รอจนกระทั่งิเป่าอวี้นำต้นจิ่นหลัวกลับมาแล้ว ทุกคนก็เคลื่อนขบวนกันไปที่บ้านของท่านหมอหลี่
เพราะแท่นบูชาเทพที่สร้างขึ้นอยู่ไม่ไกลจากเรือนของเขา ไปรักษาที่นั่นสะดวกกว่ามาก
หลังจากปรึกษาหารือกันแล้ว ก็ไม่สนใจว่าท่านหมอหลี่จะเห็นด้วยหรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ยังมีสมุนไพรที่พร้อมใช้อยู่มากมาย สามารถหยิบมาใช้ได้ทันที
เด็กน้อยชีพจรแ่และตื้นอย่างเห็นได้ชัด ิเป่าจูให้ทุกคนรักษาความสงบ ใช้เวลาพิจารณาอยู่พักหนึ่งถึงแน่ใจในอาการของเด็กเวลานี้
“อาการหนักมากแล้ว หากคืนนี้อาการหายใจติดขัดเกิดขึ้นอีก ก็จะหยุดหายใจและเสียชีวิต” ิเป่าจูบอกสถานการณ์ตามความจริง
เื่นี้ไม่จำเป็ต้องปิดบัง นางต้องแจ้งให้บิดามารดาของเด็กรับรู้ ว่าพวกเขาเกือบจะเสียเืเนื้อเชื้อไขเพราะความโง่เขลาของตนเอง
เป็ดังคาด สะใภ้สกุลหยวนได้ยินคำกล่าว ก็อดไม่ได้ที่จะปิดปากร้องไห้ด้วยความอัดอั้นตันใจ ทรุดตัวฮวบในอ้อมแขนสามีอย่างอ่อนแรง
“พี่หญิง นี่ขอรับ” ิเป่าอวี้เข้ามาในห้อง วิ่งตรงมาถึงหน้าเตียง แล้วส่งต้นจิ่นหลัวที่เพิ่งขุดมายังมีดินติดอยู่ให้แก่พี่สาว
ิเป่าจูเด็ดใบทั้งหมดออกมา ใช้โกร่งบดจนกระทั่งคั้นน้ำออกมาแล้วป้อนให้เด็กกิน
แต่ยังไม่สิ้นสุดแค่นี้
หลังจากให้ดื่มน้ำคั้นจนหมดแม้แต่หยดเดียวก็ไม่เหลือ ิเป่าจูก็ลุกขึ้นเดินไปที่หน้าตู้ยา กวาดมองชื่อสมุนไพรที่ติดไว้้า ก่อนจดจำตำแหน่งที่วางของสมุนไพรแต่ละอย่างไว้คร่าวๆ
ถือกระดาษซางผี [1] ไว้มือซ้าย มือขวาก็ดึงลิ้นชักต่างๆ ออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วหยิบสมุนไพรในปริมาณที่เหมาะสมใส่ลงในกระดาษซางผี
หมอประจำหมู่บ้านยืนอ้าปากค้างมองอยู่ด้านข้าง นางถึงขั้นไม่ต้องใช้คันชั่งก็สามารถหยิบได้เลย ทำเช่นนี้ปริมาณที่ได้จะแม่นยำหรือ
สมุนไพรปริมาณขาดเพียงนิดเดียว สรรพคุณก็ต่างกันลิบลับ หลักการง่ายๆ เช่นนี้ิเป่าจูย่อมเข้าใจ
ตนเองทำงานในแวดวงอุตสาหกรรมสมุนไพรจีนมาหลายปี เื่คำนวณปริมาณย่อมกะเกณฑ์ได้อย่างแม่นยำ
ตอนเรียนมหาวิทยาลัยยังเป็เด็กฝึกงานในร้านขายยาจีนใหญ่ๆ หลายแห่ง มีทักษะเฉพาะตัวด้านการหยิบยาและจัดยาเป็พิเศษ เป็ความจำที่ฝังอยู่ในกล้ามเนื้อมานานแล้ว
