ภายในห้องลับนั้น มีเพียงโต๊ะหินที่ดูธรรมดาๆ หนึ่งตัว บนโต๊ะหินมีกล่องหยกที่ปิดสนิทวางอยู่สองกล่อง
กล่องหยกด้านซ้ายเป็สีขาวนม ส่วนกล่องหยกด้านขวาเป็สีเขียวมรกต
กล่องหยกทั้งสองกล่องถูกปิดผนึกเอาไว้ด้วยอาคมปิดผนึกแบบง่ายๆ ซึ่งอาคมนี้สามารถถอดรหัสได้โดยผู้ใช้พลังิญญาระดับล่างที่เรียนรู้เื่วิชาอาคมมา เซียวหลิงอวิ๋นใช้มือซ้ายหยิบกล่องหยกสีขาวขึ้นมา แล้วใช้มือขวาลากนิ้วเบาๆ พร้อมด้วยเสียง ‘ฉ่า’ ที่ดังขึ้นผะแ่อาคมก็ถูกถอดรหัส แล้วฝากล่องก็เปิดออก
ความหนาวเย็นที่เยือกแข็งไปจนถึงกระดูกแผ่กระจายออกมา!
เมื่อมองไปยังหยดของเหลวสีฟ้าอ่อนที่ขนาดพอๆ กับองุ่นที่แผ่ควันน้ำแข็งอัดแน่นอยู่ในกล่อง ดวงตาของเซียวหลิงอวิ๋นก็สว่างขึ้นเล็กน้อย
พร้อมด้วยเสียงดัง ‘ปัง!’ ฝากล่องก็ปิดลงอีกครั้ง แล้วมือขวาก็วาดเส้นอาคมหลายเส้นในอากาศอย่างรวดเร็ว หลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วอึดใจ ก็ได้สร้างอาคมปิดผนึกอย่างง่ายๆ ขึ้นมา เพื่อป้องกันไม่ให้พลังไอเย็นของแก่นผลึกน้ำแข็งหยดเดียวที่อยู่ในกล่องหยกนั้นแผ่กระจายออกไป
ยิ่งสีของแก่นผลึกน้ำแข็งเข้มมากเท่าไร คุณภาพของมันก็จะยิ่งมากขึ้น เมื่อชาติก่อนเซียวหลิงอวิ๋นเคยเห็นแก่นผลึกน้ำแข็งสีน้ำเงินเข้มคุณภาพเยี่ยมมาก่อน แต่แก่นผลึกน้ำแข็งหยดเดียวในกล่องใบนี้มีสีฟ้าอ่อน เรียกได้ว่าเป็วัตถุดิบธาตุน้ำแข็งระดับห้าขั้นกลางเท่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้น นี่ก็เป็วัตถุดิบธาตุน้ำแข็งชิ้นแรกที่มีระดับถึงห้าที่เซียวหลิงอวิ๋นพบหลังจากที่ได้เข้ามาในดินแดนลับธารน้ำแข็งแห่งนี้
ลำพังแก่นผลึกน้ำแข็งหยดนี้แค่หยดเดียวก็มีมูลค่าเหนือกว่าสิ่งของทั้งหมดที่กลุ่มของพวกเขาได้มารวบรวมมาตลอดทั้งเดือนก่อนหน้านี้เสียอีก
ทั้งวัตถุดิบ ยาวิเศษ และสมุนไพริญญาต่างก็มีระดับห้าเป็จุดแบ่งทั้งนั้น เมื่อถึงระดับห้ามูลค่าของมันจะคนละเื่เลย จะบอกว่าเพิ่มขึ้นไปอีกระดับเลยก็ว่าได้ มูลค่าสิ่งของระดับห้าลงไปนั้น ในแต่ละระดับราคาจะสูงขึ้นเป็เท่าตัว แต่สำหรับระดับห้าขึ้นไปนั้นราคาจะเพิ่มขึ้นหลายเท่า หรืออาจจะหลายสิบเท่าเลยก็ได้
ยิ่งเป็ของระดับสูงมากเท่าไร จำนวนก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น การจะกำเนิดขึ้นมา จำเป็ต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานจนน่ากลัว หรือไม่ก็ต้องใช้พลังิญญาที่มหาศาลอย่างน่ากลัว!
