ยิ่งเข้าอาณาทะเลระทมเร็วเท่าไร อนาคตจะซบเซาและขีดจำกัดจะพุ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น
เพราะอาณาน้ำพุิญญาเป็่แห่งการสะสมพลังปราณ ยิ่งใช้เวลาสะสมนานเท่าใด ปริมาณพลังในร่างก็จะยิ่งเยอะขึ้นเท่านั้น และหากก้าวข้ามอาณานี้ไปไวเท่าใดย่อมหมายความว่าสะสมได้น้อยเท่านั้น นี่อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่อ่อนแอและทำให้เส้นทางของอนาคตแคบลงด้วย
แผนการของเ่ิูคือบุกเบิกน้ำพุิญญาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้แล้วจึงเข้าอาณาทะเลระทม
ตามความไวในการฝึกของเขาจากที่ผ่านๆ มา ขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสิบปี
กระนั้น เขาก็มิได้เร่งรีบอะไร
การฝึกฝนวิทยายุทธ์คือสิ่งที่มีมาเพื่อพลิก์มาแต่ไหนแต่ไร ไม่เคยเป็สิ่งที่ใครจะรีบรัดให้สัมฤทธิ์ผลได้เลย
อีกเื่ต่างหากที่เ่ิูให้ความสนใจเป็อย่างมาก
หลังเข้าอาณาน้ำพุิญญาที่ยี่สิบแล้ว จอมยุทธ์จะสามารถลองมอบหรือขุดคุ้ยลักษณะพิเศษของกำลังภายในตนได้
มีจอมยุทธ์บางคนใช้เปลวเพลิงเข้าไปในร่าง ควบคุมพลังปราณอัคคี พวกเขาสามารถเผาทุกอย่างรอบด้านในแปดทิศ และมีจอมยุทธ์บางคนที่เข้าถึงพลังแห่งวายุ ควบคุมพลังปราณวายุ ม้วนพับใต้หล้าไว้ในอุ้งมือเพียงแค่คิด
ตามพื้นฐานทฤษฎีวรยุทธ์ปราณอักขระ โดยทั่วไปแล้ว พลังใต้หล้าแบ่งออกเป็ทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดินด้วยกันห้าอย่าง สามารถพัฒนาควบคู่กับร่างกาย นำมาซึ่งพลานุภาพน่าพรั่นพรึง นอกเหนือจากนี้แล้ว ยังมีลักษณะอื่นๆ เช่น ยาพิษ น้ำแข็งและเงา ลักษณะพิเศษประเภทหาได้ยากเหล่านี้สามารถพบได้ในผู้ที่โชคดีและเป็ลักษณะของพลังปราณที่พบเจอได้ยาก
กระบวนการลักษณะพิเศษของพลังปราณนี้ เรียกตามภาษาวรยุทธ์ว่าปลุกิญญา
บัดนี้เ่ิูอาณาน้ำพุิญญาตาที่สิบห้า เพียงฝึกฝนเพิ่มอีกห้าขั้น ก็จะสามารถปลุกิญญาได้แล้ว
จอมยุทธ์ที่ปลุกิญญาได้สำเร็จ ถึงจักเรียกได้ว่าเป็ยอดฝีมือของอาณาน้ำพุิญญาที่แท้จริง
