อ๊าก...........
เสียงกรีดร้องอย่างน่าหวาดกลัวดังก้องทั่วหุบเขาิญญาเมฆา โลหิตหลั่งไหลทั่วทุกหนแห่ง แม้ว่าคนจากตระกูลอี้ได้ถูกเหล่าปีศาจโลหิตจำนวนมากล้อมเอาไว้ แต่ที่นี่มีสัตว์ประหลาดอย่างหวงต้าอยู่ พวกเขาจึงไม่ได้รับาเ็แต่อย่างใด
ในอีกด้านหนึ่ง ปีศาจโลหิตได้ประสบกับความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง ขุนพลปีศาจโลหิตแก่นแท้์ขั้นปลายทั้งสามถูกเจียงเฉินสังหารและหวงต้าเองก็สังหารปีศาจโลหิตที่เหลือ นี่เป็การลงมือที่ร้ายแรงต่อปีศาจโลหิต
หากตามปกติแล้ว การตัดสินใจที่จะไปบุกจู่โจมหุบเขาิญญาเมฆานั้นเป็เื่ฆ่าตัวตายชัดๆ แต่สถานการณ์ในตอนนี้ล่วนแตกต่างโดยสิ้นเชิง ราชันย์จันทราโลหิตได้เริ่มพิธีกรรมสังเวยโลหิต มันได้ถูกผูกมัดโดยพิธีกรรมและไม่สามารถลงมือตอบโต้ได้อย่างเต็มกำลัง นี่ทำให้เจียงเฉินและคนอื่นๆมีโอกาสที่จะสังหารเหล่าปีศาจโลหิตตนอื่นๆ
ราชันย์จันทราโลหิตเป็คนเดียวที่เจียงเฉินเป็กังวล ตราบเท่าที่มันได้ผูกมัดกับบางสิ่งไม่ว่าปีศาจโลหิตจะอยู่ที่นี่มากมายเพียงใด ท้ายสุดแล้วมันก็จะเป็ดั่งพวกที่มาบุกเมืองหงหยาง
เด็กสาวที่ถูกจับตัวมาต่างกอดกันเป็กลุ่มใหญ่ ใบหน้าของพวกนางต่างซีดขาว ฉากเช่นนี้ ประสบการณ์เช่นนี้ มันได้ทิ้งรอยแผลเป็ไว้ในใจของพวกนาง ฉากนองเืและโเี้เช่นนี้ทำให้พวกนางได้เห็นถึงด้านมืดของโลก
จิตใจพวกนางจมอยู่กับความหวาดกลัว แต่โชคดีที่ เงาแห่งความตายได้จางหายไปอย่างช้าๆ ชายที่ปรากฎตัวขึ้นมาจากที่แห่งใดไม่รู้ได้นำแสงแห่งความหวังในการรอดชีวิตให้แก่พวกนาง
อี้จื่อเหยียนได้ถือกำเนิดขึ้นในตระกูลใหญ่ ดังนั้นจิตใจของนางจึงเข้มแข็งกว่าคนอื่นๆ หลังจากที่นางเห็นพี่ชายและบิดาของนางมาเพื่อช่วยนาง อารมณ์ของนางผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด นางอยู่ระหว่างท่ามกลางการปลอบโยนเด็กสาวคนอื่นๆที่กำลังหวาดกลัว
อี้จื่อฮันได้ยืนอยู่ด้านหน้าเหล่าเด็กสาวเพื่อปกป้องพวกนาง เขายังคงสังหารพวกปีศาจโลหิตที่เข้ามาลงมือกับเขา
"ราชันย์จันทราโลหิต เตรียมตัวตายซะ!"
หลังจากที่เจียงเฉินได้สังหารขุนพลปีศาจโลหิตแก่นแท้์ขั้นปลายทั้งสามไป เขาฮึกเหิมยิ่งขึ้น เขาถือโอกาสนี้ใช้ขวานในมือสับไปยังราชันย์จันทราโลหิตที่อยู่บนแท่นบูชา
"ฮึ่ม! เ้าพวกมนุษย์ตัวจ้อย เ้าประเมินตัวเองสูงเกินไป...ตาย!"
ราชันย์จันทราโลหิตแค่นเสียงเ็า มันซัดฝ่ามือออกไปพร้อมกับปลดปล่อยฝ่ามือโลหิตขนาดั์พุ่งเข้าปะทะกับขวาน
ปัง!