วัตถุดิบธาตุระดับห้ามีประโยชน์ไม่น้อยแม้แต่กับผู้ที่แข็งแกร่งในระดับผู้าุโสูงสุดของทั้งห้าสำนักใหญ่ในอาณาจักรซินโยว
ส่วนวัตถุดิบธาตุระดับหก ยิ่งนับเป็ของดีที่แม้แต่ผู้าุโสูงสุดของทั้งห้าสำนักใหญ่ในอาณาจักรซินโยวต่างก็ต้องถวิลหา! หาก้าก้าวหน้าในการบำเพ็ญเพียรไปอีกขั้น และละทิ้งจากสรีรกายไปสู่ทิพยกาย จำเป็ต้องใช้วัตถุดิบธาตุระดับหกในปริมาณที่มากพอ
นี่จึงเป็ปัญหาใหญ่ที่ทำให้เหล่าผู้าุโสูงสุดของห้าสำนักใหญ่ในอาณาจักรซินโยวต้องกังวลใจมาโดยตลอด ด้วยพลังยุทธ์และกำลังคนที่ตนเองมี ต่างก็ออกค้นหาไปทั่วทั้งอาณาจักรซินโยวเป็เวลานับร้อยปี แต่ก็ไม่สามารถหาวัตถุดิบธาตุระดับหกที่เข้ากันกับตนเองได้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว
เพราะปัญหาการขาดแคลนพลังิญญาในอากาศ ทำให้ขาดแคลนการถือกำเนิดวัตถุดิบธาตุในระดับสูง นี่จึงเป็สาเหตุหลักที่ทำให้ไม่มีผู้ใดในอาณาจักรซินโยวสามารถบรรลุและก้าวเข้าสู่ชั้นจ้าวิญญาได้ในตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา
ดังนั้นอย่าได้ดูถูกแก่นผลึกน้ำแข็งหยดเล็กๆ หยดนี้ หากนำออกไปทอดขายในตลาด มูลค่าของมันย่อมไม่น้อยกว่าห้าหมื่นหินิญญาแน่
จากนั้นเขาจึงพลิกข้อมือแล้วเก็บกล่องหยกที่บรรจุแก่นผลึกน้ำแข็งหนึ่งหยดนี้เข้าไปใน ‘กระเป๋าจักรวาล’ ที่เอว ในการเดินทางเข้าไปในโลกเร้นลับครั้งนี้ เหล่าผู้าุโสูงสุดของสำนักิญญาเมฆาก็ให้ความสำคัญอย่างมาก จึงได้แจกกระเป๋าจักรวาลขนาดหนึ่งถึงสามลูกบาศก์ให้กับเหล่าศิษย์ที่เป็หัวกะทิอย่างเซียวหลิงอวิ๋นและพรรคพวก
เซียวหลิงอวิ๋น ฉินหรูเยียน และจ้าวหนีอิ่ง รวมถึงศิษย์หัวกะทิอีกหลายคนต่างก็ได้รับกระเป๋าจักรวาลขนาดใหญ่ที่มีความยาวสองหมี่ กว้างหนี่งหมี่ห้า สูงหนึ่งหมี่ มีพื้นที่ความจุถึงสามลูกบาศก์ให้ ซึ่งเซียวหลิงอวิ๋นได้ใส่ของลงไปในกระเป๋าจักรวาลใบนี้ยังไม่ถึงหนึ่งในแปดส่วนของพื้นที่เลย!
