‘คุณหนูเมายาต้มแต่หัววัน พวกเ้าระวังตัวด้วย อย่าได้ขัดใจนางเด็ดขาด’
บ่าวรับใช้กระซิบต่อกันไป จนได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ กระแทกบนพื้นไม้ บ่าวหญิงชายห้าคนบนระเบียงเรือนสะดุ้ง ก้มหน้าเนื้อตัวสั่นเทา ไม่มีใครกล้าสบตาคุณหนู โชคดีที่นางแค่เดินผ่านไปไว ๆ
ไม่มีใครในวงสนทนาโดนระบบสุ่ม! นำตัวไปขังในห้องใต้ดิน ให้อดข้าวอดน้ำสักสามวัน โทษฐานนินทาเ้านาย
‘เยว่ฉี’ นางเอกนิยายเื่นี้แสนร้ายกาจ ทว่าโดยปกติวิสัยของนาง ร้ายก็ต่อเมื่อใครขัดใจนาง ส่วนใหญ่นางใช้ชีวิตหกมุ่นอยู่กับการปรุงยาและวิชาแพทย์ นางรับใช้ราชสำนึกอย่างขยันขันแข็ง โดยเฉพาะพวกผู้ดีมีเงิน กระทั่งนางได้พบชายผู้เป็ที่รักอย่างคุณชายหลิว
คุณชายสามสุขุมเยือกเย็น สติปัญญาฉลาดหลักแหลม ว่าที่บุตรเขยอันดับหนึ่งของท่านหมอหลวง าุโตระกูลหยางเป็แม่สื่อให้ทั้งสองได้พบกัน ในภายหลังคุณชายสามสอบข้าราชการ ดำรงตำแหน่งเป็ผู้ตรวจการ บรรดาผู้ใหญ่ย่อมอยากจะให้ลูกหลานตบแต่งกันในเร็ววัน
เมื่อเช้านี้ระหว่างที่นางขลุกอยู่ในโรงปรุงยากับบิดา นางหยิบตำราจากชั้นวางตำราทำจากไม้ไผ่มานั่งอ่านทบทวน หน้าโรงปรุงยาในยามเซิน[1] บ่าวผู้จงรักภักดีวิ่งแจ้นมาแจ้งข่าวเื่บุตรชายเสนาบดีคนสำคัญแห่งราชสำนักต้าเหลียงเข้าเมืองมาแล้ว นางนั่งขมวดคิ้วนึกอยู่นานว่าใคร
“คุณหนูรอง ท่านผู้ตรวจการมาถึงแล้วเ้าค่ะ ท่านหมอหลวงขอเจรจากับเขาสักประเดี๋ยว”
‘เื่ข้าแน่ล่ะ’
เหม่ยฉีอึดอัดใจ ไม่รู้บิดาบอกเื่นางเปลี่ยนใจจะไม่แต่งงานกับคุณชายแล้วหรือไม่ ในเมื่อซูหนี่ว์ปลุกนางั้แ่รุ่งเช้าให้แต่งตัว เกล้าผมมัดแกละน่ารัก เครื่องประดับเต็มยศทั้งต่างหู แหวน ปิ่นปักผมอย่างผู้ดี แต่นางเชื่อว่าบิดาจะตามใจนาง ที่ผ่านมาบิดาไม่เคยขัดใจบุตรสาวสักเื่
“ท่านผู้ตรวจการหายหน้าหายตาไปร่วมสองเดือน แต่ยังให้ม้าเร็วมาส่งจดหมายทุกอาทิตย์ ไม่เคยตกหล่น สาวใช้ที่จวนเสนาบดีบอกพวกข้าว่าคุณชายสามเขียนจดหมายถึงคุณหนูรองตั้งหลายฉบับเ้าค่ะ”
“จดหมาย...” นางเงียบไป มือหยิบกล่องไม้ฉลุลายบุปผชาติงาม เปิดมันออกแล้วขยุ้มเศษกระดาษเป็หยิบข้าวสาร นางกำกระดาษเปื้อนหมึกจนยับเยิน “จดหมายรักผ่านนักกวี นี่เขาแต่งมันด้วยตัวเองไหมนะ?”