การปะทะกันอย่างรุนแรงทำให้ทั่วทั้งหุบเขาสั่นะเื การโต้กลับของราชันย์จันทราโลหิต มันได้ทำให้เจียงเฉินต้องถอยหลังอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ด้วยการลงมือต่อเนื่องเป็ครั้งที่สอง พิธีกรรมสังเวยโลหิตของราชันย์จันทราโลหิตได้รับผลกระทบ ใบหน้าของมันเริ่มซีดเซียว และการหายใจของมันถี่ขึ้น
นอกจากนี้ การสังเวยเด็กสาวคนแรกได้สิ้นสุดลงแล้ว มันจำเป็ต้องนำเด็กสาวคนที่สองเพื่อทำพิธีกรรมของมันต่อ
"ฮ่าฮ่า ราชันย์จันทราโลหิตเอ๋ย เ้าจบสิ้นแล้ว!"
เจียงเฉินหัวเราะออกมาเสียงดัง เขาได้ปลดปล่อยพลังปราณอันกล้าแข็งออกมาเต็มที่ เงาัสีแดงโลหิตได้ห้อมล้อมและบินรอบๆร่างกายเขา และด้วยเพียงก้าวไปด้านหน้า ร่างของเจียงเฉินทั้งเก้าได้ปรากฎขึ้นกลางอากาศ
เจียงเฉินทั้งเก้าได้ล้อมรอบแท่นบูชาโลหิตและพุ่งตรงไปหาราชันย์จันทราโลหิตพร้อมกัน
เมื่อเจียงเฉินได้มองพิธีกรรมสังเวยโลหิตจากระยะประชิด เขาสรุปได้ว่าเป็ไปไม่ได้ที่ราชันย์จันทราโลหิตจะสามารถหยุดยั้งพิธีกลางคัน ดังนั้นการลงมือตอบโต้ที่มันสามารถทำได้นั้นมีจำกัด หากไม่เช่นนั้น ไม่เพียงพิธีกรรมเซ่นสังเวยโลหิตจะล้มเหลวแล้ว ตัวราชันย์จันทราโลหิตเองก็คงได้รับาเ็สาหัสเช่นกัน
ดังนั้น การใช้มายาเก้าร่างนั้น ไม่เพียงแค่ทำให้ราชันย์จันทราโลหิตสับสน มันยังทำให้มันเสียสมาธิอีกด้วย
"นี่มันทักษะเคลื่อนที่ประหลาดอันใดกันเนี่ย?"
ท่าทีของราชันย์จันทราโลหิตเปลี่ยนไป ด้วยประสบการณ์ของมัน มันไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าร่างใดเป็ร่างจริง
อย่างไรก็ตามแม้นเจียงเฉินจะรวดเร็ว แต่ราชันย์จันทราโลหิตรวดเร็วยิ่งกว่า มันโบกมือและะโออกมาด้วยน้ำเสียงโเี้
"เ้าพวกโง่เง่า กล้าดีอย่างไรถึงมารบกวนพิธีกรรมสังเวยโลหิตของข้า รนหาที่ตาย!ข้าจะสังหารเ้าก่อนแล้วจะสังหารสหายของเ้าที่เหลือ!ธงโลหิต!"
ด้วยเสียงดังดุจสายฟ้า ธงสีโลหิตขนาดใหญ่ออกมาจากร่างของจ้าวจันทราโลหิต มันสูงราวสิบสองจ้าง มันคลุมร่างเจียงเฉินทั้งเก้าร่างพร้อมกัน และดูดพวกเขาเข้าไปด้านใน
วิ้ว..........
สายลมอันหนาวเหน็บได้ส่งเสียงหวีดแหลมในหุบเขา เสียงกรีดร้องอันน่าหวาดกลัวออกมาจากธงโลหิต มันปลดปล่อยแสงสีแดงออกมาทั่วท้องฟ้าเหนือหุบเขา ท้องฟ้าเหนือหุบเขาิญญาเมฆากลายเป็สีแดงเื
เสียงสายลมอันหนามเหน็บยังคงส่งเสียงหวีดแหลม และเสียงกรีดร้องของิญญายังคงกู่ร้อง ธงโลหิตนั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง ใบหน้าิญญาจำนวนมากได้ปรากฎขึ้นที่ธงโลหิต มันน่าหวาดกลัวถึงขีดสุด
เพียงแค่มองไปยังธงโลหิตก็สั่นสะท้านไปถึงไขสันหลังของผู้ที่มองและเกิดความหวาดกลัวอย่างมากเหมือนกับว่าพวกเขากำลังจมลึกลงสู่ขุมนรก
"์! นั่นมันธงโลหิต ราชันย์จันทราโลหิตได้รับสืบทอดธงโลหิต! มันได้รับสืบทอดทุกสิ่งจากคนทรงจันทราโลหิต!"
