“รถที่อยู่ด้านหน้า รบกวนหยุดเพื่อรับการตรวจสอบด้วยครับ” เจี่ยหยวนไม่ได้ขับรถไว เมื่อสักครู่เขาก็เพิ่งจะวางสายทว่าด้านหลังดันมีรถตำรวจสามคันตามรถของตัวเองอยู่
“เวรเอ๊ย ไอ้โง่นี่” เจี่ยหยวนอดด่าออกมาไม่ได้จากนั้นเขาก็จอดเลียบข้างถนน
“เปิดประตู ๆ เมื่อกี้ยังเล่นอยู่เลยไม่ใช่เหรอ รีบเปิดประตูเลยฉันติดต่อบริษัทของพี่หยวนแล้วล่ะ เดี๋ยวพี่หยวนมาคงจัดการแกแน่” รถเฟอร์รารี่ของซุนเจี้ยนจอดอยู่ด้านหน้ารถของเจี่ยหยวน หลังจากลงรถไปซุนเจี้ยนก็ลากเจี่ยหยวนลงมาจากรถ
“ไอ้น้อง สุดยอดไปเลย กล้าเอารถตำรวจมาขวางฉันเนี่ย” เจี่ยหยวนตะคอกเสียงดัง
“ป้าบ!” ซุนเจี้ยนตบเข้าที่ศีรษะของเจี่ยหยวน “มาเรียกฉันว่าไอ้น้องได้ไง จริงจังหน่อย ฉันไม่เคยเห็นแกมาก่อนเลยนี่มันรถพี่หยวน สี่ตัวอันตรายเมืองอู่เฉิง ไม่เคยได้ยินมาก่อนหรือไงกล้ามากเลยนะเนี่ย รถพี่หยวนยังกล้าขโมยเลยเหรอ”
“ซุนเจี้ยนไอ้เวร ฉันเนี่ยแหละเจี่ยหยวน เบิกตาของแกดูให้ชัด ๆ” เจี่ยหยวนตวาดเสียงดังก่อนจะยื่นมือไปตบเข้าที่ศีรษะของซุนเจี้ยน
“ปลอมเป็พี่หยวน แถมยังตบฉันอีก แกคอยดู แกคอยดูเลย” ซุนเจี้ยนพูดเสียงดัง
“ซุนเจี้ยน สมญานามใหญ่ สูงร้อยเจ็ดสิบเอ็ดเซ็น แต่งงานแล้วเลี้ยงนักศึกษามหาลัยอยู่คนหนึ่ง เลี้ยงดาราชั้นรองอยู่อีกคนนักศึกษาอยู่ที่ตึกสิบแปดโครงการที่อยู่ของหยวนอินเตอร์ส่วนดาราอยู่ที่คฤหาสน์ซิงเหยี่ย แม่มันเถอะ ฉันใช่เจี่ยหยวนไหมล่ะ” เจี่ยหยวนะโเสียงดังใส่ซุนเจี้ยน
“ให้ตาย กะ...แกเข้าไปในรถฉันเลยนะ” ซุนเจี้ยนพูดพลางผลักเจี่ยหยวนเข้าไปในรถ “แกเป็ใครกันแน่ ทำไมแกรู้เื่เยอะขนาดนี้”
“โว้ย จะใไปทำไม วันนี้แกทำฉันปวดหัว ฉันจะจำไว้ขึ้นใจเลยฉันจำได้ว่าเมียแกได้เทควันโดสายดำไม่รู้ว่าแค่ตีนเดียวจะทำกระดูกแกหักไปกี่ท่อนนะ” เจี่ยหยวนมองซุนเจี้ยนพร้อมกับพูดยิ้มๆ
“เป็ไปไม่ได้ พี่หยวนหนักร้อยห้าสิบกว่า วันก่อนฉันยังไปกินข้าวดื่มเหล้ากับเขาอยู่เลยทำไมผ่านไปไม่กี่วันถึงกลายเป็แบบนี้ไปแล้วล่ะ” ซุนเจี้ยนพูดเบาๆ เขายังคงไม่อาจะเชื่อสายตาตัวเอง
“พวกเราไม่ได้แค่กินข้าวดื่มเหล้านะ ยังไปใต้หล้าอู่เฉิงอีกต่างหากแกไปหาเด็กมหาลัยมาสองคน ตอนหลังเมียแกก็โทรศัพท์ตามกลับ พี่พูดถูกไหมล่ะ” เจี่ยหยวนมองซุนเจี้ยนที่มีสีหน้าอึ้งตะลึงก็พูดยิ้ม ๆ
“พะ...พี่หยวน พี่จริง ๆ เหรอ” คราวนี้ซุนเจี้ยนเชื่อแล้วเพราะว่าคืนนั้นพวกเขาสองคนอยู่ในห้อง เื่นี้มีเพียงเจี่ยหยวนเท่านั้นที่รู้ “พี่หยวน ผมผิดไปแล้ว แต่พี่ก็ไม่ถูกนะ ทำไมพี่เปลี่ยนไปเยอะขนาดนี้ล่ะ”
“ป้าบ! เด็กบ้านี่ กล้าตบหัวฉันเหรอ” เจี่ยหยวนตบเข้าที่ศีรษะของซุนเจี้ยนอีกครั้ง ซุนเจี้ยนก้มศีรษะลงก่อนจะหัวเราะแหะ ๆ เมื่อกี้เขาตบเจี้ยหยวนไปเสียแรงแลย