“จดหมายให้คนรัก ย่อมเขียนด้วยตนเอง ทำไมคุณหนูจึงคิดเช่นนั้นเ้าคะ?” ซูหนี่ว์มีสีหน้าสงสัย ซิงอี ซีซวนยกน้ำชาและเครื่องประดับสวยงามเข้ามาในห้องนอน ลองบนเกล้าผมคุณหนู อันนี้สวยอันนี้ดี คุณหนูรองสวมอะไรก็งาม ก่อนที่พวกนางจะหันไปสนใจจดหมาย น่าแปลกที่คุณหนูไม่มีท่าทางตื่นเต้นเหมือนเคย นางเอากระดาษโบกลมต่างพัด
“ข้าหลวงผู้ตรวจราชการติดภารกิจเดินทางไปต่างแคว้น ตรวจตราเื่การบริหารงาน คุณชายสามงานยุ่งวุ่นวายเท่าไร ไม่เคยละเลยคุณหนูรอง”
ซีซวนชื่นชมท่านผู้ตรวจการเป็อย่างมาก พอ ๆ กับสาวใช้คนอื่น อาจเพราะพวกเขาได้รับของฝากมากมายเป็สินน้ำใจ
เหม่ยฉีแค่นหัวเราะ นางรู้... เื่ที่เขาชอบติดสินบนบ่าวรับใช้ในเรือน!
“องครักษ์คนสนิทของเขาช่วยเขียนจดหมายพวกนี้มากกว่ากระมัง ตัวเขารึจะมีเวลาเขียนจดหมายรัก เวลาขึ้นรถม้าเดินทางข้ามเมือง จะกินนอนก็ลำบาก ร่างกายแสนเหนื่อยล้าทรมาน ท่าทางจะหลับเป็ตาย”
“คุณหนูรองไปได้ข่าวมาจากไหน? จริงหรือไม่เ้าคะ” ซูหนี่ว์ไม่เชื่อหู
ซิงอีให้ความเห็นอย่างมีน้ำหนัก “ข้าว่าฟังดูแปลก ๆ ปกติท่านออกจะชื่นชมท่านผู้ตรวจการ ท่านละเมอหาคุณชายสามวันละสิบเวลาได้”
“ก็เหมือนการที่บ่าวรับใช้เอาใจข้าวันละหลายเวลา พวกเ้าคาดการณ์ว่าข้าควรอารมณ์ดี โดยหาได้รู้ไม่ว่าตนกำลังเข้าใจผิด ข้าเป็เยว่ฉีคนใหม่แล้ว ตอนนี้ข้าไม่ชอบเขา” พูดจบ คุณหนูรองเดินออกจากห้องไปดื้อ ๆ
“เยว่ฉี... ข้ากลับมาแล้ว!” เสียงที่ดังขึ้นเรียกคุณหนูรองให้มองขวับ ผู้ตรวจการหนุ่มมาพบนางถึงระเบียงเรือนติดกับสวนด้านหน้าห้องนอน บ่าวที่ทำหน้าตามีลับลมคมในพอเห็นคนรักของคุณหนูก็รีบแจ้นไปทำงาน
ร่างสูงสง่าในอาภรณ์สีคราม ในแววตาราวเด็กหนุ่มที่ตกอยู่ในภวังค์รัก เกือบจะโน้มตัวลงกอดคุณหนูรอง ทว่านางกลับก้าวถอยในทันควัน นางยกมือประสาน เว้นระยะห่างระหว่างชายหญิงอย่างเหมาะสม
“คำนับท่านผู้ตรวจการ ไม่พบกันนานทีเดียว ลมอะไรหอบท่านมาเ้าคะ?”
“อะไรกัน ถ้าหากว่าข้าไม่มีธุระก็มาพบเ้าไม่ได้แล้วหรือ?”