อี้เทียนหรงที่กำลังต่อสู้กับปีศาจโลหิตอยู่ได้เห็นธงโลหิต เขาได้ร้องออกมาทันที
"เมื่อสิบกว่าปีก่อน คนทรงจันทราโลหิตได้สังหารมนุษย์ไปนับแสนคน และใช้ิญญาของพวกเขาสร้างธงโลหิตขึ้นมา คนทรงจันทราโลหิตได้ก่อความวุ่นวายขึ้นในแคว้นฉีและได้สังหารผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งมากมายนับไม่ถ้วน มันได้เปลี่ยนทั่วทั้งแคว้นฉีให้กลายเป็นรก จนกระทั่งผู้นำนิกายใหญ่ทั้งสี่ได้ออกโรงด้วยตนเอง ท้ายที่สุดคนทรงจันทราโลหิตได้ถูกสังหารโดยการลงมือประสานของทั้งสี่ ข้าได้ยินมาว่าไม่ใช่ชัยชนะที่มีเกียรติของเหล่าผู้นำนิกายทั้งสี่"
"ข้าไม่เคยคิดเลยว่าราชันย์จันทราโลหิตจะได้รับสืบทอดทุกสิ่งจากคนทรงจันทราโลหิต กระทั่งธงโลหิตที่สูญหายเป็เวลายาวนานยังอยู่กับมัน ดวงิญญาพยาบาทนับแสนดวงที่อยู่ภายในธงโลหิตมันเต็มไปด้วยพลังอันร้ายกาจ ขนาดผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ยังรับมือได้ลำบาก คุณชายเจียงโดนดูดเข้าไปด้านใน ดูท่าเขาโชคร้ายมากกว่าโชคดี"
าุโทั้งสองของตระกูลอี้ต่างเป็กังวล ท่าทางของอี้เทียนหรงและอี้จื่อฮันไม่น่าดู แผนในตอนแรกของพวกเขาคือการลงมือในระหว่างการประกอบพิธีกรรมสังเวยโลหิตและสังหารราชันย์ปีศาจโลหิต รวมทั้งปีศาจโลหิตตนอื่นๆทั้งหมด และช่วยเหลือเหล่าเด็กสาวผู้บริสุทธิ์ แต่ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าราชันย์จันทราโลหิตจะมีธงโลหิตเป็ไพ่ตาย ตอนนี้เจียงเฉินอยู่ภายใต้การควบคุมของธงโลหิต กลัวว่าเขาจะไม่สามารถหลบหนีออกมาได้
"ฮ่าฮ่า หลังจากที่โดนธงโลหิตดูดเข้าไปแล้ว ถึงแม้ว่าเ้าเป็ยอดมนุษย์ เ้าจักต้องตกตายอนาถ และกลายเป็ิญญาดวงหนึ่งภายในนั้นเสียเถอะ!นี่คือชะตากรรมของการที่มาล่วงเกินข้า!"
ราชันย์จันทราโลหิตพูดด้วยเสียงแหลม และบนใบหน้าของมันเผยรอยยิ้มแสยะ ราชันย์จันทราโลหิตยังคงโบกธงโลหิตเหนือท้องฟ้า และเสียงคำรามของิญญาที่อยู่ภายในสร้างความหวาดกลัวแก่มนุษย์ทุกคน
"ฮึ่ม!"
