“หมายความว่าท่านไม่้าแล้วใช่ไหม?”หลินเยว่ก็ไม่ได้เป็คนซื่อหรอกนะ
เมื่อได้ยินเช่นนี้สีหน้าของเถ้าแก่เกาดูมีความโมโหอยู่ชั่วครู่ สุดท้ายเขาจึงเหลือบมองหินหยกก้อนนั้นแล้วก็พยักหน้าพูดตอบ“อืม”
เมื่อหลินเยว่เห็นว่าเป็เช่นนี้เขาจึงแอบดีใจอย่างบ้าคลั่ง ในเมื่อคุณพยักหน้าตอบรับแบบนี้แล้ว แล้วผมยังจะต้องกลัวคุณอีกหรือ?
“ขอผมดูหินหยกก้อนนี้ได้ไหม?”หลินเยว่สอบถามวัยรุ่นคนนั้น
วัยรุ่นคนนั้นพยักหน้า สายตาที่มองหลินเยว่ไม่มีความคาดหวังใดๆเขามีแต่ความไร้อารมณ์
“เด็กหนุ่มคนนี้เป็คนที่วันก่อนใช้เงิน 500หยวนพนันได้ 4 แสนหยวนคนนั้นไม่ใช่หรอ?”
และเวลานี้เองท่ามกลางผู้คนกลุ่มคนนี้ ก็มีอยู่คนหนึ่งที่จำหลินเยว่ได้เขาอุทานอย่างประหลาดใจ
และเสียงอุทานนี้ก็ทำให้สายตาของทุกๆคนต่างมองมาที่ตัวหลินเยว่
“ใช่เขาจริงๆ ด้วย!” และก็มีเสียงอุทานดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ใช่แล้ว! คนที่ได้รับสิทธิพิเศษได้หินหยกราคาพิเศษก็เป็เขาเหมือนกันเมื่อวานผมเห็นเขากับเ้าของแผงคนนั้นหิ้วปีกคนสติไม่ดีคนนั้นออกไปด้วยล่ะ”
เมื่อประโยคนี้ถูกเอ่ยออกมาสายตาที่ทุกคนมองหลินเยว่ก็เปลี่ยนไปทันที
มีความริษยา มีความอิจฉา มีความชื่นชม......แตกต่างกันออกไป
500 หยวนพนันได้ 4 แสนหยวน?
สายตาของวัยรุ่นคนนี้พลันเกิดเป็ประกายแวววาวเขามองหลินเยว่ด้วยสายตาคาดหวัง
ส่วนเถ้าแก่เกาก็ใบหน้ากระตุกขึ้นทันที 500 หยวนพนันได้ 4 แสนหยวน? สิทธิพิเศษหินหยกราคาพิเศษ?แล้วยังมีบัตรการยอมรับจากเถิงชงอีกใบ?
เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆเขาถูกไอ้เฒ่าโจวเต๋อเซิงหลอกเอาเสียแล้ว! หยกราคา4 แสนหยวนก้อนนั้นก็ถูกไอ้เฒ่าคนนี้ซื้อไปชัดๆแต่กลับทำเป็พูดจาราบเรียบดูห่างเหิน!
เมื่อคิดถึงตรงนี้เขาจึงมองโจวเต๋อเซิงอย่างแค้นใจ
แต่ทว่าในใจของเขาก็ยังรู้สึกมั่นใจเหมือนเดิมถึงแม้ว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าจะเป็คนโชคดีขนาดไหน แต่ก็คงไม่สามารถทำให้หินหยกสภาพเลวร้ายเช่นนี้กลายเป็ของดีได้หรอกนะ1.2 ล้านหยวนเดี๋ยวจะรอดูคนพนันเจ๊ง
เขามั่นใจมากกว่าหลินเยว่ไม่มีทางจ่ายเงิน 1.2ล้านหยวน หากวัยรุ่นคนนั้นยอมลดราคาเดี๋ยวเขาก็จะเข้ามาแย่งชิงด้วยเพราะตัวเขายังไม่ได้พูดปิดโอกาสตัวเองอย่างเด็ดขาด อย่างมากเขาก็แค่บอกเป็เพราะอีกฝ่ายไม่ยอมลดราคาเขาจึงยอมถอยออกมาหากเขาซื้อไม่ได้ เขาก็ไม่มีทางยอมให้เด็กหนุ่มตรงหน้าคนนี้ได้ลำพองใจไปหรอกนะ
แต่ทว่า ไอ้เด็กหนุ่มหน้าอ่อนคนนี้มันโชคดีจริงๆ!
