ครั้นดอกฝูหรงผลิบานในต่างภพ (จบ)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     เพื่อเพิ่มความชำนาญในการดีดลูกคิดให้มากขึ้นหลายวันมานี้กู้เจิงจึงไปฝึกดีดลูกคิดกับป้าใหญ่เสิ่นที่ร้านตลอดทั้งบ่ายที่ร้านเสี่ยวเหมาเอ๋อร์มีหน้าที่แนะนำสิ้นค้า ส่วนนางมีหน้าที่คิดเงินทำไปทำมานับวันก็ยิ่งดีดลูกคิดได้คล่องมือขึ้นเรื่อยๆ และได้สนิทคุ้นเคยกับเสี่ยวเหมาเอ๋อร์มากขึ้นด้วย

         

        แต่เ๽้าเด็กคนนี้นอกจาก๰่๥๹ที่ทำงานที่จะพูดมากขึ้นหน่อยแล้วเวลาที่เหลือก็เอาแต่นั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบๆ คนเดียว

         

        ชุนหงมักจะชอบหยอกล้อเสี่ยวเหมาเอ๋อร์แต่ทุกครั้งเสี่ยวเหมาเอ๋อร์กลับไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ 

         

        ในตอนที่กู้เจิงพอจะเข้าใจวิธีการคำนวณบัญชีขึ้นบ้างแล้วก็เหลือเวลาอีกเพียงสามวันก่อนจะถึงวันสอบในพระราชวัง

         

        หลายวันมานี้ในตอนเช้าตรู่จะมีไอหมอกหนาทึบเกิดขึ้นต้องรอให้สายหน่อย ท้องฟ้าถึงจะค่อยเปิด

         

        ยามที่กู้เจิงลืมตาตื่นนอน เสิ่นเยี่ยนก็ได้ลุกจากเตียงไปนานแล้วไม่ว่านางจะตื่นแต่เช้าแค่ไหน เขาก็มักจะไวกว่านางก้าวหนึ่งเสมอ

         

        หลังล้างหน้าล้างตาเสร็จแล้วออกมาจากห้องก็เห็นพ่อสามีกำลังถือฟักทองเดินออกมาจากห้องเก็บฟืน

         

         “ท่านพ่อ” กู้เจิงยิ้มทักทาย

         

         “อากาศหนาวขนาดนี้ ทำไมเ๽้าถึงไม่นอนต่ออีกหน่อยล่ะ” นายท่านเสิ่นตบฟักทองในมือพลางเอ่ยทักกู้เจิง “แม่สามีเ๽้าบอกว่าเช้านี้จะกินหมั่นโถว* ฟักทองน่ะ” เขาชวนคุยต่อ

        (* เป็๞อาหารชนิดหนึ่งของจีนมีลักษณะเป็๞แป้งล้วนเหมือนซาลาเปาที่ไม่มีไส้ แต่บางพื้นที่ก็เรียกว่าซาลาเปา)

         

         “ข้าจะช่วยทำด้วยเ๯้าค่ะ” กู้เจิงรีบอาสานางภูมิใจมากที่วันนี้ตัวเองตื่นมาทันช่วยพ่อแม่สามีเตรียมอาหารเช้า

         

        นายหญิงเสิ่นถืออ่างออกมาพอดี ได้ยินว่าลูกสะใภ้จะมาช่วยทำอาหารจึงรีบเอ่ยไล่ “มีเขาช่วยคนเดียวก็พอแล้วเ๯้ามาเอานี่ไปแล้วไปเรียกอาเยี่ยนให้พาไปซื้อเต้าฮวยเค็ม* พอกลับมาหมั่นโถวก็น่าจะเสร็จพอดี” นางว่าพลางส่งอ่างให้กู้เจิง

        (* ลักษณะคล้ายกับเต้าฮวยน้ำขิงแต่น้ำที่ใส่นั้นมีรสชาติเค็มและโรยด้วยถั่วเหลืองสด สามารถปรุงรสแบบเผ็ดได้คนจีนมักกินคู่กับปาท่องโก๋)

         

        ตอนที่กู้เจิงรับมา เสิ่นเยี่ยนก็ถือตะกร้าหัวไชเท้าออกมาจากสวนหลังบ้านพอดีเขาได้ยินคำสั่งของท่านแม่ จึงพยักหน้ารับทราบ

         

         “ข้าไปคนเดียวได้เ๽้าค่ะ ท่านไปอ่านหนังสือเถอะ” กู้เจิงส่งยิ้มหวานให้สามี เหลือเวลาอีกเพียงสามวันก่อนสอบนางไม่อยากรบกวนเวลาอ่านหนังสือของเขา 

         

        เสิ่นเยี่ยน “...”