เมื่อเปิดฝากล่องหยกเขียวมรกตออก เซียวหลิงอวิ๋นก็มองไปที่วัตถุรูปดาวหกแฉกที่ดูหมองๆ อยู่ในกล่อง ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็ปรากฏซึ่งความประหลาดใจออกมา
หากไม่ใช่เพราะยังมีแสงทองส่องประกายรางๆ อยู่ เซียวหลิงอวิ๋นก็คงไม่อยากเชื่อว่าเ้าวัตถุขนาดเท่าไข่ไก่ที่ดูหมองๆ และมีเพียงชิ้นเดียวในกล่องนี้จะเป็ดวงดาวแสงทอง
ไม่สิ ควรจะบอกว่าก่อนหน้านี้มันคือดวงดาวแสงทองจริงๆ แต่ในเวลานี้พลังิญญาข้างในแม้ว่าจะยังไม่หมดไปเสียทีเดียว แต่ก็น่าจะเหลือน้อยกว่าเดิมสักล้านเท่าได้ หรือไม่ก็อาจจะน้อยลงกว่าเดิมสิบล้านเท่า! ต่อให้คำนวณจากดวงดาวแสงทองในระดับแปดที่ด้อยที่สุด ก็ยังน้อยกว่าสักสิบล้านเท่าอยู่ดี
เศษดวงดาวแสงทองที่แทบจะไร้ประโยชน์นี้ พลังของมันตกลงไปมากจนน่าเสียดายแล้ว ต่ำกว่าแก่นผลึกน้ำแข็งหยดนั้นเสียอีก หลังจากที่เซียวหลิงอวิ๋นสำรวจอย่างถี่ถ้วนอยู่สักระยะหนึ่ง ก็ยืนยันได้ว่าระดับในปัจจุบันของเ้าสิ่งนี้อยู่แค่ในระดับสี่ขั้นต่ำเท่านั้น
หาก้าฟื้นฟูให้พลังกลับมาเหมือนเดิม ความยากลำบากมีมากจนคาดไม่ถึง ทั้งปริมาณวัตถุดิบธาตุและหินิญญาที่ต้องใช้ก็มหาศาล เซียวหลิงอวิ๋นแค่คิดก็รู้สึกปวดหัวมากแล้ว
ดังนั้นแทนที่จะสิ้นเปลืองวัตถุดิบธาตุและก้อนิญญาจำนวนมากเพื่อฟื้นฟูพลังิญญาของมัน สู้รอให้ตัวเองมีพลังยุทธ์ที่สูงขึ้น แล้วค่อยออกไปหาชิ้นใหม่มาไม่ง่ายกว่าหรือ
หลังจากที่พิจารณาและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เซียวหลิงอวิ๋นก็ยังคงสร้างคาถาปิดผนึกเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง แล้วเก็บกล่องบรรจุดวงดาวแสงทองที่แทบจะไร้ประโยชน์นี้ใส่ลงไปในกระเป๋าจักรวาลด้วย
เซียวหลิงอวิ๋นที่กำลังจะเก็บกล่องนั้นเข้าไปในกระเป๋า!
มีเสียงดัง ‘วิ้ง!’ ขึ้นในห้องนั้น แพลังแปลกๆ ห่อหุ้มตัวเขาที่อยู่ในห้องลับนั้นทันที ร่างกายพลันเบาลง ดวงตาพร่ามัวไปชั่วขณะ
ในชั่วพริบตาต่อมา เซียวหลิงอวิ๋นก็ต้องใเมื่อพบว่าตนเองยืนอยู่ที่ริมทะเลสาบน้ำแข็ง!
“ออกมาอีกคนแล้ว!” ในชั่วขณะต่อมาเขาก็ได้ยินเสียงคนดังเข้ามาในหู!
“หลิงอวิ๋นน้อยออกมาแล้ว!” ฝ่ามือที่งดงามตบลงมาที่ไหล่ของเซียวหลิงอวิ๋นดัง ‘ป๊าบ’ ในเวลาเดียวกันกับเสียงไพเราะที่ดังขึ้น จมูกได้กลิ่นหอมอ่อนๆ โชยมา
มุมปากของเซียวหลิงอวิ๋นเผยรอยยิ้มขมขื่น “ศิษย์พี่หญิง คราวหน้าตอนทักทายช่วยอย่าตบไหล่ได้หรือไม่?”