เมื่อคิดถึงสิทธิพิเศษและบัตรการยอมรับสายตาของเถ้าแก่เกาก็ส่อประกายละโมบและริษยาออกมาลึกๆ
เมื่อโจวเต๋อเซิงได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคนรอบๆตัว ใบหน้าของเขาก็ยังคงมีรอยยิ้มราบเรียบอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อได้ยินคำว่า“สิทธิพิเศษราคาพิเศษ” นั้น สายตาที่เขามองหลินเยว่ก็เกิดความประหลาดใจขึ้น คนรอบๆตัวนี้อาจจะรู้เื่นี้ไม่ค่อยชัดเจน แต่เขาที่อยู่ในวงการการพนันหินหยกมากว่า 30ปีจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าสิทธิพิเศษราคาพิเศษและบัตรการยอมรับนั้นจะออกให้กับคนแบบไหน
คาดไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะเป็คนที่ได้รับบัตรการยอมรับใบนั้น
ฮ่าๆ น่าสนใจจริงๆ น่าสนใจจริงๆ
มุมปากของโจวเต๋อเซิงพลันปรากฏรอยยิ้มเหมือนคนที่กำลังดูเื่ที่สนุกตื่นเต้นเื่หนึ่ง
เมื่อได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคนรอบๆ ตัวหลินเยว่จึงััได้กับสายตาของพวกเขาที่ดูเปลี่ยนไป หลินเยว่ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆเขาไม่ได้มีความรู้สึกดีใจเหมือนกับดาราที่อยู่ท่ามกลางตาสายตาของสาธารณชนแต่เขากลับรู้สึกอึดอัดแปลกๆ ราวกับว่าความเป็ส่วนตัวของเขาได้หมดไปอย่างสิ้นเชิงเพราะไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็จะมีคนคอยดูอยู่
หลินเยว่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาพยายามตั้งสติบทบาทที่เขาควรจะทำเขาก็ยังจำเป็ต้องทำให้สมบูรณ์เขาต้องทำเป็สังเกตหินหยกก้อนนี้อย่างละเอียด และขณะเดียวกันเขาก็จะถือโอกาสเรียนรู้ไปในตัวดูว่าเพราะเหตุใดภายในของหินหยกก้อนนี้ถึงได้มีหยกที่ดีขนาดนั้น
หลินเยว่ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีจึงสำรวจหินหยกก้อนนี้เสร็จ เขาจดจำลักษณะเฉพาะผิวเปลือกของหินหยกก้อนนี้ได้อย่างขึ้นใจและก็พอเข้าใจภาพรวมว่าทำไมด้านในถึงได้มีหยกแล้ว
ขณะที่หลินเยว่กำลังเตรียมตัวเอ่ยปากเพื่อขอซื้อหินหยกก้อนนี้กลับมีวัยรุ่นอีกคนพุ่งพรวดเขามาอย่างรีบร้อนเขาะโใส่วัยรุ่นที่ขายหินหยกด้วยสีหน้าร้อนใจ “เถียนเซิ่งพ่อนายนอนอยู่บนเตียงแต่ะโโวยวายว่าจะมาเอาเื่นายหากไม่ใช่ว่ามีผู้ใหญ่หลายคนจับตัวไว้ พ่อนายคงถือมีดอีโต้มาหานายที่นี่แล้วล่ะพ่อนายป่วยอยู่ คุณหมอบอกว่าห้ามโมโหรุนแรง นายรีบกลับไปดูเถอะนะ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้วัยรุ่นที่ชื่อเถียนเซิ่งกลับไม่ได้มีสีหน้าเปลี่ยนแปลงเท่าใดนักเพราะสิ่งที่แสดงออกมาแฝงความรู้สึกดึงดันไม่ยอมแพ้อยู่เล็กน้อย เขาส่ายศีรษะแล้วพูดขึ้น“นายกลับไปก่อนเถอะนะ หากเรากลับไปพ่อคงโกรธมากขึ้นยังไงวันนี้เราต้องขายหินหยกก้อนนี้ด้วยราคาเดิมให้ได้เรา้าให้พ่อรู้ว่าสายตาของเราไม่ได้แย่!” เมื่อพูดถึงตอนท้ายๆน้ำเสียงของเถียนเซิ่งก็มีความหนักแน่นเด็ดขาดอย่างน่าประหลาด
วัยรุ่นที่เพิ่งมาถึงมองเถียนเซิ่งด้วยสีหน้ากังวลเขาพูดขึ้น “เราอยู่ที่นี่เป็เพื่อนนายละกัน”
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
หรือว่ามันมีเหตุการณ์อะไรแอบแฝงอยู่?
หลินเยว่มองไปทางเถียนเซิ่งและวัยรุ่นที่เพิ่งมาเมื่อสักครู่ด้วยความสงสัย
และเวลานี้เองก็มีหนึ่งในผู้ที่ล้อมดูอยู่รู้สาเหตุของเื่นี้อย่างแท้จริงเขาจึงถอนหายใจพร้อมเล่าเื่ราวออกมา
เดิมทีวัยรุ่นที่ชื่อเถียนเซิ่งสนใจหินหยกก้อนหนึ่งหลังจากนั้นเขาจึงแอบเอาเงินของพ่อตัวเองจำนวน 1 ล้านหยวนออกมาซื้อหินหยกก้อนนี้ผลปรากฏว่าตอนที่กลับถึงบ้าน เขาไม่ระมัดระวังจึงทำหินหยกหล่นไปที่พื้น หลังจากนั้นหินหยกจึงเกิดเป็รอยแตกร้าวตอนแรกหินหยกมีลักษณะที่ไม่เลวเลย มีโอกาสพนันได้สูงมากแต่พอมีรอยแตกนี้มันก็เลยกลายเป็ของไม่มีราคาเมื่อพ่อของเถียนเซิ่งเห็นหินหยกแล้ว เขาจึงโกรธจนไฟลุกแล้วส่งผลต่อหัวใจจนหมดสติไปพอฟื้นขึ้นมาเขาก็ต่อว่าเถียนเซิ่งว่าเป็พวกอกตัญญูในขณะเดียวกันก็ส่งผลต่อตับและปอด สุดท้ายจึงต้องนอนป่วยอยู่บนเตียงแต่เถียนเซิ่งกลับไม่คิดว่าตัวเองทำผิดอะไร เขาเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง เขาจึงพูดกับบิดาของตัวเองว่าเขาจะขายหินหยกก้อนนี้ด้วยราคาสูงถึง1.2 ล้านหยวนแต่ว่าหินหยกที่มีรอยแตกก้อนหนึ่งจะสามารถขายได้ราคาสูงถึง 1.2 ล้านหยวนจริงๆ หรือ?มันเป็เื่ที่ไม่มีทางเป็ไปได้เลย การพูดเช่นนี้ของเถียนเซิ่งก็ยิ่งทำให้บิดาของเขาโกรธยิ่งกว่าเดิมเขาว่าเถียนเซิ่งว่าเพ้อฝันเกินไป และอาการป่วยของเขาก็ทรุดหนักลงไปอีก
เถียนเซิ่งเป็คนนิสัยดื้อรั้นหากมั่นใจในเื่ไหนแล้วเขาก็จะเดินไปจนถึงที่สุด ดังนั้นเขาจึงมาตั้งแผงขายหินหยกบนถนนเส้นนี้ และตั้งราคาไว้ที่ 1.2 ล้านหยวน ห้ามต่อราคา!