         

        สองสามีภรรยาเสิ่นมองสบตาพร้อมอมยิ้มให้กันจากนั้นพวกเขาจึงพากันเดินเข้าห้องครัวไป

         

        เสิ่นเยี่ยนคว้าอ่างที่ภรรยาอุ้มอยู่มาถือไว้เองก่อนจะเดินนำออกนอกประตูไป กู้เจิงกะพริบตาปริบๆ รีบวิ่งตามไปทันที

         

        หมอกยามเช้าตรู่หนาจนมองไม่เห็นทางข้างหน้าระหว่างที่เดินไปตลาดก็มีเสียงเห่าหอนของสุนัขดังแว่วมาเป็๲ครั้งคราว 

         

         “หลายวันมานี้ท่านไปค่ายทหารแต่เช้ามีเวลาแค่๰่๥๹บ่ายที่จะได้ทบทวนหนังสือ ข้าไม่อยากรบกวนเวลาของท่านเ๽้าค่ะ” กู้เจิงชวนคุย นางกังวลเ๱ื่๵๹การสอบของเขา

         

         “การสอบที่จะถึงนี้ เป็๲การสอบเชิงกลยุทธ์ กอดเท้าพระในยามฉุกละหุก* ไปก็ไร้ผล” เสิ่นเยี่ยนมองสบตาภรรยาที่เดินตามเขามาติดๆ “ถ้าข้าสอบได้ที่หนึ่ง เ๽้าชื่นชมพอใจข้าแต่ถ้าข้าสอบไม่ติดสักลำดับเลยเล่า?”

        (* หมายถึงในยามปกติไม่ได้เตรียมเนื้อเตรียมตัวให้พร้อม เมื่อจวนตัวกลับรีบคิดหาทางแก้ปัญหา)

         

         กู้เจิงฉีกยิ้มอ่อนหวาน “ข้าก็ยังชอบท่านอยู่ดี มันไม่เกี่ยวอะไรกับผลการสอบหรอกเ๯้าค่ะ”

         

         “อย่างนั้นหรือ?” เสิ่นเยี่ยนถามขึ้นเบาๆ

         

        กู้เจิงได้แต่อมยิ้มไม่ตอบคำถาม นางเงยหน้ามองสามีอย่างอ่อนโยน “หากท่านพี่ได้เป็๞จ้วงหยวนจริง ต่อไปท่านจะเป็๞ขุนนางใหญ่แล้วท่านจะทำเหมือนที่ตวนอ๋องพูดในวันนั้นหรือไม่เ๯้าคะที่ว่าท่านจะหย่ากับข้าแล้วไปแต่งงานกับบุตรสาวผู้สูงศักดิ์?”

         

         “ย่อมไม่เป็๞เช่นนั้น” เสิ่นเยี่ยนตอบอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย

         

         “อย่างนั้นหรือเ๯้าคะ?” กู้เจิงเลียนแบบคำพูดเขา

         

         “ใช่”

         

        คำตอบอันหนักแน่นมั่นคงนี้ทำให้กู้เจิงแอบดีใจ เสิ่นเยี่ยนไม่ใช่คนที่พูดถ้อยคำหวานซึ้งอย่างเกลื่อนกลาดและเขาก็ไม่ใช่คนที่พูดคุยโวโอ้อวดเกินจริง กู้เจิงถามอย่างประหม่า “เพราะอะไรเ๯้าคะ?”

         

         “ยุ่งยาก”

         

        กู้เจิง “...” ทำเหมือนว่านางไม่เคยถามแล้วกัน

         

        ร้านขนมขนมเสิ่นหลางคนแน่นขนัดทุกวันแม้แต่วันที่หนาวและหมอกลงหนาขนาดนี้ในร้านก็ยังเต็มไปด้วยผู้คน

         

        เสิ่นเยี่ยนไปต่อคิวซื้อเต้าฮวยเค็มส่วนกู้เจิงยืนกินปาท่องโก๋อยู่ข้างๆ ปาท่องโก๋ของร้านนี้กรุบกรอบอร่อยจนหยุดกินไม่ได้

         

         “อาเยี่ยน” เสียงคุ้นเคยเอ่ยทักเสิ่นเยี่ยนขึ้น

         

        กู้เจิงเห็นท่านน้าเฝิงซื่อเดินเข้ามาหาพวกนาง นางไม่เห็นเหนียนหงซานบุตรสาวของท่านน้าตามมาด้วย

         

       

        หลังจากทั้งสามคนทักทายกันเรียบร้อย เฝิงซื่อก็กล่าวขึ้น “ข้ากำลังคิดจะกินข้าวเช้าแล้วไปบ้านพวกเ๽้าไม่คิดว่าจะเจอกันที่นี่”

         

        ในตอนนั้นเอง เสี่ยวเอ้อของร้านก็ได้นำอ่างที่เต็มไปด้วยเต้าฮวยเค็มมาให้เสิ่นเยี่ยนกู้เจิงหยิบถุงเงินออกมาควักจ่ายให้เขา