ราชันย์จันทราโลหิตแค่นเสียง มันได้ทะลวงการป้องกันของอี้จื่อฮันและคว้าตัวเด็กสาวไว้ และดึงตัวเด็กสาวไปสามคน
เมื่อเด็กสาวเหล่านี้โดนดึงไปยังแท่นบูชา พวกนางได้อาบไปด้วยโลหิตทันทีและกลายเป็เหยื่อสังเวยแก่จ้าวจันทราโลหิต ในเวลาเดียวกันสายตาของจ้าวจันทราโลหิตได้มองไปยังอี้เทียนหรงและคนอื่นๆ
ราชันย์จันทราโลหิตยิ้มแสยะ มันไม่ได้ลงมือกับคนเหล่านี้ สิ่งที่มันทำคือจดจำใบหน้าของพวกเขาลงในความทรงจำของมัน แท้จริงแล้ว มันไม่ได้อยากจดจำพวกเขา เพราะพิธีเซ่นสังเวยโลหิตได้สมบูรณ์แล้ว มนุษย์ทุกชีวิตในเขตหวงฉี พวกเขาก็จะกลายเป็อาหารของมัน
ต่อจากนี้ คือ่เวลาที่สำคัญที่สุดในการประกอบพิธีเซ่นสังเวยโลหิตให้เสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้ราชันย์จันทราโลหิตจำเป็ต้องใช้สมาธิส่วนหนึ่งในการควบคุมธงโลหิตเพื่อสังหารเจียงเฉิน ดังนั้นมันไม่มีโอกาสที่จะทำแบบเดียวกันต่ออี้เทียนหรงและคนอื่นๆ นี่คือสาเหตุที่แท้จริงที่มันไม่ลงมือกับคนอื่นๆ
ในความคิดของราชันย์จันทราโลหิต ในหมู่คนเหล่านี้ทั้งหมด เจียงเฉินเป็เพียงคนเดียวที่สามารถทำอันตรายต่อมันได้ ส่วนคนอื่นๆไม่ได้อยู่ในสายตามัน
ในขณะนี้ ภายในธงโลหิต เศษชิ้นส่วนิญญานับไม่ถ้วนได้พุ่งไปยังเจียงเฉินอย่างไม่มีที่สิ้นสุด พยายามที่จะฉีกเขาให้เป็ชิ้นๆ ิญญาอาฆาตกว่าร้อยพันของได้แปรเปลี่ยนทำให้มองเห็นและได้ก่อตัวกลายเป็พายุิญญา ิญญาอาฆาตเหล่านี้ราวกับคมมีดนับไม่ถ้วน มันเหมือนกับเจียงเฉินยืนท่ามกลางพายุคมมีดที่กำลังโหมกระหน่ำ เหมือนกับเรือเล็กท่ามกลางมหาสมุทร
หากว่าเป็คนทั่วๆไปผู้ถูกธงโลหิตดูดเข้ามา คนผู้นั้นจะถูกิญญาอาฆาตเหล่านี้กลืนกินในทันที ไม่มีโอกาสที่จะได้จู่โจมใส่ิญญาอาฆาตพวกนี้แม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าพวกมันจะไม่ลงมือ แค่เพียงอิทธิพลของิญญาอาฆาตเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะสามารถทำให้จิตใจของพวกเขาแหลกสลายและกลายเป็บ้าได้
แต่ผู้ที่ถูกดูดเข้าไปในธงคือเจียงเฉิน ยอดนักบุญอันดับหนึ่งในใต้หล้า
"ฮ่าห์!"
เจียงเฉินปลดปล่อยคลื่นเสียงออกมา เขาได้ใช้ทักษะคลื่นเสียงเหยี่ยวเก้า์ ในวินาทีถัดมาพลังหยวนสีทองนับไม่ถ้วนออกมาจากปากของเขา พวกมันแปรเปลี่ยนเป็คลื่นเสียงและกวาดผ่านพื้นที่ด้านหน้า ทั่วร่างของเขาปรากฎเงาัลางๆที่ส่องแสงสีทอง ขับไล่ความมืดมิดทั้งหมดที่อยู่ภายในธงโลหิต
อา...อูว...
เมื่อเหล่าิญญาอาฆาตที่ดุร้ายและเหี้ยมโหดได้พบกับแสงสีทองที่ปลดปล่อยออกจากร่างของเจียงเฉิน พวกมันต่างกรีดร้องอย่างปวดร้าว ท่าทีของพวกมันกลายเป็หวาดกลัว ขณะที่พวกมันมองไปยังศัตรูตามธรรมชาติของพวกมัน
"ฮึ่ม! ข้าเป็ยอดนักบุญผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็ร่างอวตารของัที่แท้จริง! ไม่มีผูู้ใดสามารถคุกคามข้าได้!"