“พี่หยวน ไป เราไปนั่งด้านนู้นกันหน่อยพี่เป็แบบนี้พี่เข้าไปประตูใหญ่หยวนอินเตอร์ไม่ได้แน่เดี๋ยวถ้าใครตบพี่เข้าอีกพี่ได้ซวยแน่” ซุนเจี้ยนพูดยิ้มๆจากนั้นทั้งสองคนก็ขับรถตามกันไปที่บริษัทจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขนาดไม่เล็กแห่งหนึ่งในศูนย์การค้าอิเล็กทรอนิกส์เมืองอู่เฉิง
“พี่ไฮว่ อรุณสวัสดิ์” อวี้เอ๋อร์ยิ้มทักทายกัวไฮว่ในตอนนี้อวี้เอ๋อร์ หลิวเย่าซือและเหลิ่งซวงปรากฏตัวอยู่ในห้องอาหารของโรงแรมส่วนกัวไฮว่ก็กินแทบจะอิ่มแล้ว “เมื่อวานไปหาหลิงหลิงที่ฟู่จงอีกหรือเปล่า”
“อวี้เอ๋อร์เมียรัก ฟ้าดินเป็พยาน เมื่อคืนฉันอยู่กับพี่สองทั้งคืนข้าวจะมั่วซั่วไม่ได้ฉันใด คำพูดจะพูดมั่วซั่วไม่ได้ฉันนั้น” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ
“ฮึ เชื่อก็แย่แล้ว” อวี้เอ๋อร์พูดพลางไปหยิบของกินถึงแม้ข้าวบนแดนมนุษย์นี่จะไม่ได้อร่อยอะไร แต่ว่ากัวไฮว่มักจะพูดว่าการกินก็เป็การฝึกอย่างหนึ่ง งั้นก็กินอย่างพิถีพิถันไปซะเถอะ
นักศึกษาที่กัวไฮว่รับมาจากมหาวิทยาลัยอู่เฉิงต่างก็ทยอยกันมาที่ห้องอาหารของโรมแรมท่าทางของพวกเขาดูไม่เลวเลย ดูท่าทุกคนต่างพักผ่อนกันอย่างเต็มอิ่ม
“น้องกัวไฮว่ พรุ่งนี้ฉันไม่อยู่นี่แล้วล่ะ เมื่อกี้ฉันถามฟรอนต์แล้วบอกว่าที่นี่คืนนึงตั้งแปดร้อยแปด พรุ่งนี้ฉันจะกลับไปอยู่ที่มหาลัย ตอนเช้าก็นั่งรถเมล์มาที่นี่ตื่นเช้าสักหน่อยก็ได้แล้วล่ะ” หลี่อวี้เดินไปยังด้านข้างของกัวไฮว่พร้อมกับพูดขึ้นเบาๆ
“ธุรกิจในครอบครัว ไม่ต้องจ่ายเงิน อยู่ที่นี่ก็ได้ ั้แ่วันนี้เป็ต้นไปพวกเธอไม่มีเวลาว่างให้เสียเปล่าไปหรอกนะ ฉันจัดตารางเรียนให้พวกเธอไว้เต็มหมดแล้วคลินิกไม่ของพวกเราไม่้าคนธรรมดา ๆ หรอกนะ แล้วก็จะไม่มีหมอธรรมดา ๆ ด้วย” กัวไฮว่พูดด้วยเสียงดังเหล่านักศึกษาที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องอาหารต่างก็มองไปยังกัวไฮว่พร้อมกับพยักหน้าด้วยความจริงจัง พวกเขาต่างก็เคารพนับถือกัวไฮว่มากขึ้น
“ทุกคนกินกันอิ่มแล้วก็ไปที่คลินิกด้วยกันเถอะเดี๋ยววันนี้ฉันจะพาพวกเธอไปทำความรู้จักกับสถานที่ทำงาน” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ ทั้งยี่สิบคนต่อแถวเรียงกัน พวกเขาไม่ได้ขับรถไปแค่เดินตรงไปยังคลินิกไม่
“ถึงแล้ว คลินิกไม่” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆเขาพาฝูงชนมายังหน้าประตูคลินิก ทุก ๆคนยกเว้นอวี้เอ๋อร์ต่างก็ตกตะลึงกับป้ายขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า อักษรสามตัวคำว่า ‘คลินิกไม่’ ทำเอาคนที่มีความรู้ด้านพู่กันจีนอันน้อยนิดต่างก็รู้สึกได้ถึงความกดดันป้ายขนาดมหึมานี่ก็ทำให้นักศึกษาทุกคนรู้สึกแบบเดียวกัน นี่มันวัสดุอะไรกันมาห้อยอยู่ข้างบนได้ยังไงกัน