แท้จริงแล้วนางวิตกว่าเมื่อข้ามภพมาอยู่ในร่างนี้จะต่างไปจากเดิม แต่เมื่อยืนอยู่หน้าตู้สมุนไพร ความคุ้นเคยเก่าๆ ทั้งหมดทั้งมวลก็พรั่งพรูเข้าสู่ร่างกาย
สามารถใช้มือต่างคันชั่งใช้หัวใจเป็มาตรวัดได้โดยไม่มีความแตกต่างแม้แต่น้อย
โรคนี้ไม่ใช่เื่แปลกสำหรับการแพทย์แผนปัจจุบัน มักเกิดในเด็ก่อายุระหว่างสามเดือนถึงหกปี เรียกว่าโรคกล่องเสียงอักเสบอุดกลั้น
ระหว่างที่ล้มป่วยจะมีอาการหายใจลำบาก และเปล่งเสียงออกมาเหมือนสุนัขเห่า เช่นเดียวกับบุตรชายของหยวนต้าจ้วง
แค่ต้มสมุนไพรไม่กี่ชนิดให้ดื่มสัก่หนึ่งก็จะหายจากโรคได้
“หมาหวง [2] แปดเฟิน ซิ่งเหริน [3] สิบสี่เม็ด หวงฉี [4] หนึ่งเฉียน [5] ปั้นเซี่ย [6] หนึ่งเฉียน เปลือกหม่อนขาว [7] หนึ่งเฉียน ซูจื่อ [8] หนึ่งเฉียน ดอกข่วนตงหนึ่งเฉียน กานเฉ่าแปดเฟิน ไป๋กั่ว [9] เจ็ดเม็ด” ิเป่าจูพึมพำออกมา
ส่วนหลี่ไหวฺอวี้ หลังจากใช้ลิ้นต่างคมหอกจัดการนักพรตปลอมเสร็จเรียบร้อย ก็กลับมาทำตัวเกียจคร้านเอ้อระเหยอีกครั้ง ยืนกอดอกพิงประตู มองดูิเป่าจูที่กำลังจมดิ่งอยู่ในโลกของสมุนไพร เขาพลันรู้สึกว่าเด็กสาวที่ปกติแล้วดูบ้านนอก เฉิ่มๆ เชยๆ คล้ายมีรังสีเปล่งประกายออกมาจากทั่วร่าง
เขาสั่นศีรษะ ดูท่าตนเองคงฟั่นเฟือนไปแล้ว จากนั้นก็ไม่รั้งอยู่ชมความน่าสนใจต่อจนจบ หมุนตัวจากไปอย่างไร้สุ้มเสียง
บัดนี้สายตาของทุกคนล้วนเพ่งไปที่ิเป่าจู ไม่มีใครสังเกตหลี่ไหวฺอวี้
“เอาไปต้ม รีบไป” หลังจากจัดยาครบแล้ว ิเป่าจูก็ส่งให้ท่านหมอหลี่พลางกำชับ
หมอหลี่อึ้งไปชั่วขณะ แต่ไรมามีแต่เขาที่สั่งผู้อื่น ไหนเลยจะเคยถูกผู้อื่นใช้งานมาก่อน แต่ติดที่หัวหน้าหมู่บ้านยืนอยู่ข้างหลัง จึงต้องทำตามคำสั่งของิเป่าจูแต่โดยดี
ส่วนิเป่าจูเมื่อจัดยาเรียบร้อยแล้ว ก็กลับไปดูอาการของเด็กน้อยบนเตียง สีม่วงบนใบหน้าลดลงไปไม่น้อย การหายใจเบาและเร็วกว่าเมื่อครู่ และไม่มีเสียงเหมือนสุนัขเห่าดังขึ้นอีก
“ยะ... ยามาแล้ว” ไม่นานนักท่านหมอหลี่ก็ยกถ้วยยาออกมา
เด็กน้อยตื่นแล้ว เขาไม่รู้จักิเป่าจู ดวงตากลมโตจึงเลื่อนไปจดจ้องมารดาของตนเอง
“ท่านมาป้อนเถอะ” ิเป่าจูเห็นเช่นนั้นก็ลุกขึ้น เช่นนี้เด็กจะยอมรับมากขึ้น