“ข้างานรัดตัวนัก เชิญใต้เท้านั่งก่อนเถิด”
ใบหน้าชายหนุ่มซีดเผือด เมื่อคนรักไม่ยอมให้เขาแตะต้องแม้ปลายเส้นผม นางนั่งลงบนม้านั่งหิน ผายมือเชื้อเชิญเขาให้นั่งลงในที่ฝั่งตรงกันข้าม
“เยว่ฉี... เ้าโกรธข้า”
“เป็ไปไม่ได้เลย ข้าจะโกรธใต้เท้าเื่อะไร”
“เ้าโกรธข้าแน่นอน เยว่ฉี ข้าขอโทษเ้าก็ได้ ข้า...”
“ข้าไม่ได้โกรธท่าน ตรงข้ามเสียอีก ข้ากำลังนึกถึงท่าน มีเื่สำคัญจะคุยกับท่านพอดี”
“อ้อ... เ้าไม่โกรธข้าก็ดี ข้าเดินทางกลับต้าเหลียงล่าช้ากว่ากำหนดการ รู้สึกผิดกับเ้าไม่น้อย”
จางหลิวอวี้เลิกคิ้วมองนางด้วยสีหน้าผิดหวัง ลังเลใจในขณะเดียว เป็ไปได้ไหมว่าเขาอาจจจะคิดไปเอง แต่ทุกครั้งที่เขากลับมาจากต่างเมือง นางจะวิ่งเข้ามากอดเขาอย่างคิดถึง คราวนี้นางไม่แม้จะถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ ั์ตาดำขลับลุ่มลึกแลดูสุขุม นางมิได้มองเขาด้วยแววตาหลงใหลอีกต่อไป
คุณหนูรองนั่งนิ่งเงียบ เขาถามอะไรนางก็ตอบสั้น ๆ นางนิ่งเฉยเ็า...
ยามดวงตะวันกลมโตเบื้องหน้าสายตาลับคล้อยไปอย่างเชื่องช้า เยว่ฉีถือโอกาสเฝ้ามองใบหน้าหล่อเหลาอันน่าหลงใหล ริมระเบียงเรือนไม้ ใต้เท้าหลิวหาได้รู้ไม่ว่าทำให้สตรีทั่วทั้งเมืองต้าเหลียงหวั่นใจเท่าไร...
เหม่ยฉีนึกมาถึงตรงนั้น นางได้รับการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของคุณหนูรอง รู้สึกใจเต้นอยู่เล็กน้อย คงเป็ความรู้สึกของเ้าของร่างเดิม อีกทั้งนางเองก็ชอบบุรุษรูปงาม
ทว่า...
นางไม่ใช่เยว่ฉี!
‘ฮึ... น้ำเน่าเกินไปแล้วล่ะ! วันนี้นางต้องตัดสัมพันธ์กับพ่อหนุ่มนี่’
“ข้าเคยรับปากเ้าว่าจะโยกย้ายหน้าที่การงาน จะได้มีเวลาอยู่กับเ้ามากขึ้น ขอให้เ้ารอข้าสักหน่อย เมื่อไรข้าได้เลื่อนขั้นเป็ผู้ตรวจการแผ่นดิน ทำงานในราชสำนัก ข้าคงไม่ต้องเดินทางไปต่างเมืองบ่อย ๆ เช่นนี้”
“ไม่มีอะไรการันตีว่าท่านจะได้ตำแหน่งนั้น การแข่งขันสูงเกินไป”
“ถ้าหากว่าไม่ได้จริง ๆ เราสองตบแต่งเป็สามีภรรยากันเมื่อไร ข้าเดินทางไกล จะพาภรรยาไปด้วยก็ย่อมได้”
“จะให้ข้าขึ้นรถม้าเดินทางไปกับสามี ท่านไปทำงาน คงไม่สะดวก”
“ไปได้”
“ไม่ดีแน่...”