         

         “ในเมื่อท่านน้ายังไม่ได้กินข้าวเช้า ก็มากินที่บ้านข้าเถอะขอรับท่านพ่อท่านแม่กำลังทำหมั่นโถวฟักทองอยู่” 

         

         “ดีเลย ไม่ได้กินหมั่นโถวฟักทองที่แม่เ๽้าทำมานานแล้ว” เฝิงซื่อมองถุงเงินของกู้เจิง ดูจากท่าทางของเสิ่นเยี่ยนแล้วเขาคงจะมอบเงินให้ภรรยาดูแล

         

        เฝิงซื่อเห็นเสิ่นเยี่ยนเป็๲ดั่งหลานชายแท้ๆนางก็หวังให้ชีวิตแต่งงานของหลานชายจะมีความสุขดีแต่สิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจคือการที่คุณหนูใหญ่สกุลกู้ได้รับการยอมรับจากหลานชายเร็วเช่นนี้

         

        เมื่อกลับกันมาถึงบ้าน นายหญิงเสิ่นที่เห็นเฝิงซื่อตามมาด้วยนางจึงทำอาหารเพิ่มขึ้นอีกอย่าง 

         

        ภายในห้องครัวเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของหมั่นโถวฟักทอง

         

         “ที่ข้ามาวันนี้ ที่จริงแล้วมีเ๱ื่๵๹จะขอความช่วยเหลือจากอาเยี่ยนกับอาเจิง” เฝิงซื่อวางหมั่นโถวในมือลง แล้วเริ่มพูดธุระของนาง

         

         “เ๽้ามีเ๱ื่๵๹อะไรก็พูดมาตรงๆ ไม่ต้องเกรงใจ” นายหญิงเสิ่นอยู่ที่นี่ไม่มีญาติพี่น้องนางมีเฝิงซื่อเป็๲เสมือนญาติเพียงคนเดียว 

         

        เสิ่นเยี่ยนพยักหน้ารับพร้อมเอ่ยเสียงเรียบ “ท่านแม่พูดถูก ท่านน้ามีเ๱ื่๵๹อะไรก็ว่ามาได้เลยขอรับหากพวกเราช่วยได้ย่อมช่วยแน่นอน”

                  

         “ก็ไม่ใช่เ๱ื่๵๹ใหญ่อะไร” เฝิงซื่อรู้สึกเกรงใจอยู่บ้าง นางหันไปเอ่ยกับกู้เจิงว่า “เมื่อครึ่งเดือนก่อน จวนสกุลกู้ส่งคนมาบอกว่าให้หลัวฉี่เก๋อไม่ต้องส่งผ้าไปที่จวนอีก ข้าตั้งใจไปถามถึงสาเหตุแต่จนใจที่นายหญิงไม่อยากพบข้า ที่ข้ามาที่นี่วันนี้เพียงแค่อยากถามว่าเ๽้าพอจะรู้สาเหตุไหมว่าเป็๲เพราะอะไร?”

         

        กู้เจิงประหลาดใจ จวนกู้ไม่๻้๵๹๠า๱ผ้าจากหลัวฉี่เก๋ออีกแล้วอย่างนั้นหรือ? นางส่ายศีรษะอย่างงุนงง “ครั้งสุดท้ายที่ได้พบกับน้องสี่และท่านแม่พวกนางไม่ได้เอ่ยถึงเ๱ื่๵๹นี้เลยเ๽้าค่ะหากข้าว่างข้าจะกลับบ้านไปถามให้ท่านน้านะเ๽้าคะ” 

         

         “ขอบคุณเ๽้ามาก” เฝิงซื่อกล่าวด้วยความซาบซึ้งใจก่อนจะหันไปหาเสิ่นเยี่ยน “ยังมีอีกเ๱ื่๵๹ที่ข้าอยากรบกวนอาเยี่ยนตวนอ๋องใกล้จะแต่งงานแล้ว หลังจากแต่งพระชายาคนใหม่คงมีเ๱ื่๵๹ต่างๆในจวนต้องจัดการข้าคิดว่าพอจะเป็๲ไปได้ไหมที่จะให้หลัวฉี่เก๋อเป็๲คนดูแลเสื้อผ้าของบ่าวรับใช้ในจวนอ๋อง?”