เมื่อยาถูกป้อนไปใกล้จะหมดแล้ว เหลือเพียงแค่ก้นถ้วย ิเป่าจูก็บอกให้หยุด
แล้วขอผ้าฝ้ายกับท่านหมอหลี่มาชุบยาที่เหลือในถ้วยจนชื้น แล้วให้สะใภ้สกุลหยวนเช็ดตัวให้บุตรชาย โดยเฉพาะส่วนคอ แต่ไม่ต้องออกแรงหนักมาก
สะใภ้สกุลหยวนก็ทำตาม ระหว่างเช็ดตัวอาจเป็เพราะเด็กไม่ได้รู้สึกสบายเช่นนี้มานานจึงผล็อยหลับไปอย่างสงบ
“บุตรชายข้าไม่ได้หลับสนิทเช่นนี้มานานมากแล้ว ขอบคุณมาก ขอบคุณเ้ามาก” สะใภ้สกุลหยวนน้ำตาร่วง พลางหันมาขอบคุณิเป่าจู
“ต่อไปบุตรของเ้าก็จะหลับสนิทได้อย่างนี้แหละ เทียบยานี้ข้าเขียนไว้ให้แล้ว ดื่มต่อเนื่องสิบวันก็จะหายสนิท”
ความมั่นใจในทักษะการแพทย์เป็ผลมาจากการสั่งสมประสบการณ์และฝึกฝนมาเป็เวลาหลายปี
สองสามีภรรยาสกุลหยวนต่างขอบคุณนางอีกครั้ง บอกว่าหากบุตรชายหายป่วยแล้ว จะไปขอบคุณถึงเรือนอย่างแน่นอน
ิเป่าจูปฏิเสธว่าไม่ต้อง แต่ถ้ามีปัญหาอะไรก็ให้ไปหานางได้ทันที หลังจากนั้นก็พาิเป่าอวี้กลับบ้าน
ชาวบ้านที่มุงอยู่หน้าประตูเห็นิเป่าจูออกมา ต่างก็เปิดทางให้สองพี่น้องโดยมิได้นัดหมาย
ิเป่าจูสังเกตเห็นว่าหญิงชาวบ้านสองสามคนที่ก่อนหน้านี้กล่าวหาว่านางขโมยของต่างก้มหน้างุด แทบอยากจะฝังตนเองอยู่ในฝูงชน
เมื่อเดินผ่านแท่นบูชาเทพเ้า ก็เห็นกระบุงที่วางอยู่มุมโต๊ะดูคุ้นตายิ่ง ทันใดนั้นถึงนึกได้ว่าเป็อาหารที่ตนเองลืมทิ้งไว้ที่นี่
จึงรีบพาิเป่าอวี้เข้าไปหยิบ สองพี่น้องต่างรู้สึกว่าโชคดีที่พิธีกรรมกับเหตุการณ์วุ่นวายดึงดูดความสนใจของชาวบ้านไว้ได้ มิเช่นนั้นคงมีใครหยิบฉวยติดมือไปแล้ว
“พี่หญิง พี่ไหวฺอวี้เล่า” เมื่อเดินมาถึงประตูบ้าน ทั้งสองถึงเพิ่งนึกได้ว่ายังมีเขาอีกคน
ิเป่าจูรู้สึกแปลกใจ จำได้ว่าตอนอยู่บ้านหมอประจำหมู่บ้านก็ยังเห็นเขาอยู่ ไฉนเพียงครู่เดียวก็หายไปแล้ว
“เข้าไปก่อนเถอะ อีกประเดี๋ยวค่อยว่ากัน” ท้องฟ้ายังสว่างสดใสอยู่ จะหายไปไหนได้ วันนี้ฝนไม่ตก ครานี้คงไม่ติดอยู่ข้างนอกแล้ว
ถ้าิเป่าจูรู้ว่าหลี่ไหวฺอวี้ติดอยู่ข้างนอกเพราะฝนตกทำให้หลงทาง ก็คงได้หัวเราะจนฟันร่วง
เมื่อผลักประตูเปิดออก เดินเข้าไปในลานเรือน ทั้งสองก็หยุดพร้อมกัน
นอกจากทางเดินตรงกลางแล้ว เพิงไม้ถูกตั้งไว้ทั้งสองด้านของสวนสมุนไพร แสงตะวันลอดผ่านลงมาเป็เงาสีดำพาดบนใบไม้สีเขียว ดูงดงามยิ่ง กลิ่นสมุนไพรหอมฟุ้งไปทั่วลานบ้าน