เขาอยู่บนถนนเส้นนี้เป็เวลา 1 สัปดาห์แล้ว แต่ผลปรากฏว่าเขาก็ยังขายหินหยกออกไปไม่ได้ถึงแม้ว่าจะมีคนเหมือนเถ้าแก่เกาที่สนใจพนันหินหยกก้อนนี้ แต่เมื่อได้ยินราคา 1.2ล้าน พวกเขาต่างถอนตัวถอยหนีกันหมด
เมื่อได้ฟังเื่ราวจากคนคนนั้นแล้ว คนรอบๆตัวต่างถอนหายใจกันไปตามๆ กัน สายตาของพวกเขาที่มองไปยังเถียนเซิ่งก็มีแต่ความหลากหลายซับซ้อน
ท่ามกลางสายตาของทุกๆ คนเถียนเซิ่งก็ยังคงดูเยือกเย็น และสีหน้าของเขาก็ดูหนักแน่นมากยิ่งขึ้น
ช่างเป็วัยรุ่นที่หัวแข็งจริงๆ!
หลินเยว่แอบคิดอยู่ในใจแต่ทว่าสายตาของวัยรุ่นคนนี้ก็ไม่เลวจริงๆ หินหยกก้อนนี้เป็หินหยกที่ดีมากแต่น่าเสียดายที่มันหล่นจนเสียหายไปบางส่วน บางทีตำแหน่งตรงนั้นอาจจะมีรอยร้าวอยู่แล้วไม่อย่างนั้นไม่มีทางเปราะบางถึงขนาดนี้ แต่ทว่า...หากเถียนเซิ่งไม่ได้ทำมันหล่นไป หรือเขาไม่ได้มีนิสัยหัวแข็งดื้อรั้นขนาดนี้หินหยกก้อนนี้ก็คงไม่ตกมาถึงมือของหลินเยว่
์ช่างเล่นตลกจริงๆ!
หลินเยว่แอบพึมพำเงียบๆ เขาเดินไปหยุดข้างๆเถียนเซิ่ง แล้วถามขึ้นพร้อมยิ้มน้อยๆ “หินหยกก้อนนี้ราคาเท่าไร?”
“1.2 ล้าน!” เถียนเซิ่งมองหลินเยว่พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่มีความคาดหวัง
“ตกลง ผมซื้อเอง” หลินเยว่พูดตอบอย่างเด็ดขาดและนี่เป็ครั้งแรกที่เขาไม่ได้ต่อรองราคากับคนอื่น
อะไรนะ?
คำพูดของหลินเยว่ทำให้คนที่อยู่ในที่แห่งนี้ต่างตกตะลึง
ซื้อแล้ว?
ผู้คนรอบๆ ต่างใช้สายตาที่เหมือนมองตัวประหลาดมองไปทางหลินเยว่ไอ้หนุ่มคนนี้มันบ้าไปแล้วหรือเปล่า? ใช้เงินจำนวน 1.2 ล้านหยวนเพื่อซื้อหินหยกที่มีรอยแตก? หรือเป็เพราะความใจบุญมันล้นทะลักออกมาอีก?เมื่อวานเพิ่งช่วยไปหนึ่งคน วันนี้ก็จะช่วยอีกแล้วหรือ?
จ่ายเงิน 1.2 ล้านหยวนเพื่อช่วยคนอื่น?
คนที่อยู่ตรงนี้ต่างส่ายศีรษะอย่างงุนงงพวกเขารู้สึกไม่เข้าใจ พวกเขาไม่เข้าใจจริงๆ!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้