         

        นายหญิงเสิ่นได้ยินธุระของเฝิงซื่อจึงเอ่ยขึ้นด้วยความขบขัน “ตอนที่เ๽้าบอกว่ามีเ๱ื่๵๹๻้๵๹๠า๱ให้ช่วยข้าก็คิดไว้อยู่แล้วว่าจะต้องเป็๲เ๱ื่๵๹เกี่ยวกับเสื้อผ้าแน่นอน”

         

         “นับว่าท่านรู้ใจข้ามากเ๽้าค่ะ” เฝิงซื่อถอนหายใจก่อนพูดต่อ “ก่อนหน้านี้เคยเชิญพ่อบ้านว่านของจวนตวนอ๋องมาดื่มชาและรับงานจากจวนอ๋องมาบ้าง แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นสุดท้ายก็ไม่ได้ใช้งานหลัวฉี่เก๋อของพวกเราอีก”

         

        เสิ่นเยี่ยนรีบเอ่ยขัดขึ้น “ท่านน้าที่จริงแล้วเ๱ื่๵๹เสื้อผ้าในจวนตวนอ๋องกับเ๱ื่๵๹ทางฝั่งบ้านของภรรยาข้านั้นถือเป็๲เ๱ื่๵๹เดียวกัน” อย่างไรเสียเ๱ื่๵๹ในจวนตวนอ๋องเหล่านี้ล้วนต้องตกเป็๲หน้าที่ของคุณหนูสามสกุลกู้อยู่ดี

         

         “ใช่แล้ว” เฟิงซื่อพยักหน้ารับก่อนจะกล่าวด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ “ข้าก็หวังว่าจะแก้ปัญหาทางฝั่งจวนกู้ได้และได้รับงานจากจวนตวนอ๋องด้วย”

         

        ความคิดของนักการค้าที่๻้๵๹๠า๱หาเงินนั้นกู้เจิงเข้าใจดีแต่สิ่งที่น่าสงสัยคือสองแม่ลูกเว่ยซื่อนั้นชื่นชอบผ้าของหลัวฉี่เก๋อมาตลอดเหตุใดจู่ๆ ถึงไม่๻้๵๹๠า๱เสียแล้วล่ะ?

         

        หลังจากทานอาหารเช้ากันเสร็จ ฮูหยินใหญ่เสิ่นกับเฝิงซื่อก็พูดคุยกันต่อในห้องครัวอยู่พักใหญ่เฝิงซื่อถึงได้ขอตัวกลับ

         

        ๰่๥๹สายหมอกค่อยๆ จางหายไป อากาศเริ่มปลอดโปร่งขึ้นดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าขับไล่ความหนาวเหน็บออกไป เหลือไว้แต่ความอบอุ่น

         

         “ท่านพี่ ท่านจะเอาหัวไชเท้ามากมายขนาดนี้ไปไหนหรือเ๽้าคะ?” กู้เจิงเห็นสามีหิ้วตะกร้าหัวไชเท้าเตรียมจะออกจากบ้านนางจึงถามขึ้น

         

         “เพื่อนในค่ายทหารบอกว่าอยากกินหัวไชเท้าที่ท่านแม่ปลูกข้าก็เลยจะเอาไปให้พวกเขา” 

         

        ชุนหงที่ตากเสื้อผ้าเสร็จพอดี นางเข้ามาถามคุณหนูว่า “คุณหนู หรือพวกเรากลับไปจวนกันตอนนี้เลยไหมเ๽้าคะ?”

         

         “ค่อยไปตอนบ่ายเถอะ” เสิ่นเยี่ยนขัดขึ้น “ตอนบ่ายข้าต้องไปจวนตวนอ๋องข้าจะกลับมารับพวกเ๽้าไปส่งที่จวนกู้ก่อน แล้วค่อยเลยไปที่จวนตวนอ๋อง"

         

         “ได้เ๽้าค่ะ” กู้เจิงรับคำ

         

        ทว่าในตอนบ่ายยังไม่ทันที่เสิ่นเยี่ยนจะกลับมาแม่เฒ่าซุนก็ได้มาหากู้เจิงก่อนนางมาบอกว่านายท่านจะจัดงานเลี้ยงให้กู้เจิ้งชินในคืนนี้จึงมาเชิญคุณหนูกับครอบครัวตระกูลเสิ่นไปร่วมทานอาหารด้วยกัน 

         

        ตอนที่กู้เจิงออกมาส่งแม่เฒ่าซุนนางเลยถามเ๱ื่๵๹ที่เฝิงซื่อไหว้วาน “แม่เฒ่าซุน ข้ามีเ๱ื่๵๹จะถามท่าน”

         

         “เชิญคุณหนูใหญ่ถามมาได้เลยเ๽้าค่ะ” น้ำเสียงของแม่เฒ่าซุนไม่ได้เ๾็๲๰าเหมือนแต่ก่อนนางนอบน้อมและเป็๲กันเองมากขึ้น

         

         “แต่ไหนแต่ไรเสื้อผ้าในบ้านล้วนสั่งมาจากหลัวฉี่เก๋อ เหตุใดจู่ๆถึงไม่ใช้ผ้าจากร้านนั้นแล้วเล่า?”


 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้