“ดูท่าพี่ไหวฺอวี้ของเ้าจะล่วงหน้ากลับมาก่อน” ิเป่าจูเลิกคิ้ว ก่อนก้าวเข้าไปในบ้าน “วันนี้พระอาทิตย์ต้องขึ้นทางทิศตะวันตกแน่ๆ”
หลี่ไหวฺอวี้นั่งไขว่ห้างดื่มน้ำอยู่ในบ้านอย่างสบายอารมณ์ ท่วงท่าที่สง่างามของเขาทำให้น้ำบ่อธรรมดาถ้วยหนึ่งดูเป็ชาต้าหงเผา [10] ราคาแพงลิบลิ่วทันที
เมื่อเห็นรอยยิ้มยั่วเย้าของิเป่าจู เขาก็วางถ้วยลงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและไม่ตอบอะไรกลับไป ทว่าสายตากลับมองของในมือนางก่อนจะหัวเราะออกมา
“เ้าจะต้องมีของกินติดมือตลอดเวลา แม้แต่ยามวิ่งหนีก็ยังหิ้วไปด้วย ช่างเป็คนที่ไม่ลืมรากเหง้าโดยแท้”
ตอนนั้นเขาเห็นิเป่าจูถูกคนวิ่งไล่มาแต่ไกล ในมือนางก็ยังหิ้วของพะรุงพะรัง จนเขาไปถึงแล้ว นางก็ยังตั้งหน้าตั้งตาวิ่งสุดชีวิต ไม่สังเกตอะไรเลย
เมื่อได้ยินถ้อยคำดังกล่าว ิเป่าจูถึงได้ตระหนัก มิน่าเล่าตอนที่วิ่งหนีก่อนหน้านี้นางถึงรู้สึกว่าวิ่งไม่ไหว
แต่หลี่ไหวฺอวี้กล่าวเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร จะบอกว่านางเป็คนเห็นแก่กินอย่างนั้นหรือ
เชิงอรรถ
[1] กระดาษซางผี ทำมาจากเปลือกของต้นหม่อน กระดาษชนิดนี้มีความนุ่มและบาง มีความยืดหยุ่นดูดซับน้ำได้ดี มักนำมาใช้ในงานศิลปะเช่น ทำร่มกระดาษ ใช้ห่อยา ทำพัด มีหลายเกรดทั้งสีขาว และสีเหลืองหม่น
[2] หมาหวง (Ephedra sinica) เป็สมุนไพรจีนที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบมองโกเลีย รัสเซีย และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน สมุนไพรนี้ถูกใช้กันมาอย่างยาวนาน โดยนำส่วนของลำต้นมาทำให้แห้ง สมุนไพรมีรสเผ็ด ขมเล็กน้อย ฤทธิ์อุ่น สามารถเข้าเส้นลมปราณปอด และกระเพาะปัสสาวะได้ สรรพคุณ ช่วยขับเหงื่อ ขับความเย็น อบอุ่นปอด ช่วยสลายของเหลวที่ตกค้างในปอด แก้ไอ บรรเทาอาการหอบ ลดบวมและขับปัสสาวะ
[3] ซิ่งเหริน หมายถึงเมล็ดแอปริคอท (Apricot Kernel) เมล็ดสุกแห้งที่ลอกเปลือกหุ้มเมล็ดออกแล้วของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Prunus armeniaca L. หรือ P. sibirica L. หรือ P. mandshurica (Maxim.) Koehne หรือ P. armeniaca L. var. ansu Maxim. วงศ์ Rosaceae สรรพคุณช่วยระงับไอและหอบ หล่อลื่นลำไส้ ระบายอ่อนๆ ระบายและกระจายชี่ที่ปอด ระงับไอ บรรเทาหอบ ให้ความชุ่มชื้นแก่ลำไส้ และระบายอ่อนๆ