พลังปราณภายในมีลักษณะพิเศษ พลานุภาพในการาย่อมเติบโตหลายเท่าตัว
จอมยุทธ์ที่ปลุกิญญาได้สำเร็จ สามารถบดขยี้จอมยุทธ์อาณาเดียวกันที่ยังไม่ปลุกิญญาได้สบาย
สำหรับผู้ฝึกวรยุทธ์ลมปราณนั้น การปลุกิญญาคือช่องทางๆ หนึ่ง
ช่องทางที่สำคัญเป็ยิ่งยวด
จอมยุทธ์บางคนปลุกิญญาั้แ่ตอนอาณาน้ำพุิญญายี่สิบตา จนถึงน้ำพุิญญาสี่สิบตาก็ไม่อาจปลุกิญญาได้สำเร็จ มีอัจฉริยะบางกลุ่มที่วาสนาดีพลิกฟ้า เพียงครู่เดียวที่เข้าอาณาน้ำพุิญญาตาที่ยี่สิบได้ก็ปลุกิญญาเป็ผลสำเร็จ ควบคุมพลังปราณที่มีลักษณะพิเศษไม่เหมือนใครของตัวเองได้
สำหรับเื่ที่จะเลือกพลังลักษณะใดนั้น จำเป็ต้องใช้การเลือกเงื่อนไขของตัวผู้ฝึกเอง
กล่าวกันว่า ไม่มีรูปแบบขีดจำกัดพิเศษอะไรตายตัว
แต่จอมยุทธ์บนโลกใบนี้ส่วนมากล้วนเลือกลักษณะจำพวกธาตุทั้งห้าอย่างนี้กันทั้งนั้น
เพราะธาตุทั้งห้านี้เป็ธาตุพลังพื้นฐานของเค้าโครงที่สร้างขึ้นเป็พิภพ กำเนิดอยู่บนใต้หล้าอันไพศาล เข้าถึงได้ง่าย เข้าใจได้ง่าย และควบคุมได้ง่ายเช่นเดียวกัน พลังของทั้งห้าธาตุนี้ แต่ละอันพลานุภาพต่างกัน ตามเส้นทางสายตรงสายใหญ่และสว่างจ้า และอื่นๆ ดั่งเงา ยาพิษ อากาศเป็ต้น ยากจะมีธาตุตั้งต้นเหล่านี้ การปลุกิญญาจึงต้องเสียแรงและกระทำอย่างยากเย็น เรียกได้ว่าอาจต้องล้มลุกคลุกคลาน
เ่ิูเริ่มครุ่นคิดแล้วว่าตัวเขาจะเลือกพลังลักษณะใดดี ลักษณะใดที่จะเอามาเป็ลักษณะพลังปราณของเขา
นี่เป็เื่ที่สำคัญยิ่งนัก
ดังนั้นเขาต้องคิดอย่างระมัดระวังและหนักแน่น เด็กหนุ่มจึงยังมิได้ตัดสินใจ
...
วันที่สิบห้า
ที่สุดเ่ิูก็ได้รับคำสั่งจากสำนักเ้าด่าน
เนื้อหาของคำสั่งนั้นมีสองประการ
ประการแรก เ่ิูสามารถเลือกหนึ่งในสิบของทหารชั้นสูงในกองทัพเข้าเป็บริวารของหอคอยอาชาขาว เป็ทาสกระบี่อาชาขาวคนใหม่
ประการที่สองคือบอกให้เ่ิูรับรู้ ว่าหลังจากนี้สิบห้าวัน ค่ายทัพหน้าจะเดินทัพกองเล็ก เ่ิูต้องออกไปสู้รบปรบมือพร้อมกับเหล่าทหาร เข้าร่วมศึกากับเผ่าปีศาจ สำนักเ้าด่านเตือนเ่ิูก่อนก็เพื่อให้เขาเตรียมตัวสู่สภาวะาของทหาร
“วันนี้มาถึงจนได้สินะ?”