“เมื่อก่อนเ้าและบิดาเดินทางไปกับข้า เ้าชอบไปเก็บสมุนไพร หาข้อมูลการปรุงยา เ้าไม่เคยบ่ายเบี่ยงเกี่ยงงอน ข้าดีใจนักที่ได้พบเ้า ฝ่าาทรงพระกรุณา ให้ข้ามาเยี่ยมเยียนโรงปรุงยา ข้าเลยได้พบเ้า...”
บุรุษระลึกความหลัง! เหม่ยฉีกลอกตาไปมา ฟังเขาพร่ำพรรณนาเื่ความรักใคร่อันมากประมาณที่มีต่อนาง เขาคิดถึงนางทุกลมหายใจเข้าออก นางปิดปากเงียบ ไม่พูดออกไปว่าเขาน่ะไม่ใช่พระเอกของเื่ด้วยซ้ำ ต่อให้เขาจะได้แต่งงานกับนาง เป็สามีของนาง
‘นี่มันนิยายแนวตำราแพทย์ บิดาและบุตรสาวค้นพบความลับของยาสมุนไพรหลากหลายชนิด บุตรสาวตัวร้ายกลับตัวกลับใจเพราะตำราลับและการรักษาชีวิตผู้คน ได้โปรดเข้าใจข้าด้วย อีตาคุณชายหลิว!’
“ท่านหมอหลวงเปรียบเสมือนผู้มีพระคุณของข้า ตระกูลจางล้วนให้ความเคารพท่านพ่อของเ้า ผู้ใหญ่หวังให้เ้าปรองดองเช่นครอบครัวเดียวกัน ข้าผูกพันกับเ้า...”
“เดี๋ยวนี้ข้าไม่ชอบเดินทางไกล ข้าไม่สนใจเื่ชายหญิง ขอท่านอย่าได้เดือดร้อนเพราะข้า ไม่ใคร่บังคับจิตใจผู้ใด ข้าเพียง...” นางเงียบไป นึกทีเด็ดขึ้นได้เพราะว่าเป็แก่นเื่ สำคัญที่สุดในประเด็นนี้ “ปรารถนาการเป็ข้ารับใช้แผ่นดิน หัวใจข้า ร่างกายข้า ยินดีเสียสละทั้งหมดนั้นเพื่อต้าเหลียง ต่อแต่นี้ไปขอให้เราคงไว้ซึ่งมิตรภาพที่ดีต่อกันฉันพี่น้อง เป็มิตรสหายย่อมดีกว่า หากมีบุตรสาวผู้ดีบ้านไหนรับเงื่อนไขของท่านได้ ขอท่านอย่าได้ลังเลใจที่จะผูกสัมพันธ์กับนาง ข้าลาเ้าค่ะ ใต้เท้า”
เหม่ยฉียกมือทำความเคารพอดีตคนรักอย่างนอบน้อม หลังตัดสัมพันธ์อย่างไม่มีเหลือเยื่อใย นางลุกขึ้นเดินหายเข้าโรงปรุงยาไป คุณชายหลิวยืนนิ่งอึ้ง ทั้งสับสน เศร้าเสียใจเพราะคำพูดจาโหดร้ายของนาง
ให้ตายเถอะ! นางทะลุมิติเข้ามาในนิยายเพื่อบอกเลิกหนุ่มจีนโบราณหรือนี่
แต่นางไม่ชอบบุรุษรูปลักษณ์สะอาดสะอ้านเกินจำเป็ ท่าทางหน่อมแน้มอย่างนี้ปกป้องนางได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ต่อให้เป็ผู้ตรวจการอาจจับกระบี่เป็ เขาดูเรียบร้อยมีมารยาทกว่านางผู้เป็สตรีขี้เล่นเสียอีก
นักเขียนผู้นี้ช่างเืเย็นเสียจริง
ไม่ใช่สิ...
นางต่างหากเล่าเหม่ยฉี นางเอกเืเย็น
แถมเื่มากจะเลือกพระเอกของนางเองด้วยอีกต่างหาก!
[1] ยามเซิน 申 15.00 – 16.59 น.