[4] หวงฉี คือรากแห้งของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Astragalus membranaceus (Fisch) Bge. var. mongholicus (Bge.) Hsiao หรือ A. membranaceus (Fisch.) Bge. วงศ์ Fabaceae (Leguminosae-Papilionoideae)มีรสหวาน อุ่นเล็กน้อย เข้าสู่เส้นลมปราณปอด และม้าม สรรพคุณช่วยบำรุงชี่ ระงับเหงื่อ ขับปัสสาวะลดอาการบวม เพิ่มสารจินสร้างเื ทำให้ชี่ไหลเวียน ระงับปวด ช่วยรักษาาแและสร้างเนื้อเยื่อ
[5] น้ำหนัก 1 เฉียน เท่ากับ 3.72 กรัม
[6] ปั้นเซี่ย หรือโหราข้าวโพด คือลำต้นใต้ดินแห้งของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pinellia ternata (Thunb.) Ten. ex Breitenb. วงศ์ Araceae มีรสเผ็ด อุ่น มีพิษ เข้าสู่เส้นลมปราณม้าม กระเพาะอาหารและปอด ช่วยขับเสมหะ ระบายความชื้น แก้ภาวะชื้น ลดการไหลย้อนของชี่
[7] เปลือกหม่อนขาว คือเปลือกรากแห้งของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Morus alba L. วงศ์ Moraceae รสอมหวาน เย็น มีฤทธิ์ระบายความร้อน บรรเทาอาการหอบ ใช้แก้ไอหอบหืด เนื่องจากปอดร้อน และมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ลดบวม แก้อาการบวมน้ำ ระบายและดึงซี่ของปอดลงต่ำ ปรับการหมุนเวียนของน้ำ ขับน้ำ ตัวบวม หน้าบวม กล้ามเนื้อิับวม น้ำท่วมปอด ทำให้หอบ ปัสสาวะขัด
[8] ซูจื่อ ผลสุกแห้งของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Perilla frutescens (L.) Britt. วงศ์ Lamiaceae (Labiatae)สรรพคุณช่วยระงับอาการไอและหอบ ช่วยให้ลำไส้ชุ่มชื้น ระบายอ่อนๆ
[9] ไป๋กั่ว (แปะก้วย) คือ เมล็ดแห้งของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ginkgo biloba L. วงศ์ Ginkgoaceae มีรสหวาน ขม ฝาด สุขุม มีพิษ เข้าสู่เส้นลมปราณปอดและไต
[10] ชาต้าหงเผา คือชาที่มาจากเขาอู่อี๋ซาน มณฑลฮกเกี้ยน จัดอยู่ในประเภทชาอู่หลง เป็เสมือนเพชรน้ำงามในบรรดาชาที่มีชื่อของจีน ได้รับสมญาว่าเป็ ‘ชาจอหงวน’