เ่ิูเปี่ยมด้วยอารมณ์เล็กน้อย
นับแต่ได้เกราะาอาชาขาวมา เขาก็ไม่มีโอกาสได้พลิกแพลงใช้อะไรในการต่อสู้เลย
การสะสมการฝึกมาหลายวัน ทำให้เ่ิูค่อยๆ รู้สึกว่าการปิดประตูต่อรถนั้นอืดอาดยิ่งกว่าอะไรดี เขาต้องได้รับการขัดเกลาอย่างรุนแรงจากาถึงจะทะลุทะลวงอาณาไปด้วย
ยามสนธยาของวันนี้
เขาทำตามเนื้อหาของคำสั่ง เ่ิูจึงมาถึงหอบัญชาการของสำนักเ้าด่าน
คราวนี้เขาก็ยังคงไม่ได้เจอเทพาในตำนานลู่เฉาเกอแห่งด่านโยวเยี่ยนอยู่ดี คนที่มาต้อนรับเขายังคงเป็ท่านชายหลิว
เพียงแต่ว่าหากเทียบกับคราวก่อน ท่านหลิวพูดมากขึ้นเยอะ
บัณฑิตใบหน้าเกลี้ยงเกลาท่านนี้ถามเื่สารทุกข์สุขดิบกับเ่ิูอย่างมีอัธยาศัย อย่างเช่นชินกับการอยู่ที่ด่านโยวเยี่ยนไหม มีข้อเรียกร้องอะไรสามารถเสนอออกมาได้ แตกต่างจากท่าทีของผู้ช่วยกองบัญชาการทรงเกียรติและเคร่งขรึมก่อนหน้ายิ่งนัก เหมือนเป็ชายชราใจดีและเป็มิตรเสียมากกว่า เมื่อพิจารณาเขาจากหัวจรดเท้า ั์ตาใสสว่างคู่นั้นมีทั้งความฉงนและความสนใจที่ไม่จอมปลอม เขาประเมินเ่ิูด้วยสีหน้าและแววตายิ้มแย้ม เหมือนกับว่า้าจะอ่านเ่ิูให้ออก
ท่าทีของท่านหลิวทำให้เ่ิูรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ
แต่เขาก็ตอบทุกคำถามที่อีกฝ่ายถาม
“‘เดินทัพวายุว่อง’ อีกสิบห้าวันถัดจากนี้ข้าก็จะไปพร้อมกับเหล่าทหารด้วย ฮ่าๆ ข้าอายุมากแล้ว ร่างกายสึกหรอไม่หยอก พอถึงเวลานั้น ข้าคงต้องร้องขอให้ทูตถือดาบตรวจการณ์เย่ดูแลเป็พิเศษนะ” ท่านชายหลิวเอ่ยกลั้วหัวเราะ หลังเสร็จสิ้นทุกขั้นตอน ท่านชายหลิวก็จัดวางกำหนดการการต่อสู้ครั้งนี้ทุกอย่างลงในก้อนหยกแล้วส่งให้เ่ิู
เ่ิูรับหยกนั้นมาพลางเอ่ยจริงจัง “ปกป้องท่านชายหลิวเป็หน้าที่ของทหารทุกคนขอรับ”
ในใจเขานั้นกลับรู้สึกว่ามีสิ่งแปลกประหลาด
ตามเหตุผลทั่วไป เสนาธิการเช่นท่านชายหลิวของสำนักเ้าด่านจะไม่ตามกองทัพไปรบ บัณฑิตปกติมักอยู่ในใจกลางด่านเพื่อสั่งการอย่างปลอดภัย จัดวางแผนและยุทธวิธี วิเคราะห์สถานการณ์ เสนอความคิดเห็น น้อยครั้งนักที่จะพุ่งเข้าชนเฉกเช่นแม่ทัพรบกองโจร เดินทัพวายุว่อง มันคืออะไร ไฉนต้องเอาเสนาธิการเช่นท่านชายหลิวไปร่วมทำศึกด้วย?
“อื้ม เ้าประสบความสำเร็จหลายสิ่งตอนยังเยาว์นัก สมแล้วที่เป็ผู้สืบทอดตราแห่งวีรบุรุษ” ท่านชายหลิวสีหน้าเป็มิตรนัก เขาตักเตือน “คราวนี้น่ะ การเดินทัพวายุว่องไม่ใช่เื่เล็กน้อยหรอกนะ สิ่งที่อยู่ในหยกคือแผนการของการรบคราวนี้ เมื่อเ้าได้มันไปแล้วอย่าเพิ่งเปิดดูทันที สิบวันหลังจากนี้ถึงค่อยเปิด เมื่อถึงเวลานั้นเ้าจะรู้เนื้อหาของการเดินทัพหนนี้”