เจียงเฉินแค่นเสียงอย่างเ็า เขาได้ปลดปล่อยพลังปราณของผู้อยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง เขาได้ยืนอย่างสง่างามดั่งเทพา เขาเป็ดั่งเสาหลักคอยสนับสนุนทั่วทั้งโลก และไม่มีสิ่งใดสั่นคลอนเขาได้ ไม่มีิญญาอาฆาตตนใดที่สามารถเข้าใกล้ร่างเขาได้แม้แต่น้อย
เจียงเฉินมีวิถีแห่งนักบุญ และเขาได้กลับมากำเนิดใหม่ ปีศาจทั่วๆไปและตัวตนของปีศาจในโลกไม่ส่งผลใดๆต่อจิตใจเขา นอกจากนี้เขาได้ทำการบ่มเพาะทักษะร่างแปลงัและเขามีสายเืสัตว์อสูรหายากสองสามอย่าง โลหิตทุกหยดของเขาและปราณในร่างกายเขานั้นมีคุณสมบัติหยางอันบริสุทธิ์ที่สุด มันเป็ศัตรูโดยธรรมชาติของพวกปีศาจทั้งหลายและิญญาอาฆาต
การที่เจียงเฉินพูดว่าตนเองเป็ร่างอวตารของัแท้จริงก็ไม่ได้เกินเลย เพราะหลังจากที่เขาทำการบ่มเพาะทักษะร่างแปลงั เขาได้เริ่มเดินไปยังเส้นทางที่เขาสามารถแปลงกลายเป็ัที่แท้จริงได้ ไม่นานหลังจากนี้ เขาจะกลายเป็ัที่แท้จริงและจะทะยานไปสู่์
เปรี้ยง!
เจียงเฉินง้างขวานในมือของเขา และสับไปยังธงโลหิตเต็มกำลัง แสงสีทองทะลวงผ่านความมืดมิด แต่น่าเสียดายที่การลงมือครั้งนี้เหมือนดั่งการขว้างก้อนหินไปยังมหาสมุทร มันไม่สามารถสร้างความเสียหายต่อธงโลหิต
"ธงนี้สร้างมาจากิญญาชั่วร้ายและิญญาอาฆาตมันได้กลายเป็สิ่งที่น่าหวาดกลัวอย่างแท้จริง เป็อาวุธสำหรับมารและปีศาจ กระทั่งยุทธภัณฑ์ระดับสูงอย่างขวานอัสนีบาตยังไม่สามารถที่จะทำลายธงนี่ได้ แม้ว่าข้าจะไม่หวาดกลัวต่อิญญาชั่วร้ายและิญญาอาฆาตพวกนี้ มันยังคงยากที่จะหนีออกไปจากที่แห่งนี้...เว้นแต่ข้าสามารถควบคุมธงโลหิตได้"
เจียงเฉินขมวดคิ้ว
"แต่ธงนี่อยู่ภายใต้การควบคุมของราชันย์จันทราโลหิตอย่างสมบูรณ์ มันเชื่อมต่อกับสายเืของมัน เป็ไปไม่ได้สำหรับข้าที่จะควบคุมมันอีก"
เจียงเฉินยังคงครุ่นคิดหาทางแก้ไข เขาไม่สามารถที่จะอยู่ภายในธงโลหิตไปตลอด ราชันย์จันทราโลหิตอยู่ใน่เวลาสำคัญในพิธีสังเวยโลหิต และตอนนี้ทุกอย่างได้ถูกขัดจังหวะ มันจักต้องรีบเร่งที่จะดำเนินขั้นตอนทั้งหมด เมื่อมันได้ประกอบพิธีกรรมได้สำเร็จและได้ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ มันสามารถสังหารเจียงเฉินได้ทันที และทั่วทั้งแคว้นฉีจะตกอยู่ในความวุ่นวายอีกครั้ง
พร์และศักยภาพของราชันย์จันทราโลหิตไม่ด้อยกว่าคนทรงจันทราโลหิตแม้แต่น้อย รูปแบบและกลยุทธ์ของมันคล้ายคลึงกับคนทรงจันทราโลหิตอย่างไม่ผิดเพี้ยน ตอนนี้ด้วยธงโลหิตอยู่ในเงื้อมมือของมัน หากมันได้ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ มันจะกลายเป็ภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อแคว้นฉี ด้วยการช่วยเหลือของทักษะปีศาจโลหิต ราชันย์ปีศาจโลหิตจะแข็งแกร่งขึ้น แกร่งขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว และศักยภาพของมันเพียงพอที่จะกลายเป็คนทรงจันทราโลหิตตนต่อไปได้
