต่อไป
ยามดวงตะวันกลมโตเบื้องหน้าสายตาลับคล้อยไปอย่างเชื่องช้า นางถือโอกาสเฝ้ามองใบหน้าหล่อเหลาอันน่าหลงใหล ริมระเบียงเรือนไม้ของสกุลจาง ใต้เท้าหลิวหาได้รู้ไม่ว่าทำให้สตรีทั่วทั้งเมืองต้าเหลียงหวั่นใจเท่าไร
เหม่ยฉีได้รับการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของคุณหนูรอง แถมนางเองก็ชอบบุรุษรูปงาม
ทว่า...
นางไม่ใช่เยว่ฉี!
‘ฮึ... น้ำเน่าเกินไปแล้วล่ะ!’
“ข้าเคยรับปากเ้าว่าจะโยกย้ายหน้าที่การงาน จะได้มีเวลาอยู่กับเ้ามากขึ้น ขอให้เ้ารอข้าสักหน่อย ข้ากำลังจะได้เป็ผู้ตรวจการแผ่นดิน ทำงานในราชสำนัก”
“ไม่มีอะไรการันตีว่าท่านจะได้ตำแหน่งนั้น การแข่งขันสูงเกินไป”
“ถ้าหากว่าไม่ได้จริง ๆ เ้ากับข้าตบแต่งเป็สามีภรรยากันเมื่อไร ข้าเดินทางไกล จะพาภรรยาไปด้วยก็ย่อมได้”
“จะให้ข้าขึ้นเกี้ยวเดินทางไปกับสามี ท่านไปทำงาน คงไม่สะดวก”
“ไปได้”
“ไม่ดีแน่...”
“เมื่อก่อนเ้าและบิดาเดินทางไปกับข้า เ้าชอบไปเก็บสมุนไพร หาข้อมูลการปรุงยา เ้าไม่เคยบ่ายเบี่ยงเกี่ยงงอน ข้าดีใจนักที่ได้พบเ้า ฮ่องเต้ทรงพระกรุณา ให้ข้ามาเยี่ยมเยียนโรงปรุงยา...”
บุรุษระลึกความหลัง! เหม่ยฉีกลอกตาไปมา ฟังเขาพร่ำพรรณนาเื่ความรักใคร่อันมากประมาณที่มีต่อนาง เขาคิดถึงนางทุกลมหายใจเข้าออก นางปิดปากเงียบ ไม่พูดออกไปว่าเขาน่ะไม่ใช่พระเอกของเื่ด้วยซ้ำ ต่อให้เขาจะได้แต่งงานกับนาง เป็สามีของนาง
‘นี่มันนิยายแนวตำราแพทย์ บิดาและบุตรสาวค้นพบความลับของยาสมุนไพรหลากหลายชนิด ได้โปรดเข้าใจข้าด้วย อีตาคุณชายหลิว!’
“ท่านหมอหลวงเปรียบเสมือนผู้มีพระคุณของข้า ให้ความเคารพท่านพ่อของเ้า หวังให้เ้าปรองดองเช่นครอบครัวเดียวกัน ข้าผูกพันกับเ้า...”
“เดี๋ยวนี้ข้าไม่ชอบเดินทางไกล ข้าไม่สนใจเื่ชายหญิง ขอท่านอย่าได้เดือดร้อนเพราะข้า ไม่ใคร่บังคับจิตใจผู้ใด ข้าเพียง...” นางเงียบไป นึกทีเด็ดขึ้นได้เพราะว่าเป็แก่นเื่ สำคัญที่สุดในประเด็นนี้ “ปรารถนาการเป็ข้ารับใช้แผ่นดิน หัวใจข้า ร่างกายข้า ยินดีเสียสละทั้งหมดนั้นเพื่อต้าเหลียง ต่อแต่นี้ไปขอให้เราคงไว้ซึ่งมิตรภาพที่ดีต่อกันฉันพี่น้อง เป็มิตรสหายย่อมดีกว่า หากมีบุตรสาวผู้ดีบ้านไหนรับเงื่อนไขของท่านได้ ขอท่านอย่าได้ลังเลใจที่จะผูกสัมพันธ์กับนาง ข้าลาเ้าค่ะ ใต้เท้า”
เหม่ยฉียกมือทำความเคารพอดีตคนรักอย่างนอบน้อม หลังตัดสัมพันธ์อย่างไม่มีเหลือเยื่อใย นางลุกขึ้นเดินหายเข้าโรงปรุงยาไป คุณชายหลิวยืนนิ่งอึ้ง ทั้งสับสน เศร้าเสียใจเพราะคำพูดจาโหดร้ายของนาง
ให้ตายเถอะ! นางทะลุมิติเข้ามาในนิยายเพื่อบอกเลิกหนุ่มจีนโบราณหรือนี่
แต่นางไม่ชอบบุรุษรูปลักษณ์สะอาดสะอ้านเกินจำเป็ ท่าทางหน่อมแน้มอย่างนี้ปกป้องนางได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ต่อให้เป็ผู้ตรวจการอาจจับกระบี่เป็ เขาดูเรียบร้อยมีมารยาทกว่านางผู้เป็สตรีขี้เล่นเสียอีก
นักเขียนผู้นี้ช่างเืเย็นเสียจริง
ไม่ใช่สิ...
นางต่างหากเล่าเหม่ยฉี นางเอกเืเย็น
แถมเื่มากจะเลือกพระเอกของนางเองด้วยอีกต่างหาก!
[1] ยามเซิน 申 15.00 – 16.59 น.
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้