เ่ิูพยักหน้าแสดงว่าเข้าใจ
“ดี เตรียมเนื้อเตรียมตัวให้ดีเสีย หากขาดตกบกพร่องอะไรเ้ามาหาข้าได้ตามสะดวก” ท่านชายหลิวตบไหล่เ่ิูพลางยิ้ม และเอ่ยกับเด็กชายข้างกายเขาว่า “ซิ่งเอ๋อร์ ช่วยส่งทูตถือดาบตรวจการณ์เย่ให้ข้าหน่อยสิ”
ซิ่งเอ๋อร์ยิ้มแล้วลิงโลดไปทางประตู เขาค้อมกาย ั์ตานั้นดั่งดวงจันทร์เต็มดวง เขาว่า “แม่ทัพเย่ เชิญขอรับ”
ลูกสมุนตัวเล็กะโกระเด้งไปด้านหน้าเพื่อนำทาง
เ่ิูเดินตามไป ทิ้งหอบัญชาการไว้เื้ั
ระหว่างทาง มีหลายคนที่ทักทายซิ่งเอ๋อร์ด้วยรอยยิ้ม เหมือนว่าเด็กคนนี้จะเป็ที่รู้จักกันดีในสำนักเ้าด่าน
บางคนเมื่อทักทายแล้วก็มองเ่ิูอย่างสงสัย
ในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อบางคนรับรู้ว่าเด็กหนุ่มร่างกายแข็งแรงเปี่ยมด้วยกล้ามเนื้อและรูปร่างหน้าตาสง่างาม คือทูตถือดาบตรวจการณ์คนใหม่นามเ่ิูแห่งหอคอยอาชาขาว ผู้โด่งดังในหลายวันมานี้ ก่อให้เกิดความเกรียวกราวครั้งสำคัญขึ้นมา
เมื่อข่าวแพร่หลายออกไป มีผู้คนที่ลงทุนมาที่สำนักเ้าด่านโดยเฉพาะ ทำทีเป็เดินผ่านแต่ความจริงแล้วเมื่อสวนทางกับเ่ิู พวกเขาจะหันหลังมองเขาั้แ่หัวจรดเท้า แล้วจึงแอบซ่อนในที่ไกลออกไป กระซิบกระซาบกันพลางชี้หาเ่ิู ไม่นึกไม่ฝันว่าาามารเย่ผู้ดุร้ายตามข่าวลือคนนั้นจะเป็เด็กหนุ่มใบหน้าสง่างามและเป็สุภาพบุรุษถึงเพียงนี้
เ่ิูเองก็ไม่นึกเลยว่าความทรงจำแรกที่เขาได้จากคนในสำนักเ้าด่านจะเป็อีหรอบนี้
“เ้าทำได้ย่างไรกันน่ะ?” ซิ่งเอ๋อร์สมุนน้อยถามอย่างฉงนเมื่อกำลังจะออกนอกประตูสำนักเ้าด่าน
เ่ิูชะงัก “เ้าหมายความถึงอะไร?”
“เ้าทำได้อย่างไร ที่ะโจากอาณาน้ำพุิญญาสามตามาเป็สิบห้า?” เด็กชายแลบลิ้น
“อ้อ เ้าถามเื่นั้นนั่นเอง” ความคิดเด็กหนุ่มเต็มเปี่ยมด้วยหลากหลายบริบท น้ำเสียงและรอยยิ้มเฉกเช่นนักบุญปรากฎขึ้นมาอีกครั้ง “ความลับน่ะ”
ซิ่งเอ๋อร์เม้มปาก “เ้างกชะมัด”
ว่าพลางชี้ออกไปทางประตู “เรามาถึงแล้ว เ้าออกไปเองเสียเถอะ”
เป็เด็กที่ทะนงและถูกโอ๋เสียจริง
เ่ิูแค่นหัวเราะก่อนเดินออกไปนอกประตู
ซิ่งเอ๋อร์ยืนอยู่เื้ั เขามองแผ่นหลังเ่ิู รอยยิ้มบนดวงหน้าค่อยๆ เลือนหาย
“ข้าจับไต๋อะไรไม่ได้เลย บางทีท่านชายหลิวอาจคิดผิด แต่ตอนนี้มันเวลาสำคัญมาก เราจะไม่ระวังอะไรเลยไม่ได้” ซิ่งเอ๋อร์เปลี่ยนบุคลิกจากเด็กน้อยที่เขาชอบเสแสร้งเป็ผู้คงแก่เรียน เขาจำได้ดีถึงสีหน้าเ่ิูที่เปลี่ยนไปตอนเขาถามคำถามนี้ ไม่พลาดแม้แต่ความเปลี่ยนแปลงจุดเดียวที่เกิดขึ้น แต่ซิ่งเอ๋อร์กลับยังสันนิษฐานอะไรไม่ได้เลย เด็กชายส่ายหน้าแล้วเดินไขว้มือกลับเข้าไป
...