“เข้าไปเถอะ เดินดูตามสบายได้เลย” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“พี่เจี่ยตี้ มาดูโต๊ะนี่สิ พี่มีความรู้เื่ไม้นี่ ดูสิว่าเป็วัสดุอะไรโต๊ะนี่ดูมีพลังมาก ๆ เลย” เฉาเฉียนคุนพุ่งตัวไปพูดกับเฉินเจี่ยตี้ส่วนเฉินเจี่ยตี้ไม่ได้ตอบกลับเขากำลังตกตะลึงกับเก้าอี้เตี้ยที่ตนเองกำลังนั่งอยู่ ทั้งไม้ ทั้งงานแกะสลักของแบบนี้มันศิลปะชัด ๆ ศิลปะของแท้ จะมาให้คนนั่งได้ยังไงกัน คิดไปคิดมาเฉินเจี่ยตี้ก็ลุกขึ้น
“อาจารย์คะ ไม่ทราบว่าเฟอร์นิเจอร์พวกนี้เอามาจากไหนเหรอ บอกฉันหน่อยได้ไหมอีกไม่กี่วันจะวันเกิดคุณปู่แล้ว ฉันอยากให้ของขวัญวันเกิดท่านหน่อย” เหอโม่ที่ไม่พูดไม่จาอยู่ตลอดก็พูดขึ้นเบา ๆ ไม้จันทน์จื่อจินอย่าว่าแต่เฟอร์นิเจอร์แบบนี้เลย แม้แต่เขาเองก็หาไม่ได้หรอกมีหลายคนที่อยากได้ไม้จันทน์จื่อจินก็ถึงขั้นเสี่ยงอันตรายไปขุดมาจากหลุมศพบรรพบุรุษ
“ในเมื่อเธอเรียกฉันว่าอาจารย์แล้วเดี๋ยวฉันจะหาของขวัญวันเกิดปู่เธอมาให้เอง ถึงตอนนี้เธอพอใจอย่างแน่นอน” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ ส่วยเหอโม่พยักหน้าเบา ๆดูท่าทางที่ให้เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านี้เป็อาจารย์ก็ไม่เลวสักเท่าไหร่
“วันนี้ไม่พูดถึงเื่อื่นแล้ว ในเมื่อฉันเลือกพวกเธอมาฉันก็หวังว่าพวกเธอจะอยู่ที่คลินิกไม่ต่อกันหมด และจำ ‘หกไม่รักษา’ ของคลินิกไม่ไว้ให้ดีล่ะ ไม่รักษาคนไม่กตัญญู ไม่รักษาคนพูดปดไม่รักษาคนไม่เคารพ ไม่รักษาคนชั่ว ไม่รักษาผู้ไม่ปรองดองไม่รักษาผู้ไม่สนในการแพทย์” กัวไฮว่พูดเสียงดัง
“สุดยอด สุดยอดจริง ๆ โดยเฉพาะประโยคสุดท้ายนั่น ไม่รักษาคนที่ไม่อยากรักษา” เฉาเฉียนคุนพูดเสียงดัง “กัวไฮว่ ต่อไปจะให้พวกเราเรียกนายยังไงดีให้เรียนผอ. หรือว่าจะให้เรียกหัวหน้าดี”
“ฮ่าๆ เรียกหัวหน้าดีว่า หรือว่าพวกเธออยากเรียกอะไรก็ตามใจคนรุ่นเดียวกันทั้งนั้น ขอแค่พวกเธอไม่ทำเื่ผิดกฎฉันก็จะไม่โกรธ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“ผอ. ครับ ถ้าอยากให้พวกเราอยู่คลินิกไม่ต่อจริงๆ ผมว่าคุณควรจะแสดงความสามารถมาหน่อยนะ ของที่อยู่ตรงหน้านี่ตระการตาก็จริงแต่สิ่งที่ทำให้พวกเรานับถือคุณได้ก็มีแค่ความสามารถทางการแพทย์เท่านั้น” เฉินเจี่ยตี้พูดเสียงดัง
“รอดูเถอะ ไว้วันเปิดคลินิกฉันจะให้พวกเธอดูจนจุใจแน่”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้