ฉินหรูเยียนยกมือขึ้นเล็กน้อย กำลังจะตบอีกครั้ง เซียวหลิงอวิ๋นก็ก้าวเท้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ร่างกายก็พุ่งหนีไปทันที! ฉินหรูเยียนหัวเราะคิกคัก “หลิงอวิ๋นน้อย เ้าจะมากเกินไปหน่อยหรือไม่? คิดว่าศิษย์พี่หญิงของเ้าไม่รู้จักเ้าหรืออย่างไร ร่างกายเ้าแข็งแรงอย่างกับวัว อย่าว่าแต่ข้าตบไหล่เลย ต่อให้ต่อยสักสองสามหมัดเ้าก็ยังทนได้”
“อย่า อย่า อย่า ศิษย์พี่หญิง ได้โปลดปล่อยข้าไปเถอะ หากท่านต่อยข้า ต่อให้ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต!” เซียวหลิงอวิ๋นพูดติดตลกไปสองสามประโยคด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ศิษย์พี่หญิง ทุกคนออกมาหมดแล้วหรือยัง?”
อย่างที่คิด ฉินหรูเยียนตอบว่า “ยัง ทางพวกเรายังเหลืออิ่งเอ๋อและศิษย์พี่หญิงิฮุ่ย ส่วนทางสำนักแม่มดเพลิงร้อนก็ยังเหลืออีกคนหนึ่ง เหลือออกมากันหมดแล้ว”
เซียวหลิงอวิ๋นมองไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว พบว่าหลงเฮ่อกับซูเหม่ยก็อยู่ที่นี่แล้ว จึงรู้ว่าคนที่ยังอยู่ในวังน้ำแข็งคือเยี่ยหนาน
เท่ากับว่าตนเองเป็คนที่สี่นับจากสุดท้ายที่ออกมา
จากวิธีการที่พวกเขาถูกส่งออกมา หมายความว่าเมื่อผู้บำเพ็ญเพียรได้สิ่งของที่อยู่ข้างในแล้ว ก็จะถูกส่งกลับออกมาข้างนอกทันที
เมื่อถามอูเสี่ยวหมินที่ออกมาก่อนแล้วก็เป็เช่นนั้นจริงๆ หลินอิ๋งและเจียงอิ่งที่อยู่ข้างๆ ก็ยืนยันแบบเดียวกัน! แต่ทั้งสามคนไม่ได้บอกว่าตนเองได้อะไรมา เซียวหลิงอวิ๋นก็ไม่ได้ซักถามเช่นกัน เพราะเื่นี้ล้วนเกี่ยวข้องกับความลับของแต่ละคน ตัวเขาเองก็เช่นเดียวกันที่จะไม่บอกใครว่าตนได้สิ่งของใดมาจากข้างในนั้น
อย่างไรเสีย ดวงดาวแสงทองที่แทบใช้การไม่ได้ก็ยังคงเป็ดวงดาวแสงทองอยู่ดี และแม้แต่แก่นผลึกน้ำแข็งก็นับว่ายังเป็ของดี
“นี่ หลิงอวิ๋นน้อย เ้าได้อะไรดีๆ มาบ้างหรือ?” ฉินหรูเยียนเข้ามาใกล้ จนหายใจรดใส่เบาๆ ถามด้วยเสียงกระซิบ
เมื่อรับรู้ได้ถึงกลิ่นกายที่น่าพิศมัยและน้ำเสียงที่ไพเราะของหญิงงามที่อยู่ข้างกาย เซียวหลิงอวิ๋นก็ตอบออกไปโดยตั้งใจ “ไม่เลว ได้วัตถุธาตุมาสองชิ้น! ชิ้นหนึ่งระดับสี่ อีกชิ้นหนึ่งระดับห้า!”
ดวงตาของฉินหรูเยียนสว่างขึ้น “ไม่เลวนี่นา” แล้วก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ไม่รู้ว่าศิษย์พี่หญิงิฮุ่ยกับอิ่งเอ๋อจะได้อะไรดีๆ ออกมาบ้าง น่าตื่นเต้นจัง!”