กลับมาถึงหอคอยอาชาขาว
เ่ิูเก็บหยกกองทัพไว้อย่างปลอดภัย
เขารู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ จริงๆ
มิใช่เพียงท่าทีประหลาดพิลึกของท่านชายหลิวเท่านั้น แม้แต่คำพูดของซิ่งเอ๋อร์ลูกสมุนตัวจ้อยนั่นที่ดูไร้เดียงสาแค่เปลือกนอก แต่ภายในกลับแอบหวังอะไรอยู่
นายหนึ่งสมุนหนึ่ง ทำให้เ่ิูรู้สึกถึงความผิดแปลก
และยิ่งไปกว่านั้น ยุทธการเดินทัพวายุว่องเป็เื่ที่จะเกิดขึ้นในสิบห้าวันถัดจากนี้ แผนสำคัญของกองทัพต้องมั่นคงและเป็ความลับสุดยอด เพราะความสำคัญในความลับนี้เอง ที่พวกเขาจะส่งหยกให้ได้ก็ต่อเมื่อ่ก่อนออกเดินทัพ จะเป็การปกปิดมิให้แผนการรั่วไหล แต่ทำไมท่านชายหลิวถึงให้หยกนี้กับเขาไวนัก หนำซ้ำยังเตือนเขาไม่ให้เปิดก่อนเวลาอีก?
ทำไมเ่ิูถึงคิดว่าท่านชายหลิว้าให้เขาเปิดดูเนื้อหาในนั้นใจจะขาด?
เช่นเดียวกันกับฝ่ายพลาธิการที่เ่ิูไปสร้างเื่มา สำนักเ้าด่านไม่ได้ข้องเกี่ยวกับฝ่ายใดเลย ไม่มีแม้คำสั่งการที่ประกาศลงมาสักคำเดียว แค่นี้ก็มากพอให้เ่ิูรู้สึกว่าเื่มันแปลกๆ
ทุกอย่างมันผิดปกติ
“ข้าไม่รู้ว่าท่านชายหลิววางแผนอะไร แต่ไม่สำคัญหรอก ข้ามีสติครบถ้วน ข้าจะทำทุกอย่างทีละก้าวๆ ก่อนจะออกเดินทัพ ข้าต้องระวังและป้องกันไม่ให้คนกลุ่มชิงเฟิงซานคิดลอบกัด”
เ่ิูเริ่มวางแผนในใจ
จ้าวหรูอวิ๋น อีซานเช่อและคนอื่นๆ ดูผิวเผินเหมือนจะยอมแพ้ พวกเขาไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร แต่ใครจะรู้ว่าอาจจงใจทำเพื่อแสดงความอ่อนแอ?
เ่ิูกลับสู่ชั้นสี่ของหอคอยอาชาขาว เขาเริ่มฝึกวิชาต่อไป
ไม่ว่าที่ไหน พลังคือสิ่งสำคัญที่สุด
ตราบใดที่มีพลังมากพอ ย่อมจะสามารถทำลายล้างทุกแผนสกปรกและความโฉดชั่ว
เมื่อราตรีมาเยี่ยมเยียน สายลมและหิมะในอากาศยิ่งรุนแรงและทวีจำนวน
เ่ิูเปิดเปลือกตายามสิ้นสุดการฝึก เขามองเห็นพายุหิมะขนาดั์จากภายนอกทางหน้าต่าง ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในหัวเขาฉับพลัน
“ด่านโยวเยี่ยนหนาวเหน็บนัก น้ำแข็งเย็นเฉียบปกครองทุกสิ่งอย่าง ถ้ารวมเอาพลังพวกนี้เข้าสู่พลังข้า ข้าจะได้ปราณน้ำแข็งหรือไม่?” เมื่อเวลาแห่งการปลุกิญญาเริ่มเยื้องกรายเข้ามา เ่ิูรู้ว่าเขาต้องพยายามเพื่อจะปลุกิญญา ในด่านโยวเยี่ยนมียอดฝีมือสายน้ำแข็งหลายคน หมายความว่าทางนี้เป็ไปได้ น้ำแข็งเป็แขนงผ่าเหล่าจากน้ำในธาตุทั้งห้า พลังยิ่งใหญ่อย่างที่สุด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้